คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เล่ห์ร้าย 5
ร่างสูงสมาร์ทก้าวเข้ามาภายในออฟฟิศ โดยมีเลขาสาวรายงานยอดเรตติ้งของนิตยสารฉบับล่าสุด ซึ่งเป็นที่น่าพอใจสำหรับชายหนุ่มเป็นอย่างมาก นิตยสารฉบับใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นานกำลังไปได้สวย กราฟพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์เลยทีเดียว ในขณะที่บริษัทกำลังรุ่ง ชีวิตส่วนตัวของลุกซ์เองก็ฮอตไม่แพ้กัน มีหลายคนที่จับตาชีวิตส่วนตัวของหนุ่มเนื้อหอม แน่นอนว่ามีดอกไม้งามมายืนรอต่อแถวเพื่อเป็นตัวเลือกให้กับเขา กระนั้นกลับไม่มีดอกไหนดึงความสนใจเขา เพราะดอกที่เขาหมายตากลับเมินเฉยต่อเสน่ห์อันเร้าใจ และนั่นก็กลายเป็นสิ่งยั่วยวนใจให้อยากจะเด็ดดม เขาจึงพยายามหาจุดบกพร่องเพื่อที่จะได้มีช่องทางเข้าหา ยังไม่รวมที่ว่า พื้นที่ของความโสดถูกนางลูซินดาผู้เป็นย่า บีบให้เหลือน้อยลงเรื่อยๆ มันจึงเป็นช่วงเวลาคับขัน เขาต้องหาใครสักคนมารับบทนี้ ก่อนที่นางจะยัดเหยียดมิลล่ามาให้ หลังจากที่พูดคุยกันครั้งก่อน ก็ยังไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติม แม้นางบอกว่าจะเก็บเรื่องที่เขาเสนอหมอมธุรินเอาไปคิด แต่นางก็ยังเงียบอยู่ จากคิดเล่นๆ ชายหนุ่มเริ่มจริงจังขึ้นมาเสียแล้ว
“ดิฉันสรุปยอดของสัปดาห์ที่แล้วเรียบร้อย ผลออกมาว่ามียอดเรตติ้งเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนห้าเปอร์เซ็นค่ะ”
“เยี่ยมเลย แล้วของฉบับหน้าใกล้เสร็จรึยัง”
“ใกล้แล้วค่ะ น่าจะอีกสองวัน”
ลุกซ์พยักหน้ารับ และเข้าไปยังห้องทำงาน ซึ่งในนั้นมีชายหนุ่มยืนรออยู่แล้ว อีกฝ่ายเพิ่งจะกลับมา หลังจากที่ลุกซ์ส่งไปทำงานชิ้นหนึ่ง
“ว่าไง ได้อะไรมาบ้าง” ลุกซ์เดินไปนั่งที่โต๊ะทำงาน
“ข้อมูลทั้งหมดที่คุณอยากได้ อยู่ในนี้ครับ” ชายหนุ่มยืนแฟ้มสีดำให้เจ้านายหนุ่ม
ในฐานะนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่ง เป็นถนนทุกสายย่อมมีคู่แข่ง เขาจึงจำเป็นที่จะต้องรู้จักฝ่ายตรงข้ามเสมอ หลักการนี้ใช้ได้กับทุกกรณี แม้อีกฝ่ายจะไม่ใช้ศัตรูก็ตาม เรื่องราวของหมอมธุรินเป็นที่สนใจของเขามาก ครอบครัวของเขารู้จักนายเฮนริคมานาน แต่ไม่เคยเข้าไปก้าวก่ายเรื่องภายในของอีกฝ่าย เขาเองเคยพบนายเฮนริคเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น แต่วันนี้เขาเกิดไปถูกใจหลานสาวอีกฝ่ายเข้า จึงอยากรู้ไปหมดทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน ซึ่งมันก็ไม่ได้มีข้อมูลอะไรมาก คิดว่าอีกฝ่ายคงเก็บหลักฐานทุกอย่างไว้ เพื่อไม่ให้เรื่องอื้อฉาวเล็ดลอดออกมา
พอได้อ่าน ลุกซ์รู้สึกว่ามีหลายอย่างที่คลุมเครือ เพราะมันเป็นเรื่องของคนภายใน จึงตกลงกันเองโดยไม่มีคดีความ และเพราะอย่างนี้ข้อกล่าวหาของสองสามีภรรยาจึงไม่มีการตรวจสอบอย่างถูกต้อง ซึ่งลุกซ์เห็นว่ามันไม่ยุติธรรม บางทีถ้าเขาเป็นทำเรื่องนี้ให้มันกระจ่าง อาจจะได้รับความไว้วางใจจากหมอสาว เขารู้มันเป็นเรื่องภายในครอบครัว คนนอกไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่ถ้าวันหนึ่งเขาได้ไปเป็นคนในล่ะ แน่นอนเขาย่อมมีสิทธิ์ เมื่อเขาดูประวัติของโรงพยาบาลอย่างละเอียด พบว่ากำลังประสบปัญหาอยู่ มิน่าล่ะ นางมาร์ธาถึงอยากจะยัดเหยียดหลานสาวให้เขานัก พักหลังนางจะมีความสนิทสนมกับนางลูซินดามากเป็นพิเศษ ติดปัญหาอยู่แค่ว่า เขาไม่ถูกใจหลานสาวคนที่นางเสนอให้ แต่เขาพอใจอีกคนมากกว่าน่ะสิ เขาคงต้องไปกระตุ้นนางลูซินดา ให้ลงมือทำอะไรเสียทีแล้ว
ภายในห้องนั่งเล่น มีชายชราใบหน้าอิดโรย นั่งพักผ่อนอยู่บนเก้าอี้โยกบริเวณริมหน้าต่าง สังขารร่วงโรยด้วยวัยที่ชรามากแล้ว นัยน์ตาดุเข้มล้อมกรอบด้วยริ้วรอยแห่งวัยผ่อนลงอย่างเหนื่อยหน่าย เมื่อนั่งฟังบุตรสาวคนโตปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจของครอบครัว
“ช่วงนี้โรงพยาบาลกำลังแย่นะคะ เราขาดทุนมาหลายเดือนแล้ว คนไข้ที่มาใช้บริการก็น้อยลงกว่าแต่ก่อนมาก เพราะช่วงก่อนมีคนไข้ร้องเรียนว่าโรงพยาบาลเราไม่ได้มาตรฐาน ไม่ใช่ความผิดของโรงพยาบาลเราสักหน่อย เป็นที่ตัวคนไข้เองต่างหากที่เรื่องมาก แต่ก็นั่นแหล่ะ มันทำให้เราเสียชื่อ จนตอนนี้ความไว้วางใจถูกบั่นทอนลงไปมาก ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เราต้องแย่แน่ค่ะ หนูว่าเราต้องหาคนช่วย” นางมาร์ธาเกริ่นนำ
