ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ทุกคนหวาดกลัว(Fear)
ฟาโรห์หลงยุคภาค2
ตอนที่4  ทุกคนหวาดกลัว
หากจะบอกว่าเช้าวันต่อมาเป็นวันที่ดีของครอบครัวไลท์สปีดแล้วล่ะก็ไม่ถูกเสียทีเดียว  ทุกคนกังวลใจ  มิสเตอร์ไลท์สปีดอยู่บ้านทั้งวันโดยไม่ออกไปขายไอศครีม  มิสซิซไลท์สปีดไม่มีสมาธิทำอาหารทุกคนจึงต้องสั่งพิซซ่ามากิน  เบนเองก็ไม่ได้ทำอะไรมากนัก  เขานั่งจมอยู่ที่โซฟาและเอาแต่ครุ่นคิด  ส่วนแครี่นั้นไม่ได้พูดมากเหมือนเดิม  เธอหมกตัวอยู่ในห้อง(แม้เบนจะพูดว่าเธออาจมัวแต่แต่งตัวและแต่งหน้าอยู่ก็ได้)  แต่เซนนาพอด  ทิดเดิ้ลส์  และรัสท์บัคเก็ตกลับตรงข้ามกันเลย  พวกเขาไม่รู้ว่าครอบครัวไลท์สปีดกังวลกันเรื่องอะไร  พวกเขาทำยุ่งเหมือนเดิม  ประเดิมด้วยประตูห้องเปิดดังปัง  ดำเนินต่อมาคือหนังสือทุกชั้นตกลงพื้นเพราะเดินกระแทก  จบลงอย่างสวยงามเป็นการตะโกนเรียกมิสซิซไลท์สปีดเสียงดังลั่นว่าอาหารเช้าอยู่ไหน
“กินพิซซ่าไปก่อนแล้วกันนะ”  มิสซิซไลท์สปีดพูดอย่างไร้อารมณ์
“อะไรนะ  ปิ๊ซซ่ารึ?”
“พิซซ่า  พิ-ซ-ซ่-า”  เธอเน้น  แล้วชี้ไปที่ถาดตรงกลางโต๊ะกินข้าว
ระหว่างที่เซนนาพอดกินอยู่นั้น  ครอบครัวไลท์สปีดก็คุยกัน(เบนไปตามแครี่ลงมาโดยแกล้งตะโกนว่า  “ไฟไหม้!”  หน้าของแครี่ที่โผล่พรวดพราดตอนนั้นทำให้เบนขำไม่หยุดเลย)  “เรามานั่งกังวลอยู่อย่างนี้ทั้งวันไม่ได้หรอกนะ”  มิสเตอร์ไลท์สปีดว่า  “มาวิเคราะห์สิ่งที่เราทำอยู่ตอนนี้แล้วแก้ไขกันดีกว่า  จะได้ไม่เสียเวลาเปล่า  อันดับแรก  เรากังวลเรื่องอะไร?”
“ศาสตราจารย์เยลลี่เมลลี่กับนายกริมมี่สโตนี่”  เบนตอบอย่างอัตโนมัติ  แครี่หัวเราะคิกคัก  บรรยากาศดูคลายเคลียดลงเล็กน้อย
“อันดับสอง  เรากังวลถึงพวกเขาทำไม?”
“กังวลว่าพวกเขาจะมาคิดบัญชีกับเรา  ซึ่งพวกเขาก็ไม่ยอมไปที่ธนาคาร  เพราะมันช้า”  มิสซิซไลท์สปีดตอบเบื่อๆ  เบนพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้หน้าดูเคร่งขรึม  ซึ่งยากจริงๆ  เพราะมุมปากของเขาไม่หยุดกระตุกซักที
“อันดับสาม  พวกเขาจะมาแก้แค้นเราแบบไหน?”
“ทำให้เรากลายเป็นเนื้อเน่า”  แครี่กระซิบเสียงเยือกเย็น  ทุกคนตัวสั่น
“อะ  --  อันดับสี่  มีทางแก้ไขไหม?”
