ตอนที่ 16 : ระแวง ระวัง 100%
“เมื่อไหร่จะเก็บของเสร็จวะ แม่งโคตรนาน!! นายจะยื้อเวลาหรือไง?” เสียงโหวกเหวกพึมพำของคนที่รอด้านนอกยิ่งทำให้ยองแจปวดขมับมากขึ้นกว่าเดิม
พอแจ็คสันบังคับให้เขายอมรับปากจะเป็นแฟนด้วยเสร็จก็ลากเขากลับมาที่ห้องแล้วสั่งให้เก็บข้าวของส่วนตัวลงกระเป๋าเพื่อย้ายไปอยู่กับอีกฝ่ายตามที่บอกก่อนหน้านี้ แต่จะให้เขาทำใจไปอยู่ด้วยได้ยังไงกัน…
แฟนเขาก็มีอยู่แล้วทั้งคน เลิกกันรึก็ยังไม่ได้เลิกแล้วอยู่ดีๆจะให้ย้ายไปอยู่กับผู้ชายคนอื่น…
ทำไมสุดท้ายแล้วคนที่ดูเลวจะต้องกลายเป็นเขาด้วย!!!
“ยองแจ ฉันจะไม่รอนายนานไปกว่านี้แล้วนะถ้ายังไม่เสร็จฉันจะช่วยนายเก็บของเอง” คนที่รอไม่ไหวพรวดพราดเข้ามาในห้องอย่างถือวิสาสะก่อนจะเบียดตัวมาคว้าเสื้อผ้าในมือเขายัดลงกระเป๋าอย่างลวกๆด้วยใบหน้าขึงตึง
“อย่ามาวุ่นวายได้ไหม? ผมบอกว่าจะเก็บเองก็คือจะเก็บเอง พี่เลิกทำนิสัยแบบนี้สักทีเถอะ!” คว้าผ้าในมืออีกฝ่ายมาถือด้วยความหงุดหงิด ตั้งแต่เขากลับมาถึงห้องแจ็คสันก็เอาแต่เร่งให้เขารีบๆ ผู้ชายคนนี้เดินเข้าเดินออกจนเขาเวียนหัวเดี๋ยวก็มารื้อของเขาบ้าง มากวนเขาบ้างจนไม่รู้ว่าเขาควรจะเริ่มทำอะไรก่อน
“ก็นายจะช้าทำไม ฉันรอจนไม่รู้จะทำอะไรแล้วนะ”
“รอไม่ไหวพี่ก็กลับไปก่อนสิ ทำไมต้องมาเร่งผมด้วย”
“ทำไมฉันต้องกลับก่อน แฟนฉันก็ยังอยู่ที่นี่ทั้งคนหรือว่านายจะนัดไอ้แฟนเก่าให้มันมาหา ห๊ะ!!!” พูดไปพูดมาแจ็คสันก็พาลมาหาเรื่องเขาอีก มือหนาใหญ่ของคนช่างพาลคว้ากระเป๋าของเขาแล้วเหวี่ยงไปมุมห้องก่อนจะเตะไปที่กองข้าวของส่วนอื่นๆจนมันกระจัดกระจาย
“ทำอะไรของพี่เนี่ย!!!!!!!!!!!!” แผดเสียงสุดกำลังก่อนจะปาผ้าในมือใส่หน้าอีกคนอย่างโมโห ยองแจเดินผละออกมาจากห้องโดยที่คนตัวโตกว่าก็เดินตามมาติดๆ ก้าวไปไม่เท่าไหร่ร่างทั้งร่างก็ถูกกระชากจากคนด้านหลัง
“จะไปไหน?”
“ไปหาแฟนอีกคนมั้ง?”
“ไม่ได้!!”
“พี่มีสิทธิ์อะไรมาห้ามผมล่ะ ผมไม่ได้อยากไปอยู่กับพี่ตั้งแต่แรกอยู่แล้วนะอีกอย่างตอนนี้พี่ก็ทำข้าวของผมเละเทะไปหมดเพราะอย่างนั้นผมก็ไม่จำเป็นต้องมานั่งเก็บมันใหม่เพื่อไปอยู่กับพี่หรอก”
“ไม่ได้ นายต้องไปอยู่กับฉัน!!”
“แต่ผมจะไม่เริ่มเก็บอะไรใหม่ทั้งนั้น เพราะผมขี้เกียจแล้ว!”
