"ขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือ หากต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติมผมจะติดต่อกลับไป" นายตำรวจผู้ดูแลคดีนี้กล่าวขอบคุณเชอร์ล็อค โฮมส์ หลังรวบตัวแก๊งค์ขโมยวัตถุโบราณข้ามชาติได้สำเร็จ
เชอร์ล็อคเงียบ ไม่ได้ตอบรับอะไร แต่สายตาบ่งบอกถึงความพอใจ.....จบสิ้นเสียทีคดีนี้
คดีนี้จะไม่ได้ยุ่งยากมากขนาดนี้เลยถ้าไม่ติดตรงที่การตีความอักษรจีนโบราณ ในที่สุดนอกเหนือจากดาราศาสตร์และการเมือง ก็คงมีเรื่องภาษาศาสตร์นี่แหละที่เชอร์ล็อคยอมรับเลยว่าเขาไม่รู้เรื่องนี้จริงๆ หากพอมีความรู้อยู่บ้าง คดีนี้คงจบลงเร็วกว่านี้
ขบวนการข้ามชาตินี้จะตระเวณขโมยวัตถุโบราณหายากจากทั่วทุกมุมโลกมาประมูลขายในเว็บรับซื้อของเก่า ส่วนหนึ่งก็จะนำไปขายตามร้านขายวัตถุโบราณ ลูกค้าชั้นดีที่จะมาซื้อสินค้าเหล่านี้ก็คือบรรดาเศรษฐีฟุ้งเฟ้อที่ชื่นชอบวัตถุโบราณ คนพวกนี้ไม่ได้สนใจหรอกว่าของเหล่านี้มีที่มาที่ไปอย่างไร มีประวัติที่ยาวนานมามากแค่ไหน สำคัญต่อประเทศอย่างไร สิ่งที่คนพวกนี้สนใจก็แค่ราคาของมัน หากสามารถนำป้ายราคาแปะไว้ที่ตัววัตถุโบราณไว้ตลอดเวลาได้ก็คงทำกันไปแล้ว ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวคนอื่นเขาจะไม่รู้ว่าซื้อมาแพง
ลูคิสและแวนคูนเป็นหนึ่งในขบวนการเหล่านี้ เขาสองคนจะตระเวณไปทั่วโลกเพื่อขโมยวัตถุโบราณแล้วนำใส่กระเป๋าเดินทางกลับมายังอังกฤษ ทุกอย่างมันควรจะเป็นไปตามแผนอย่างที่เคยๆทำหากไม่มีใครทรยศ ขโมยบางอย่างออกมาเป็นของตัวส่วน จนเกิดคดีนี้ขึ้นมา
แอนดรู ลูคิส นักข่าวของสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งพึ่งเดินทางกลับมาจากต้าเหลียน ประเทศจีน ในเวลาใกล้เคียงกับโอลิเวอร์ แวนคูน ลูคิสแอบขโมยปิ่นหยกอันหนึ่งออกมาจากกระเป๋าที่ใช้ขนของ พวกคนในขบวนการที่เหลือจึงออกตามล่าคนขโมย ซึ่ง 2 คนนี้เป็นผู้ต้องสงสัยเพราะกลับมาในเวลาใกล้เคียงกัน ทั้งสองคนจึงถูกฆ่าตาย ส่วนปิ่นหยกทางขบวนการก็ส่งคนออกตามหาต่อไป
เนื่องจากคนในขบวนการมีจำนวนมาก พวกเขาจึงเลือกใช้วิธีเอาสีสเปร์สีเหลืองพ่นไปตามที่ต่างๆเป็นสัญลักษณ์ในการสื่อสารกับสมาชิกจนในที่สุดก็รู้ว่าปิ่นหยกอันนั้นอยู่ที่ไหน
"ปิ่นหยกราคา 2 ล้านปอนด์ ( 91 ล้านบาท ) เนี่ยนะ? แค่หยกเอง ทำไมแพงขนาดนี้" จอห์นถามขึ้นด้วยความสงสัยขณะเดินออกมาจากสถานที่จับกุมเหล่าหัวขโมย
