ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟาโรห์หลงยุคภาค2

    ลำดับตอนที่ #8 : แผนแรกของเบน(Ben are Thinking about Second Plan)

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ค. 46


    ฟาโรห์หลงยุคภาค2

    ตอนที่8  แผนแรกของเบน



    เบนทั้งถูกฉุดกระชากจนแทบจะล้มทั้งยืน  เขารู้สึกเหลือเชื่อในความโชคดีของตนที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน  ทั้งๆที่มีโอกาสในการประสบผลสำเร็จเช่นนี้น้อยมาก  เขาแอบกระหยิ่มยิ้มย่องโดยไม่ให้ศาสตราจารย์เจลลี่กับกริมสโตน  --  ผู้ไม่ได้เอะใจอะไรเลย  --  เห็น  แต่ก็อดกังวลใจอยู่ลึกๆไม่ได้  เขามีแผนอยู่สองแผน  แผนแรกสำเร็จไปแล้ว  แต่แผนสองยังไม่ได้คิดไว้เลย

    ไม่เป็นไร  เขาคิด  ถ้ามีเวลาอยู่ในห้องของตัวเองทั้งวันคงจะคิดอะไรได้บ้าง

    เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น  ก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่หน้าห้องนอนของเขาเอง  กริมสโตนเข้าไปจัดการกับหน้าต่างแล้วเดินออกมา  ศาสตราจารย์เจลลี่ถีบเบนเข้าไปในนั้นราวกับว่าเบนเป็นลูกฟุตบอลที่เขากำลังทำคะแนนให้กับทีมของตัวเองอยู่  “อยู่ในนั้นดีๆล่ะ!”  เขาตะคอก  แล้วปิดประตูอย่างแรงจนมีเสียงดังปัง(เป็นครั้งที่สามของวันนี้)

    เบนลุกขึ้นนั่งบนเตียง  มองไปยังหน้าต่างที่ถูกเปิดไว้ไม่กว้างนัก  ภายในสมองคิดหนักอย่างรวดเร็ว

    เขาพุ่งไปที่โต๊ะทำงาน  ดึงกระดาษออกมาจากลิ้นชัก  เขาดึงแรงเกินไปหน่อย  จนของในลิ้นชักกระจุยกระจายเต็มพื้นห้อง  เขารีบเก็บของเล่น หนังสือการ์ตูน  เชือกลูกเสือยาวสองสามเมตร มีดพก(พ่อกับแม่ยืนยันจะล็อกไว้ด้วยรหัส  เผื่อเขาเกิดบ้าบิ่นนำไปจิ้มแครี่) กุญแจสำรอง กล่องดินสอลายสไปเดอร์แมน  พจนานุกรม และเคราปลอมบุบบู้บี้ที่เซนนาพอดเคยทำตกในอ่างน้ำ(เบนเก็บเอาไว้เพื่อทำต้นแบบ  ตอนแรกเบนลืมล้างโยเกิร์ตออกจนมันขึ้นราและมีมดขึ้นด้วย)ลงในชิ้นชักตามเดิม  จากนั้นก็ดึงดินสอขึ้นมาแล้วจดขยุกขยิกลงไป



    แผนแรกสำเร็จแล้ว  ไม่ต้องห่วง  ผมจะพยายามคิดแผนต่อไปในเร็วๆนี้  ช่วยกันคิดหน่อยนะครับ  ถ้ามีแผนอะไรเอากรวดก้อนเล็กๆปาหน้าต่างให้เกิดเสียง(ห้ามใช้หินเด็ดขาดและต้องก้อนเล็กๆด้วย  ขนาดเท่าก้อนฝุ่นน่ะครับ)  ผมจะหย่อนเชือกลงไป  และเชือกนี้จะผูกดินสอกับกระดาษไว้  ให้รีบเขียนข้อความและผูกทุกอย่างไว้อย่างเดิมพร้อมกับกระตุกเชือก  แล้วผมจะดึงขึ้นไป  ให้ระวังไว้ตลอด  เพราะผมอาจจะปาเครื่องบินกระดาษแบบนี้ลงไปตอนไหนก็ได้  ให้ผลัดกันเฝ้ามองไว้  และคืนนี้พอไอ้วายร้ายพวกนั้นนอนแล้วผมจะหย่อนถุงนอนลงไปนะครับ

