ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟาโรห์หลงยุคภาค2

    ลำดับตอนที่ #10 : เบนคิดออก(๑)(Dangerous Moment!)

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ค. 46


    ฟาโรห์หลงยุคภาค2

    ตอนที่10  เบนคิดออก(๑)



    เบนแข็งทื่อไปทั้งตัว  อ้าปากค้าง  ตาแทบถลนออกมาจากเบ้า  และไม่มีคำไหนๆหลุดออกมาได้นอกจากชื่อของคนๆนั้น  เขากระซิบเสียงแหบแห้ง  “แครี่!”  แล้วก็ยืนทื่ออยู่อย่างนั้นต่อไป  ราวกับเป็นท่อนไม้ที่นานๆทีจะพูดได้ครั้งหนึ่ง  ทำเอาคนที่ยืนอยู่ตรงประตูหัวเราะคิกคักในความซื่อๆของน้องชาย  “โถ่  เบน”  แครี่ว่า  “พี่ไม่เคยนึกเลยว่าจะมีคนยืนตัวแข็งได้ขนาดนี้  โดยเฉพาะเธอ!”

    ในที่สุดเบนก็เปิดปากออกมาได้  “ใช่”  เขาพูดเสียงประชด  “ผมกำลังตะลึงกับความงดงามของเทพเจ้าอนูบิสไงล่ะ”

    แครี่ต้องใช้เวลาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเข้าใจความหมายที่เบนพูด  เธอกัดฟันกรอดๆราวกับอยากจะอยากใช้ฟันซี่แหลมๆของเธอเหวี่ยงเขาไปให้สุดแรงเกิด  เบนพูดต่ออย่างรวดเร็ว  “แล้วพี่มาทำอะไรที่นี่ล่ะ  ขึ้นมาได้ยังไงกัน  อย่าบอกนะว่าใช้ไสยศาสตร์”

    แครี่หัวเราะเบาๆพลางปิดประตูตามหลังเพื่อไม่ให้พวกเหล่าร้ายได้ยิน  “พี่หวังว่านะ  ถ้าเป็นอย่างงั้นก็ดีสิ  พี่ก็จะได้เอาไม้ม็อปเข้าท้องเธอไงล่ะ  ยังไงก็เถอะ  เธอก็เป็นคนเขียนเองในเครื่องบินกระดาษไม่ใช่เหรอ  --  แปลกจริงที่เธอยังจำวิธีพับได้  --  ว่ากริมกับเจลจะไม่ออกไปไหนนอกห้องนั่งเล่นจนถึงเช้าตรู่น่ะ  พี่ขึ้นมาเที่ยงคืนน่ะแหละดีที่สุดแล้ว”

    “แล้วทำไมพ่อกับแม่ถึงไม่ขึ้นมาล่ะ”  เบนถามอย่างข้องใจ  ริมฝีปากสั่นระริกด้วยความคิดถึงพวกเขา

    ถึงแครี่จะไม่เห็นอากัปกิริยานั้นภายใต้ความมืดก็ตาม  แต่เธอก็ยังพอเดาใจน้องชายของเธอได้  จึงเปลี่ยนโทนเสียงมาเป็นเคร่งขรึม  “คือตอนทุกคนอ่านข้อความของเธอแล้วก็มีความเห็นกันว่าจะลองให้ใครขึ้นมาคุยกับเธอดูตอนเที่ยงคืน  พ่อไปไม่ได้เพราะมิฉะนั้นก็จะขาดผู้นำ  แม่เองก็ตัวใหญ่เกินกว่าจะลอดช่องที่แมวมักจะเข้ามาได้ตรงประตูที่เชื่อมระหว่างสวนกับห้องครัวน่ะ  ส่วนเซนนาพอด  --  ”  มาถึงตรงนี้น้ำเสียงของเธอก็สั่นๆราวกับจะกลั้นอารมณ์หัวเราะไว้ไม่อยู่  “  --  เอ่อ  --  เธอก็รู้น่ะ”

    เบนพยักหน้าแล้วยิ้มนิดหนึ่ง  ทุกคนคงมีความเห็นตรงกันว่า  เซนนาพอดจะต้องแอบเข้าบ้านด้วยวิธี  “แบบฟาโรห์ผู้สง่าๆ”  เป็นแน่  และเรื่องก็จะปูดออกมาหมดตั้งแต่เขายังไม่ทันได้แตะพื้นห้องครัวด้วยซ้ำ  “แล้วพี่เข้ามาได้ยังไงล่ะ  ผมคิดว่าประตูล็อคซะอีก  ไม่ใช่เหรอ”