"มันแพงเพราะเจ้าของเก่าของมันเป็นคนสำคัญกับจีนมาก่อน" เชอร์ล็อคตอบด้วยเสียงเรียบๆ
"นายคิดว่ามิเชล เลขาของลูคิสจะทำหน้ายังไง ถ้ารู้ว่าปิ่นปักผมของตัวเองที่ลูคิสเอามาให้มีราคา 2 ล้านปอนด์" จอห์นถาม
"พรุ่งนี้ก็คงมีข่าวหญิงสาวช็อคจนต้องเข้าโรงพยาบาล" เชอร์ล็อคยิ้ม
"ลูคิสนี่ก็ใจกล้าดีนะ ขโมยปิ่นปักผมราคา 2 ล้านปอนด์มาง้อแฟน ผู้หญิงแบบมิเชลพาไปดินเนอร์ในร้านหรูๆซักมื้อก็หายงอนแล้ว"
"ลูคิสไม่รู้ราคาของมัน เขามีหน้าที่ไปขโมยตามคำสั่งเท่านั้น เขาเห็นว่ามันเหมาะกับแฟนตัวเอง เขาเลยหยิบมาโดยไม่ทันได้คิดถึงราคาและความอันตรายของมัน" เชอร์ล็อคอธิบาย
"ถ้าเป็นนาย นายจะง้อแฟนยังไง ไขคดีโชว์แฟนหรือยังไง" จอห์นถาม
"ชั้นไม่มีแฟน" เชอร์ล็อคตอบแทบจะทันที
"เรื่องสมมุติ....สมมุติว่ามี" จอห์นถามอีกครั้ง
"คงทำอาหารให้กินซักมื้อ" เชอร์ล็อคตอบแล้วสอดมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค้ต อย่างที่เคยทำ การไม่สวมถุงมือหนังของจอห์น มันทำให้มือของเขาเย็นเร็วเกินไป
จอห์นหัวเราะเบาๆ "แต่นายทำอาหารไม่เป็น"
"เขาเป็นคนพิเศษ เขาควรได้รับอะไรพิเศษๆแบบนั้น"
จอห์นยิ้ม "นายเริ่มจะเป็นคนโรแมนติกขึ้นมาบ้างแล้วนะเชอร์ล็อค แต่ก่อนเย็นชาเป็นก้อนหินเลย"
เชอร์ล็อคเงียบ ไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่ขมวดคิ้วสงสัยเท่านั้น....จอห์นว่าเขาเย็นชาแข็งทื่อเป็นก้อนหิน?
"ถ้าเป็นนายเมื่อแต่ก่อน ถ้าชั้นถามว่าจะง้อแฟนยังไง นายคงพูดว่า 'งี่เง่าน่าจอห์น' 'ไร้สาระน่าจอห์น' 'คำถามไม่ฉลาดเลยจอห์น' " จอห์นพูดโดยเลียนเสียงของเชอร์ล็อค ก่อนจะยิ้มออกมาอีกครั้ง "เชอร์ลินเปลี่ยนนายได้ ความเป็นคุณพ่อของนายทำให้นายใจเย็นขึ้น นายอ่อนโยนขึ้นมากรู้ตัวรึเปล่า"
"นายเปลี่ยนชั้นต่างหากล่ะจอห์น เพราะนายอนุญาตให้ชั้นพาเชอร์ลินมาอยู่ด้วยกัน ชั้นเลยเป็นคนที่ดีขึ้น นายเป็นสาเหตุสำคัญเลยจอห์น"
ปรี๊ด.....ปัง ปัง ปัง
"เห้ย ! นั่นพลุนี่ พลุจากโอลิมปิคนี่" จอห์นพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เมื่อได้ยินเสียงพลุดังขึ้นบนท้องฟ้า
"จอห์น เมื่อกี๊ฟังที่ชั้นพูดรึเปล่า" เชอร์ล็อคถามด้วยเสียงไม่พอใจเล็กน้อย นี่จอห์นไม่สนใจที่เขาพูด แต่สนใจพลุมากกว่านี่นะ??
