บันทึก(ไม่)ลับ เด็กวิทย์ หัวใจศิลป์

ลำดับตอนที่ #10 : เด็กเก่ง VS เด็กขยัน : ไม่ได้แตกต่างกันเลย ถ้ามีความตั้งใจเหมือนกัน

เอาหล่ะ วันนี้ผมจะมาอัพบทความต่อหล่ะนะ หลังจากนี้คงจะมีเวลาอัพเต็มที่และ เพราะเพิ่งจบคอร์ส Da’vance ไปวันนี้เอง (ยังทำใจไม่ได้ที่จากเพื่อนที่นั่งเรียนด้วยกาน ซิกๆๆๆ) หลังจากที่นั่งเรียนมาหัวบานเบอะ เดี่ยวเปิดเทอมคงมาอัพ แต่ไม่บ่อยมากนะคัฟผม ^^

ก่อนอื่น ระขอขอบคุณ รุ่นพี่ เพื่อนๆ หรือรุ่นน้องที่เข้ามาคอมเม้นท์ในบทความของผมนะคัฟผม ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ คำบอกเล่าอะไรต่างๆงี้ อย่างน้อยก็ช่วยให้หลายๆคนที่เข้ามาดูบทความของผมได้อะไรมากขึ้น ขอบคุณจิงๆน้าคัฟผม

ถ้ามีอะไรก็ให้เข้าไปเยี่ยมกานที่ Hi5 ของผมนะคัฟ เพราะว่า MSN จะเลิกเล่นแล้ว อยากให้เข้ามหาลัยได้ก่อนแล้วจะกลับมาเล่นใหม่ อิอิ

ขอบคุณมากมายนะคัฟผม ^^

Rakung

วันนี้ผมจะมาชี้ให้เห็นถึง เด็กเก่งกับเด็กขยัน ซึ่งความจิงแล้ว ตามหลักภาษา 2 คำนี้มันแตกต่างกัน ใช่ป่ะคัฟผม ^^ แต่ในแง่การใช้ชีวิตจิงๆแล้ว คน 2 ประเภทก็มีสิทธิสอบเข้ามหาลัยได้ทั้งคู่นั่นแหละ

เด็กเก่ง อาจจะไม่ขยัน แต่ทำข้อสอบได้

เด็กขยัน อาจเรียนไม่เก่ง แต่อาศัยความพยายาม จึงสอบเข้าได้สำเร็จ

แล้วที่สำคัญ ผมเชื่อว่าหลายๆรร.ต้องเป็น การให้คะแนนในรร.ส่วนใหญ่จะให้คะแนนเก็บเป็นหลักใช่ป่ะคัฟผม พูดง่ายๆก็คือ ถ้ามีงานส่ง ก็มีคะแนน เกรดดีๆไปยื่นเข้าหมาลัยได้แล้ว

ตรงนี้เด็กขยันอาจจะได้เปรียบนิดหน่อย

เพราะอย่างน้อย คะแนนสอบไม่ดี คะแนนเก็บก็ช่วยหนุนตั้งเยอะ

เพื่อนผมคนนึงนะ ตอน ม.1 – ม.3 มันเรียนสู้ผมไม่ได้เลย เกรดมันแย่กว่าผมพอสมควร เพราะว่ามานเป็นคนที่ขี้เกียจน่าดูหล่ะ ก่อนสอบคนอื่นจะอ่านหนังสือกัน มันนั่งอ่านการ์ตูน 555+ (ส่วนผมก็ขยันพอสมควรแหละ แต่ก็ไม่มาก อิอิ)

พอขึ้นมาอยู่สายวิทย์ปุ๊บ ผมก็อยู่ห้องเดียวกับมันด้วยอ่าแหละ ปรากฏว่า เจ๊เนี่ยแหละ สอบได้ที่ 1 ของห้องตั้ง 2 เทอมซ้อน ที่สำคัญ ได้คะแนนมากที่สุดในสายวิทย์ด้วย (เทพเกิน - -“) ส่วนผมอ่าหรอ หล่นไปอยู่เกือบท้ายห้อง 555+

เลือกสายก็มีส่วนสำคัญนะเนี่ย อิอิ

พอขึ้นม.ปลาย อะไรๆมันก็ยากขึ้นนะจะบอกหั้ย

โดยเฉพาะการเป็นเด็กสายวิทย์เนี่ย หนักใจจิงๆ

นี่ก็เป็นตัวอย่างเล็กๆน้อยๆของ เด็กเก่ง นะคัฟผม ^^

ปัจจุบันมานก็ทำงานอยู่กลุ่มเดียวกะพวกผมเนี่ยแหละ อิอิ

มีเพื่อนผมอีกคนนึงนะ เป็นเพื่อนซี้ในกลุ่มเดียวกันเลยหล่ะ ถามว่ามันเรียนเก่งมั้ย ผมว่าไม่เท่าไหร่หรอก พอๆกับผมเนี่ยแหละ แต่คนนี้มันมีดีที่มันเป็นคน “ขยันเวอร์” อ่ะ เวลาทำโครงงานรายงานก็สบายแหละ ถ้าได้มันเข้ากลุ่มด้วย อิอิ เรื่องการบ้านนี่สงทุกครั้ง ไม่ขาดไม่เกิน ทำงานเรียบร้อยอีกต่างหาก อาจารย์หลายคนเลยชอบ

