ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์ร้ายจอมบงการ(ซีรีย์ชุดบ่วงร้ายบงการรัก)

    ลำดับตอนที่ #2 : เล่ห์ร้าย 2

    • อัปเดตล่าสุด 29 ต.ค. 59








     




                  Justice Joslin Poses for Simons' Spring 2014 Look Book:


     

     “ขอโทษจริงๆ นะคะคุณหมอ ที่ต้องโทรตาม ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันหยุดของคุณหมอแท้ๆ” พยาบาลสาวบอกอย่างเกรงใจ หลังจากที่หมอมธุรินออกจากห้องตรวจแล้ว วันนี้โรงพยาบาลมีคนไข้เยอะมากจนหมอที่อยู่เวรดูแลคนไข้ไม่ทัน และเพราะมีเคสเร่งด่วน พยาบาลสาวจำเป็นต้องตามเธอมา

    “ไม่เป็นไรคะ ฉันมีนัดตอนเย็นโน่นแน่ะ มีอะไรก็เรียกได้ค่ะ ไม่ต้องเกรงใจ ถือว่าช่วยกัน” หมอสาวยิ้มใจดีให้ หากเป็นเรื่องคนไข้ล่ะ ต่อให้ยุ่งแค่ไหนเธอก็ต้องมาอยู่แล้ว

    “คุณหมอนี่สวยแล้วยังใจดีอีกนะคะ แบบนี้แฟนของคุณหมอคงรักตายเลย” พยาบาลสาวชมเปราะในความเอื้อเฟื้อของเธอ แม้เธอจะย้ายเข้ามาประจำที่นี่ได้ไม่นานนัก แต่เพราะความที่เธอมีอัธยาศัยดี จึงเข้ากับคนง่าย ทั้งหมอและพยาบาลต่างก็ชอบหมอมธุรินกันทุกคน

    “ฉันไม่มีแฟนหรอกค่ะ” หมอสาวแก้ไขความเข้าใจของอีกฝ่าย

    “อ้าวงั้นหรือคะ ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ ว่าสวยแบบคุณหมอ จะยังโสดอยู่อีก แต่ก็อย่างว่า คงยุ่งจนไม่มีเวลาแน่ๆ เลย หมอส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัวกันนัก”

    หมอมธุรินเพียงแค่ยิ้ม เธอไม่ค่อยได้สนใจเรื่องนี้เลย แต่ไม่ใช่ว่าไม่เคยมี เธอเคยมีคนรัก แต่ก็นานมาแล้ว สมัยที่ยังเรียนหมออยู่ เวลาที่ไม่ตรงกันบวกกับทัศนะคติที่แตกต่าง ด้วยอีกฝ่ายรักความก้าวหน้า ต่างจากเธอที่เป็นหมอด้วยเพราะหวังอยากจะช่วยชีวิตคน ฉะนั้นเมื่อมันมีความแตกต่างกันมาก เธอจึงปล่อยเขาไป ส่วนตัวเธอก็หันมาทุ่มเทกับงานที่รักอย่างเต็มที่

    “มารี นึกแล้วว่าต้องเจอเธอที่นี่” หมอหนุ่มเดินยิ้มร่าเข้ามาหา พยาบาลสาวรีบทักทายอย่างนอบน้อม นั่นเพราะอีกฝ่ายเป็นบุตรชายคนเดียวของผู้อำนายการของโรงพยาบาลแห่งนี้ และอีกนัยหนึ่งก็เป็นญาติผู้พี่ของหมอมธุรินด้วย เพียงแต่ว่าเรื่องสัมพันธ์ในครอบครัวนี้ไม่ค่อยมีคนรู้เท่านั้นเอง เขาไม่ได้มาลำพัง แต่มีชายหญิงชายวัยกลางคนมาด้วย และทั้งคู่เป็นผู้ถือหุ้นในโรงพยาบาลนี้ ซึ่งก็คือพ่อกับแม่ของหมอไมเคิลนั้นเอง

    “ฉันไปรอที่รถนะคะคุณ” เสียงของนางมาร์ธาหญิงวัยสี่แปดเอ่ยบอกสามี นางมีท่าทางเย็นชาเมื่อได้พบหมอสาว แม้ว่าหมอมธุรินจะมีสถานะเป็นหลานสาว เพราะแม่ของหมอมธุรินเป็นน้องสาวของนาง หากแต่เวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่น นางมักจะทำเหมือนกับว่าหมอสาวเป็นเพียงคนนอกที่ไม่มีความเกี่ยวพันใดๆ กับตน และหมอมธุรินรู้เหตุผลที่นางทำเช่นนี้ดี เธอจึงปฏิบัติต่อนางเหมือนกับตนเป็นแค่ลูกจ้างคนหนึ่งในโรงพยาบาล ผู้เป็นสามีพยักหน้ารับจึงหันมาคุยกับหมอมธุรินต่อ