“ช่วยยังไง โดยการเอาคนของเราไปยัดเหยียดให้เขารึ” เสียงแหบแห้งเอ่ยถามห้วนๆ
“แต่มันเป็นทางเดียวนี่คะ อีกอย่างคุณลูซินดาก็เคยเสนอว่าจะช่วย นางชอบมิลล่าออก” นางโน้มน้าวผู้เป็นพ่อให้เห็นด้วยกับเรื่องนี้ หลายครั้งที่หยิบยกข้อนี้ขึ้นมา แต่นายเฮนริคก็ยังยืนยันหัวแข็งไม่ยอมเห็นด้วย เพราะเป็นคนหยิ่งในศักดิ์ศรี แม้สถานการณ์จะไม่สู้ดี ก็ยอมไม่ยอมออกปากขอความช่วยเหลือจากใคร แม้คนๆ นั้นจะเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ก็ตามที
“แล้วเจ้าตัวเขาชอบด้วยรึเปล่าล่ะ อย่าทำให้ตัวเองต้องขายหน้าเลยน่า หากว่าเขามีใจชอบพอจริง เดี๋ยวเขาก็มาเอง เราไม่สิ้นไร้ไม้ตอกขนาดต้องเอาตัวเองไปเร่ขาย” เสียงคนแก่บอกปัดอย่างดื้อดึง
“คุณพ่อคิดว่านี่มันยังไม่แย่อีกรึคะ เราเป็นหนี้ธนาคารตั้งเท่าไหร่”
“ก็ถ้าแกรู้จักประมาณตัวบ้าง เราก็คงไม่มีหนี้ท่วมหัวขนาดนี้หรอก ฉันไม่น่าปล่อยให้แกบริหารงานเลย นี่ถ้าเป็นเม...” นายเฮนริคเกือบเผลอพูดชื่ออีกคน นางมาร์ธาเลยตวัดสายตามองผู้เป็นพ่อ ถึงปากไม่พูด แต่นางรู้ว่านายเฮนริคต้องเอานางไปเปรียบเทียบกับน้องสาวแน่
“จะพูดถึงเมลานีใช่ไหมคะ นังคนอกตัญญูนั่น คุณพ่อคิดหรือว่ามันจะทำได้ดีกว่าหนู จำสิ่งที่มันทำไม่ได้หรือคะ” นางมาร์ธาพูดตอกย้ำเรื่องเก่า
“ฉันจำได้ และฉันไม่อยากพูดถึง” นายเฮนริคเข่นฟันพูด หลายปีที่ไม่เคยพูดถึงบุตรสาวคนรอง ทำเหมือนว่าเธอไม่มีตัวตน แม้กระนั้นหลายปีผ่านมา หลายอย่างก็ค่อยสลายไป แต่เพราะความรั้นในตัวจึงไม่ยอมติดต่อไปหาอีกฝ่าย ใช่ว่าเขาจะไม่เสียใจ ตอนที่รู้ข่าวว่าเมลานีป่วยและตายไปในที่สุด ช่วงนั้นมันทำให้นายเฮนริคเศร้าใจมาก ถึงอีกฝ่ายจะทำอะไรไว้บ้างก็ตาม แต่สายเลือดก็ตัดไม่ขาดอยู่ดี
“ดีค่ะ ที่ไม่ลืม จะได้ไม่ใจอ่อนอีก ส่วนเรื่องลุกซ์”
“ฉันยืนยันคำเดิมนะมาร์ธา เราจะไม่คุยเรื่องนี้กันอีก ออกไปได้แล้ว” เขาไม่ฟังเหตุผลสารพัดที่นางจะยกมาอ้าง เพราะไม่ว่ายังไงก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีของนางอย่างเด็ดขาด
“ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย โรงพยาบาลของเราจะถูกปิด คุณพ่ออยากให้เป็นแบบนั้นหรือคะ”
“ออกไป!”