“มี”  เบนตอบทันที  “พอพวกเขาโผล่มาก็หนีซะ”
“ไอเดียดีเหลือเกินนะ”  แครี่ประชดฉุนๆ  “มีใครเห็นด้วยกับความคิดของเบน’ส  บิ๊ก  บัมเปอร์  บ๊อกซ์  ออฟ  แบนเอดจ์บ้างคะ”  ไม่มีใครยกมือ  แต่เบนทำท่าจะขย้ำแครี่ให้ตายคามือซะ
“เออ”  มิสเตอร์ไลท์สปีดรีบขัดขึ้น  “พ่อว่ายังงี้ดีไหม  แจ้งตำรวจมาคุ้มครองบ้านเรา  จะได้ปลอดภัย”
“โธ่  คุณคะ”  มิสซิซไลท์สปีดว่า  “จะให้พวกเราพูดว่ายังไง  ‘คือ  --  คุณตำรวจคะ  ครอบครัวดิฉันกลุ้มใจมากค่ะ  ว่านักโทษแหกคุกสองคนที่เพิ่งแหกคุกมาเมื่อเร็วๆนี้อาจจะมาแก้แค้นเรา  โปรดช่วยคุ้มครองเราได้ไหมคะ  ส่งตำรวจมาโหลหนึ่งเลยค่ะ  ถ้าคุ้มกันเราแล้วสองคนนั่นไม่ปรากฏก็ถือว่าเสียเวลาไปซักสองสามอาทิตย์แล้วกันค่ะ’  งั้นรึ”
“ผมรู้แล้ว!”  เบนร้องขึ้น  “พวกเราก็วางกับดักไว้สิครับ!”
“กับดักรึ”  มิสเตอร์ไลท์สปีดถาม  “ความคิดเข้าท่านะ  ถ้าเขาแอบเข้ามาในบ้านเราก็จะทำให้เขาตกลงไปในกับดักเลย”
“มาวางแผนก่อนดีกว่า”  แครี่พูดอย่างตื่นเต้น  “เราต้องวางแผนไว้”
****
หลังจากผ่านมาแล้วหนึ่งชั่วโมง  กับดักต่างๆก็เสร็จเรียบร้อย  มิสเตอร์ไลท์สปีดวางเศษแก้วบนพื้นห้องบริเวณด้านล่างหน้าต่างทุกบาน  ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง  เบนนำถังใส่ก้อนหินและผูกเชือกไว้  เขากะจะใช้สิ่งนี้เวลากลางคืน  เขาจะติดตะขอไว้บนเพดานเหนือประตูเป๊ะ  แล้วเอาปลายเชือกด้านหนึ่งคล้องตะขอและเอามามัดกับลูกบิดประตู  ส่วนปลายเชือกอีกด้านที่มีถังใส่หินผูกไว้นั้นเบนก็จะวางไว้บนโต๊ะ(ซึ่งเขาย้ายมันมาจากห้องนั่งเล่น)โดยพยายามจัดโต๊ะให้เชือกที่ผูกถังไว้นั้นตึง  ดังนั้นถ้าใครแอบเปิดประตูเข้ามาเชือกที่ผูกอยู่ที่ลูกบิดด้านในบ้านก็จะถูกดึงให้ตึง  เชือกจะถูกดึงไปทางด้านประตูโดยมีตะขอเป็นตัวกลางและถังใส่หินจะค่อยๆเลื่อนไปทีละนิดและตกขอบโต๊ะ  มันจะเหวี่ยงเข้าใสผู้ที่แอบเข้ามาและ  ตูม!  