                                                                                                  เบน


    เขาพับมันเป็นรูปเครื่องบิน  วิ่งไปที่หน้าต่าง  และร่อนมันลงที่สวนเบื้องล่าง  เบนรอจนกระทั่งเห็นมือๆหนึ่งโผล่ออกจากพุ่มไม้มาเก็บเครื่องบินกระดาษไปแล้วจึงผละออกจากหน้าต่าง

    ขณะที่เดินไปที่เตียงนั้นเบนคิดได้ว่าน่าจะเสริมเข้าไปในนั้นด้วยว่า  เซนนาพอดเป็นอย่างไรบ้าง  ด้วย  แต่มันก็สายไปแล้ว  เขาคิด  ไว้ค่อยรอจนถึงเวลาต้องเขียนครั้งหน้าก็ได้  จู่ๆเบนก็รู้สึกปวดแปลบและนึกอยากให้ตัวเองลงไปอยู่กับครอบครัวที่อบอุ่นของเขาเหลือเกิน

                                                             ****

    แผนแรกที่เสร็จสิ้นไปแล้วของเบนนั้นเป็นแผนที่หลักแหลมแผนหนึ่งทีเดียว  เบนบอกแผนนี้กับทุกคนตอนอยู่ในสวนและอยู่ห่างไกลจากสายตาของพวกวายร้าย  แผนก็คือ  เบนจะทำเป็นว่าแอบเข้ามาเพื่อช่วยพวกแมวไว้  แต่ความจริงแล้วเขาวางแผนไว้ว่าจะให้ตัวเขาถูกจับได้โดยการปัดเศษแก้วตกพื้น  เขาคิดว่าพวกนั้นน่าจะจับเขาเป็นตัวประกันไว้อีกคน  เขาขอให้พวกไลท์สปีดและเซนนาพอดยืนรออยู่ที่หน้าต่างด้วย  และเขาก็อาจถูกจับขึ้นไปที่ห้องใดห้องหนึ่ง  --

    “แล้วไงล่ะ”  แครี่ขัดขึ้น  “เธอจะช่วยพวกแมวได้ยังไง  แล้วเธอจะนึกเหรอว่าพวกนั้นจะไม่ล็อกหน้าต่างกับประตู  คราวนี้เธอก็จะหนีไปไหนไม่ได้เลยนะ  นั่นก็ทำให้ทุกอย่างแย่ลงไปอีก”

    “ใช่”  เบนตอบอย่างใจเย็น  “แต่เธอลืมแล้วเหรอว่าห้องพวกเรานี่ไม่มีแอร์  แถมถ้าปิดทั้งประตูและหน้าต่างแล้วก็แทบจะหายใจไม่ออกเลย  พวกมันคงน่าจะแง้มไว้หน่อยๆนะ  แง้มไว้หน่อยๆนั่นแหละดี  ผมจะส่งข่าวมาให้  --  ”

    “โดยวิธียังไงล่ะ”  เซนนาพอดถาม  เขาดูจะสนใจเรื่องทุกอย่างของที่นี่แล้ว  เพราะเขาตระหนักได้ว่ามันเป็นสถานการณ์ร้ายแรง  “แล้วพวกเราจะเอาได้ยังไง”

    “อย่าขัดจังหวะตอนที่เบน  โรมานัน  ไลท์สปีดกำลังพูด!”  เบนล้อเลียนแบบเซนนาพอด  แต่น่าตะลึงพรึงเพริดเป็นอย่างยิ่งที่เซนนพอดไม่โกรธเลย  เขาเร่งเร้าเบนอย่างที่ทำให้ทุกคนประหลาดใจ  เบนจึงชักจะจริงจังขึ้นมาบ้าง  “ในห้องผมจะมีกระดาษและดินสอเก็บไว้ในลิ้นชัก  ผมจะเขียนข้อความแล้วก็หย่อนลงไป”

    “แค่นั้นเองหรือ  ลูก”  มิสเตอร์ไลท์สปีดเอ่ยอย่างกังวล  “ไม่มีอะไรอื่นอีกแล้วเหรอ  แล้วทำไมลูกถึงอยากจะเข้าไปล่ะ  พ่อว่ามันเสี่ยงมากกว่าดีนะ”

    “ใช่”  มิสซิซไลท์สปีดเสริม  “คือ  --  แล้วลูกจะมีข่าวอะไรมาบอกล่ะ  นอกจากลูกถูกขังไว้และแมวสองตัวนั่นก็ถูกขังเหมือนกัน”

    “นั่นแหละครับคือแผน”  เบนว่า  แล้วยิ้มกว้างอย่างไม่คาดฝัน  “ผมจะถูกขังอยู่ในห้องนอน  แต่ก็เท่ากับว่าผมถูกขังอยู่ในบ้านตัวเองใช่ไหมครับ  ทีนี้ผมก็สามารถสำรวจได้เลยว่า  กริมสโตนกับศาสตราจารย์เจลลี่เป็นยังไง  เพราะบางที  --  พวกมันอาจเผยว่าควบคุมบ้านได้ยังไง  จากนั้น  ผมก็จะพยายามวางแผนบุกบ้าน  ทีนี้พวกเราก็จะได้แมวของเราคืนมา!”