    “ช่าย  แต่พวกนั้นช่างประมาทซะเหลือเกิน”  แครี่ทำเสียงดูถูก  “แขวนกุญแจไว้ที่ลูกบิดเฉยเลย  พี่ไม่เคยเจอใครที่จะโง่เท่านี้เลยนะ”

    เบนทำเสียงรับรู้  “แล้ว….  เราจะคุยกันเรื่องอะไรล่ะ”  เขาถามตะกุกตะกัก  พลางคิดว่าแครี่ไม่น่าขึ้นมาเลย  เขาอยากจะคิดคนเดียวมากกว่า  แต่แครี่คงเตรียมพร้อมเรื่องนี้มาไว้ก่อนแล้ว  เพราะหน้าของเธอสว่างวาบขึ้นราวกับเทพยดาจนแม้แต่เบนยังสามารถเห็นได้ในความมืดเช่นนี้  “แน่นอน!!”  เธอว่า  พลางนั่งลงที่ขอบเตียง  “อันดับแรกเลยนะ”  เธอพุ่งเข้าสู่ประเด็นหลักทันที  “พวกเราต้องคิดไปทีละเปลาะๆก่อน”

    เบนพยักหน้า  เขารู้  รู้ตั้งนานแล้ว  แต่ปัญหาคือ….  “ก็…ก็ผมไม่รู้นี่ว่าจะเริ่มจากอะไร”

    แครี่หัวเราะ  “เบน  พี่ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ  เธออาจมีสมองที่สร้างสรรค์และหลักแหลมจนนำพวกเรามาสู่ข้อมูลมากมาย  แต่เธอไม่เอาไหนเลยนะเรื่องการพิจารณา”

    “ผมไม่ได้เป็นคนละเอียดอ่อนเหมือนพี่นี่”  เบนตอบห้วนๆ  ผู้หญิงมักจะฉลาดในสิ่งที่ผู้ชายไม่ค่อยมอง  ในขณะเดียวกันผู้ชายก็จะรู้ในสิ่งที่ผู้หญิงแทบไม่ได้ใส่ใจ  เบนถนัดด้านปฏิบัติและคิดคำนวณ  แต่แครี่ค่อนข้างจะเชี่ยวชาญในเรื่องทฤษฎีและการค่อยๆเป็นค่อยๆไป  นั่นคือสิ่งที่แตกต่างกัน  แม้ว่าถึงยังไงเบนจะพัฒนาเรื่องความฉลาดจนเกินอายุไปแล้วก็ตาม

    “เอาล่ะนะ”  แครี่เริ่ม  วางท่าทางราวกับผู้เชี่ยวชาญชั้นสูงระดับโลกที่กำลังเปิดประชุมผู้นำลับสุดยอดอยู่ยังไงยังงั้น  “ขั้นแรกคือ  เรามีภารกิจต้องช่วยรัสท์บัคเก็ตและตัวเหยียบย่ำเจ้าหนอนอย่างเดียว  แค่นั้น”

    “แล้วผมล่ะ”  เบนขัดขึ้น

    “โธ่  เธอเรียกให้ใครก็ได้ช่วยโดยปาจรวดก็ได้นี่  ลืมแล้วเหรอว่าพวกเราคอยผลัดกันจับตาดูทั้งวันทั้งคืนเลย”  แครี่บอก  “ขั้นสอง  อุปสรรคในการช่วยพวกมันมีอะไรบ้าง”

    เบนชูนิ้วมาสี่นิ้ว  “หนึ่ง  กริมสโตนกับศาสตราจารย์เจลลี่เฝ้ามันอยู่  สอง  ตอนกลางวันพวกเขาจะไม่ค่อยใส่ใจมันเท่าไร  แต่ใครจะกล้าลงไปล่ะ  ไม่รู้เลยว่าพวกเขาจะโผล่มาตอนไหน  สาม  ตอนกลางคืนผมจะมีอิสระเสรี  แต่ก็ช่วยพวกแมวไว้ไม่ได้  เพราะพวกมันเฝ้าในห้องนั้นทั้งคืนเลย  สี่  พวกมันมีอาวุธด้วย”

