ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟาโรห์หลงยุคภาค2

    ลำดับตอนที่ #11 : เบนคิดออก(๒)(Bangs!)

    • อัปเดตล่าสุด 10 ส.ค. 46


    ฟาโรห์หลงยุคภาค2

    ตอนที่11  เบนคิดออก(๒)





    ในช่วงเวลาแห่งความวิกฤต  สมองของเบนทำงานอย่างเต็มที่  เขามีเวลาอย่างน้อยสามสิบวินาทีในการดำเนินแผนการที่เขาเองก็ยังคิดไม่ออก  ถ้าเขาทำไม่ได้  แผนที่อุตส่าห์ทำได้โล่งมาตลอดก็จะพังครืนลงต่อหน้าต่อตา  แถมกริมสโตนกับศาสตราจารย์เจลลี่ก็จะต้องเพิ่มระดับความโกรธของพวกเขาขึ้นหลายเท่า  อาจจะทำร้ายหรือ****รัสท์บัคเก็ตหรือตัวเหยียบย่ำเจ้าหนอนก็ได้  อันตรายแน่ๆ!



    เบนรู้สึกว่าลมหายใจเขาติดขัดอยู่ในอก  เขาแทบจะหายใจไม่ออกเลยจนทรุดตัวลงกับพื้นและกุมคอไว้  นี่เขาคงจะตกใจกลัวมากๆๆแน่ๆ  ขี้ขลาดอะไรอย่างนี้!  แครี่พูดถูก  เขามักจะใจร้อนเกินไป  แทนที่จะคิดทีละขั้น  เขากลับไปคิดข้ามขั้นเสียนี่  เขาใจร้อนเกินไป….  กระโจนข้ามขั้นตอนมากเกินไป…  ใจเย็นๆ  ใจเย็นๆ…  ค่อยๆคิดไว้ซะ  เบน….



    เขาสูดหายใจลึกๆ  แล้วผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่  เขาทำอย่างนี้อยู่สามครั้ง  แล้วรู้สึกว่าตัวเองเริ่มสงบลง  หายใจคล่องขึ้น  และล่องลอยไปในความคิดที่มีเหตุมีผลมากขึ้น……



    เขาต้องคิดทีละขั้นตอน….  เบนบอกกับตัวอง  ….คิดทีละขั้นตอน  ตามที่แครี่ได้บอกไว้  --  …ต้องคิดไปทีละเปลาะๆก่อน…  เขาเริ่มรู้สึกมั่นใจมากขึ้น  เอาละ  เริ่มได้



    ขั้นแรก  ปัญหาคือ  เขาออกจากห้องไม่ได้เพราะไม่มีกุญแจ  เขาต้องหาทางให้ได้อย่างรวดเร็ว…  เขาคิดเมื่อเสียงฝีเท้าดังขึ้นเรื่อยๆ

    ขั้นสอง  เขาต้องมีวิธีใดวิธีหนึ่ง  วิธีดีๆ  อะไรดีล่ะ….  อืม…  ใช่!  ใช่แล้ว!  เช่นเอาสิ่งของในห้องมาประยุกต์ใช้  อะไรทำนองนั้น

    ขั้นสาม  เขาไม่มีเวลาพอที่จะหาอะไร  เขาต้องใช้ความทรงจำ  ความทรงจำ…



    เบนย้อนห้วงความคิด  ย้อนไปก่อนเหตุการณ์นี้….  ย้อนไปก่อนที่แครี่จะมาหา…  ย้อนไปก่อนเขาได้ขวดวิตามินซีมา…  ย้อนไปก่อนที่เขาจะส่งข้อความฉบับแรก….  ย้อนไปก่อนที่เขาจะเข้ามาในห้องย้อนไป……



    ****



    แครี่กระวนกระวายใจเต็มที  ทำไมเบนยังไม่ออกมาจากห้องเสียทีนะ!  แล้วเธอก็ต้องสะดุ้งสุดตัว  เมื่อได้ยินเสียงของศาสตราจารย์เจลลี่กับกริมสโตนอยู่ที่ตี-นบันได(ขอโทษครับที่ต้องใช้คำห่าง  เพราะไม่อย่างนั้นระบบมันจะเซ็นเซอร์เอา)  เธอเริ่มสะอื้นอีกรอบ  โธ่  เบน!  ถ้าเธอไม่ออกมา  พี่ก็ไม่ไปไหนหรอก  โธ่  เบน!