"มองไม่เห็นเลย ตึกมันสูงเกินไป บังพลุมิดเลยอ่ะ" จอห์นชะเง้อมองจนสุดคอพร้อมเขย่งสุดปลายเท้า
"มองไม่เห็นหรอกจอห์น ไม่ต้องพยายามหรอก ตรงนี้มีแต่ตึกสูงๆ สัญญาณโทรศัพท์ยังไม่ค่อยมีเลย" เชอร์ล็อคบอก
จอห์นค่อยๆปล่อยส้นเท้าลงและก้มคออย่างเศร้าสร้อย "เสียดายมาก ชั้นรอวันที่ลอนดอนจะได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิคมาตั้งหลายปี ภาวนาว่าขอให้ลอนดอนเป็นเจ้าภาพโอลิมปิคหลังจากที่ชั้นกลับจากอัฟกานิสถานแล้ว วันที่ชั้นรู้ว่าลอนดอนจะได้เป็นเจ้าภาพต่อจากปักกิ่งชั้นดีใจมาก คิดไว้ว่าจะเก็บเงินไปดูพิธีเปิดในสนามให้ได้" จอห์นพูดด้วยเสียงแผ่วเบา
"ก็ได้ดูแล้วไง โซน VIP ด้วย มีเงินยังหาซื้อได้ยากเลยนะ เห็นภาพชัดทุกมุมเลย นายไม่ชอบหรือ" เชอร์ล็อคถาม
"ชั้นไม่ได้อยากดูโชว์ ชั้นอยากดูพลุในพิธีเปิดต่างหาก" จอห์นตอบ "อดดูเลย พรุ่งนี้คงต้องหาดูย้อนหลังใน Youtube" จอห์นถอนหายใจเบาๆ
"พลุที่ไหนๆก็เหมือนๆกัน พลุก็คือพลุ นายจะรอดูในงานวันชาติก็ได้มีให้ดูทุกปีโดยไม่ต้องรอเลย"
"มันไม่เหมือนกัน พลุโอลิมปิค 4 ปี จะมีให้ดูแค่ 1 ครั้ง แล้วครั้งนี้มาจัดที่ลอนดอนด้วย ทั้งชีวิตของชั้นคงไม่ได้ดูพลุด้วยตาตัวเองโดยไม่ผ่านข่าวอีกแล้ว ครั้งหน้าจัดตั้งไกล ตั้งบราซิลแน่ะ" จอห์นถอนหายใจอีกครั้ง สิ่งที่รอมาตลอดหายวับไปกับตา น่าเสียดายมากจริงๆ "พลุที่จะมีให้ดูแค่ทุกๆ 4 ปี ถ้าเรายังมีโอกาสได้ดูมันอยู่ แสดงว่าเรายังมีชีวิตอยู่และหวังว่าจะมีโอกาสได้ดูมันอีกครั้งใน 4 ปีถัดไป ชั้นเป็นทหารในสงคราม ชั้นจะตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ไม่รู้ว่าอีก 4 ปีข้างหน้าจะได้ดูพลุอีกมั้ย ชั้นภาวนาว่าชั้นจะได้ดูมันไปตลอด ชั้นหวังไว้เสมอว่าชั้นจะไม่ตาย"
"นายไม่ได้เป็นทหารแล้วจอห์น นายมีโอกาสดูมันไปตลอดชีวิตแล้ว" เชอร์ล็อคยิ้ม
จอห์นถอนหายใจอีกครั้ง "อืม....ชั้นก็หวังแบบนั้น" จอห์นยังคงเศร้า
เชอร์ล็อคแหงนหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้าแล้วพบกับบางอย่าง "อันนั้นทดแทนพลุได้มั้ย" เชอร์ล็อคชี้ไปบนท้องฟ้า
ดวงดาวพราวระยิบระยับประดับอยู่บนท้องฟ้าราวกับอัญมณีล้ำค่า แม้ว่ามันจะมีจำนวนไม่มาก แต่สำหรับกลางกรุงลอนดอนที่มีแต่แสงสว่างแบบนี้แล้ว การมองเห็นดาวถือว่าเป็นสิ่งที่พิเศษมาก มองเห็นดาวจากกลางเมืองหลวงโดยที่ไม่ต้องออกไปนอกเมืองไกลๆ
"ในลอนดอนมองเห็นดาวด้วยหรอ สวยจัง" จอห์นมองตามไปยังสิ่งที่เชอร์ล็อคกำลังชี้
"อืม คงเป็นเพราะตรงนี้มีแต่ตึกสูงๆมันเลยมืดพอที่จะมองเห็น" เชอร์ล็อคตอบ
"กลุ่มดาวหมีเล็ก" จอห์นพูดขึ้นลอยๆ
"ดาวมีชื่อเรียกด้วยหรอ" เชอร์ล็อคขมวดคิ้ว....ดูยังไงให้เป็นหมี เขามองเห็นแต่ดาวเป็นจุดๆอยู่ทั่วฟ้าเท่านั้นเอง .... หรือความจริงใครๆก็มองเห็นเป็นหมี นอกจากตัวเขาที่ดูไม่ออก เพราะเขาดูดาวไม่เป็น !!