คนที่แอบเข้ามาก็จะโดนถังใส่หินน็อค  แถมหินที่อยู่ข้างในก็จะร่วงกราวออกมาส่งเสียงเตือนให้พวกไลท์สปีดรู้  แครี่นั้นเธอใช้ถุงพริกไทย  เธอเอาถุงใส่พริกไทยจนเต็มและมัดไว้  มันจะเป็นอาวุธอันดีเยี่ยมที่เหมาะแก่การโจมตีเพราะเมื่อโยนแล้วถุงจะแตกและพริกไทยก็จะฟุ้งออกมา  เหล่าวายร้ายก็จะไอแค่กๆและแสบตาไปหมด  วิธีนี้ทุกคนต้องเตรียมแว่นตากันน้ำและผ้าปิดจมูกไว้เพื่อป้องกันตัวเอง  เธอจะเพิ่มประสิทธิภาพของมันด้วยการเปิดพัดลม  ทีนี้ล่ะก็  --  อะฮ่า!  ศาสตราจารย์เจลลี่กับกริมสโตนได้ของกำนัลชิ้นใหญ่ที่สุดแน่ๆ!(โดยการเข้าโรงพยาบาลตำรวจ)  มิสซิซไลท์สปีดทำอาวุธเหมือนกันโดยใช้เครื่องมือในครัว  มีด  เขียง  ส้อม  และช้อน  เธอได้ไอเดียมาจากกระเป๋าถือของเธอ(เซนนาพอดรีบวิ่งหนีตอนที่เธออธิบายเรื่องนี้)  เธอเจาะรูเขียงตรงกลางแล้วเอาไม้ยาวๆเสียบเข้าไปแต่ไม่ต้องเสียบทะลุ  ทีนี้เธอก็เจาะรูเพิ่มตรงรอบศูนย์กลางเพื่อเอาไว้ติดมีด  ส้อม  และช้อนต่างๆ  เมื่อเสร็จแล้วมันดูเหมือนไม้ม็อปนิดหนึ่ง  เพียงแต่ว่าตรงจุดที่จะติดเศษผ้าชิ้นยาวเป็นวงกลม  และแทนที่จะเป็นผ้าถูกลับเป็นมีด  ช้อน  และส้อมนั่นเอง  สามีและลูกๆของเธอถึงกับหัวเราะก๊ากเลยเมื่อเห็น
“ดูมันพิลึกยังไงก็ไม่รู้นะครับ”  เบนว่า  “แต่ผมเดาว่าคงมีประสิทธิภาพสูง  ไม้ม็อปบาซูก้า”
“ทีนี้คงจะกันสองคนนั่นไหวแล้วนะ”  มิสเตอร์ไลท์สปีดพูดขึ้นอย่างไม่แน่ใจ  “คงไม่เป็นไรแล้วล่ะทีนี้”
มิสเตอร์ไลท์สปีดยังไม่รู้ตัวในตอนนั้นเลยว่า  เขาพูดผิด  “หนูว่าไปตามเซนนาพอดมาเตือนดีกว่า”  แครี่บอก  “ถ้าเขาโดนกับดักของเรายุ่งแน่ๆ”
ทุกคนจึงไปตามเซนนาพอดมา  พลางอธิบายกับดักและเรื่องราวต่างๆ  เซนนาพอดดูจะประทับใจอยู่บ้าง  แต่เมื่อถึงไม้ม็อปบาซูก้าของมิสซิซไลท์สปีดแล้วก็เกิดปัญหาขึ้นจนได้  “เครื่องอะไรน่ะ  พิลึกพิลั่นชะมัดยาก”  เซนนาพอดว่า  “ไม่มีคลาสเลยนะ  บอส“
“เขาเรียนรู้คำพวกนั้นมาจากไหนน่ะ”  มิสเตอร์ไลท์สปีดพึมพำ  เบนซึ่งได้ยินเขาพูดหน้าแดงและพยายามทำตัวเป็นปกติ  ในระหว่างที่มิสซิซไลท์สปีดดูเหมือนโดนสบประมาท  “มันคือไม้ม็อปติดอาวุธน่ะ”  เธอเค้นเสียงเหมือนอาบยาพิษ  แต่เซนนาพอดซึ่งกำลังตื่นเต้นอยู่กับกับดักต่างๆก็ดูเหมือนจะสลัดยาพิษนั้นออกไปจนหมดเพราะไม่รู้ตัว  “เดี๋ยวฉันสาธิตให้ดู”