“เออ!! ไปนั่งรอเฉยๆเดี๋ยวฉันจะเก็บให้เอง”
แทบจะหลุดขำเมื่อได้ยินเสียงแหบห้าวตอบกลับมาแบบนั้น ยองแจหันหน้าหนีซ่อนรอยยิ้มเอาไว้เงียบๆแล้วชายตามองคนที่เดินเข้าไปนั่งเก็บของให้เขาอย่างเรียบร้อย แจ็คสันจัดการเก็บรวบรวมของทั้งหมดทีละอย่างๆแล้วจัดเรียงลงกระเป๋าอย่างเรียบร้อยจนยองแจอดจะยิ้มเล็กๆไม่ได้
ที่จริงก็น่ารักอยู่หรอก…ไม่รู้ทำไมต้องแสดงออกแต่ด้านแย่ๆให้เห็น
“เอ้า! เสร็จแล้วไปกันได้รึยัง?” คนที่จัดของเรียบร้อยเดินถือกระเป๋าออกมาวางไว้หน้าห้องก่อนจะเอ่ยถามเสียงเรียบๆ
“ผมอยู่ที่ห้องผมไม่ได้เหรอพี่แจ็คสัน?” ถามหยั่งเชิงเผื่ออีกคนจะเปลี่ยนใจถึงยังไงซะยองแจก็ไม่อยากจะไปอยู่กับแจ็คสันอยู่ดี
“อย่ามาเรื่องมาก! กระเป๋าก็เก็บให้แล้ว แถมยังจัดห้องให้อีกนิดหน่อยด้วยตอนนี้นายเป็นแฟนฉันก็ต้องไปอยู่กับฉัน ไม่ต้องมาต่อรองอะไรทั้งสิ้น ไป!”
ก็อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด…พูดไปก็เท่านั้นผู้ชายคนนี้เคยสนใจใครที่ไหนนอกจากตัวเอง
แต่!!เดี๋ยวก่อนนะ…จัดห้องให้ด้วยงั้นเหรอ..
หึ! ผู้ชายคนนี้มันยังไงกันแน่นะ!!
30%
“จะคุยอะไรกันนักกันหนาวะ ทำอะไรก็หัดเกรงใจแฟนอย่างฉันด้วย!!” แจ็คสันโวยวายใส่หลังจากที่เขาวางหูจากจงฮยอนไป ถึงแม้จะยอมมาอยู่กับแจ็คสันแต่เขาก็ไม่มีทางเลิกกับจงฮยอนหรอก
ก็เขายังไม่ได้หมดรักจงฮยอนนี่…แล้วทำไมจะต้องเลิกรักด้วย ไม่จำเป็น!!
“ทำไม? พี่จงฮยอนเขาก็เป็นแฟนผม พี่มาทีหลังอย่ามาเรียกร้อง”
“มาทีหลังแล้วยังไง ฉันไม่สน”
“ผมก็ไม่สนเหมือนกันว่าพี่จะคิดยังไง เพราะผมไม่ได้ต้องการแบบนี้ตั้งแต่แรก”
“จะลองดีกับฉันหรือไงยองแจ??” คนที่เถียงไม่ได้ลุกพรวดมาถึงตัวก่อนจะพุ่งมือใหญ่มาบีบแก้มนิ่มจนมันจมลงไปตามแรงกดของนิ้ว ยองแจนิ่วหน้าเล็กๆ สองมือส่งไปดันอกอีกคนให้ออกไปห่างๆตัว
“ถ้าใช่แล้วจะทำไม???” หันหลังใส่แล้วเดินหนีเข้าห้องนอนล็อกประตูเสียดื้อๆ ตั้งแต่ย้ายมาเขาไม่เคยนอนร่วมห้องกับแจ็คสันหรอก เรื่องอะไรจะต้องไปร่วมเตียงกับผู้ชายอารมณ์ขึ้นๆลงๆคนนี้ด้วยอีกอย่างที่นี่ก็มีตั้งหลายห้อง เขาเลยเลือกที่จะนอนคนเดียวยังไงก็ต้องรักษาความปลอดภัยให้กับตัวเองไว้ก่อน
แปลกใจเหมือนกันที่แจ็คสันยอมให้เขานอนแยกห้อง…
นึกว่าจะโดนปล้ำตั้งแต่วันแรกที่มาอยู่ซะแล้ว อุตส่าห์แอบพกมีดมาด้วย ไม่มีโอกาสได้ใช้เสียดายจริงๆ!!