"มีสิ ดาวรวมกันเยอะๆจะมีชื่อเรียก อย่างกลุ่มดาวที่เราเห็น เขาเรียกกลุ่มดาวหมีเล็ก" จอห์นอธิบาย "กลุ่มดาวหมีเล็กจะมีดาวเหนือ เห็นมั้ยดาวที่สว่างที่สุดตรงนั้น" จอห์นชี้
เชอร์ล็อคมองตามปลายนิ้วของจอห์นไปยังดาวดวงเล็กๆดวงนั้น
"มันเป็นดาวเหนือ ดาวที่จะปรากฏในทิศเหนือ เพราะความสว่างของมันและจะปรากฏเฉพาะทิศเหนือ เราเลยใช้มันนำทาง ดาวเหนืออยู่ตรงไหนทิศนั้นคือทิศเหนือ ด้านหลังคือทิศใต้ ขวามือเป็นทิศตะวันออก ซ้ายมือเป็นทิศตะวันตก" จอห์นอธิบายให้คนไม่รู้เรื่องดาราศาสตร์ฟัง "ตอนชั้นเป็นทหารชั้นก็เคยใช้มันนำทางอยู่เหมือนกัน"
"มันเป็นดาวที่สว่างที่สุดหรอ" เชอร์ล็อคถาม
"ไม่ใช่หรอก มีดาวที่สว่างกว่านี้ แต่ชั้นจำชื่อไม่ได้แล้ว คนไม่ค่อยสนใจมันเท่าไหร่เพราะถึงมันจะสว่างแต่มันไม่อยู่ที่เดิม เลยเอามาบอกทิศทางไม่ได้ นักเดินทางเลยสนใจแต่ดาวเหนือ"
"คนหลงทางจะสนใจแต่ดาวเหนือ?" เชอร์ล็อคขมวดคิ้วสงสัย
"ใช่ คนหลงทาง หลงป่าเขาจะใช้ดาวเหนือเป็นที่ตั้งแล้วค่อยหาทิศทางอีกที ทหาร นักเดินเรือก็ใช้" จอห์นพูด "มายครอฟเคยบอกว่าตอนเด็กๆนายอยากเป็นโจรสลัด?"
เชอร์ล็อคถอนหายใจ มายครอฟชอบเล่าเรื่องน่าอายๆให้จอห์นฟังอยู่เรื่อยเลย
จอห์นยิ้ม "โจรสลัดต้องดูดาวเป็นนะ ทำไมโจรสลัดเชอร์ล็อคดูดาวไม่เป็นเนี่ย แบบนี้จะไปปล้นเรือใครได้ หลงทางกันพอดี"
"จอห์น" เชอร์ล็อคเรียกจอห์นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
"หืม?" จอห์นมองหน้าเชอร์ล็อคด้วยความสงสัย
"นายเป็นดาวเหนือของชั้น"
"??????" ใบหน้าจอห์นเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
"นายบอกว่าดาวเหนือมันเป็นจุดดึงความสนใจ นายเป็นดาวเหนือ"
"นายต่างหากเชอร์ล็อค นายต่างหากที่เป็นดาวเหนือ" จอห์นพูด "นายฉลาด นายดูดี นายเป็นจุดสนใจเสมอ นายเหมาะสมที่จะเป็นดาวเหนือมากกว่า"
เชอร์ล็อคแหงนหน้ามองดวงดาวอีกครั้ง "ชั้นเป็นได้แค่ความมืดเท่านั้นจอห์น ความมืดที่ดูดกลืนความสวยงามของโลกไปจนหมด ความมืดที่ไม่มีใครต้องการ" เชอร์ล็อคพูด "นายเป็นดาวเหนือ นายทำให้คนหลงทางแบบชั้นหาเส้นทางที่ควรจะไปได้เจอ นายช่วยทำให้ชั้นไม่หลงทางบนทางโง่ๆของตัวเองอีกต่อไป นายเป็นดาวเหนือของชั้น"
