คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : AuFic | KNB × -- Tale ---
"เจ้าจงจำไว้..ว่าคนอย่างข้าไม่ยอมหยุดอยู่แค่นี้หรอกนะ ข้าจะทำให้เจ้ายอมรับใน
ตัวข้าและความสามารถของข้าให้จงได้ ถึงแม้ว่าตอนนี้เจ้าจะไม่ยอมมองเห็นมันก็เถอะ"
ชื่อ
- สกุล : ฮาเดวิก กิลแบร์เท / Hadewig
Gilberte
ความหมาย
:: Hadewig
ในภาษาเยอรมันแปลว่าความพยายาม
Gilberte
ในภาษาเยอรมันแปลว่า ความมุ่งมั่นที่ชัดเจน
ถ้าเอาชื่อนามสกุลมารวมกันจะแปลว่า
ความพยายามที่มุ่งมั่นชัดเจน
ชื่อเล่น
: เฮดิ / Hedi (Hedi ในภาษาเยอรมันแปลว่าความพยายาม)
บทบาท : นางเอกของฮันเซล & เกรเทล
อายุ
:: 21 ปี
ลักษณะ
รูปร่าง หน้าตา : เอดิเป็นหญิงสาวที่มีร่างกายที่สูงสำหรับผู้หญิงไม่รู้ว่าเพราะชอบดื่มนมมาตั้งแต่เด็กหรือเพราะอะไรก็ตามแต่เฮดิจะสูงกว่าผู้หญิงทั่วไป
ร่างกายของเธอไม่ได้อ้อนแอ้นอรชรแต่จะมีกล้ามเนื้อเป็นส่วนๆเพราะต้องทำงานหนัก
ร่างกายของเธอค่อนข้างสมส่วน ในตอนนี้เธอสูง 174 เซนติเมตรและหนัก 61 กิโลกรัม
ส่วนลักษณะร่างกายเธอเป็นผู้หญิงที่มีเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนแซมน้ำตาลเข้มยาวสลวย (เธอคิดจะตัดออกหลายครั้งเพราะมันค่อนข้างเกะกะการทำงาน)
นัยต์ตาสีเทาปนดำที่แทบจะถอดฉบับบอกมาจากแม่ของเธอ ริมฝีปากที่มักมีสีแดงอ่อนอยู่เกือบตลอดเวลา
ส่วนสีผิวของเธอคือขาวค่อนข้างไปทางซีดเพราะที่ที่เธออยู่มีหิมะตกเกือบตลอดจึงทำให้ไม่ค่อยได้รับแสงแดดมากเท่าไหร่นัก
ลักษณะคำพูดคำจา
เฮดิในสมัยเด็กจะเป็นพูดน้อยและไม่ค่อยพูดจาตรงประเด็นเธอมักจะพูดอ้อมๆให้คนอื่นสบายใจเสมอ
แต่เมื่อเติบโตขึ้นมาและหนีออกจากบ้านมาได้สังคมที่อยู่ในปัจจุบันก็ค่อยๆหล่อหลอมให้เธอเป็นพูดแข็งทื่อ
ตรงๆ
คิดอะไรก็พูดแบบนั้นอาจจะไม่ค่อยจะรักษาน้ำใจของใครสักเท่าไหร่แต่เธอก็ไม่ได้คิดร้ายกับใคร
ตัวอย่างการพูด
“ท่านพ่อจะไปทำงานแล้วเหรอคะ
แหะๆตั้งใจทำงานนะคะเดี๋ยวเย็นนี้เฮดิจะทำของโปรดให้คุณพ่อท่าน” พูดกับพ่อสมัยเด็ก
“นี่เจ้าจะเอาเปรียบคนอื่นเกินไปหรือเปล่าเจ้าของร้านก็หาใช่
เป็นลูกจ้างเหมือนกันแท้ๆแต่กลับเอาแต่นั่งชี้นิ้วสั่งคนอื่นเพียงเพราะเจ้าเข้ามาทำงานก่อนคนอื่นงั้นรึ
หึ” พูดกับคนที่ทำงานด้วยกัน
“ข้าว่าเจ้าเอาเวลากลับไปดูแลเมียของเจ้าที่นอนป่วยไข้อยู่ที่บ้านเถอะ ข้าไม่เอาผู้ชายที่มีเมียมีลูกอยู่แล้วมาทำเป็นสามีหรอกนะ”
