คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : เล่ห์ร้าย 9
เสียงงานรื่นเริงในยามค่ำของคฤหาสน์ ซึ่งเพิ่งจะมีงานใหญ่ก่อนหน้าไม่นานนี้เอง ทำให้หลายคนประหลาดใจกับงานแต่งงานที่มีขึ้นแบบกะทันหันไม่น้อย กระนั้นก็ยังมีคนมาร่วมแสดงความยินดีกันอย่างมากมาย งานที่ดูเหมือนจะมีแต่ความยินดี แต่มันไม่ใช่กับทุกคน มิลล่ายืนหน้าหงิกอยู่ข้างๆ ผู้เป็นป้า เธอถูกนายโรเบิร์ตบังคับให้มาร่วมงาน เช่นเดียวกับนางมาร์ธาที่ขุ่นใจไม่แพ้กัน มองไปที่นายเฮนริคซึ่งกำลังคุยกับนางลูซินดาอยู่ และใกล้กันก็มีนายมารุตพ่อของหมอมธุริน นางไม่เจอกับอีกฝ่ายมาหลายปีแล้ว ได้ข่าวว่าไปเป็นหมออยู่โรงพยาบาลเล็กๆ มารุตดูเปลี่ยนไปมาก ใบหน้าดูมีอายุมากขึ้นตามวัย
มันนานแล้วแต่นางก็ยังจำได้ มารุตเป็นหมอหนุ่มที่มีความสามารถ เป็นคนสุภาพ อ่อนโยน นางพบเขาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ตอนนั้นนางประสบอุบัติเหตุ และได้มารุตช่วยดูแล มาร์ธาประทับใจความถ่อมตัวของอีกฝ่ายมาก จึงชักชวนมาทำงานที่โรงพยาบาลด้วย และตอนนั้นเองมันทำให้เขาได้พบกับเมลานีผู้เป็นน้องสาว ถึงทำให้รู้ว่านางทำผิดมหันต์ นางไม่น่าชวนเขามาเลย จนเปิดโอกาสให้ทั้งสองมีความใกล้ชิดสนิทสนมกัน เมลานีผู้แสนดีและอ่อนหวาน ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูดีไปหมด เหมือนใครๆ ก็ปลื้มเธอเสียเหลือเกิน มีแต่นางเท่านั้นที่เห็นว่าจริงๆ เมลานีก็แค่ผู้หญิงเจ้ามารยา
“ฉันจะกลับแล้ว” นางเดินไปหาสามีและบอกห้วนๆ
“เดี๋ยวสิ เราน่าจะอยู่ต่ออีกหน่อย ให้เกียรติเจ้าของงานเขานะ” นายโรเบิร์ตเดินตามภรรยาออกมา
“ฉันก็มาร่วมงานแล้วไง นี่ยังไม่ถือว่าเป็นการให้เกียรติอีกหรือ ฉันยอมเสียเวลาอันมีค่ามาก็ดีเท่าไหร่แล้ว”
“ผมรู้คุณผิดหวังที่ไม่ใช่มิลล่า แต่ยังไงเขาก็แต่งงานกันแล้ว ช่วยยินดีกับเขาหน่อย”
“แต่งได้ ก็หย่าได้ ใครจะไปรู้ ใช่ไหม” นางทำเหมือนไม่สนใจ และพยายามจะแช่งให้มีรอยร้าวในเร็ววันอีกด้วย ใครจะยินดีกับคนทั้งคู่บ้างก็ช่าง แต่มีนางคนหนึ่งแหล่ะ ที่มองยังไงสองคนนี้ก็ไม่เข้ากัน
ด้านมิลล่าเมื่อเห็นนางมาร์ธากลับ เธอจึงไม่อยากอยู่ต่ออีก เท่านี้เธอก็ฝืนใจจะแย่แล้ว ลุกซ์ช่างตาถั่วจริงๆ ที่ไม่เลือกเธอ มิลล่าเดินดุ่มๆ ออกมา มือก็ควานหากุญแจรถในกระเป๋า จู่ๆ เธอก็ชนใครบางคนเข้า หญิงสาวที่อยู่ในอารมณ์หงุดหงิดอยู่แล้ว จึงไม่คิดว่าตนผิด ยังไปโทษอีกฝ่ายแทน
“นี่คุณเดินยังไง ไม่มีตารึไง เห็นไหมฉันเกือบล้ม”
“คุณเป็นคนชนผมนะ” อีกฝ่ายโต้กลับมา