โครม!!!!!!!!!!!!!!!
เสียงเหมือนอะไรสักอย่างกระแทกกับประตูห้องนอนอย่างแรงจนร่างนิ่มสะดุ้งตกใจ ถ้าให้เดาคนที่อยู่ด้านนอกคงเอาอะไรปามาใส่ประตูห้องนอนแน่ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่คิดจะเดินไปเปิดดู ด้วยมันไม่ปลอดภัยกับชีวิต
โครม!!! เพล้ง!!!
ยังคงมีเสียงโครมครามไม่หยุด ประตูห้องนอนกระเทือนเป็นพักๆจนกลัวมันจะพังซะก่อน ใบหน้าหวานที่งอง้ำแต่แรกยิ่งบูดบึ้งขึ้นไปใหญ่ ยองแจทิ้งร่างลงบนเตียงหยิบหูฟังขึ้นมาเสียบแล้วเปิดเพลงให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อกลบเสียงจากคนบ้าข้างนอกแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเสียงลอดเข้ามาเป็นระยะๆจนรำคาญใจ สุดท้ายเลยเปลี่ยนจากเสียงหูฟังเป็นเปิดเพลงให้ดังลั่นห้องแทน
“เปิดประตูออกมาคุยกันนะ!!! เปิดเดี๋ยวนี้ชเว ยองแจ”
“มีความจำเป็นอะไรที่ผมต้องเปิดให้พี่!! เท่าที่ผมวิเคราะห์ดูแล้วไม่มีเลยสักนิด” ตอบกลับนิ่งๆพร้อมฮัมเพลงเบาๆ ยังไงซะอยู่ในห้องก็ปลอดภัยอยู่แล้วจะกวนประสาทมากเท่าไหร่ก็ได้
“จะกวนประสาทฉันหรือไง ห๊ะ!!!!”
“พี่คิดว่ายังไงล่ะครับ อ๊ะ! พี่จงฮยอนโทรมาอีกแล้วผมรีบรับดีกว่า” ละความสนใจจากเสียงขู่ตะคอกด้านนอกแล้วหันมากดรับสายคนที่บอกว่าจะโทรมาใหม่แทน
“ครับพี่จงฮยอน”
‘อยู่ไหนเหรอยองแจ เสียงเพลงดังจังเลยนะครับ’
“อ่อ ผมอยู่ห้องแบมครับพอดีที่นี่มีปาร์ตี้นิดหน่อย” พูดไปก็หยิกหน้าขาตัวเองไป เกลียดเวลาที่ต้องทำแบบนี้แต่เขาไม่มีทางเลือกไหนนอกจากการโกหก ละมือจากการทำร้ายตัวเองไปกดเพิ่มเสียงเพลงให้ดังขึ้นไปอีกเพื่อกลบเสียงโวยวายของแจ็คสันที่ยังดังอยู่เรื่อยๆ
‘หืม ช่วงนี้ไม่ค่อยอยู่ที่ห้องเลยเหรอพี่จะไปหาทีไรยองแจก็ออกไปข้างนอกทุกที หลบหน้าพี่หรือเปล่าครับ’
“พูดอะไรอย่างนั้นล่ะครับ ผมจะหลบหน้าพี่ได้ยังไงคิดถึงจะแย่” เหงื่อตกกับน้ำเสียงสงสัยของคนรักที่ส่งมาให้ ความกระวนกระวายเริ่มปริ่มเต็มอก
คิดไว้แล้วว่ายังไงจงฮยอนก็ต้องสงสัย เขาย้ายมาอยู่กับแจ็คสันเกือบจะสองอาทิตย์โดยที่ไม่ได้เจอหน้าคนรักของตัวเองเลย ขนาดเวลาคุยกันยังแทบจะไม่มีด้วยผู้ชายอีกคนข้างนอกมักจะข่มขู่หรือกลั่นแกล้งเสมอเวลาเขาคุยโทรศัพท์กับจงฮยอน
‘จริงหรือเปล่า ไม่ได้เจอหน้ากันพี่ก็นึกว่ายองแจหนีไปอยู่กับใครแล้วซะอีก’
เหมือนโดนมีดแหลมๆกรีดลงที่ผิว ยองแจนิ่งเงียบไปชั่วครู่กับคำพูดของคนจากปลายสาย จงฮยองคาดเดาราวกับรู้เห็นเหตุการณ์ซะทุกอย่าง เขากลัวจริงๆว่าถ้าโดนจับได้เข้า มันจะเป็นยังไง!!!!