พูดกับคนที่เข้ามาจีบ
“ถ้าจะไล่ข้าออกทำไมไม่ไล่เจ้าคนนั้นออกเสียด้วยล่ะ
อ่อหรือเพราะว่าคุณหญิงจะกลัวเรื่องที่เจ้านั่นกับคุณหญิงแอบมีสัมพันธ์สวาทแดงออกมากันคะ”
พูดกับเจ้าของร้านอาหารที่กำลังจะไล่เธอออก
“เจ้าเป็นโจรรึ ข้าไม่มีทรัพย์สินมีค่าติดตัวหรอกนะ
อ้อแต่ข้ามีอะไรจะให้เจ้านะ
/หยิบสเปรย์เครื่องเทศมาฉีดใส่ตาแล้วเตะเข้าตรงจุดยุทธศาสตร์กลางลำตัว หึ
เจ้าโจรไม่รู้จักเจียมตัวข้าไม่มีเวลามาเล่นกับเจ้านักหรอกนะ” พูดกับโจรที่เข้ามาปล้น
“ข้ารู้ว่าเจ้าหวังดีกับข้า แต่ข้าต้องขอโทษเจ้านะในชีวิตนี้ข้าคงไว้ใจใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากตัวข้าเอง”
พูดกับคนที่มาทำดีด้วย
“เห
นี่เจ้ากำลังบาดเจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอเจ้าเหยี่ยว เลือดเจ้าไหลออกมาเต็มเลย
อดทนไว้หน่อยนะเดี๋ยวข้าจะไปเอาสมุนไพรในกระท่อมก่อน” พูดกับเหยี่ยวที่บาดเจ็บอยู่หน้าบ้าน
“เจ้าจะยืนขวางข้าอีกนานไหม
อ๋อหรือเพราะคิดว่าตัวเจ้าใหญ่และสูงกว่าคนทั่วไปเลยคิดว่าจะขวางข้าได้
แต่ขอโทษเถอะนะข้าไม่ใช่พวกคนกระจอกงอกง่อยแบบนั้น /ผลักสุดแรงเกิด) พูดกับยักษ์หน้ามึนหัวม่วง
“ไม่ได้นะเฮดิ เจ้าจะร้องไห้ออกมาไม่ได้ เจ้าเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง เจ้าเป็นผู้หญิงที่เก่งที่สุดในโลกเจ้าจะมาทำตัวอ่อนแอแบบนี้อยู่ไม่ได้” พูดกับตัวเอง
ลักษณะนิสัย
1.เฮดิไม่เชื่อใครนอกจากตัวเอง
เนื่องจากแม่ของเธอเสียไปตั้งแต่เด็กทำให้เฮดิต้องอยู่กับพ่อเพียงลำพังแค่สองคน
จนวันหนึ่งพ่อเธอได้พาแม่เลี้ยงเข้ามาในบ้าน
แม่เลี้ยงคนนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อของเธอเธอจะเป็นคนอ่อนโยนใจดี ยิ้มแย้มแจ่มใส
แสดงความรักกับเฮดิอยู่เสมอแต่เมื่อลับหลังพ่อของเธอ
แม่เลี้ยงคนนี้จะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอแสดงอาการรังเกียจเฮดิอย่างออกหน้าออกตา
ด่าทอด้วยถ้อยคำรุนแรงและทำร้ายร่างกายของหญิงสาวด้วย
จนสุดท้ายเฮดิทนไม่ไหวจึงเลือกที่จะไปบอกพ่อของเธอ
แต่ว่าพ่อของเฮดิกลับไม่เชื่อเรื่องนี้หาว่าเฮดิเป็นเด็กเลี้ยงแกะและบังคับให้เด็กหญิงไปขอโทษแม่เลี้ยง
ทำให้เฮดิเสียใจเป็นอย่างมากแล้วในที่สุดเธอจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านมาตั้งแต่อายุ