“ก็นั่นแหล่ะ ไม่เห็นรึไงว่าฉันเดินมา ทำไมไม่หลบ”
“อ้าว ทำไมมาโทษผมล่ะ คุณเดินไม่ดูเอง” เขาไม่คิดว่าจะถูกเธอพาลเอาดื้อๆ
“ช่างเถอะ หลีกไปให้พ้น อย่ามาเกะกะ”
“อะไรวะ หน้าตาก็ดี ทำตัวไม่น่ารักเลย” เจอริโคบ่นอย่างหัวเสียแล้วกลับเข้าในงาน ก่อนไปสมทบกับลุกซ์ ซึ่งกำลังนั่งดื่มกับเคลวินและมาคัส เจอริโคได้รับเกียรติจากเพื่อนสนิทให้มาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว ตอนได้ยินเพื่อนรักบอกจะแต่งงาน เขาตกใจมาก เพราะมันรวดเร็วอย่างคาดไม่ถึง ไม่คิดว่าลุกซ์จะยอมสละความโสดทิ้งได้ มันช่างเหลือเชื่อและไม่น่าเป็นไปได้ แต่มันก็เป็นไปแล้ว
“หายหัวไปไหนมา หน้ามุ่ยมาเชียว” ลุกซ์เอ่ยเย้า
“ออกไปโทรศัพท์ แต่เจอคนนิสัยไม่ดี”
“ใคร”
“ก็ญาติของเมียแกไง” เขาเล่าให้ฟังจนจบ ลุกซ์เลยหัวเราะ
“อย่าไปถือเลยน่า เธอคงอารมณ์ไม่ดีมั้ง” ลุกซ์ช่วยไกล่เกลี่ยแทน เจอริโคเองก็ไม่อยากถือสาเหมือนกัน เพียงแค่คิดว่าเธอน่าจะพูดกับเขาให้ดีกว่านี้หน่อย แต่ก็อย่างว่า ญาติทางฝ่ายของหมอมธุรินดูไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมกับงานนี้เท่าไหร่นัก จะมีก็แต่หมอไมเคิลเท่านั้นที่แสดงความยินดีอย่างจริงใจ และตอนนี้เขาพาเจ้าสาวของลุกซ์ออกไปเต้นรำอยู่
“ฉันไม่ค่อยอยากเชื่อเลยนะลุกซ์ ว่าแกจะยอมมีเมียเป็นตัวเป็นตน”
“แกคงไม่คิดว่าฉันจะอยู่คนเดียวไปจนตายหรอกนะ”
“แต่นี่มันไม่ใช่แกเลย ที่แต่งไม่ใช่เพราะกลัวคุณย่ารึ”
“มันก็ส่วนหนึ่งแหล่ะ ถ้าต้องอยู่กับคนที่ไม่ชอบ สู้ฉันเลือกเองดีกว่า”
“อันนี้เข้าใจว่ะ” ก็เขาเพิ่งเจอมาหยกๆ คุณหนูเอาแต่ใจอย่างนั้น เป็นเขาก็คงถอยเหมือนกัน “อย่างนี้แกก็คงปาร์ตี้อย่างเดิมไม่ได้แล้วสิ”
“คงงั้น บางทีฉันก็เบื่อชีวิตเดิมๆ มีเมียมันก็ไม่ได้เลวร้ายนี่” หากเป็นเมื่อก่อน เขาคิดว่าเรื่องนี้คงเป็นไปไม่ได้ ที่ตนจะยอมทิ้งอิสระ แต่หลังจากที่เห็นเคลวินมีความสุขกับชีวิตคู่ดี ก็คิดว่าถ้าเขาจะมีบ้างมันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก หากแต่พอเจอริโคได้ยินกลับไม่ค่อยอยากเชื่อหู นั่นเพราะเพื่อนซี้คนนี้ของเขาไม่ชอบที่จะถูกผูกมัด
“ไม่ทันไรเลยเพื่อนฉัน มีเมียไม่ทันข้ามวัน ความคิดแกเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ”