    ปัง!!  โครม!!!



    แรงกระแทกของประตูที่ผลักออกมาในทันใดเกือบกระแทกแครี่กระเด็นตกบันได  ดีว่าเธอถอยวูบออกมาโดยสัญชาตญาณเมื่อได้ยินเสียงดังครั้งแรก  เธอจึงรอดออกมาได้อย่างหวุดหวิด  แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็รู้สึกเหมือนกับตัวเองตกอยู่ในความฝันอยู่ดี  เพราะที่ยืนอยู่ที่ธรณีประตูนั้นคือเบน!  เบน!



    (ถึงท่านผู้อ่านที่อ่านมาถึงตอนนี้แล้ว : ผมมีเกมๆหนึ่งครับ  ขอให้ใครก็ตามที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วลองเดาดูซิว่าเบนหนีอกมาจากห้องได้ยังไง  มีเฉลยอยู่ด้านล่างของตอนนี้ครับ  คำใบ้ : ลองอ่านทวนตอนที่8ดู  ใครที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องดูเฉลยโพสบอกผลไว้ในกระทู้ด้วยนะครับ  ห้ามโกง!)



    เธอไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลย  แต่จะไม่เชื่อได้อย่างไรเล่า  ก็หน้าที่เธอจ้องมองตาถลนอยู่นั้นมีรอยยิ้มขี้เล่นที่น้องชายมีเสมอๆนี่นา!  “บะ  --  เบน  เบน  เธอ….”



    “อธิบายทีหลังนะ!  พี่สาวเอ๋ย!  ดูนั่นสิ!  ไอ้ตัวตลกห่วยแตกสองตัวนั่นมากันแล้ว!”  เบนตะโกนขัดจังหวะอย่างบ้าคลั่ง  พลางชี้มือไปที่บันได  “หนีเร็ว!”



    แครี่มองตามสิ่งที่เบนชี้  แล้วรู้สึกว่าท้องไส้บิดมวน



    กริมสโตนกับศาสตราจารย์เจลลี่อยู่ที่หัวบันได  เบนกับแครี่มองเห็นแค่ช่วงบนของพวกเขาเท่านั้น  แต่เห็นแค่นั้นก็บอกอะไรได้มากพออยู่แล้ว  ศาสตราจารย์เจลลี่ถือไม้หน้าสามมา  แต่ที่แย่ไปกว่านั้น  คือกริมสโตนกำลังเล็งปืนพกมาที่พวกเขา!  ที่หน้ากลัวที่สุดก็เห็นจะเป็นใบหน้าของพวกเขา  มันทั้งบิดเบี้ยว  น่าเกลียด  ประหลาด  น่าสมเพชในเวลาเดียวกัน  ดูแล้วทำให้ผวาไปได้เลย



    ปัง!



    กริมสโตนยิงปืนเสียงดังสนั่น  ทำเอาแครี่แข็งทื่อจนเกือบหลบไม่ทัน(ด้วยโรคชนิดใหม่ที่มีชื่อว่า  ‘พี่เกลียดเสียงปืน!’)  ลูกกระสุนพุ่งเข้าไปในผมที่กำลังปลิวสยายของเธอ  มีกลิ่นเหม็นไหม้ลอยออกมาจากผมแครี่  รวมทั้งควันบางๆด้วย  ดูคล้ายมนุษย์หัวรถจักร  และเมื่อผมของเธอตกลู่เหมือนยามปกติแล้ว  คุณสามารถเห็นรูตรงกลางผมหลายเส้นได้เลย  ถ้าเบนเห็นแล้วคงหัวเราะเป็นตายแน่ๆ



    อืม…  บางทีอาจจะไม่  สถานการณ์ตึงเครียดเกินกว่าจะมาหัวเราะได้!



    “วิ่ง!”  เบนกระชากแครี่จนเธอเกือบล้มทั้งยืน  แล้วทั้งสองก็รีบวิ่งไปลงบันไดฝั่งตรงข้ามทันที  โดยมีกริมสโตนกับศาสตราจารย์เจลลี่ตามมาติดๆ  ศาสตราจารย์เจลลี่กำลังโวยวายกับกริมสโตนที่ใช้ปืนอย่างไม่จำเป็น  อาจมีคนได้ยินได้  แต่  --



    ปัง! ปัง!! ปัง!!!