13 ปี และปมที่ผูกอยู่ในใจจึงทำให้เฮดิไม่เชื่อใครอีกเลยนอกจากตัวเอง
2.เฮดิไม่พึ่งใครนอกจากตัวเอง
หลังจากหนีออกจากบ้านมาได้เฮดิก็ไม่ได้กลับไปเหยียบที่นั่นอีกเลย
หญิงสาวเร่ร่อนไปเรื่อยตามสถานที่ต่างๆจนสุดท้ายเธอก็เลือกที่จะสร้างกระท่อมหลังเล็กๆกลางป่า
โดยเธอได้ไปลักอุปกรณ์ช่างมากจากบ้านช่างก่อสร้างที่อยู่ในเมืองและใช้ต้นไม้ในป่าสร้างกระท่อมของเธอขึ้นมา
ส่วนอาหารเธอก็จะหากินจากตามในป่าหรือไม่บางทีเธอก็จะไปทำงานในเมือง
ไม่ว่าจะเป็นเด็กล้างจาน เด็กตัดฟืน คนให้อาหารม้าหรือแม้แต่ไปรษณีย์รับส่งเพื่อหาเงินมาซื้ออาหาร
ในช่วงแรกเฮดิก็ทำงานทั้งหมดไม่ไหว
เธอนอนซมป่วยไข้อยู่หลายครั้งเพราะไม่เคยทำงานหนักมาก่อนแต่จนในที่สุดร่างกายของเธอก็เริ่มชิน
3.เฮดิหัวไวในการเอาตัวรอด
หลังจากอยู่ตัวคนเดียวมาสักพักใหญ่เฮดิก็เริ่มปรับสภาพตามสังคมที่เธออยู่ได้
ในย่านเมืองจะมีพวกขโมยชุกชุมถ้าไม่ระวังตัวให้ดีจะถูกลากไปปล้นหรือทำอะไรต่อมิอะไรอย่างง่ายๆ
จึงทำให้หญิงสาวเริ่มหาวิถีทางเพื่อเอาตัวรอดจากโจรขโมยพวกนั้น
เฮดิตัดสินใจนำเครื่องเทศที่มีรสร้อนแรงเธอได้เครื่องเทศพวกนี้มาจากตอนทำงานในร้านอาหาร
หญิงสาวนำเครื่องเทศเหล่านี้ไปผสมกับน้ำและเทใส่ลงไปในขวดน้ำหอมที่เธอพกติดตัวมาจากบ้านเพื่อฉีดเวลาเกิดเหตุการณ์คับขันและหลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้ใช้มันและเอาตัวรอดมาได้
เฮดิเริ่มทำหลายๆอย่างเพิ่มขึ้นเพื่อหาหนทางรอดให้กับชีวิตของตัวเองเพราะเธอยังไม่อยากตายตอนนี้หรอกนะ
4.เฮดิมักสังเกตคนรอบข้างอยู่เสมอ
เพราะต้องใช้ชีวิตในการเอาตัวรอดอยู่ทุกวันเลยทำให้เฮดิกลายเป็นคนช่างเกตคนรอบข้างเสมอ
ต่อหน้าหญิงสาวจะทำตัวเป็นปกติแต่ที่จริงแล้วสายตาของเธอกำลังจับจ้องสิ่งที่ผิดปกติอยู่
หูทั้งสองก็จะคอยฟังไว้อยู่เสมอหรือแม้แต่จมูกก็จะคอยดมกลิ่นเผื่อเวลาเกิดอะไรขึ้นเธอจะได้เคลื่อนไหวอย่างทันท่วงที
เพราะตอนที่เธอไปเป็นคนเลี้ยงม้าเจ้าของบ้านได้หมายตาเฮดิไว้ว่าจะนำไปทำมิดีมิร้ายและส่งไปเป็นทาสแต่เพราะสายตาของเฮดิสังเกตถึงความหื่นกระหายของสายตาเจ้าของบ้านได้และหูของเธอก็ได้ยินตอนเจ้าของบ้านแอบกระซิบกับลูกน้องในบ้านว่าจะลงมือกับเธอคืนนี้จึงทำให้หญิงสาวตัดสินใจหนีออกมาได้ก่อนทันท่วงที