“ตอนนี้นายอาจจะยังไม่เข้าใจเจอรี่ แต่ถ้านายเจอคนที่ใช่ นายจะพบว่าตัวเองสามารถเปลี่ยนได้มากกว่านี้อีก” เคลวินเสริมขึ้นอีกคน เขาเป็นคนเดียวที่ไม่แปลกใจกับเรื่องนี้ ในฐานะที่เขาผ่านเรื่องแบบนี้มาก่อนจึงได้เข้าใจ ลุกซ์กับหมอมธุรินเพิ่งจะเริ่มต้น เขารู้ว่าตอนนี้ความรักมันยังไม่ได้เกิดขึ้น แต่มันก็เริ่มจากความรู้สึกดีๆ อีกไม่นานทั้งสองก็จะได้เรียนรู้และเข้าใจกันได้ในที่สุด “ฉันต้องขอตัวก่อน จะพาลินนากลับไปพักผ่อน”
“ไปเถอะ” ลุกซ์พยักหน้ารับอย่างเข้าใจพี่ชาย เคลวิลกับลินนาอยู่ดึกไม่ได้ ด้วยตอนนี้พี่สะใภ้ตั้งท้องได้หลายเดือนแล้ว จึงไม่แปลกที่เคลวินจะเอาใจใส่ภรรยามากกว่าปรกติ
“เห่อจังเลย” มาคัสพูดลอยๆ คล้ายจะหมั่นไส้อยู่ในที มองพี่ชายที่เดินไปหาภรรยา
“ทำไม แกอิจฉารึ” ลุกซ์แกล้งแหย่น้องชายเล่น
“หึ ตลก...ฉันนี่รึจะอิจฉา” คนเป็นน้องหัวเราะเสียงต่ำ และยังกระดกเข้าปากเฉย
“ก็ในบรรดาเราสามพี่น้อง เหลือแต่แกคนเดียวแล้วตอนนี้ ระวังตัวไว้แล้วกัน คุณย่ารู้จักคนเยอะ อาจจะมีลูกสาวของใครที่ถูกใจเข้าก็ได้นะ”
“พูดเป็นเล่นน่า” มาคัสขำด้วยไม่ออก ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมนางลูซินดาถึงต้องห่วงเรื่องนี้นัก ถึงไม่มีเมียเขาว่าก็คงไม่ตายหรอก
“ถ้าฉันเป็นนายนะมาร์ค จะรีบหาเมียเตรียมไว้อย่างด่วนเลย” เจอริโคว่า และยังพูดให้มาคัสเสียวสันหลังต่ออีก ยกแขนโอบไหล่ “ฉันช่วยเอาไหมล่ะ”
“ไม่ต้อง” เรื่องแบบนี้ไม่เห็นจำเป็นต้องช่วย เขาหาเองได้ ไว้จวนตัวเมื่อไหร่คิดดีกว่า
เวลาต่อมา หลังจากฉลองอย่างเต็มที่ ลุกซ์กับหมอมธุรินได้กลับขึ้นมาพักผ่อน ชายหนุ่มยืนอมยิ้มมองภรรยา เขาเห็นเธอพยายามถอดชุดนั่นตั้งแต่เขาเข้าไปอาบน้ำ จนออกมาเธอยังถอดมันไม่ได้เลย
“ซิบมันติดน่ะ” เขาบอกเธอ
“ฉันรู้ค่ะ” เธอเอื้อมมือไปด้านหลัง แกะซิบเจ้าปัญหาก็ยังไม่ออกอยู่ดี กระนั้นก็ยังไม่ยอมขอความช่วยเหลือจากเขา ลุกซ์รอดูอยู่อึดใจจึงพูดขึ้น
“มันยากนักเหรอ ถ้าจะเอ่ยปากขอให้สามีช่วยรูดซิบให้ หรือว่าคุณไม่ไว้ใจผม”
“เปล่าค่ะ” หญิงสาวรีบบอก เธอไม่ได้คิดอย่างนั้น เพียงแค่ชินกับการช่วยเหลือตัวเองมาตลอด เรื่องแบบนี้ไม่เคยมีใครมาช่วยนี่ เธอเหลือบไปมองเขาที่มีสีหน้าขึงขัง คิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นจึงรวบปอยผมเบี่ยงไปด้าน แล้วหันหลังให้ชายหนุ่ม “ช่วยหน่อยค่ะ”