“ผมจะไปอยู่กับใครได้ล่ะครับ พี่ก็พูดจาเข้าไม่น่ารักเลยนะ” ขึ้นเสียงใส่คล้ายกับหงุดหงิดในคำพูด แต่แท้จริงก็เพียงแค่ปกปิดความกลัวของตัวเองเท่านั้น เหงื่อเริ่มซึมออกมาตามฝ่ามือ ใบหน้าร้อนผ่าวและหัวใจเต้นผิดจังหวะ
พี่จงฮยอนจะสงสัยอะไรแปลกๆไหมเนี่ย…เขาจะทำยังไงต่อ?? โกหกมากกว่านี้ไม่ไหวแล้ว!!!
‘ขอโทษครับ พี่ไม่ได้ตั้งใจพูดให้โกรธนะก็แค่ล้อเล่นเห็นหายหน้าไปตั้งนาน มันคิดถึงนี่นา..มาเจอกับพี่บ้างไม่ได้เหรอครับช่วงนี้’
“ได้สิครับ วันไหนดีล่ะ?” ลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก หวังว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้คิดอะไรจริงๆอย่างคำพูด ยองแจนอนแผ่หลาลงบนเตียงอย่างหมดแรงมือที่กำแน่นคลายลงด้วยความเบาใจเล็กๆ
‘เอาเป็นว่ายองแจว่างวันไหน ไม่ติดธุระหรือเรียนก็บอกพี่นะครับ พี่จะได้ไปหาที่ห้อง’
“ผมไปหาพี่เองดีกว่าครับ จะได้ถือโอกาสไปค้างด้วยเลยดีไหม?”
‘ครับ รับปากพี่แล้วนะห้ามผิดนัดด้วย’
“ครับ”
พอวางสายไปได้แทบจะโยนมือถือออกนอกหน้าต่าง ยองแจดีดตัวขึ้นมานั่งอีกครั้งสองมือนิ่มขยุ้มลงบนผมของตัวเองแล้วทึ้งแรงๆระบายความกังวล ทำไมเขาต้องมานั่งแก้ไขสถานการณ์ล่วงหน้าอะไรแบบนี้นะ
เพราะแจ็คสัน!!! เพราะแจ็คสันคนเดียว!!!
แกร๊ก!!!!!!!!!!
เสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นดึงความสนใจของยองแจให้หันไปมองก็เจอเข้ากับตัวต้นเหตุที่มองมาที่เขาด้วยสีหน้าประหลาดใจ แจ็คสันถือกุญแจเอาไว้ในมือก่อนจะก้าวเข้ามาถึงตัว
“เข้ามาทำไม เข้ามาได้ยังไง!!”
“นี่คอนโดฉัน ฉันมีกุญแจของทุกห้องนั่นแหละ แล้วเป็นอะไร? ดึงผมตัวเองทำไม?”
“เรื่องของผม! แล้วพี่เข้ามาทำไม?”
“เอ้อ! ใช่!! นายเดินหนีฉันแล้วเมื่อกี้ยังคุยโทรศัพท์กับไอ้แฟนเก่าอีก! มานี่!!” นึกขึ้นได้ว่าเข้ามาทำไม คนที่แข็งแรงกว่าก็กระชากเขาจนตัวปลิวก่อนจะลากให้เดินตามออกมานอกห้อง แจ็คสันผลักจนเขาล้มลงบนโซฟาก่อนจะตามมาคร่อมอย่างคุกคามแล้วจัดการรวบข้อมือทั้งสองข้างของเขาเอาไว้
“บอกกี่ครั้งแล้วว่าห้ามคุยกับมัน!!”
“ทำไมจะคุยไม่ได้ พี่จงฮยอนเป็นแฟนผมนะ!”
“ฉันก็เป็นแฟนนาย!”
“ผมไม่เคยขอร้องให้พี่มาเป็นแฟนผม”
“แต่ฉันจะเป็น!!!”
“ถ้าจะพูดขนาดนี้แล้วพี่ก็ต้องยอมรับสิ เพราะผมยังไม่ได้เลิกกับพี่จงฮยอน!!”
“นายต้องเลิก!”
“ผมไม่เลิก!!”