5.ถ้าเฮดิตั้งเป้าหมายไว้แล้วจะต้องทำให้ได้
ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่แต่ถ้าเฮดิตั้งเป้าหมายไว้แล้วเธอจะต้องทำให้ได้
สิ่งแรกที่เธอมาถึงเมืองนี้คือเธอตั้งหมายว่าจะเก็บเงินให้ได้สักก้อนสองก้อนเพื่อเก็บไว้เป็นเงินทุนในการเปิดร้านอาหารและขนมเป็นของตัวเองและมีมุมหนังสือเล็กๆอยู่ริมร้าน
ถึงความหวังนี้จะอยู่อีกค่อนข้างไกลแต่เงินที่เฮดิเริ่มเก็บก็เพิ่มขึ้นมากเรื่อยๆ
6.เฮดิเป็นคนพูดตรงๆไม่อ้อมค้อม
อันที่จริงในสมัยเด็กเฮดิเป็นคนค่อนข้างขี้อายและพูดน้อยและอ้อมค้อมแต่หลังจากหนีออกมาจากบ้านหลายๆอย่างสอนให้เธอรู้ว่าการพูดอ้อมค้อมไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมาสู้พูดความจริงไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ
ในหลายครั้งการพูดตรงๆของเฮดิก็ทำให้มีคนหมั่นไส้เธอเพิ่มขึ้นมาแต่เฮดิก็ไม่ได้แคร์อะไรเพราะเธอก็ไม่ได้หวังพึ่งคนเหล่านั้นอยู่แล้ว
7.เฮดิเป็นคนที่ไม่ชอบการร้องไห้
ในตอนเด็กๆก่อนที่แม่ของเธอจะเสียไป
แม่ได้บอกเฮดิว่าอย่าร้องไห้ถ้าขาดแม่ไปให้ยิ้มและทำตัวปกติเข้าไว้ถ้าร้องไห้มากๆดาวแห่งความโชคดีจะไม่เฉียดเข้าใกล้
ถึงมันจะดูเป็นเรื่องหลอกเด็กแต่เฮดิก็ปฏิบัติตามเป็นอย่างดี
ในงานศพของแม่เธอไม่มีน้ำตาสักหยดถึงอยากจะร้องไห้มากแค่ไหนแต่เธอก็ต้องกลั้นไว้
ต้องคอยหยิกตัวเองให้เจ็บและยิ้มออกมาเพื่อให้ดาวแห่งความโชคดีเข้ามาหาเธอ
ถึงในตอนนี้เธอจะโตเป็นสาวแล้วและเฮดิก็ไม่ได้เชื่อเรื่องดาวแห่งความโชคดีนั่นแล้วแต่ก็ยังคงอดทนและไม่ร้องไห้
เพราะมันเป็นคำสอนสุดท้ายของแม่เฮดิที่สั่งเสียเอาไว้
8.เฮดิเก่งทั้งด้านวิชาการและงานทั่วไป
เพราะต้องออกมาอยู่ตัวคนเดียวจึงทำให้เด็กผู้หญิงที่เก่งแค่ด้านวิชาการ
การทำอาหารและการทำขนมต้องฝึกทำอะไรหลายๆอย่างด้วยตัวเองไม่ว่าจะเป็นการสร้างกระท่อมที่ตัวเองอยู่
ผ่าฟืนใช้ในการทำอาหาร (ปกติตอนอยู่ที่บ้านจะมีแม่บ้านคอยทำไว้ให้)
ซ่อมของชิ้นเล็กๆน้อยไปจนถึงชิ้นใหญ่
ขุดหลุมไว้เพื่อเป็นที่ใส่น้ำถึงแม้เธอจะกลัวน้ำมากก็ตาม
ทำเฟอร์นิเจอร์ใช้ในกระท่อมเองไม่ว่าจะเป็นเตียง โซฟา โต๊ะ เก้าอี้
และของใช้อีกหลายสิ่ง ส่วนที่เก่งด้านวิชาการด้วยเพราะเฮดิได้รับการเล่าเรียนที่ดีมาตั้งแต่เด็กและด้วยความที่เธอชอบอ่านหนังสือต่างๆ