    ทุกคนเงียบไปครู่หนึ่ง  แล้วแครี่ก็ตบหลังเบนดังฉาด  “ยอดเยี่ยมมาก  เบน!”  เธอชื่นชม  “นี่เธอใช้ความฉลาดของเธอได้อย่างเต็มที่เป็นครั้งแรกเลยนะนี่!!”  เบนดูภูมิใจมากจนหน้าแดง(แม้อาจจะเป็นเพราะว่า  แครี่ตีเขาแรงเกินไปหน่อย)

    ฟาโรห์ยังคงมองโลกในแง่ร้ายอยู่บ้าง  “…และอาจเป็นครั้งสุดท้าย”  เขาพึมพำ

    แครี่ตบหลังเซนนาพอดดังฉาด  แต่แตกต่างจากเบน  เธอไม่ได้ตบด้วยความชื่นชม  แต่ตบด้วยความหมั่นไส้  “นี่  เซนนี่ ไลท์สปีด  หยุดกระแนะกระแหนคนอื่นเขาซะทีได้ไหม”  เธอพูดคำยากๆมาข่มเซนนาพอด

    เซนนาพอดชักสีหน้าทันที  จะเป็นเพราะแครี่  --  บังอาจ(?)  --  ใช้คำว่าเซนนี่  หรือเพราะเธอเติมคำว่าไลท์สปีดต่อท้ายก็ไม่อาจรู้ได้  แต่เขาก็พยายามสงบปากสงบคำไว้ก่อน

    ทุกคนเฝ้ามองเบนหายลับเข้าไปในหน้าต่าง  --  เงียบไปครู่  --  และแล้ว  --

                                                             เพล้ง!!!

                                                             ****

    ทุกคนกำลังอ่านจดหมายของเบนอยู่ด้านหลังพุ่มไม้ใหญ่ในสวน  มันเป็นพุ่มไม้ที่ใหญ่พอที่จะซ่อนร่างทุกคนไว้ได้  มิสเตอร์ไลท์สปีดต้องอ่านออกเสียงเพื่อให้เซนนาพอดรู้เรื่องด้วย  เมื่ออ่านจบ  ทุกคนหันมามองหน้ากัน  “เบนเอาแผนพวกนี้มาจากไหนกันเนี่ย”  มิสซิซไลท์สปีดเป็นคนแรกที่เปล่งเสียงเริ่มต้นการสนทนาได้

    แครี่พ่นลมหายใจ  “พ่อแม่ลืมแล้วหรือคะว่าเบนน่ะมีนวนิยายสืบสวนเยอะเลย  อากาธา คริสตี้เอย  เชอร์ล็อต โฮล์มส์เอย  พอลยอดนักสืบเอย(ถึงท่านผู้อ่านทุกท่าน  --  คุ้นไหมครับ ฮึ ฮึ)  โอ๊ย  อะไรอีกเยอะไปหมด”

    คราวนี้ทุกคนถอนลมหายใจ  มองขึ้นไปที่หน้าต่าง  และถูกสบตาโดยใครคนหนึ่ง

    มันมืดเกินกว่าจะเห็นหน้าได้  ใครคนหนึ่งที่มีใบหน้ากลม  ทรงผมไม้ม็อป  ดวงตาของเขาเป็นประกายราวกับดาวฤกษ์ดวงหนึ่ง  แม้จะมืด  แต่ทุกคนก็เห็นได้ว่าเขากำลังยิ้ม

    ทุกคนยิ้มตอบ  รู้สึกเศร้าใจที่เขาต้องถูกขังไว้ในห้องอันโดดเดี่ยว  แต่พวกเขาก็เชื่อใจกันและกัน  เขาคนนั้นในห้องเองก็รู้ดีว่าตอนนี้ทุกคนกำลังฝากความหวังไว้ที่เขา  --

    ซึ่งเป็นความเชื่อมั่นที่มีมาตลอด……



    (To Be Continued…)



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×