ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์ร้ายจอมบงการ(ซีรีย์ชุดบ่วงร้ายบงการรัก)

    ลำดับตอนที่ #7 : เล่ห์ร้าย 7

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 59








     






    Im Jinah -- Nana:




     

    “เป็นแบบนี้ได้ยังไงกันคะคุณป้า ทำไมถึงกลายเป็นยายนั่นไปได้คะ” มิลล่าอารมณ์เสียอย่างหนัก เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่คิด เธอคิดว่านางลูซินดาเลือกตนแน่แล้ว แต่กลับผิดคาดอย่างไม่น่าเชื่อ

    “ป้าก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าคุณลูซินดาจะทำแบบนี้ ไม่ไว้หน้ากันชัดๆ” นางไม่พอใจนางลูซินดามาก ถึงไม่เคยพูดคุยกันอย่างจริงจัง แต่อีกฝ่ายน่าจะรู้นี่นาว่านางหวังให้เป็นมิลล่ามากกว่า

    “หนูไม่ยอมนะคะ ถ้าจะต้องแพ้ยายหมอนั่นน่ะ”

    “ไม่ยอม แล้วจะทำอะไรได้ เมื่อคนที่เขาเลือกไม่ใช่เธอ ยอมรับความจริงเถอะน่า” หมอไมเคิลพูดแทรก ชี้ให้เห็นความจริงที่เธอต้องยอมรับมัน

    “ไมค์ ถ้าไม่ให้กำลังใจ ก็อย่าทำให้รู้สึกแย่สิ ฉันเป็นน้องพี่นะ แต่กลับไปเข้าข้างมัน”

    “มารีก็เช่นกัน เธอทั้งสองคนก็เป็นน้องพี่เหมือนกันนั่นแหล่ะ พี่จะไม่เข้าข้างใครหรอก เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่คนกลาง เมื่อเขาชอบพอกัน เราจะไปห้ามเขาได้หรือ”

    “ไมค์! ทำไมพี่พูดแบบนี้ ฉันโกรธแล้วนะ คอยดูเถอะ ฉันจะไม่พูดกับพี่อีกเลย” ว่าจบ มิลล่าก็เดินฮึดฮัดออกไป หมอหนุ่มส่ายหน้าอย่างละเหี่ยใจ และตามไปอีกคน เหลือสองสามีภรรยาอยู่กันตามลำพัง นายโรเบิร์ตไม่มีความคิดเห็นใดๆ จึงนั่งอ่านหนังสือพิมพ์เงียบ จนนางมาร์ธาทนความเฉยเมยของสามีไม่ไหว

    “คุณไม่คิดจะทำอะไรบ้างหรือ”

    “จะให้ผมทำอะไรล่ะ ก็คุณลูซินดาเธอตัดสินใจแล้ว”

    “แล้วยังไง หรือจะยอมให้สองคนนั่นแต่งงานกันฮึ หากว่าเป็นแบบนั้น ก็เท่ากับยายเด็กนั่นจะได้เข้ามาเป็นหุ้นส่วนในโรงพยาบาลน่ะสิ ฉันไม่ยอมหรอก”

    “มาร์ธา คุณก็อย่าตั้งแง่กับมารีเลย จริงๆ แล้วเธอก็มีสิทธิ์เหมือนกับเรานะ เธอเป็นทายาทของเมลานี”

    “ไม่! มันไม่มีมาตั้งนานแล้ว คุณลืมไปแล้วรึไง ว่าคุณพ่อตัดมันไปนานแล้ว ฉันไม่มีทางอยู่เฉยให้มันมาเหยียบหน้าฉันหรอก”

    “ผมขอเตือนนะ อย่าคิดทำอะไรเด็ดขาด” นายโรเบิร์ตปรามภรรยาอย่างไม่ไว้ใจ

    “คิดว่าฉันจะทำอะไรฮึ สองแม่ลูกนั่นไม่มีสิทธิ์อะไรในโรงพยาบาลอีกแล้ว”

    “มีหรือไม่ คุณรู้ดีกว่าใคร ที่ผมเงียบมาตลอด แต่ก็ไม่ได้โง่นะ คุณทำอะไรไว้ผมรู้หมด ที่ไม่พูดเพราะเห็นแก่ลูก อย่าให้ผมต้องเสียใจที่ทำแบบนี้ พอเสียทีเถอะมาร์ธา คุณใจร้ายกับเมลานีมามากแล้ว ปล่อยวางเสียบ้างเถอะ”

    นางมาร์ธาพูดไม่ออกไปชั่วขณะ แต่ถึงเขาจะรู้ก็คงไม่กล้าพูดอะไรหรอก ฉะนั้นนางจึงไม่กังวลอะไรกับสามีตน แต่เป็นหมอมธุรินต่างหากล่ะ หมดแม่ไปแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะต้องมาปวดหัวกับลูกอีก

     