9.เฮดิไม่เคยหัวเราะเลยสักครั้งตั้งแต่ออกจากบ้านมา
เมื่อก่อนเสียงหัวเราะจะอยู่กับเฮดิราวกับเพื่อนสนิท
เสียงหัวเราะจะดังเสมอเวลาท่านพ่อของเธอทำอะไรตลกๆให้ดู
แต่พอหนีออกจากบ้านออกมาเฮดิก็ไม่เคยหัวเราะอีกเลยนกจากจะมียิ้มบางๆกับฮอว์ค
(เหยี่ยว) บ้าง
ชอบ
1.เวลาได้รับเงินค่าจ้าง
เวลาที่รับเงินค่าจ้างเฮดิจะรู้สึกดีใจทุกครั้งเพราะเหมือนความฝันที่จะได้เปิดร้านกำลังก้าวไปอีกขั้น
2.เวลาเป้าหมายของเธอสำเร็จ
ถึงเป้าหมายใหญ่ของเธอจะยังไม่สำเร็จแต่เป้าหมายเล็กๆที่เธอตั้งไว้หลายอย่างก็สำเร็จไปบ้างแล้ว
ถึงจะเป็นเรื่องเล็กแต่ก็ทำให้เธอมีความสุข
ไม่ชอบ
1.เวลาไม่สบาย
นอกจากจะทำให้เธออดรับเงินค่าจ้างแล้ว
เวลาไม่สบายเฮดิจะรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอลงแล้วเรื่องในอดีตจะย้อนกลับเข้ามาในหัวตลอด
แพ้
/ กลัว :: เฮดิกลัวน้ำ
เพราะตอนเด็กๆเคยถูกแม่เลี้ยงจับกดน้ำจนเกือบตายทำให้เป็นปมฝังใจมาตั้งแต่ตอนนั้นและเฮดิก็ไม่สามารถว่ายน้ำได้
เพิ่มเติม
-
เวลารู้สึกเครียดแล้วอยากผ่อนคลายเฮดิจะนำไวโอลินตัวโปรดของตัวเองนำมาสี
-
สัตว์เลี้ยงของเฮดิคือเหยี่ยว
(เหยี่ยวที่มาบ้านเจ็บหน้าบ้าน) เธอตั้งชื่อว่าฮอว์ค (Hawk) ซึ่งแปลว่าเหยี่ยว
-
เฮดิฝึกการเตะต่อยต่อสู้ป้องกันตัวไว้บ้างแต่ก็ยังฝีมือพอใช้อยู่ในตอนนี้
- เฮดิเกิดในฤดูหนาว และมีเลือดกรุ๊ป O
เฮดิยังคิดถึงท่านพ่อของเธออยู่เสมอ แต่ด้วยความอคติและยึดมั่นในตัวเองเธอจึงเลือกที่จะไม่กลับไปที่บ้านและหวังไว้ว่าแม่เลี้ยงคนนั้นจะดีกับพ่อของเธอด้วยเหมือนกัน
ปล.หารูปหืดขึ้นคอมากค่ะ กลัวหน้าเด็กไป ฟฟฟ
Talk MILAN
( 1 ) สวัสดีค่ะ ทางนี้มิลานค่ะ คุณผปค. ชื่ออะไรเอ่ย ?
-
ชื่อไม่ใช่ซึระ
คาซึระต่างหาก ค่ะ ส่วนชื่อเรียกสั้นๆไม่มีค่ะ /โดนตบกลิ้ง
( 2 ) ใบสมัครเรื่องมากไปไหมคะ ?
-
ไม่เรื่องมากนะคะถือว่าเป็นปกติเลยค่ะ
( 3 ) คำถามยอดฮิตติดชาร์จท็อป---- อะแหม่
ทำไมถึงมาสมัครเหรอคะ ?
-
เพราะพึ่งฟังนิทานเรื่อง
ฮันเซล & เกรเทล มาจากตอนดูพี่เอกแคสเกมค่ะ แล้วมุคคุงก็ลูกรักเราด้วยค่ะ ฮรือ
เจ้าโย่ง!
( 4 ) ถ้าไม่ติด อ่า ทางนี้ต้องขอโทษนะคะ //แง้
-
ไม่เป็นไรค่ะ
/ปิดปากร้องไห้น้ำตาไหลเป็นสายเลือด
( 5 ) ทางนี้หมดคำถามแล้วล่ะค่ะ
ขอบคุณที่ให้ความสนใจนะคะ !
-
โอ๊ะ
ขอบคุณมากค่ะ ฝากลูกสาวคนนี้ด้วยนะคะ * - *
ความคิดเห็น