มิสซิซไลท์สีดเริมใช้ไม้ม็อป(?)ทำท่า  ทุกคนแอบนึกในใจว่า  เธอไปดูเรื่องบรู๊ซลีมากจากไหนกัน  เธอทำเสียงประกอบตามไปด้วย  “อย่างนี้  ทำอย่างนี้นะ  ดูไว้ซะ  สะบัดอย่างนี้นะ  วู้บบบบบบ(เบนก้มหลบเขียงได้ทันท่วงที)  แล้วก็ฟาดลงแบบนี้  ตูมมมม!(มันกระแทกพื้นระหว่างมิสเตอร์ไลท์สปีดกับแครี่จนทั้งสองกระเด้งตัวไปคนละทาง)  กับเหวี่ยงเป็นอย่างนี้  เฟี้ยวววววววว!(มิสซิซไลท์สปีดเหวี่ยงมันไปในอากาศจนเซนนาพอดต้องหงายตัวเหมือนเดอะแมททริกซ์)  วิธีนี้ก็คือการพุ่งกระฉูด(“ชื่อแต่ละอย่างคิดมาจากไหนกันนี่”  เบนพึมพำ)  ฟู้บบบบ  โอ๊ะ  โอ้  ไม่นะ!”
เพล้ง!
มิสซิซไลท์สปีดทำท่าแทง  แต่มันหลุดจากมือเธอ  แล้วพุ่งไปที่กระจกหน้าต่างจนแตกกระจาย
ทุกคนมองดูหน้าต่าง  ซึ่งมีไม้ม็อปคาอยู่  เศษกระจกชิ้นสุดท้ายแกว่งไปแกว่งมาตรงขอบหน้าต่าง  และหล่นแตกลงบนพื้น
“เอ่อ  คุณคะ”  มิสซิซไลท์สปีดเอ่ยขึ้นกับสามีพลางยิ้มแหยๆ  “คุณมีเศษแก้วให้วางเพิ่มขึ้นแล้วนะคะ”
(To Be Continued )
ตอนที่4  ทุกคนหวาดกลัว
หากจะบอกว่าเช้าวันต่อมาเป็นวันที่ดีของครอบครัวไลท์สปีดแล้วล่ะก็ไม่ถูกเสียทีเดียว  ทุกคนกังวลใจ  มิสเตอร์ไลท์สปีดอยู่บ้านทั้งวันโดยไม่ออกไปขายไอศครีม  มิสซิซไลท์สปีดไม่มีสมาธิทำอาหารทุกคนจึงต้องสั่งพิซซ่ามากิน  เบนเองก็ไม่ได้ทำอะไรมากนัก  เขานั่งจมอยู่ที่โซฟาและเอาแต่ครุ่นคิด  ส่วนแครี่นั้นไม่ได้พูดมากเหมือนเดิม  เธอหมกตัวอยู่ในห้อง(แม้เบนจะพูดว่าเธออาจมัวแต่แต่งตัวและแต่งหน้าอยู่ก็ได้)  แต่เซนนาพอด  ทิดเดิ้ลส์  และรัสท์บัคเก็ตกลับตรงข้ามกันเลย  พวกเขาไม่รู้ว่าครอบครัวไลท์สปีดกังวลกันเรื่องอะไร  พวกเขาทำยุ่งเหมือนเดิม  ประเดิมด้วยประตูห้องเปิดดังปัง  ดำเนินต่อมาคือหนังสือทุกชั้นตกลงพื้นเพราะเดินกระแทก  จบลงอย่างสวยงามเป็นการตะโกนเรียกมิสซิซไลท์สปีดเสียงดังลั่นว่าอาหารเช้าอยู่ไหน
“กินพิซซ่าไปก่อนแล้วกันนะ”  มิสซิซไลท์สปีดพูดอย่างไร้อารมณ์
“อะไรนะ  ปิ๊ซซ่ารึ?”