    “เป็นไงบ้างเรา ทำงานที่นี่ชินแล้วหรือยัง” นายโรเบิร์ตเอ่ยถามหญิงสาว ถึงภรรยาของเขาจะหมางเมินต่อเธอ เหมือนไม่อยากร่วมวงศาคณาญาติด้วย แต่ยังไงเขาในฐานะลุงเขยก็ต้องวางตัวเป็นกลาง

    “เริ่มชินแล้วค่ะ”

    “อืม ขอบใจนะที่ยอมมาช่วย ตอนไมค์บอกลุงดีใจมากเลย ช่วงนี้โรงพยาบาลเราขาดคนด้วย ว่าแต่พ่อเราล่ะ สบายดีไหม” โรงเบิร์ตถามไปถึงบิดาของเธอ

    “ก็ดีค่ะ คุณพ่อเป็นหมอประจำอยู่ที่โรงพยาบาลเล็กๆ หนูไม่ค่อยได้ไปหา”

    “ดีแล้วดี งั้นลุงไปก่อนนะ” เขาบอกเสร็จก็ปลีกตัวออกไป โดยที่หมอไมเคิลยังอยู่

    “แย่จังนะ วันหยุดก็ไม่ได้หยุด ยังต้องมาทำงานอีก” หมอไมเคิลบอกยิ้มๆ ให้กับญาติสาว

    “ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่คะ อยู่บ้านฉันก็ไม่ได้ทำอะไร มาช่วยที่โรงพยาบาลยังได้ประโยชน์มากกว่า” เธอว่า ไมเคิลเป็นญาติฝ่ายแม่เพียงคนเดียวที่ติดต่อเธอมาตลอดหลายปี นับตั้งแต่เกิดเรื่องในครอบครัวเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน พ่อกับแม่ของเธอก็ถูกทางนี้ตัดขาดโดยสิ้นเชิง

    “ลำบากหน่อยนะ ตอนนี้สถานะของโรงพยาบาลเราค่อนข้างแย่ แม้จะมีมูลนิธิ ร่วมถึงผู้บริจาคอีกหลายราย แต่เราก็มีปัญหาหลายอย่างเลย” หมอหนุ่มปรับทุกข์ให้เธอฟัง นับตั้งแต่เข้ามาช่วยพ่อกับแม่บริหารงาน มีจุดด้อยหลายอย่างที่เขาพยายามจะแก้ไข้ พยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้กิจการของครอบครัวมันยังคงอยู่ต่อไป

    “อย่างกังวลเลยนะคะ เดี๋ยวมันก็จะดีขึ้นเอง” เธอให้กำลังใจอีกฝ่าย

    “หวังว่านะ หมู่นี้คุณตาไม่ค่อยสบาย เธอไปเยี่ยมบ้างก็ได้นะ” เขาเปรยขึ้น

    หมอสาวเลยเจื่อนรอยยิ้มเล็กน้อย เธอไม่ตอบว่าจะไปไหม และไม่แน่ว่าอีกฝ่ายจะอยากเห็นหน้าเธอ ความสัมพันธ์กับประมุขครอบครัวคนนี้มันแย่มานานแล้ว ถึงจะผ่านมาเป็นสิบปี ก็ยังคงไม่คลายความโกรธลงเลย หมอหนุ่มเห็นเธอเงียบก็รู้แล้วว่าเธอคงอึดอัดใจ เขาจึงพูดต่อ

    “เธอจะไปงานแต่งงานของคุณเคลวินกับลินนาไหม”

    “ไปสิคะ คุณลินนาก็ส่งบัตรเชิญมาให้ฉันด้วย”

    “อ่อ งั้นรึ ไปกับพี่เลยไหม พี่ก็จะไปเหมือนกัน เดี๋ยวพี่ไปรับที่หอพักเอง” หมอไมเคิลเสนอตัว

    “อย่าดีกว่าค่ะ ฉันเกรงใจ อีกอย่างฉันจะไป...กับเพื่อน” ประโยคหลังเธอผ่อนเสียงลง เพื่อนคนนี้เธอไม่ได้อยากไปด้วยเลย แต่จำใจ

    “ไม่เป็นไร งั้นไปเจอกันที่งานนะ”

    “ค่ะ”

    พอหมอหนุ่มบอกลา ก็เดินกลับไปที่รถ มีสายตาของหมอสาวตามหลังไปด้วย เธอรู้สึกเหมือนมีไมเคิลเท่านั้น ที่เป็นญาติเพียงคนเดียวของเธอ เรื่องมันเกิดมานาน เกือบยี่สิบปีที่ถูกตัดขาด