    “อาวุธหรือ!”  แครี่สะดุด  ท่าทางเริ่มกลัวขึ้นมา  “เฮ้  นี่ไม่ใช่เล่นๆแล้วนะ  แล้วมันคืออะไรล่ะ  อาวุธน่ะ”

    “มีดในครัว  ปืนพกของเจลลี่ที่เขามีตั้งนานแล้ว  แล้วก็..เอ่อ…ไม้หน้าสาม  กับบาซูก้า”

    หาาาาา!!!!  ได้ยังไงกัน!  อาวุธแต่ละอย่างนี่ร้ายแรงทั้งนั้นเลยนะ”  แครี่ยิ่งงุ่นง่านเข้าไปใหญ่  “มีด  --  พี่ยิ่งกลัวอยู่ด้วย  มันเคยทำให้พี่เลือดไหลเมื่อปีก่อน  ปืนพก  --  พี่เกลียดเสียงปืน!  ไม้หน้าสาม  --  พี่เคยโดนกิ่งไม้กระแทกหัว  เจ็บน่าดู  แล้วนี่ตั้งไม้หน้าสาม!  บาซูก้า  --  นี่ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่  ถล่มบ้านทั้งหลังได้เลย  แล้วเราจะนอนที่ไหนดีล่ะ!  ฮือ  เอ๊ะ!  เดี๋ยวก่อน!  --  ”  แครี่ชะงัก  เหลือบมองเบน  “  --  แถวนี้มีบาซูก้าขายด้วยเหรอ”

    เบนสั่นหน้า  “ไม่รู้สิ”  เขาตอบหน้าตาย  “แต่ผมคิดว่า  เขาน่าจะซื้อมาไว้นะ  จะได้ทำให้แครี่ตกใจ”

    แครี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป  จึงเขกหัวเบนไปโป๊กหนึ่ง  แต่ขณะที่เขกอีกโป๊กหนึ่ง  เบนก็รีบพูดว่า  “แต่สามอย่างแรก  เรื่องจริงนะ”

    แครี่หยุดเขกหัวเบน  แล้วหันมาทำหน้าเคร่งขรึม  “มีดกับไม้หน้าสามไม่ค่อยร้ายแรงเท่าไรหรอก  แต่ไอ้ปืนนี่สิ  เรื่องใหญ่”  เธอพูดเบาๆ  “เอาเถอะ  ขั้นสาม  แล้วเธอจะทำยังไงล่ะถึงจะช่วยพวกมันไว้ได้”  แล้วทั้งเธอและเบนก็ตกอยู่ในความเงียบอันยาวนาน  เบนกำลังคิดอยู่  นี่พวกเขากำลังคิดถึงแผนที่สอง  ซึ่งเป็นแผนที่เบนใช้เวลาสองวันในการคิด  และก็ยังว่างเปล่า  เขาพยายามปะติดปะต่อสิ่งที่แครี่ช่วย  กับสิ่งที่เขารู้…..  สองวายร้ายนั้นอยู่ในห้องนั่งเล่นตลอดทั้งคืน….  กุญแจแขวนอยู่ที่ลูกบิด….  แถมพวกแมวอยู่ในถังที่คว่ำ….  เที่ยงคืน….  เที่ยงคืนครึ่งแล้วสินะ  ตอนนี้  ยังมีเวลาคิดอีกเยอะเลย  และ…  --  เอ๊ะ!!!

    ดวงตาของเบนสว่างวาบขึ้นมาทันที  นั่นแหละ!  เขารู้แล้ว!  เขาคิดออกแล้ว!  เขาคิดแผนออกแล้ว!  เบนยืดตัวตรงทันทีจนแครี่สะดุ้งสุดตัว  “เธอเป็นอะ  --  ?”

    “แครี่!”  เบนกระซิบด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นอย่างยากลำบาก  เพราะเสียงแต่เขาคอยจะสูงขึ้นเรื่อยๆ  “ผมคิดได้แล้ว!  ผมคิดแผนได้แล้ว!”

    แครี่เด้งตัวขึ้นจากเตียงราวกับมีไฟฟ้าแรงสูงมาช็อตเธอเข้า  “จริงเหรอ!”  เธอกระซิบถามเสียงแหบแห้ง  “โอ…  เบน  --  เธอนี่ช่าง…..   แล้วแผนคืออะไรล่ะ!”