“พิซซ่า  พิ-ซ-ซ่-า”  เธอเน้น  แล้วชี้ไปที่ถาดตรงกลางโต๊ะกินข้าว
ระหว่างที่เซนนาพอดกินอยู่นั้น  ครอบครัวไลท์สปีดก็คุยกัน(เบนไปตามแครี่ลงมาโดยแกล้งตะโกนว่า  “ไฟไหม้!”  หน้าของแครี่ที่โผล่พรวดพราดตอนนั้นทำให้เบนขำไม่หยุดเลย)  “เรามานั่งกังวลอยู่อย่างนี้ทั้งวันไม่ได้หรอกนะ”  มิสเตอร์ไลท์สปีดว่า  “มาวิเคราะห์สิ่งที่เราทำอยู่ตอนนี้แล้วแก้ไขกันดีกว่า  จะได้ไม่เสียเวลาเปล่า  อันดับแรก  เรากังวลเรื่องอะไร?”
“ศาสตราจารย์เยลลี่เมลลี่กับนายกริมมี่สโตนี่”  เบนตอบอย่างอัตโนมัติ  แครี่หัวเราะคิกคัก  บรรยากาศดูคลายเคลียดลงเล็กน้อย
“อันดับสอง  เรากังวลถึงพวกเขาทำไม?”
“กังวลว่าพวกเขาจะมาคิดบัญชีกับเรา  ซึ่งพวกเขาก็ไม่ยอมไปที่ธนาคาร  เพราะมันช้า”  มิสซิซไลท์สปีดตอบเบื่อๆ  เบนพยายามอย่างยิ่งที่จะทำให้หน้าดูเคร่งขรึม  ซึ่งยากจริงๆ  เพราะมุมปากของเขาไม่หยุดกระตุกซักที
“อันดับสาม  พวกเขาจะมาแก้แค้นเราแบบไหน?”
“ทำให้เรากลายเป็นเนื้อเน่า”  แครี่กระซิบเสียงเยือกเย็น  ทุกคนตัวสั่น
“อะ  --  อันดับสี่  มีทางแก้ไขไหม?”
“มี”  เบนตอบทันที  “พอพวกเขาโผล่มาก็หนีซะ”
“ไอเดียดีเหลือเกินนะ”  แครี่ประชดฉุนๆ  “มีใครเห็นด้วยกับความคิดของเบน’ส  บิ๊ก  บัมเปอร์  บ๊อกซ์  ออฟ  แบนเอดจ์บ้างคะ”  ไม่มีใครยกมือ  แต่เบนทำท่าจะขย้ำแครี่ให้ตายคามือซะ
“เออ”  มิสเตอร์ไลท์สปีดรีบขัดขึ้น  “พ่อว่ายังงี้ดีไหม  แจ้งตำรวจมาคุ้มครองบ้านเรา  จะได้ปลอดภัย”
“โธ่  คุณคะ”  มิสซิซไลท์สปีดว่า  “จะให้พวกเราพูดว่ายังไง  ‘คือ  --  คุณตำรวจคะ  ครอบครัวดิฉันกลุ้มใจมากค่ะ  ว่านักโทษแหกคุกสองคนที่เพิ่งแหกคุกมาเมื่อเร็วๆนี้อาจจะมาแก้แค้นเรา  โปรดช่วยคุ้มครองเราได้ไหมคะ  ส่งตำรวจมาโหลหนึ่งเลยค่ะ  ถ้าคุ้มกันเราแล้วสองคนนั่นไม่ปรากฏก็ถือว่าเสียเวลาไปซักสองสามอาทิตย์แล้วกันค่ะ’  งั้นรึ”
“ผมรู้แล้ว!”  เบนร้องขึ้น  “พวกเราก็วางกับดักไว้สิครับ!”