     หญิงสาวยืนสงบนิ่งอยู่ภายในสุสาน ซึ่งแต่งแต้มไปด้วยสีเขียวขจีของผืนหญ้า มันได้รับการตกแต่งอย่างสวย สงบและร่มเย็น เป็นที่พำนักสุดท้ายของบุคคลที่จากไป หมอมธุรินวางดอกไม้สีขาวที่นำมา ลงไปบนป้ายหลุมศพทำจากหินอ่อน สลักด้วยตัวอักษรสีทอง เพื่อระลึกถึงแม่ผู้ให้กำเนิด ตอนนี้ได้พักผ่อนอย่างสงบแล้ว ใกล้ๆ กันนั้นมีชายวัยกลางคน ผู้มีใบหน้าแบบเดียวกับหญิงสาว ผิวเข้มคมขำ ดวงตาใต้กรอบแว่นตา ทอดลงมองอย่างอาลัย แม้คู่ชีวิตจะจากไปไม่มีวันหวนกลับ แต่เธอก็ยังคงอยู่ในใจเขาเสมอ หากมีเวลา เขามักจะมาที่นี่อยู่เป็นประจำไม่เคยขาด

    “ลูกไปทำงานที่นั่นจนได้สินะ” เขาเอ่ยถามบุตรสาวหลังจากที่เงียบเพื่อไว้อาลัยเสร็จ น้ำเสียงแม้จะเรียบ แต่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง นั่นเพราะนายมารุตไม่อยากบุตรสาวไปทำงานที่นั่นเลย แต่ไม่ว่าจะห้ามอย่างไร เธอก็ไม่ฟัง

    “ค่ะ”

    “คุณเฮนริคสบายดีใช่ไหม”

    “ก็ ท่านมีโรคประจำตัวอยู่ แต่เท่าที่ดูก็ยังสบายดีอยู่ค่ะ”

    “แล้วเรื่องโรงพยาบาลนั่น ลูกจะเอายังไง” ก่อนมา หมอมธุรินโทรมาเล่าให้ฟังแล้ว

    “ไม่รู้สิคะ หนูควรทำไงดี”

    “ถ้าถามพ่อ พ่อก็ไม่อยากให้เราไปยุ่งกับที่นั่นอีก แต่ก็รู้พ่อคงห้ามไม่ได้ หากยืนยันจะทำ ก็ต้องระวังตัวนะ ที่นั่นไม่ปลอดภัย” มันอดห่วงไม่ได้ รู้ว่าตอนนั้นเมลานีเจอหนักแค่ไหน และเขาก็ไม่อยากให้ลูกสาวต้องเจอแบบเดียวกันอีก

    “มันเป็นทางเดียวที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพ่อกับแม่ได้ หนูไม่อยากให้แม่ต้องมีมลทินติดตัว”

    “แต่เรื่องมันนานมาแล้ว อาจไม่มีหลักฐานอะไรเหลือแล้วนะ”

    “หนูขอลองดูก่อนนะคะ หากถึงวันนั้น แล้วไม่มีอะไรเหลือจริง หนูจะออกมาค่ะ” เธอให้คำสัญญา อย่างน้อยก็อยากจะพยายามดู “พ่อไม่ต้องห่วงนะคะ หนูจะดูแลตัวเองให้ดี” เธอบอกให้พ่อวางใจ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องกังวลกับเธอ

    ในเวลาต่อมา หมอมธุรินกลับมายังที่พัก เพราะวันนี้เป็นวันหยุด เธอเลยปิดโทรศัพท์ไม่ต้องการให้ใครมารบกวน พอเปิดเครื่องเท่านั้นแหล่ะ มีข้อความมาเป็นสิบๆ ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นของลุกซ์ เขาคงพยายามโทรหาเธอทั้งวัน เธอเหนื่อยหน่ายใจที่โดนชายหนุ่มตามตื้อไม่เลิก นี่เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เธอลังเลใจ ใจจริงแล้วเธอไม่ได้เกลียดเขา แต่ถ้าจะให้วางใจไว้กับเพลย์บอยเจ้าเสน่ห์แบบเขา ก็คงยาก หญิงสาวไม่คิดว่าเขาจะเปลี่ยนได้ และตนก็ไม่อยากเสียใจ จึงไม่ยอมเปิดรับเขา

    เธอเข้าไปอาบน้ำชำระกาย นอนแช่น้ำอุ่นในอ่างอยู่เป็นนาน หอพักแห่งนี้อยู่ใกล้กับโรงพยาบาล เธอจึงเลือกมาเช่าพัก มันเป็นหอพักเล็กๆ ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่าน ถึงไม่หรูหรา แต่เงียบสงบ หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า เสียงโทรทัศน์ดังมาจากห้องนั่งเล่น ฟังข่าวรายงานสภาพอากาศไปพลาง หญิงสาวก็หยิบชุดนอนออกมา ตอนนั้นเองเธอเหลือบไปที่ระเบียงห้องนอน ประตูมันแง้มออกนิดหนึ่ง หญิงสาวนิ่วหน้า จำได้ว่ากลับมาเธอยังไม่ไปเปิดประตูนั่นเลย พอลดสายตาลง ถึงได้เห็นว่ามันมีรอยงัดแงะอยู่ที่ขอบประตู ช่วงเวลานั้นเองจู่ๆ ก็มีใครบางคนเข้ามาประชิด ด้วยความตกใจ เธอกรีดเสียงร้องจะขอความช่วย แต่ถูกมือหยาบตะปบปากเข้าก่อน

    “ช่วยอื้อ

    “อย่าส่งเสียง ไม่งั้นเจ็บตัวแน่”








    .............................................................................................................................


    ช่วงนี้เครียดไปนิดนะคะ แต่หลังจากนี้จะผ่อนลงแล้วค่ะ อ่านแล้วอย่าลืมเม้นโหวต เป็นกำลังใจคนเขียนด้วยนะคะ อ่านให้สนุกค่ะ


     





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×