“ฉันไม่ได้ขอร้องนายยองแจ ฉันสั่งนายว่าให้เลิกกับมัน! หรือนายคิดว่ายังไงดีล่ะ? นายจะบอกเลิกมันดีๆหรือจะให้มันรับรู้เรื่องนี้ก่อนแล้วค่อยเลิกเหรอ? ไม่ใจร้ายไปหน่อยหรือครับยองแจ” แจ็คสันเอ่ยเสียงแผ่วเบาแต่ใบหน้าเหยียดยิ้มร้ายกาจส่งมาให้
“คนอย่างพี่นี่มัน!! ผมเลิกกับเขาไม่ได้ ไม่ใช่อย่างนี้ ผมไม่มีทางเลือกอื่นเลยใช่ไหม?”
“มีสิ..นายมีทางที่ฉันเลือกให้นายแล้วไง ยังจะต้องหาทางอะไรเพิ่มอีก แล้วก็นะฉันไม่ได้บอกให้นายเลิกกับมันวันนี้ซักหน่อย แต่ยังไงนายก็เลิกกับมันอยู่ดี”
“ตกลงว่านี่มันชีวิตของผมหรือชีวิตของพี่??”
“นี่คือชีวิตของนายเพียงแค่ว่าทุกๆอย่างในชีวิตนายก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฉันด้วย”
60%
ไม่แน่ใจว่าที่จริงแล้วตัวเขาเองเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยหรือว่ามันเป็นอาการของลางสังหรณ์ จงฮยอนรู้สึกว่าช่วงนี้อะไรหลายๆอย่างระหว่างเขากับยองแจกำลังต่างออกไปจากเดิม
เวลาที่เคยมีให้กันมันลดน้อยลง การพบปะกันก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ แม้กระทั้งการพูดคุยกันทางโทรศัพท์ก็ยังกลายเป็นเรื่องยาก..ยองแจใส่ใจเขาน้อยลงทีละนิดๆจนในบางครั้งก็เหมือนกับว่าเขาไม่ใช่คนสำคัญของยองแจอีกต่อไป!!!
“เฮ้ย! จงฮยอน กูถามจริงตอนนี้มึงยังเป็นแฟนกับน้องยองแจอยู่รึเปล่าวะ??” เสียงเพื่อนสนิธที่นั่งอยู่ข้างๆเอ่ยถามด้วยความแปลกใจทำเอาเขาถึงกับแทบจะสำลักน้ำที่กำลังดื่มอยู่
“เลิกห่าไร!! มึงนี่ปากไม่เป็นมงคลกูกับน้องยังรักกันดีเว้ย!!!”
“เอาความจริงดิวะ? เลิกก็บอกว่าเลิกดิจะกั๊กทำไม กูไม่จีบต่อหรอกน่า”
“ไอ้นี่!! กูบอกว่ายังไม่ได้เลิก มึงหูแตกเหรอห๊ะ???” จากที่ตอนแรกแค่แปลกใจ ตอนนี้เขากำลังจะอารมณ์เสีย อยู่ดีๆมันจะมาถามเรื่องไร้สาระอะไรของมันแถมคำถามยังดูเหมือนแช่งอยู่ในทีอีกต่างหาก
“อย่าว่างั้นงี้กับกูนะ..คือเมื่อคืนกูเหมือนจะเจอน้องเลยว่ะ มากับผู้ชายคนอื่น”
“…”
“ถ้ากูจำไม่ผิด รูปร่างไอ้คนที่ว่านี่เหมือนไอ้แจ็คสันคู่ปรับมึงด้วยซ้ำไป”
“…”
“เนี่ยแหละ กูถึงได้ถามไงว่ามึงเลิกกับน้องหรือยัง? อ้าว!! เห้ย ไอ้จงฮยอนจะไปไหนของมึงวะ ไอ้จงฮยอน!!!”
ไม่ได้ใส่ใจฟังเสียงโหวกเหวกของเพื่อนที่เรียกอยู่ด้านหลังแล้วในตอนนี้ พอได้ยินอย่างนั้นเหมือนสมองมันจะไม่รับการประมวลผลอะไรนอกจากสั่งให้ตัวเองกดมือถือโทรไปหาคนที่อยู่ในบทสนทนาข้างต้นอย่างร้อนรน
“รับสิรับ…ให้ตายเถอะยองแจ รับสายพี่ที!!”
RRRRRRRRRRRRRRRR
“ยองแจ..ทำไมไม่รับสาย รับที”
.
.
.