    “คืออย่างนี้นะ  ฟังให้ดี”  เบนพูดเร็วปรื๋อจนแทบจะฟังไม่ออก  และแทบไม่หายใจเลย  “คืออย่างนี้ไง  ผมจะเรียกว่า  --  “แผนล่อความสนใจ”  พี่ต้องให้คนใดคนหนึ่งมาทำเสียงดังในตัวบ้าน  แล้วพวกมันจะมุ่งไปทางนั้น  แล้วพี่  --  ที่ต้องแอบอยู่ในบ้านอยู่แล้ว  --  ก็จะรีบเข้าไปเอาตัวแมวแล้วปล่อยเข้าไปในสวนทันที  โดยที่ต้องมีคนมาช่วยดึงดูดความสนใจของพวกมัน  จะได้ไม่เตลิดหนีไปไหน  ส่วนพี่ที่หลังจากปล่อยแมวไปแล้วก็รีบขึ้นมาไขกุญแจปลดล็อกห้องผมทันที  ทีนี้พวกเราก็จะรอดทุกคนเลย!”

    แครี่ตะลึงพรึงเพริดกับแผนการของเบนไปครู่หนึ่ง  แล้วเธอก็โผกอดเบนเต็มแรงจนเขาเกือบจะล้มคว่ำ  “เบน!  เธอนี่ช่าง  --  โอ  เบน!  เธอนี่ช่าง  --  โอ  เบน!  --  ”

    “เถอะน่ะ”  เบนรีบขัดขึ้นก่อนที่แครี่จะพูดซ้ำข้อความอีกครั้ง

    “แต่ว่านะเบน”  แครี่พูดหลังจากผ่อนคลายตัวเองเรียบร้อยแล้ว  “แล้วใครคนที่ดึงความสนใจจะดึงพวกเขาได้นานพอเหรอ  แล้วจะให้ใครทำล่ะ  หน้าที่อื่นๆด้วย  แล้วพวกเขาจะเข้ามาได้ยังไงล่ะ”

    เบนคิดไปครู่หนึ่ง  “ผมคิดว่าเซนนาพอดควรจะทำหน้าที่ล่อแมวนะ  ทั้งรัสท์บัคเก็ตกับตัวเหยียบย่ำเจ้าหนอนสนิทกับเขาทั้งคู่เลย  ส่วนหน้าที่ดึงดูดความสนใจก็คือพ่อกับแม่  โดยต้องบอกให้พวกท่านต้องวิ่งวนแต่เฉพาะในครัวเท่านั้น  จะได้ล่อไว้นานพอ  แล้วพวกท่านจะเข้ามาได้เพราะเธอต้องเข้ามาทางช่องแมวแล้วปลดล็อกประตูครัวน่ะสิ  ต้องย้ำพวกท่านด้วยนะว่า  ต้องให้เธอไปอยู่ด้านข้างห้องนั่งเล่นก่อนแล้วค่อยทำเสียงดัง”

    “ได้เลย  --  เมื่อไรล่ะ  คืนพรุ่งนี้?”

    เดี๋ยวนี้!”  เบนเกือบตะโกน  “ไปบอกพวกท่านกับเซนนาพอดเลย!”

    โดยไม่รอช้าแม้ซักวินาทีเดียว  แครี่รีบย่องไปที่ประตูแล้วปิดตามหลังพร้อมกับล็อกประตูทันที  จากนั้นก็แขวนไว้ที่ลูกบิดตามเดิมเพื่อจะได้ไม่เป็นที่สังเกตของพวกเหล่าร้ายถ้าพวกเขาเกิดอยากตรวจดูขึ้นมา

    แต่แล้วก็มีความผิดพลาดขึ้นจนได้!

    แครี่มองไม่เห็นขั้นบันไดขั้นแรกในความมืดจึงเหยียบลงไปในอากาศเต็มๆ  แล้วหมุนคว้างพร้อมกับล้มลงเสียงดังโครมลั่นบ้านทันที  เธอรู้สึกราวกับกระดูกจะหักเป็นเสี่ยงๆ  แต่เธอไม่มีเวลามาเช็คดูเรื่องนั้นแม้แต่วินาทีเดียว  เธอได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังใกล้เข้ามา….  เธอลุกขึ้นและรีบวิ่งลงไปที่ครัวและเผ่นแผล็วออกนอกบ้านเข้าไปในสวนทันที