    --  แต่ดูเหมือนกริมสโตนจะไม่ได้ยินเอาเสียเลย!



    กระสุนลูกแรกทะลุราวบันไดที่ก่อนหน้านี้สามวินาทีมือของเบนเคยตั้งอยู่  กระสุนลูกที่สองยิงโดนขั้นบันได  กระสุนลูกที่สามลอยฉิวอยู่เหนือหัวของเบนและทำให้ไฟติดเพดานแตกและเศษแก้วก็ร่วงลงมา  มีชิ้นหนึ่งบาดหน้าเบนจนเลือดไหลเป็นทางยาว



    โชคดีที่แครี่กับเบนรู้ทางหนีทีไล่ได้ดีกว่าสองวายร้าย  ศาสตราจารย์เจลลี่และกริมสโตนยังไม่คุ้นกับบ้านหลังนี้มากนัก  เบนวิ่งไปทางขวา  แครี่วิ่งไปทางซ้าย  กริมสโตนกับศาสตราจารย์เจลลี่ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะตามใครไปดี  จนทำให้เมื่อกริมสโตนตัดสินใจเลือกเบนและไปทางขวา  ส่วนศาสตราจารย์เจลลี่ตัดสินใจตามแครี่และวิ่งไปทางซ้าย  ทั้งสองคนจึงชนกันจังเบ้อเร่อ  แล้วลงไปนอนแอ้งแม้งกับพื้น  จนต้องเสียเวลาลุกขึ้นมาใหม่และทำให้เบนกับแครี่มีเวลามากขึ้น



    แครี่วิ่งไปหาพ่อกับแม่ของเธอที่ยืนอยู่ในห้องครัว  พ่อกำลังหมุนโทรศัพท์เรียกตำรวจอยู่  “เรียบร้อยดีไหม”  มิสซิซไลท์สปีดถามแทบไม่ทันหายใจ  แครี่พยักหน้าพลางปิดประตูและรีบล็อกกลอนทันที



    ส่วนเบนวิ่งไปที่ประตูหน้าบ้าน  แล้วถอดกับดักที่เขาเคยวางไว้  เขาแบกมันเข้าไปในสวน  และตรวจว่าเซนนาพอดกับแมวทั้งสองปลอดภัยดีหรือไม่  เมื่อเห็นว่าพวกเขายังซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ปลอดภัยดีแล้วจึงรีบเข้าครัวทางหน้าต่างทันที



    แครี่บปิดหน้าต่างดังปังหลังจากเบนเข้ามาและทิ้งของที่เขาแบกลงบนพื้น  “เอามาทำไมล่ะนี่”



    “เผื่อมีประโยชน์”  เบนตอบสั้นๆ



    “เออ..  เบน  เธอยังไม่ได้บอกเลยว่าเธอหนีออกมาจากห้องได้ยังไง”  แครี่รีบถามเร็วปรื๋อ  ในขณะที่เบนกำลังหยิบกับดักของแครี่(ถุงพริกไทย)และของมิสซิซไลท์สปีด(ไม้ม็อปบาซูก้า)ออกมาจากในตู้เก็บของข้างๆตู้เย็น  เบนตอบไปพลาง  วิ่งวุ่นกับงานไปพลาง  “คืออย่างนี้นะ  ตอนนั้นผมกำลังคิดย้อนไปว่าในห้องมีอะไรที่ใช้แทนกุญแจได้บ้าง  --  แครี่  พี่ปลดปากถุงพริกไทยออกซักครึ่งหนึ่งของทั้งหมดให้หน่อยนะ  --  แล้วผมก็คิดออก  ตอนที่ผมกำลังจะหยิบกระดาษออกมาจากลิ้นชักเพื่อทำเครื่องบินกระดาษอันแรกไปถึงพวกพี่นั่นแหละ  ผมดึงแรงจนของหล่นกระจัดกระจาย  หนึ่งในของที่หล่นออกมาก็คือกุญแจสำรอง!!  --  แม่กับพ่อครับ  ช่วยลากโต๊ะมาอยู่หน้าพัดลมหน่อยนะครับ  ขอบคุณครับ  --  ผมก็เลยใช้กุญแจสำรองนั่นแหละหนีออกมา  --  ทุกคนช่วยสวมแว่นตากันน้ำกับผ้าปิดจมูกด้วยครับ”