ลุกซ์ยิ้ม ก็แค่แหย่เธอเล่นเท่านั้น แต่ก็รู้สึกดีที่เธอยอมขอให้เขาช่วย และเขาก็รีบทำตามความต้องการของเธอ เขาแกะตรงที่มันติดออกค่อยรูดลงเบาๆ ลงไปสุดที่บั้นท้ายงอนสวย ลุกซ์ไม่ได้ช่วยแค่รูดซิบ แต่เขาถือวิสาสะถอดชุดเจ้าสาวลายลูกไม้ออกให้ แขนยาวซีทรูสีเนื้อถูกรูดไปจนสุดปลายแขนทั้งสองข้าง ชายหนุ่มประกบฝ่ามือที่เอวเล็ก ดึงชุดทั้งชุดลงไปกองที่พื้น เมื่อแตะแล้วก็อดไม่ได้ที่ลูบไล้ผิวเนียน เหมือนตอนนี้ตัวเธอทั้งตัวกำลังร้อนจัด เธอไม่ได้คัดค้านที่ถูกเขาคลอเคลีย หน้าท้องแบนสวยเกร็งจากการที่เธอพยายามควบคุมจังหวะลมหายใจ ลมร้อนรินรดไหล่นุ่ม ลุกซ์ลากริมฝีฝากขึ้นมาตามลำคอ เสียงครางต่ำบอกให้รู้ถึงความพอใจในกลิ่นหอมเนื้อนวลของภรรยาสาว มันยากที่จะต้านทานความปรารถนาของตน ไม่ให้ล่วงเกินเธอตามที่สัญญาเอาไว้ เขาอยากสัมผัสสรีระอันงดงามให้มากกว่านี้ แต่ก็ต้องข่มใจ ก่อนกระซิบลมร้อนที่ริมใบหู
“ผมสัญญาว่าจะไม่แตะต้องคุณจนกว่าคุณจะพร้อม ผมจะรักษาสัญญา” เขายอมผละออกทั้งที่ใจต้องการเธอเป็นอย่างมาก แล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า หยิบเอาเสื้อคลุมผ้าแพรบางเบามาสวมให้เธอ
“ไปอาบน้ำเถอะ จะได้พักผ่อน”
หมอสาวเหมือนจะมึนงงไปชั่วขณะ เธอเรียบเรียงความรู้สึกที่หมุนวนนี้ไม่ถูกเลย หญิงสาวก้าวขาออกจากกองชุด แล้วหอบมันขึ้น เอาไปวางที่เก้าอี้ เข้าไปอาบน้ำอย่างมึนๆ
ลุกซ์กลับมานอนที่เตียง ผ่อนลมหายใจยาวๆ ระบายความอัดอั้นที่แน่นอก ไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะต้องทน กระนั้นก็ต้องหักห้ามใจให้ได้ เขาอยากให้เธอรู้สึกดีกับเขากว่านี้ก่อน แม้ตอนนี้เขาจะมีสถานะเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของเธอแล้วก็ตาม แต่เขาก็ไม่จำเป็นต้องรีบนี่ พรุ่งนี้การสละโสดของเขาจะต้องเป็นข่าวดังแน่นอน
และก็เป็นเช่นนั้นจริง นิตยสารทุกฉบับรวมทั้งหนังสือพิมพ์ทุกสำนัก ตีพิมพ์ข่าวการแต่งงานอย่างครึกโครม และข่าวนี้ก็ลอยไปถึงอีกคนด้วยเช่นกัน ชายหนุ่มนั่งอ่านนิตยสารธุรกิจอย่างสนใจ ซึ่งมีคอลัมหนึ่งตีพิมพ์ข่าวของเจ้าของนิตยสารหนุ่มด้วย แน่ล่ะเขาเป็นเพลย์บอยคนดัง ในแวดวงธุรกิจใครก็รู้จักดี แต่ที่ทำให้ชายหนุ่มสนใจหาใช่เพลย์บอยเจ้าเสน่ห์ที่เพิ่งสละโสดไปหมาดๆ คนนี้ แต่เป็นอดีตคนรักที่ไม่ติดต่อกันนานแล้ว การได้รับรู้ข่าวของเธอทำให้คอลินประหลาดใจ นั่นเพราะเขารู้จักหญิงสาวเป็นอย่างดี ไม่คิดว่ามธุรินจะเลือกชายคนที่ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าชู้แบบนี้มาเป็นสามี เวลาผ่านไปนาน เธอยังคงสวยหวานเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ที่จริงเขาเกือบลืมเธอไปแล้ว กระทั่งได้เห็นข่าวเธอวันนี้ ความรู้สึกที่จบไปนานเหมือนถูกกระตุ้น มันเป็นความเสียดายเล็กๆ ที่วันนี้เธอเป็นของคนอื่นไปแล้ว
ความคิดเห็น