    ในขณะเดียวกัน  เบน  --  ซึ่งได้ยินเสียงแห่งความผิดพลาดของแครี่เต็มชัดดังก้องสองรูหู  --  ก็รีบดึงผ้าห่มขึ้นมานอนลงบนเตียงและทำเป็นหลับทันที  ห้าวินาทีต่อมา  มีเสียงไขกุญแจดังอย่างรีบเร่ง  และกริมสโตนกับศาสตราจารย์เจลลี่ก็รีบโผล่หน้าชุ่มเหงื่อของพวกเขาเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว  พวกเขาพยายามจับผิด  แต่ก็ไม่อาจหาได้เลย  จึงพึมพำแสดงความขุ่นเคือง  และรีบออกไปตรวจตราบ้าน  เบนที่นอนตัวแข็งอยู่นานก็เผอหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน….

                                             ****

    เบนตื่นขึ้นในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา  เพราะเสียงที่ดูคล้ายฉิ่งสองเสียง  ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักขึ้นมาได้ว่า  จะต้องเป็นมิสเตอร์กับมิสซิซไลท์สปีดที่กำลังเรียกร้องความสนใจแน่ๆ  เขาอดยิ้มไม่ได้เมื่อนึกภาพพ่อกับแม่ของเขากำลังเอาฝาหม้อตีคู่กัน  แต่แล้วเขาก็เปลี่ยนมาใจเต้นตึกตัก  เมื่อได้ยินเสียงกริมสโตนตะโกนว่า  “จับมันซะ!”  ส่วนศาสตราจารย์เจลลี่เองก็ร้องโหวกเหวกไม่เป็นภาษามนุษย์

    ทันใดนั้นเอง  เบนก็ได้ยินเสียงฝีเท้าย่องขึ้นบันไดมา  แครี่แน่ๆ!  หัวใจของเบนที่กำลังเต้นแทบจะหลุดออกมาจากซี่โครงบอกเช่นนั้น  เร็วๆด้วยเถิด!  เบนได้ยินเสียงฝีเท้าของเธอดังใกล้เข้ามาทุกๆที  แล้วเธอก็มาหยุดอยู่หน้าห้อง….

    เงียบ…

    เบนใจเต้นอีกครั้ง  แต่คราวนี้ด้วยความกังวล  ถ้าทุกอย่างเรียบร้อยดี  แครี่ก็ต้องเปิดประตูเข้ามา  แล้วพวกเขาก็จะลงไปชั้นล่าง  คว้าโทรศัพท์เรียกตำรวจ  แล้วทุกอย่างก็จะเรียบร้อยดี!

    แต่ที่เป็นอย่างนี้ก็แสดงว่า…..

    เสียงกระซิบที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่นอย่างที่สุดของแครี่ตอกย้ำความเป็นจริงให้กับเบน  “เบน  มันไม่มีกุญแจ!”  เธอฟังดูเหมือนจะร้องไห้  “ทำไงดีล่ะทีนี้!”

    “บัดซบ!”  เบนสบถออกมาดังลั่น  “พวกนั้นต้องเอาไปแน่เลย!  ตอนที่มันขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงพี่ล้มเมื่อตอนนั้นมันคงเอากุญแจไปด้วยเพื่อกันไว้ก่อน!”

    “โธ่  เบน!  เป็นเพราะพี่แท้ๆเชียว”  แครี่คร่ำครวญ  เธอสะอื้น

    “อย่าโทษตัวเองไปหน่อยเลยน่า!”  เบนตอบห้วนๆ  “เราต้องหาวิธีอื่น  --  ”

    “นั่นแหละที่พี่กลัว!”  แครี่ตอบพร้อมกับสะอื้นหนักเข้าไปอีก  “แผนของเราใช้ได้ผล  แต่ยังไม่เพียงพอ  พ่อกับแม่ดึงดูดพวกมันไว้นานเกินไป  ตอนนี้พวกมันเฉลียวใจและ..และ  --  ”

    แครี่ไม่จำเป็นต้องจบประโยคนั้น  ด้วยความตกใจและหวาดกลัวจนเลือดแทบหยุด  เบนสามารถได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังมุ่งหน้ามาที่เชิงบันได  ในอีกซักประมาณสี่สิบวินาที  กริมสโตนและศาสตราจารย์เจลลี่คงต้องขึ้นมาได้แน่!



    (To Be Continued…)







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×