    แครี่มองเบนอย่างไม่เชื่อสายตา  ทำไมเบนถึงมีความจำและสมองที่ฉลาดขนาดนี้นะ!  เธอไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ  “เธอนี่เป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับที่แปดของโลกเลยนะ  เบน”  เธอชมอย่างกึ่งๆประหม่า  “แล้วนี่เธอให้พวกเราทำอะไรกันอยู่ล่ะ”



    “กับดักไง  นี่  ดูนะ”  เมื่อเบนตรวจดูให้แน่ใจแล้วว่าทุกคนใส่แว่นตากันน้ำกับผ้าปิดจมูก  เขาก็เทพริกไทยจากถุงที่แครี่ทำไว้หลายถุงลงบนโต๊ะ  มันฟุ้งออกมาบ้างแต่เนื่องจากทุกคนใส่เครื่องป้องกันอยู่จึงไม่มีอันตราย  “ผมเอาโต๊ะที่มีพริกไทยเป็นกองวางไว้หน้าพัดลม  พอพวกนั้นเข้ามาผมก็เปิดพัดลม  คราวนี้พวกมันคงเอาแต่จามแน่!”



    ทุกคนเห็นพ้องกันว่านี่เป็นแผนอันชาญฉลาด  นอกจากนี้เบนยังเอาเชือก(จากกับดักของเขาเอง)มาขึงไว้ตรงช่องประตู  แล้วเอาหิน(จากกับดักของเขาเอง)มาเทไว้ตรงบริเวณด้านหน้าประตู  แล้วเขาก็เอาถัง(จากกับดักของเขาเอง)ผูกกับเชือกส่วนที่เหลือ  ปลายเชือกอีกด้านหนึ่งใช้สก็อตเทปติดไว้ที่ขอบประตูด้านบน  ส่วนตัวถังเบนวางไว้บนขอบโต๊ะที่มีกองพริกไทยซึ่งจ่อเอาไว้ด้านหน้าประตู



    ทันใดนั้นเอง  กริมสโตนกับศาสตราจารย์เจลลี่ก็มาอยู่ด้านหน้าห้องครัว  กริมสโตนกระชากประตูให้เปิดออกแล้วบุกเข้าไปด้านใน  มีศาสตราจารย์เจลลี่ตามเข้าไปติดๆ



    กับดักทั้งหมด  --  ทำงาน!!

    เมื่อประตูถูกดึงไปด้านหลัง  เชือกที่ติดบนประตูก็ดึงเอาถังบนโต๊ะไปด้วย  มันหลุดออกมาจากขอบโต๊ะและเหวี่ยงไปด้านหน้าด้วยความแรงสูงสุดเพราะกริมสโตนกระชากประตูอย่างแรง  และเนื่องจากกริมสโตนบุกเข้าไปในทันทีที่ประตูเปิดออก  ถังจึงมุ่งเข้าสู่ตัวเขา  และกระแทกเป้าของเขาเข้าอย่างแรง!!



    แม้บรรยากาศจะตึงเครียดเพียงใด  ครอบครัวไลท์สปีดทั้งหมดก็อดไม่ได้ที่จะปล่อยหัวเราะออกมาเสียดังลั่น  เพราะหน้ากริมสโตนตอนนี้แทบจะบรรยายไว้ไม่ได้เลย!



    “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!”



    กริมสโตนร้องดังลั่นราวกับโลกทั้งใบถล่มทลาย  ตาของเขาหลับปี๋ด้วยความ เ-จ็-บ-ป-ว-ด-ท-ร-ม-า-น-แ-ส-น-ส-า-หั-ส จนคิ้วของเขาแทบจะขนานกัน เห็นฟันขาวแทบทุกซี่จากการกัดฟันเพื่อกลั้นความอยากตะโกนสุดชีวิต  เม็ดเหงื่อผุดพราวทั่วตัว  หน้าย่นจากการเบะปากและทำคิ้วขมวดอย่างเจ็บปวด  ปืนหล่นจากมือและจมลงไปอยู่ในกองหินเพราะเขาใช้มือทั้งสองข้างกุมสิ่งที่ถูกกระทบกระแทกของตัวเองไว้แน่น  น่องขาบิดเข้าหากันราวกับเป็นโล่ป้องกันสิ่งๆหนึ่งไว้(โ-ป-ร-ด-อ-ย่-า-คิ-ด-ภ-า-พ-ต-า-ม)



    สรุปได้ว่าถ้ามีการประกวดชายที่มีท่าทางเจ็บปวดทรมานมากที่สุดแล้วล่ะก็  กริมสโตนต้องได้อยู่ในอันดับต้นๆแน่!