จอห์นแหงนมองดวงดาวอย่างพิจารณาบางอย่างอีกครั้ง ก่อนจะยิ้มออกมา "ใช่ ชั้นเป็นดาวเหนือ นายเป็นความมืด" จอห์นหันมองคนข้างตัวที่กำลังแหงนมองท้องฟ้า "ดาวเหนือจะส่องแสงสว่างได้ยังไงถ้าไม่มีความมืด ดาวไม่ส่องแสงในแสงสว่างหรอกนะเชอร์ล็อค ความมืดก็สำคัญกับดาวเหนือเหมือนกัน"
เชอร์ล็อคละสายตาจากดวงดาวที่สนใจ หันมามองคนตัวเล็กข้างตัว ก่อนที่ทั้งสองจะยิ้มให้กัน
จอห์นพูดบางอย่างขึ้นมาก่อน "ชั้นว่าเราควรไปรับดาวลูกไก่ได้แล้ว ดาวลูกไก่คงจะง่วงแย่ นี่จะตี 1 แล้ว"
"ดาวลูกไก่????" เชอร์ล็อคขมวดคิ้วสงสัย
"ดาวลูกไก่เป็นชื่อกลุ่มดาวเหมือนดาวหมีเล็กนั่นแหละ" จอห์นอธิบาย "เชอร์ลินเป็นดาวลูกไก่"
เชอร์ล็อคยิ้ม "นั่นสิ ป่านนี้ดาวลูกไก่ของชั้นคงจะง่วงแล้ว หรือไม่ก็ตื่นเต้นมากๆที่ได้ดูโชว์นู่นนี่จนอยากจะเอามาเล่าให้ชั้นฟังแย่แล้ว"
"นายควรรีบไปรับดาวลูกไก่กลับมา ก่อนที่ 'ดาวโจร' จะมาขโมยไป" จอห์นพูด
เชอร์ล็อคหัวเราะเบาๆ "ชั้นรู้จักดาวโจรนะ" เชอร์ล็อคพูด "ดาวโจรที่ชอบวางท่า วางอำนาจแล้วก็ชอบพกร่มสีดำใช่มั้ย"
จอห์นก็หัวเราะเบาๆเช่นกัน "นั่นแหละ ใช่เลย นั่นคือดาวโจร"
"ดาวโจรชอบแอบมาขโมยลูกของชั้น เผลอไม่ได้เลย ชอบแอบพาลูกชั้นไปนู่นไปนี่" เชอร์ล็อคบ่น แล้วทั้งสองคนก็ยิ้มให้กันอีกครั้ง
มัวแต่ดูดาวกับเชอร์ล็อคจนลืมซาร่าหรือเปล่าจอห์น ?
อ่านพาร์ทดวงดาวแล้วรู้สึกว่าเหมือนเค้าสารภาพรักกันโดนไม่มีคำว่ารักอ่ะแก ฟิลกู๊ดมากมาย
ขอบคุณที่มาอ่าน มาเม้นท์นะค๊าา : )
5555 ซาร่าถูกลืมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ไรท์อย่าท้อไปเลย แต่งสนุกมากค่ะ เรียบเรียงภาษาได้สะสวยมากอ่านแล้วลื่นมากนะ
เรามีเวลาว่างก็จะมาอ่านแล้วคอมเม้นทิ้งไว้ช่วงงานหนักเครียดๆนี่ได้อ่านฟิคของไรนี่ความเครียดหายเลย สู้ๆนาจา
5555 ซาร่าถูกลืมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ไรท์อย่าท้อไปเลย แต่งสนุกมากค่ะ เรียบเรียงภาษาได้สะสวยมากอ่านแล้วลื่นมากนะ
เรามีเวลาว่างก็จะมาอ่านแล้วคอมเม้นทิ้งไว้ช่วงงานหนักเครียดๆนี่ได้อ่านฟิคของไรนี่ความเครียดหายเลย สู้ๆนาจา
สู้ๆนะคะไรท์
ขอบคุณที่แวะมาทักทายนะคะ : )