‘ครับ! พี่จงฮยอน’
“ยองแจ! อยู่ที่ไหนครับ? ทำไมรับสายพี่ช้าจังเลย” พอได้ยินเสียงจากปลายสายตอบกลับมา เขารีบถามออกไปอย่างสั่นกลัว ถึงแม้ว่าที่เพื่อนเขาพูดมามันอาจจะไม่ใช่ความจริงไม่ใช่ยองแจแต่เขาก็ยังกลัวอยู่ดี จงฮยอนพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่นทั่งๆที่ตอนนี้หัวใจเขาเต้นผิดจังหวะจนว้าวุ่นไปหมด
‘เอ่อ..คือว่าผม กำลัง ดู..ทีวีอยู่ครับ มันเสียงดังเลยไม่ค่อยได้ยิน’
“ดูทีวีเหรอ? แน่ใจนะว่ากำลังดูทีวี”
‘ครับ! แน่สิ พี่ถามทำไมเหรอ? มีอะไรหรือเปล่าครับดูพี่แปลกๆนะ’
“เปล่าครับ ไม่มีอะไรพี่แค่คิดถึงเลยโทรหาเฉยๆ งั้นยองแจดูทีวีไปเถอะแล้วเจอกันนะครับ พี่คิดถึงอยากนอนกอดแล้วนะ”
‘ผมก็คิดถึงพี่ครับ แล้วเจอกันนะ’
ดูทีวี…ปกติยองแจไม่เคยชอบดูทีวี แล้วที่สำคัญห้องของยองแจไม่มีทีวี!!!
ตั้งแต่คบกับใหม่ๆเขาก็ถามอยู่หลายครั้งว่าทำไมยองแจถึงไม่ยอมซื้อทีวีเข้าห้อง เจ้าตัวก็ให้เหตุผลว่ารายการพวกนั้นมันไร้สาระจะซื้อมาให้เปลืองไฟทำไม แต่คำตอบเมื่อกี้มันกำลังสวนทางกับการกระทำโดยปกติของยองแจ
หรือที่เพื่อนเขาเจอจะเป็นยองแจจริงๆ…แต่มันก็อาจจะเป็นแค่คนหน้าเหมือนก็ได้นี่
แต่ทำไมคนที่มันเจอกับยองแจต้องเป็นไอ้แจ็คสันด้วย…ถ้ามันบอกว่าเจอยองแจอยู่กับคนอื่นเขายังจะรู้สึกแย่น้อยกว่านี้อีกมากถึงแม้ว่านั่นอาจจะไม่ใช่ยองแจจริงๆก็ตามเถอะ!!!!
“วอนโฮ!! ที่มึงบอกว่าเจอแฟนกู มึงเจอที่ไหน?”
“เอ่อ ห้างแถวๆคอนโดกูนี่แหละ ถามทำไม?”
“กูก็แค่อยากรู้ แล้วมึงเจอน้องกับคนอื่นกี่ครั้งแล้ววะ?”
“อ่า…กูก็เห็นสองหรือสามครั้งนี่แหละ ไม่แน่ใจว่ะ กูอาจจะตาฝาดก็ได้เมื่อกี้มึงโทรหาน้องไม่ใช่รึไง น้องว่าไงล่ะ?”
“ไม่ได้ว่าอะไร ก็เหมือนเดิม ปกติดีทุกอย่าง”
“งั้นมึงก็อย่าคิดมาก กูอาจจะตาฝาดจริงๆก็ได้”
“กูก็หวังว่ามันจะเป็นอย่างนั้นนะ”
ก้มมองนาฬิกาข้อมืออย่างใจเย็น อีกไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลานัดระหว่างเขากับยองแจแล้ว วันนี้ยองแจจะมาอยู่กับเขาทั้งอาทิตย์และเจ้าตัวก็นัดให้เขามารับที่นี่นั่นมันเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดเท่าที่มีตอนนี้แต่มันก็คงจะดีกว่าถ้าเขาไม่ได้ ‘รู้เห็น’ อะไรบางอย่างซะก่อน
จงฮยอนพิงตัวเองลงไปกับพนักพิงของเก้าอี้ตัวเขื่องในร้านประจำของเขากับยองแจอย่างปล่อยตัวเล็กๆ คนตัวสูงวันนี้แต่งตัวสบายๆเขาใส่เสื้อตัวโครงที่เปิดให้เห็นไหล่กว้างทั้งสองข้างอย่างชัดเจน อีกอย่างตอนนี้เขาค่อนข้างเป็นที่น่าสนใจของผู้คนรอบข้างแต่เขาก็ไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรด้วยนัก
ตั้งแต่เริ่มคบกับยองแจมา..เขาก็ทิ้งนิสัยทุกอย่างที่ตัวเองเคยทำ เขาไม่ใช่คนดี ไม่ใช่สุภาพบุรุษแต่เขาอยากจะทำให้อะไรๆมันดีขึ้นเพื่อยองแจก็แค่เท่านั้น แต่ทำไมพอจะทำตัวดีๆเข้าหน่อยมันจะต้องมีอุปสรรคเข้ามาขัดขวางเขาตลอด
“จงฮยอน! ใช่ไหมคะ?” เสียงหวานใสดังขึ้นข้างๆเรียกให้เขาหลุดออกมาจากภวังค์ของตัวเอง เจ้าของชื่อหันกลับมองไปทางต้นทิศของเสียงก็เจอเข้ากับผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มกำลังยืนส่งยิ้มหวานเชื่อมมาให้
“ครับ? คุณ..”