นางมาร์ธาจำเป็นต้องเดินอารมณ์เสียออกมา ถ้าหากนายเฮนริคช่วยออกหน้า มันอาจจะง่ายกว่านี้ ด้วยเพราะทางนั้นจะต้องเกรงใจเขาแน่ แต่ความหยิ่งทะนงของผู้เป็นพ่อกลายเป็นอุปสรรค คราแรกมั่นใจว่านางลูซินดาต้องเห็นด้วยแน่ที่จะให้ลุกซ์แต่งงานกับมิลล่า ทว่าตอนนี้มีมธุรินเข้ามา นางเลยไม่แน่ใจ โดยเฉพาะฝ่ายชายหนุ่มนั้นมีท่าทางสนอกสนใจเธอด้วย เพราะผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อน ถึงได้ดูออกว่าลุกซ์พอใจหมอธุรินไม่น้อย หากนางอยู่เฉย มันอาจจะสายเกินไป
นางมาร์ธาจะกลับขึ้นไปพักผ่อนบนห้อง แต่ได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาก่อน จึงได้หยุดอยู่ที่บันได รอจนคนรับใช้เดินเข้ามารายงาน
“ใครมารึ”
“คุณลูซินดาค่ะ เธอมาเยี่ยมคุณท่าน”
พอได้ยินเช่นนั้น นางหูผึ่งทันทีและรีบถามหาหลานสาวสุดที่รัก
“งั้นหรือ ว่าแต่ เธอเห็นมิลล่าไหม” เช้านี้อีกฝ่ายไม่ได้ลงมารับประทานอาหาร
“ยังไม่ตื่นค่ะ”
“อะไรกัน สายป่านนี้แล้ว แย่จริงแม่คนนี้ เมื่อคืนคงกลับดึกล่ะสิท่า” รู้ว่ามิลล่านั้นสายปาร์ตี้ตัวยง ซึ่งเรื่องนี้อาจทำให้นางลูซินดาไม่ปลื้ม นางรีบขึ้นไปบนห้อง เพื่อปลุกเธอ
เมื่อขึ้นมาถึง อีกฝ่ายยังนอนคลุมโปงอยู่ที่เตียง นางเดินเข้าไปดึงผ้าห่มออก มิลล่ายังงัวเงียไม่ยอมตื่นอีก
“ตื่นได้แล้วนะมิลล่า จะนอนไปถึงไหน ลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวเร็วเข้า”
“ขอนอนต่ออีกหน่อยเถอะนะคะ เมื่อคืนปาร์ตี้จนดึก เพลียมากเลยค่ะ”
“ไม่ได้นะ ลุกเร็ว ต่อไปนี้แกจะต้องลดปาร์ตี้พวกนี้ลง เปลี่ยนตัวเสียใหม่ ลุกเร็วเข้า คุณลูซินดามา แกต้องลงไปรับนางนะเข้าใจไหม” นางดึงแขนอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น แต่พอได้ยินชื่อแขก เธอก็เด้งตัวขึ้นมาอัตโนมัติ
“คุณลูซินดามาเหรอคะ แล้วลุกซ์มารึเปล่า”
“ไม่ได้มา”
“ว้า งั้นหนูไม่ลงไปหรอกค่ะ” มิลล่าล้มตัวลงนอนต่อ
“มิลล่า เธอต้องลงไป ต้องทำตัวดีๆ นะ เข้าใจไหม คุณลูซินดาจะได้เอ็นดู ต้องรีบทำคะแนนให้มาก ก่อนที่คนอื่นจะคว้าโอกาสทองไป” นางพูดเสียงเข้ม
“ใครค่ะ ยัยหมอนั่นน่ะหรือ ก็ไหนคุณป้าว่าลุกซ์ไม่จริงจังไงคะ”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ วางใจไม่ได้หรอก ผู้หญิงแบบนั้นมันคงร้อยมารยาเหมือนแม่นั่นแหล่ะ” นางไม่เคยพูดถึงอีกฝ่ายในทางที่ดีเลย เพราะเมลานีเป็นคู่อาฆาตที่นางหมายหัวเอาไว้ แม้ตอนนี้อีกฝ่ายจะไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว ก็ยังทิ้งทายาทเอาไว้ให้นางระแวงหลัง นางสะสมความโกรธเกลียดน้องสาวในไส้คนนี้มาหลายเรื่อง และนั่นทำให้นางมองเมลานีเป็นศัตรูมาตลอด และที่ทำให้นางเจ็บใจไม่ลืมคือ เมลานีแย่งชายในดวงใจของนางไป มันคือจุดเริ่มต้นของความแค้นที่นางจะไม่มีวันยกโทษให้อีกฝ่ายเลย และนางจะไม่ให้ลูกสาวของเมลานีสมหวังได้เช่นกัน
ความคิดเห็น