คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #49 : [ประกาศ Curfew] ถึงเด็กวิทย์หัวใจศิลป์ทุกคน! GAT จะขาดสอบมิได้!!!
หลังจากที่เพิ่งทำรายงานฟิสิกส์เสร็จ ยังไม่ได้อ่านหนังสือเตรียมสอบชีวะเลย 555+ ผมมีความตั้งใจจะมาอัพบทความให้เพื่อนๆร่วมอุดมการณ์ด้วยกันฟังนะครับผม
ทำไม GAT จะขาดสอบมิได้?
ความจริงมันก็บังคับให้เราสอบอยู่แล้วนะครับ ที่ผมพูด อีกนัยหนึ่งก็คือ ต้องพยายามทำให้ออกมาดี(ที่สุด) ด้วยต่างหาก ลองสังเกตคณะของเด็กศิลป์(ที่เรียนวิทย์)ให้ดีๆ เขาจะใช้คะแนน GATเป็นองค์ประกอบหลักที่มีน้ำหนักมากเลยหล่ะ ไม่ว่าจะเป็นสาขามนุษยศาสตร์ อย่าง นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ รวมไปถึง อักษรศาสตร์ (ย๊ากกกก!!!) ซึ่งใช้ GAT ได้ถึง 50% นั่นหมายความว่า เราไม่จำเป็นต้องสอบ PAT เลยก็ได้
สำหรับเด็กวิทย์อย่างเราแล้ว เป็นเรื่องที่หนักหัวสมองอันน้อยนิดของเราเหลือเกิน ยิ่งเป็นเด็กที่สุดแสนจะธรรมดา ไม่มีอะไรเด่นดังเป็นพิเศษแล้ว ถ้าไม่วางแผนเตรียมตัวให้ดี รับรองตายสนิทคาสนามสอบ - -“ ต้นทุนทางภาษาของเราก็น้อยเหลือเกิน ในสนามสอบเราจะไม่สามารถสอบภาษาที่ 3 เอาคะแนนไปสู้กับเด็กศิลป์โดยเฉพาะได้ สิ่งที่ทรมานจิตใจของเราทุกคน (Especially ตัวผมเอง) เหลือเกิน ก็คือ เรา (อาจ) จะต้องสอบ PAT 1 ซึ่งนอกจากเราจะต้องสู้กับเด็กวิทย์กลับใจด้วยกันเองแล้ว เรายังมีคู่แข่งที่น่ากลัวอยู่อีกกลุ่มหนี่ง นั่นก็คือ เด็กสายศิลป์ คำนวณนั่นเอง (โอ้วววว!!!)
ซึ่งเป็นที่รู้ๆกันอยู่ ว่าสายศิลป์ คำนวณ เป็นสายที่ออกกลางๆ เป้าหมายหลักๆของสายนี้ก็คงหนีไม่พ้น เศรษฐศาสตร์ บัญชี อะไรเถือกๆนั้น แต่ถ้าพวกเขาเกิดอยากสอบสาขามนุษยศาสตร์ขึ้นมาล่ะ - -
อันตรายข้อที่ 1 คู่แข่งเรามีมากขึ้นแน่นอน เด็กวิทย์ที่เก่งวิทย์จริงๆ คงไม่มานั่งสอบคณะสายศิลป์ให้เมื่อยหรอกจริงไหม เขาจะไปตามสายอาชีพโดยตรงของเขา เช่น หมอ หรือวิศวะ แต่เด็กศิลป์คำนวณ จะบอกว่าพื้นฐานทางการคำนวณเขาก็พอๆกับเรา เนื่องจากเราเรียนคณิตตัวเดียวกัน แต่เราอาจจะเสียตรงพื้นฐานทางภาษาอาจจะดีสู้เด็กศิลป์-คำนวณไม่ได้ เนื่องจากเขาเรียนอังกฤษลึกกว่าเรา เพราะฉะนั้นยังไม่สายนะครับ รีบไปเตรียมตัวรับมือกันได้เลย
อันตรายข้อที่ 2 คนที่คิดจะสอบ GAT 50% อย่าคิดว่าเราจะคิดได้คนเดียวนะครับ (ไม่ได้ขู่เลย แต่มันคือความจริงอย่างถึงที่สุด) เด็กทุกสายที่ไม่อยากสอบภาษาที่ 3 ไม่อยากสอบ PAT 1 มันมีเยอะจริงๆครับ มีโอกาสที่เขาจะสอบ GAT เพียงอย่างเดียวสูงมาก เพราะฉะนั้นต้องระวังให้ดี
หลายๆคนอาจจะไม่เข้าใจ ผมจะสรุปให้ฟังง่ายๆ
ถ้าเราเรียนสายศิลป์ มีภาษาที่ 3 เราจะสามารถสอบ PAT 7 ได้ ซึ่งคู่แข่งของเราจะมีเพียงแค่เด็กศิลป์ ภาษาด้วยกันเท่านั้น ซึ่งจะเป็นกลุ่มแคบๆ
ถ้าเราเรียนศิลป์ - คำนวณ หรือ วิทย์ เราจะสามารถสอบ PAT 1 ได้ คู่แข็งเราก็จะมีแค่เด็ก 2 สายคือ เด็กศิลป์ คำนวณ และ เด็กวิทย์ คณิต ซึ่งเราจะประมาทไม่ได้เลย อย่าลืมว่าเด็กศิลป์ - คำนวณเรียนเลขตัวเดียวกับเด็กวิทย์
ถ้าเด็กเด็กศิลป์ภาษา ไม่ชอบภาษาที่ 3 หรือไม่อยากสอบ เขาก็มีอีกทางเลือกคือสอบ GAT อย่างเดียว ซึ่งนั่น เด็กทุกสายสามารถสอบได้เหมือนกันหมด
สำหรับเด็กวิทย์ที่มีต้นทุนทางภาษาที่ 3 ถ้ามีโอกาส ผมว่าควรจะลองสอบ PAT 7 ดูนะครับ แต่นั่นหมายความว่า เราต้องสู้กับเด็กศิลป์กว่าหมื่นชีวิต ถ้าเรามั่นใจ และสามารถเอาต้นทุนทางภาษาของเราไปต่อยอดได้ มันก็คุ้มค่าที่จะลองเสี่ยง การสอบมี 3 ครั้ง ลองสมัครสอบดูสักครั้งก็ได้
สำหรับคนที่สนใจจะเรียนภาษาที่ 3 เพิ่มเติม อาจจะยังไม่สาย คงต้องขอความร่วมมือกับอาจารย์ที่สอนวิชานั้นๆมาช่วยสอนให้ แต่นั่นหมายความว่า เราจะต้องตั้งใจ และยอมเหนื่อยมากกว่าเพื่อนๆที่เรียนสายวิทย์คนอื่นๆ แต่ถ้าได้ต้นทุนตรงนี้มาก อย่างน้อยมันก็ช่วยลดคู่แข่งในการสอบของเราไปได้มากพอดู
....เห็นรึเปล่าครับว่า GAT มีความสำคัญมากขนาดไหนสำหรับเด็กศิลป์ (ในสายวิทย์) เพราะฉะนั้น เมื่อมีโอกาส 3 ครั้ง จงทำให้ดีที่สุด อย่าประมาทกับการสอบเด็ดขาด....
อ่านบทความนี้จบ เพื่อนๆคงจะมีแรงผลักดันให้พยายามมากขึ้นนะครับผม
มาสู้ด้วยกันนะครับ!!!
ความคิดเห็น