“ไอยูไงคะ จำกันไม่ได้เหรอไม่เจอกันแค่ไม่กี่เดือนไม่น่าจะลืมเร็วขนาดนี้เลยนะ” น้ำเสียงกระเง้ากระงอดที่ส่งกลับมาทำให้เขาต้องรีบยิ้มเจื่อนส่งไปให้เธอแทน
ใครจะไปจำได้กัน ตอนนั้นเขาคุยพร้อมกันทีเดียวตั้งหลายคนนะ!!!
“แล้วจงฮยอนมาทำอะไรที่นี่เหรอคะ? รอใครเหรอ?” เธอถือวิสาสะนั่งลงตรงข้ามกับเขาทันทีแต่จงฮยอนก็ไม่ได้คิดว่าจะไล่ให้เธอลุกออกไปหรืออะไร อย่างน้อยการมีเพื่อน ‘เก่า’ มานั่งคุยรอยองแจก็เป็นการฆ่าเวลาที่ดีพอสมควร
“ผมมารอแฟนผมครับ”
“คำตอบเย็นชาจังเลยนะคะ” เธอส่งยิ้มหวานๆมาให้อีกครั้งพร้อมกับที่นิ้วมือเรียวเล็กนั่นที่กำลังเขี่ยเล่นอยู่บนหลังมือเขาราวกับมันเป็นของเล่น จงฮยอนไม่ได้ชักมือหนีอย่างที่เขาควรจะทำแต่กลับกลายเป็นว่ามือหนาใหญ่อีกข้างของเขาคว้าหมับเข้าทีมือเรียวบางไว้แทน
“ก็ต้องเย็นชาเป็นธรรมดาสิครับ ผมมีแฟนแล้วจะให้ผมตอบยังไง..ผมไม่ชอบให้ความหวังเรื่อยเปื่อย”
“หึ! แน่ใจเหรอคะ? ว้า..แย่จังเลยนะ ฉันมันเป็นพวกชอบยุ่งกับคนมีเจ้าของซะด้วยสิ” ร่างเล็กบางดึงมือของตัวเองกลับอย่างอ้อยอิ่งก่อนที่เธอจะผุดลุกขึ้นยืนแล้วเดินห่างออกไปตามทางเดิมของเธอ
“ฉันยังสนใจคุณอยู่นะคะ ทั้งตอนนั้นและตอนนี้…อีกอย่าง”
“…”
“อย่าพยายามทำอะไรที่มันไม่ใช่ตัวเองเลยนะคะ”
“หมายความว่ายังไงกันครับ??”
“ช่างเถอะค่ะ แฟนคุณมาพอดีฉันคงต้องขอตัวก่อน แล้วเจอกันใหม่ค่ะ”
แปลกไปจากเดิมจริงๆ ถึงแม้ยองแจจะไม่แสดงท่าทางอะไรให้เขาสงสัยเวลาอยู่ด้วยกันแต่มันมีบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกได้เอง ยองแจคงไม่รู้ตัวว่าในหลายๆครั้งที่อยู่ด้วยกัน เจ้าตัวมักจะเผลอแสดงสีหน้ากังวลบางอย่างออกมาแล้วมีไหมที่เขาจะไม่สังเกตเห็น
ที่มันรบกวนใจเขามากที่สุดก็คือสายปริศนาที่ชอบโทรมาหายองแจเวลาอยู่กับเขาบ่อยๆ จนถึงยองแจจะไม่ได้กดรับสายเขาก็พอเดาออกว่ามันเป็นใคร!!!