    กริมสโตนร้องโอดโอย  เซไปข้างหน้า  แล้วสะดุดเข้ากับเชือกที่ขึงไว้  จนล้มลง  หัวกระแทกเข้ากับหินที่โปรยไว้จนต้องร้องลั่นรอบสอง  เป็นภาพที่น่าสมเพชเวทนาเสียเหลือเกิน!  ศาสตราจารย์เจลลี่ที่วิ่งเข้ามาโดยไม่ดูตาม้าตาเรือก็ต้องประสบเคราะห์กรรมเดียวกัน  คือล้มลงไปหัวกระแทกหินจนแทบสลบ  เบนไม่รอช้า  ดำเนินการต่อทันที



    “ทุกคนใส่ผ้าปิดจมูกกับแว่นตากันน้ำเรียบร้อยแล้วใช่ไหม!  โอเค  แครี่!”  เขาเรียก  “เดอะ อิเล็คทรอนิคส์ แฟน สตาร์ท เวิร์ค!!(ระบบไฟฟ้าของพัดลมเริ่มทำงานได้!!)”



    แครี่ใช้เท้าเหยียบปุ่มพัดลม  เบอร์สามซึ่งแรงสุด!!  พัดลมเริ่มหมุนจนใบพัดกลมกลืนดูเหมือนเป็นอันเดียวกัน  กองพริกไทยที่อยู่บนโต๊ะเริ่มปลิวไปตามกระแสลมอย่างรวดเร็ว!  --



    ฟิ้ว!  ฟิ้ว!!  ฟิ้ว!!!



    ฮะ ฮะ ฮาาาดด  --  เช้ย!!  ฮัดเช้ย!!!



    ในไม่ช้า  จมูกของกริมสโตนกับศาสตราจารย์เจลลี่ก็เต็มไปด้วยผงพริกไทยทันที  ซึ่งพวกมันก็มีปฏิกิริยาต่อต้านทันที  โดยน้ำมูกเริ่มถูกส่งออกมา  และสั่งขับไล่ผงพริกไทยออกทันใดด้วยการจาม!



    ฮัดเช้ย! ฮัดเช้ย!!



    ทันใดนั้นเอง  ทุกคนก็ได้ยินเสียงไซเรนจากรถตำรวจ  ครอบครัวไลท์สปีดกระโดดกอดกันด้วยความดีใจ  แล้วพรวดพราดออกจากบ้านไป  เมื่อเซนนาพอดที่แอบอยู่ในพุ่มไม้เห็นทุกคนวิ่งออกไปนอกรั้วบ้านก็ดีใจและรีบตามไปด้วยทันที



    รถตำรวจจอดสนิทอยู่หน้าปากซอยเทอร์เรส เทมพลีตัน  โดยมีตำรวจสองนายลงมาจากรถและหันหน้าหันหลังเพื่อหาผู้ที่โทรศัพท์เรียกพวกเขามา



    “ทางนี้ครับ  ทางนี้ครับ!”  มิสเตอร์ไลท์สปีดตะโกน  พุ่งตรงดิ่งเข้าไปหาตำรวจสองนายนั้นทันที  “พวกเราโทรศัพท์เรียกคุณมาเอง!”



    ตำรวจคนหนึ่งที่ท้วมๆสูงๆจ้องมองคณะประหลาดที่กำลังวิ่งมาทางเขากับเพื่อนคู่หู  เขาสะกิดเพื่อนอีกคนเมื่อถูกสะกดจิต  ตำรวจอีกนายหันมามอง  อ้าปากค้าง  แล้วตะโกนใส่อย่างโกรธจัดว่า  “พวกคุณเรียกเรามาทำบ้าอะไรกันนี่(ความจริงเขาพูดอะไรบางอย่างที่ร้ายแรงกว่าคำว่า “ทำบ้า” ด้วยซ้ำ)  พวกคุณน่ะบ้าไปกันหมดแล้ว  คิดว่าตลกนักรึไง”



    ครอบครัวไลท์สปีดทังหมดและเซนนาพอดกับแมวอีกสองตัวหยุดวิ่ง  งุนงงสับสนว่าทำไมพวกตำรวจถึงมีปฏิกิริยาต่อพวกเขาแบบนี้