“กับดักรึ”  มิสเตอร์ไลท์สปีดถาม  “ความคิดเข้าท่านะ  ถ้าเขาแอบเข้ามาในบ้านเราก็จะทำให้เขาตกลงไปในกับดักเลย”
“มาวางแผนก่อนดีกว่า”  แครี่พูดอย่างตื่นเต้น  “เราต้องวางแผนไว้”
****
หลังจากผ่านมาแล้วหนึ่งชั่วโมง  กับดักต่างๆก็เสร็จเรียบร้อย  มิสเตอร์ไลท์สปีดวางเศษแก้วบนพื้นห้องบริเวณด้านล่างหน้าต่างทุกบาน  ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง  เบนนำถังใส่ก้อนหินและผูกเชือกไว้  เขากะจะใช้สิ่งนี้เวลากลางคืน  เขาจะติดตะขอไว้บนเพดานเหนือประตูเป๊ะ  แล้วเอาปลายเชือกด้านหนึ่งคล้องตะขอและเอามามัดกับลูกบิดประตู  ส่วนปลายเชือกอีกด้านที่มีถังใส่หินผูกไว้นั้นเบนก็จะวางไว้บนโต๊ะ(ซึ่งเขาย้ายมันมาจากห้องนั่งเล่น)โดยพยายามจัดโต๊ะให้เชือกที่ผูกถังไว้นั้นตึง  ดังนั้นถ้าใครแอบเปิดประตูเข้ามาเชือกที่ผูกอยู่ที่ลูกบิดด้านในบ้านก็จะถูกดึงให้ตึง  เชือกจะถูกดึงไปทางด้านประตูโดยมีตะขอเป็นตัวกลางและถังใส่หินจะค่อยๆเลื่อนไปทีละนิดและตกขอบโต๊ะ  มันจะเหวี่ยงเข้าใสผู้ที่แอบเข้ามาและ  ตูม!  คนที่แอบเข้ามาก็จะโดนถังใส่หินน็อค  แถมหินที่อยู่ข้างในก็จะร่วงกราวออกมาส่งเสียงเตือนให้พวกไลท์สปีดรู้  แครี่นั้นเธอใช้ถุงพริกไทย  เธอเอาถุงใส่พริกไทยจนเต็มและมัดไว้  มันจะเป็นอาวุธอันดีเยี่ยมที่เหมาะแก่การโจมตีเพราะเมื่อโยนแล้วถุงจะแตกและพริกไทยก็จะฟุ้งออกมา  เหล่าวายร้ายก็จะไอแค่กๆและแสบตาไปหมด  วิธีนี้ทุกคนต้องเตรียมแว่นตากันน้ำและผ้าปิดจมูกไว้เพื่อป้องกันตัวเอง  เธอจะเพิ่มประสิทธิภาพของมันด้วยการเปิดพัดลม  ทีนี้ล่ะก็  --  อะฮ่า!  ศาสตราจารย์เจลลี่กับกริมสโตนได้ของกำนัลชิ้นใหญ่ที่สุดแน่ๆ!(โดยการเข้าโรงพยาบาลตำรวจ)  มิสซิซไลท์สปีดทำอาวุธเหมือนกันโดยใช้เครื่องมือในครัว  มีด  เขียง  ส้อม  และช้อน  เธอได้ไอเดียมาจากกระเป๋าถือของเธอ(เซนนาพอดรีบวิ่งหนีตอนที่เธออธิบายเรื่องนี้)  เธอเจาะรูเขียงตรงกลางแล้วเอาไม้ยาวๆเสียบเข้าไปแต่ไม่ต้องเสียบทะลุ  ทีนี้เธอก็เจาะรูเพิ่มตรงรอบศูนย์กลางเพื่อเอาไว้ติดมีด  ส้อม  และช้อนต่างๆ  เมื่อเสร็จแล้วมันดูเหมือนไม้ม็อปนิดหนึ่ง  เพียงแต่ว่าตรงจุดที่จะติดเศษผ้าชิ้นยาวเป็นวงกลม  และแทนที่จะเป็นผ้าถูกลับเป็นมีด  ช้อน  และส้อมนั่นเอง  สามีและลูกๆของเธอถึงกับหัวเราะก๊ากเลยเมื่อเห็น