ที่สำคัญเป็นคนที่ขยันอ่านหนังสืออย่างบ้าคลั่ง - -“

แน่นอนเวลาสอบ วิชาที่มันจะ top ก็คือ ไทย – สังคม 555+

(แต่เทอมล่าสุด ผมคว้า Top สังคมได้สำเร็จ คิกคิก)

ด้วยความที่มันเป็นคนขยันเนี่ยแหละ เกรดมันก็เลยติดโผ top 5 ของห้องด้วย

ผมเริ่มเทียบไม่ติดแล้ว ไอ้พวกบ้านี่เทพเกิน 555+

เด็กธรรมดายุ่งม่ายด้ายยยยยย กิ๊กกิ้วววว (ผมล้อเล่งน่า ^^)

เด็กเก่งอาจจะได้เปรียบเด็กขยันตรงที่ว่า เค้าอาจจะได้รับการเลี้ยงดูมาดี พ่อแม่กวดขันตั้งแต่เล็กๆ ทักษะอะไรต่างๆ การเรียนรุ้อะไรต่างๆอาจจะรับได้เร็วกว่าเด็กธรรมดาๆอย่างเรา แล้วที่สำคัญ เด็กเก่งบางคนโลกส่วนตัวสูงนะ - -“ แบบ พูดด้วยแล้วไม่รู้เรื่องงี้ 5555+

เด็กเก่งก็อาจจะได้ Idol ที่ดีก็ได้ ก็เลยกลายเป็นแรงผลักดัน

ผมชอบอ่านชีวประวัติคนเก่งๆ (ความรู้รอบตัวนะคัฟผม) อย่างเด็กที่สอบหมอได้เนี่ย ส่วนใหญ่ ไม่พ่อก็แม่เค้าเนี่ยแหละ เป็นหมอ อาจจะได้แรงผลักดันมาจากตรงนั้นก็ได้

ผมก็ไม่รู้นะว่าทำไมเค้าถึงเก่ง เคยเรียนเรื่องพันธุศาสตร์เล็กๆตอน ม.3 เค้าบอกว่า สติปัญญาก็ถ่ายทอดทางพันธุกรรมเหมือนกันนะ อิอิ เพราะฉะนั้น อย่าไปน้อยใจโชคชะตาที่เราไม่อาจเก่งเท่าเค้า

งั้นเราก็มา “ขยัน” ซะสิ ^^

เด็กขยันได้เปรียบเด็กเก่งตรงที่ว่า มันจะเป็นแรงผลักดันให้เรามีความพยายาม มีแรงจูงใจสูงส่งกว่าเด็กเก่ง สังเกตมั้ยว่า เด็กเก่งนะ ครอบครัวจะมีอะไรเพียบพร้อมหมดแล้ว (แต่คนที่ไม่มีอะไรเลยก็มีนะ) เด็กที่ขยันก็จะเริ่มคิดแล้วว่า เราจะต้องทำอะไรบ้าง ให้อนาคตของเรานั้นสว่างสดใส อิ๊ อิ๊ - -“ เค้าถึงได้มุมานะ เพราะเค้าไม่อยากเป็นภาระของใครในอนาคตข้างหน้า

ความกังวล เด็กขยันย่อมมีมากกว่าเด็กเก่งอยู่แล้ว จิงรึเปล่าคัฟ ^^

แต่สำหรับ คนที่ขยันด้วย เก่งด้วย ต้องยอมรับว่า “เทพจิงๆ” แต่คนแบบนี้ก็หาได้ยากในสังคมไทยปัจจุบัน เหอะๆ

แต่ลองสังเกตดูนะ เด็กที่แอดติด ก็มีทั้ง 2 ประเภทนั่นแหละ

เพราะฉะนั้น คนที่เรียนไม่เก่ง ถ้าขยัน ก็มีสิทธิแอดติดนะคัฟผม

แค่หมั่นทบทวนตำรา เก็บสะสมไปเรื่อยๆ เวลาสอบก็จะสบายเอง จิงๆนะ ^^

แล้วก็อย่าไปน้อยใจที่ตัวเองไม่เก่งเท่าเพื่อน

แต่ให้มองว่า เราตั้งใจทำแล้วรึยัง

ถ้าตั้งใจทำแล้ว ก็ภูมิใจในตัวเองซะนะคัฟผม เหะๆ

แล้วถามว่า โอกาสที่จะแอดไม่ติดมีมั้ย ก็มีทั้ง 2 แบบน่านแหละ

เด็กเก่ง ถ้าไม่หมั่นพัฒนาตัวเอง ไม่อ่านหนังสือ ทำข้อสอบเก่า ก็มีสิทธิวืดได้เหมือนกันนะ

การเป็นเด็กเก่ง นั่นคือ พรสวรรค์ ของเรา

แต่ความขยัน คือ พรแสวง ที่ทุกคนควรจะมี

เพราะฉะนั้น เด็กที่เรียนไม่เก่ง ขอให้มีความขยันไว้ นั่นก็ดีต่อตัวเองนะคัฟผม ^^

ควรเริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลยนะคัฟผม.....

ก่อนไป ขอฝากคำคมไว้นิดส์นึง

“แอดมิชชั่น ไม่ได้วัดว่าใครเป็นคนเก่ง

แต่วัดว่า ใครที่เตรียมตัวมาพร้อมต่างหาก”