    แต่แล้วเบนก็เข้าใจ



    ถ้าคุณเป็นตำรวจสองนายที่ถูกเรียกมาให้ช่วยเหลือคน  อุตส่าห์ขับรถบึ่งมาด้วยความเร็วสุดขีดเพื่อพยายามช่วยเหลือให้ทันการ  แต่สิ่งที่ได้พบเป็นสิ่งแรกก็คือ  กลุ่มคนที่เรียกพวกเขามา  เป็นผู้ใหญ่สามคน  เด็กสองคน  แมวสองตัว  โดยที่ผู้ใหญ่สองคนกับเด็กสองคนสวมแว่นตากันน้ำกับผ้าปิดจมูก  ผู้ใหญ่อีกคนหนึ่งไม่ได้สวมอะไรเลยนอกจากผ้าคลุม  แถมยังสวมมงกุฏพิสดารกับม้วนกระดาษทิชชู่ทาสีที่ปลายคางอีก  กลุ่มคนเหล่านี้แต่งตัวประหลาดและดูเหมือนสติไม่เต็มเต็ง  ถ้าคุณเป็นตำรวจ  คุณจะโกรธไหม?



    ในไม่ช้าทุกคนก็เข้าใจเหมือนกัน  และพยายามอธิบายให้ตำรวจเข้าใจ  แต่ตำรวจโกรธเสียจนไม่สนใจอะไรเลย  และทำท่าเข้าไปในรถเตรียมจะกลับ  แม้ทุกคนจะทัดทานอย่างไร  ก็ไม่สนใจฟังซักนิด  ทุกคนปราถนาเหลือเกินว่าจะมีอะไรมาทำให้ตำรวจสองนายนี้เชื่อว่าพวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงจริงๆ



    ความปราถนาของทุกคนสมหวัง  แต่มาด้วยวิธีอันเลวร้ายที่สุด



    กริมสโตนกับศาสตราจารย์เจลลี่ปรากฏตัวที่หน้าบ้านด้วยความไม่พอใจสุดขีด  พอกริมสโตนมองเห็นตำรวจเท่านั้นแหละ  เลือดขึ้นหน้าทันที  เขาเหมือนไม่รับรู้อะไรอีกต่อไปแล้ว  พอกันที!  แผนที่เขากับศาสตราจารย์เจลลี่วางไว้ทั้งหมดสูญเปล่า!  เพราะพวกไลท์สปีด  เซนนาพอด  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง  ไอ้เด็กเบนนั่น!  ไอ้เด็กเฮงซวย!  ไอ้เด็กจอมแส่!  เขาไม่ต้องการอะไรอีกต่อไปแล้ว  นอกจาก…



    กริมสโตนหน้ามืดตามัวเสียจนไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมาถ้าเขาทำอย่างที่เขากำลังจะทำอยู่  เขาโกรธจัด  เขาเดือดดาล  เขาโมโหจนบ้าคลั่ง!  เขาไม่สนใจอะไรอีกต่อไป  เขายกปืนขึ้น  --



    ปัง!!



    คราวนี้ตำรวจทั้งสองเชื่อแน่ว่ามีอะไรที่อันตราย  พวกเขาหันควับทันที  แต่มันก็สายไปเสียแล้ว!!



    ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความโกรธจัด  หรือพลังจากความเดือดดาล  หรือความต้องการแก้แค้นกันแน่  ไม่มีใครรู้ว่าเป็นเพราะอย่างไหน  ผมเองก็ไม่รู้  รู้แต่ว่า  ด้วยความช่วยเหลือจากหนึ่งในสามสิ่งที่กล่าวมาข้างต้น  ทำให้คราวนี้  กริมสโตนเล็งแม่นกว่าทุกครั้ง!



    ปัง!!



    เขายิงปืนอีกนัดติดๆกัน  การยิงทั้งสองครั้งนี้ห่างกันไม่เกินสามวินาที



    กระสุนนัดแรก  ทะลุกระเพาะเบน  เฉียดม้าม  โดนตับจนแตก



    กระสุนนัดที่สอง  นัดที่ร้ายแรงที่สุด  ตัดขั้วหัวใจทันที



    เบนล้มลงกับพื้น  เลือดไหลทะลักจากรอยกระสุน



    ดวงตาของเขาเบิกโพลงแล้วปิดลง



    และหมดลมหายใจ…





    (To Be Continued…)







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×