“ยองแจครับ คิดอะไรอยู่เหรอ?”
“หือ!! คิดอะไร เปล่านี่ครับ”
“แน่ใจนะ พี่เห็นยองแจทำสีหน้ายุ่งยากตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ มีอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่มีอะไรครับ ผมก็แค่..คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเอง”
“ยองแจ…คือ ไม่รู้ว่าพี่คิดไปเองหรือเปล่า แต่พี่ พี่รู้สึกว่าช่วงหลังๆนี้ยองแจดูเปลี่ยนไปนะครับ” ตัดสินใจพูดเรื่องที่ตัวเองคิดขึ้นมาหลังจากที่เขาทบทวนมันมาตลอดหลายๆคืน ยองแจเบิกตามองกลับมาก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงสั่นเครือ
“ผมเหรอ?? ยังไงครับที่ว่าเปลี่ยน?”
“ไม่รู้สิ พี่แค่สงสัย พี่คิดว่าตอนนี้ในใจของยองแจจะไม่ได้มีแค่พี่คนเดียวนะครับ ถูกไหม?”
“พี่จงฮยอน…พูดอะไรของพี่?”
“ยองแจ นอกจากพี่แล้ว ยองแจกำลังซ่อนใครเอาไว้ในนั้นครับ? ไอ้ผู้ชายอีกคนที่มันกำลังแย่งหัวใจยองแจไปจากพี่ มันคือใคร?”
“เป็นยังไง สำเร็จไหม?” เสียงทุ้มแหบเอ่ยถามด้วยโทนเสียงสบายๆ เรียกรอยยิ้มหวานละไมจากใบหน้าจิ้มลิ้มได้เป็นอย่างดี
“ไม่น่าจะถามนะ ระดับฉันแล้วเรื่องแค่นี้มันยากเกินความสามารถหรือไง”
“เหอะ! ให้มันจริงอย่างปากของเธอก็แล้วกัน หวังว่าฉันคงไม่ได้ใช้คนผิดหรอกนะ”
“นี่!! ดูถูกกันก็ให้มันพอดีหน่อยนะ เรื่องของตัวเองยังเอาไม่รอดก็อย่าปากดีมากัดฉัน แค่คนๆเดียวยังไม่มีปัญญาแย่งมาต้องมาลำบากฉันไหม?” เสียงใสแผดขึ้นด้วยความโมโห แต่ก็ไม่ได้ทำให้เจ้าของเสียงแหบสะท้านแต่อย่างใด ใบหน้าหล่อคมเหยียดยิ้มเล็กๆ ก่อนจะค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มอ่อนโยนยามเมื่อเอ่ยถึงอีกคน
“คนๆเดียวที่เธอว่านั่นไม่ได้ใจง่ายเหมือนอย่างหลายๆคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตฉันหรอกนะ เจ้าเด็กนั่นใจแข็งอย่างกับหิน ทั้งๆที่ก็บังคับมากตั้งขนาดนี้แล้วก็ยังไม่ยอมลงให้ฉันเลยสักนิด”
“หึ! ชาตินี้นายจะได้ใจเขาหรือเปล่าก็ยังไม่รู้สินะ..พยายามเข้าล่ะ”
“เธอเองก็ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีๆล่ะ อย่าให้เสียแรงที่ฉันอุตส่าห์ไว้ใจ”
“คนอย่างฉันไม่เคยพลาดเป้าหมาย เรื่องแค่นี้ถ้าฉันทำไม่ได้ก็ไม่ใช่ไอยูแล้วล่ะ!!!”
100%
*********************************
ครบแล้วนะจ๊ะ ครบแล้วววว
ช่วงนี้หัวไรท์มันไม่ค่อยแล่นเท่าไหร่
อาจจะสะดุดนิดๆ กากหน่อยๆก็ทนอ่านไปนะคะ T/\T
หลังจากนี้ไปจะเจ้มจ้นอย่างถึงขีดสุด ><
ปล.ตอนนี้ไรท์เปิดเรื่องใหม่อีกเรื่องนึงนะคะ "คนยอดเพื่อน"
แวะไปอ่านกันได้นะ เรื่องนั้นมาม่านิดๆ (หรือเปล่า) แหะๆ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะคะ เจอกันตอนหน้าค่ะ ^^//
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แจผิดดดด
แต่เขินอะ 555