---------- นักเดินทาง ตะเกียง และแสงจันทร์ ---------- - ---------- นักเดินทาง ตะเกียง และแสงจันทร์ ---------- นิยาย ---------- นักเดินทาง ตะเกียง และแสงจันทร์ ---------- : Dek-D.com - Writer

    ---------- นักเดินทาง ตะเกียง และแสงจันทร์ ----------

    ฉันคิดถึงเทอ *

    ผู้เข้าชมรวม

    270

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    270

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  23 มี.ค. 52 / 10:45 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      *

      ฉันอาจเป็นเพียงตะเกียงดวงหนึ่ง ที่มีแสงเพียงน้อยนิด
      อาจจะไม่จำเป็นเลยในบางช่วงบางขณะ ที่พระจันทร์ทอแสงนวลกระจ่าง
      เธออาจจะทิ้งฉันไว้ข้างทางก้อเป็นได้
      หากเธอคิดว่าฉันไม่มีประโยชน์แม้แต่น้อย

      ฉันจึงเปรียบตะเกียง เป็นดั่ง ตัวฉัน...
      ส่วนเธอน่ะ เป็น นักเดินทางคนนึง...
      ส่วนเค้าคนนั้น เป็น พระจันทร์....

      นักเดินทางคนหนึ่งกับตะเกียงดวงเก่า
      ตะเกียงที่ให้แสงสว่างในค่ำคืนที่มืดมิด
      ตะเกียงที่ให้ความอบอุ่นได้ เมื่อนักเดินทางผู้นั้นต้องการ
      ในค่ำคืนที่สายลมหนาวได้ผ่านพัดมาอีกครา
      การเดินทางของนักเดินทางผู้นั้นก้อมี ตะเกียงเป็นเพื่อนคู่ชีพ

      แสงเพียงน้อยนิดที่พอจะส่องทางได้เป็นระยะๆ
      ทำให้นักเดินทางผู้นั้นเริ่มไม่พอใจในสิ่งที่ เค้ามีอยู่

      เมื่อเค้ามีเพื่อนร่วมทาง เพื่อนร่วมทางก็ได้กล่าวว่า
      "จะใช้ตะเกียงดวงเก่านี้ไปทำไม ในเมื่อแสงจากพระจันทร์ออกจะสว่างถึงเพียงนี้"

      นักเดินทางผู้นั้นคิดได้จึงทิ้งตะเกียงผู้น่าสงสารไว้ข้างทาง
      หลงเชื่อคำกล่าวของเพื่อนร่วมทาง
      ซึ่งเป็นเพียงแค่คนที่ผ่านมาแล้วก้อผ่านไป
      ค่ำคืนนั้น เป็นคำคืนที่ยาวนานสำหรับฉัน...

      ...ตะเกียงผู้ถูกทอดทิ้งไว้ข้างทาง

      ก้อเค้าไม่สนใจแม้แต่น้อย
      กลับกัน เธอนักเดินทางที่กำลังหลงระเริง
      กับแสงจากพระจันทร์
      ที่ส่องแสงนวลกระจ่าง มันสวยงาม มันชวนฝัน
      นักเดินทางผู้นั้นจึงเดินทางไปเรื่อยๆ เพียงลำพัง
      แค่สัมภาระ ไร้ตะเกียงดวงเก่า!
      เมื่อความมืดมิดแห่งค่ำคืนได้ผ่านพ้นไป
      แสงจันทร์ที่เคยกระจ่างยามค่ำคืนก้อเลือนหาย

      ดวงตะวันได้โผล่ขึ้นมารับอรุณบอกกับทุกคนที่อยู่ใต้ผืนฟ้าว่านี่คือ
      เช้าวันใหม่ ..............
      สายลมหนาว --ผ่านพัดมาเยือนอีกครา
      ----------ผ่านพัด---เป็นลมหนาวที่เย็นยะเยือก
      ตะเกียงดวงเก่าที่ถูกทอดทิ้ง
      บัดนี้ นักเดินทางอีกคนได้ผ่านมาพบจึงเก็บไว้เป็นสมบัติตน
      ตะเกียงจึงกลับกลายเป็น ของมีค่าอีกครั้ง
      มันได้ทำหน้าที่เช่นเดิม คือ ให้แสงสว่างและ
      ความอบอุ่นไปพร้อมๆ กัน


      เมื่อตะวันลับฟ้าไปแล้วลำแสงสุดท้ายของวันเป็นสีส้มเป็นแสงสว่างสุดท้ายของวันนี้

      ค่ำคืนได้ย่างกรายเข้ามา สายลมหนาวก้อเริ่มพัดแรงขึ้นๆ
      ดวงจันทร์ที่เคยทอแสงกระจ่างกลับถูกหมอกเมฆบดบังจนสิ้น!
      ราวกับจะกลั่นแกล้งนักเดินทาง
      คนเก่าที่เคยเป็นเจ้าของตะเกียง
      เค้าผู้นั้นไม่มีแม้แต่แสงไฟที่จะใช้ส่องทางและเช่นกัน
      เค้าไม่มีแม้กระทั่งความอบอุ่น
      นักเดินทางหนาวสั่นจะเดินต่อก็กลัว หลงทาง

      เค้าจึงย้อนกลับไปเอาตะเกียงดวงเก่าที่ได้ทิ้งไว้เมื่อคืนก่อน

      ... ลมหนาวได้ผ่านพัดมา ราวกับจะทรมานนักเดินทางผู้นั้น
      จนกระทั่งมาถึงจุดที่เขา ได้ทิ้งตะเกียงไว้
      บัดนี้ตะเกียงดวงเก่าได้ สาปสูญไปแล้ว
      เค้านึกเสียดายจับใจ
      แม้จะเรียกร้องเพียงใดก้อมิได้กลับคืน
      จึงทำได้แต่เพียงนอนหนาว
      รอให้เมฆหมอกที่บดบังดวงจันทร์นั้นได้ผ่านเลยไป
      เวลาได้ผ่าน........
      เมฆหมอกได้เลือนหายไปแล้ว
      แสงจันทร์ได้กลับมาสดใสอีกครา
      ทำให้นักเดินทาง ผู้เหน็บหนาวอุ่นใจขึ้น
      แต่ดวงจันทร์ก้ออยู่ไกลเกินไป.......


      ไกลเกินที่จะทำให้นักเดินทางผู้เหน็บหนาวได้รับความอบอุ่น------------

      เคยมีคนกล่าวเอาไว้ว่า

      "เรามักจะไม่รู้ว่าสิ่งที่เราครอบครองนั้นดีเพียงไรมีคุณค่ากับเราเพียงใด
      เราจะรู้ก็ต่อเมื่อเราได้สูญเสียสิ่งนั้นไปแล้ว"


      เพราะฉะนั้นฉันจึงอยากให้ผู้ที่ใฝ่สูงทั้งหลายจงหันกลับมามองคนใกล้ตัว

      "การชะเง้อมันเมื่อยกว่าการก้ม จริงไหม?"

      *

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×