“ดูมันพิลึกยังไงก็ไม่รู้นะครับ”  เบนว่า  “แต่ผมเดาว่าคงมีประสิทธิภาพสูง  ไม้ม็อปบาซูก้า”
“ทีนี้คงจะกันสองคนนั่นไหวแล้วนะ”  มิสเตอร์ไลท์สปีดพูดขึ้นอย่างไม่แน่ใจ  “คงไม่เป็นไรแล้วล่ะทีนี้”
มิสเตอร์ไลท์สปีดยังไม่รู้ตัวในตอนนั้นเลยว่า  เขาพูดผิด  “หนูว่าไปตามเซนนาพอดมาเตือนดีกว่า”  แครี่บอก  “ถ้าเขาโดนกับดักของเรายุ่งแน่ๆ”
ทุกคนจึงไปตามเซนนาพอดมา  พลางอธิบายกับดักและเรื่องราวต่างๆ  เซนนาพอดดูจะประทับใจอยู่บ้าง  แต่เมื่อถึงไม้ม็อปบาซูก้าของมิสซิซไลท์สปีดแล้วก็เกิดปัญหาขึ้นจนได้  “เครื่องอะไรน่ะ  พิลึกพิลั่นชะมัดยาก”  เซนนาพอดว่า  “ไม่มีคลาสเลยนะ  บอส“
“เขาเรียนรู้คำพวกนั้นมาจากไหนน่ะ”  มิสเตอร์ไลท์สปีดพึมพำ  เบนซึ่งได้ยินเขาพูดหน้าแดงและพยายามทำตัวเป็นปกติ  ในระหว่างที่มิสซิซไลท์สปีดดูเหมือนโดนสบประมาท  “มันคือไม้ม็อปติดอาวุธน่ะ”  เธอเค้นเสียงเหมือนอาบยาพิษ  แต่เซนนาพอดซึ่งกำลังตื่นเต้นอยู่กับกับดักต่างๆก็ดูเหมือนจะสลัดยาพิษนั้นออกไปจนหมดเพราะไม่รู้ตัว  “เดี๋ยวฉันสาธิตให้ดู”
มิสซิซไลท์สีดเริมใช้ไม้ม็อป(?)ทำท่า  ทุกคนแอบนึกในใจว่า  เธอไปดูเรื่องบรู๊ซลีมากจากไหนกัน  เธอทำเสียงประกอบตามไปด้วย  “อย่างนี้  ทำอย่างนี้นะ  ดูไว้ซะ  สะบัดอย่างนี้นะ  วู้บบบบบบ(เบนก้มหลบเขียงได้ทันท่วงที)  แล้วก็ฟาดลงแบบนี้  ตูมมมม!(มันกระแทกพื้นระหว่างมิสเตอร์ไลท์สปีดกับแครี่จนทั้งสองกระเด้งตัวไปคนละทาง)  กับเหวี่ยงเป็นอย่างนี้  เฟี้ยวววววววว!(มิสซิซไลท์สปีดเหวี่ยงมันไปในอากาศจนเซนนาพอดต้องหงายตัวเหมือนเดอะแมททริกซ์)  วิธีนี้ก็คือการพุ่งกระฉูด(“ชื่อแต่ละอย่างคิดมาจากไหนกันนี่”  เบนพึมพำ)  ฟู้บบบบ  โอ๊ะ  โอ้  ไม่นะ!”
เพล้ง!
มิสซิซไลท์สปีดทำท่าแทง  แต่มันหลุดจากมือเธอ  แล้วพุ่งไปที่กระจกหน้าต่างจนแตกกระจาย
ทุกคนมองดูหน้าต่าง  ซึ่งมีไม้ม็อปคาอยู่  เศษกระจกชิ้นสุดท้ายแกว่งไปแกว่งมาตรงขอบหน้าต่าง  และหล่นแตกลงบนพื้น
“เอ่อ  คุณคะ”  มิสซิซไลท์สปีดเอ่ยขึ้นกับสามีพลางยิ้มแหยๆ  “คุณมีเศษแก้วให้วางเพิ่มขึ้นแล้วนะคะ”
(To Be Continued )
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น