    โรงพยาบาลแห่งนี้เปิดมานานหลายสิบปี โดยมีนายเฮนริคเป็นผู้ก่อตั้ง เฮนริคมีบุตรสาวอยู่สามคน มาร์ธา พี่สาวคนโต แม่ของหมอไมเคิล เมลานีน้องสาวคนกลาง แม่ของหมอมธุริน และน้องสาวคนสุดท้อง มอลลี่ ซึ่งก็มีลูกสาวหนึ่งคน คือ มิลล่า ทั้งสามต่างก็เป็นผู้ถือหุ้นในโรงพยาบาลนี้ ช่วยกันบริหารงานอย่างปรองดอง ตอนนั้นโรงพยาบาลนี้กำลังรุ่ง เป็นโรงพยาบาลชื่อดังที่สุดแห่งยุค ทั้งบุคลากร และอุปกรณ์ที่ทันสมัย เป็นยุคที่รุ่งเรืองสุดๆ เมื่อชื่อเสียงลาภยศไหลมา คนภายในก็เริ่มมีปัญหากันเอง ด้วยมาร์ธากับมอลลี่เป็นคนฟุ้งเฟ้อ ใช้จ่ายมือเติบ หลายครั้งที่เมลานีปรามทั้งสอง จนมีปากเสียงกันบ่อยๆ มีรอยร้าวระหว่างพี่น้องเกิดขึ้น และตอนนั้นเอง เพราะความขยันของเมลานีทำให้มาร์ธาและมอลลี่เริ่มไม่ชอบใจ เพราะอีกฝ่ายกลายเป็นลูกสาวคนโปรด

    ทว่าความรักและเอ็นดูของนายเฮนริคอยู่ได้ไม่นาน เมื่อเมลานีพบรักกับมารุตหมอหนุ่ม และตกลงแต่งงานใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เฮนริคไม่ค่อยชอบใจลูกเขยหนุ่ม เพราะเห็นว่าเป็นแค่หมอในโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ได้คัดค้านคนทั้งคู่ กระทั่งวันหนึ่งฟ้าผ่าลงกลางครอบครัวอันแสนสุข เมื่อจู่ๆ เมลานีถูกกล่าวหาว่าวางยานายเฮนริค และยังมีคดีฉ้อโกงเงินของโรงพยาบาลอีกด้วย ตอนนั้นมีทั้งหลักฐาน และพยาน ทำให้เฮนริคโกรธและผิดหวังมาก จึงยึดหุ้นคืนทั้งหมด และตัดสองสามีภรรยาออกจากครอบครัว ทั้งคู่ต้องออกจากที่นี่มาพร้อมกับมลทิน เธอฟังเรื่องนี้มาจากพ่อ และรู้สึกเจ็บใจแทนเป็นอย่างมาก เฮนริคโกรธมากขนาดว่า ตอนแม่เธอป่วยยังไม่เคยมาดูดำดูดี กระทั่งแม่เธอเสียชีวิตไป ลมหายใจสุดท้ายของนาง นางยังคงรักและเคารพนายเฮนริคผู้เป็นพ่ออยู่เสมอ ทุกวันนี้เรื่องผ่านมาเกือบยี่สิบปี แต่นายเฮนริคก็ยังไม่อภัยให้ เธอได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่งจะได้กลับมาเพื่อล้างมลทินให้กับแม่เธอ ถึงอย่างนั้น แม้เธอจะได้กลับมาที่นี่ก็จริง แต่เป็นเพียงแค่ลูกจ้างคนหนึ่ง ไม่มีสิทธิ์ใดๆ ในโรงพยาบาลแห่งนี้เลย แต่หมอมธุรินมั่นใจว่า สักวันข้อกล่าวหาเหล่านี้จะต้องถูกลบล้างอย่างแน่นอน แม่เธอจะต้องจากไปอย่างผู้บริสุทธิ์

     

    บริเวณลานจอดรถของโรงพยาบาล ใกล้ๆ กับรถหรู มีร่างสูงเพรียวยืนคุยโทรศัพท์ แต่งกายเปรี้ยวจัดตามสไตล์ดีไซเนอร์สาวสวย เธอมัวแต่เม้ากับเพื่อนสาวจนเพลินเลยไม่ได้สังเกตรถอีกคัน กระทั่งมันไปจอดเยื้องกันพร้อมกับชายหนุ่มหน้าตาดีก้าวลงมา พอเห็นเธอเข้า ลุกซ์รีบหลบอย่างไว ไม่ปรารถนาที่จะสนทนากับแม่ดีไซเนอร์สาวสวยคนนี้ หากเธอเป็นคู่ขาทั่วไป เขาจะไม่มีความเกรงใจแบบนี้หรอก แต่เพราะครอบครัวของเธอและเขารู้จักกัน เขาเคยเจอเธอตามงานสังคมอยู่หลายครา และอีกฝ่ายแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่าพอใจในตัวเขามาก

    หากแต่เธอไม่ใช่ดอกไม้ริมทาง เขาจึงไม่กล้าเด็ดดม พยายามหลีกเลี่ยงอีกฝ่าย ยิ่งตอนนี้เขาเริ่มหวั่นในเสถียรภาพความโสดของตนแล้วด้วย พอเคลวินเป็นฝั่งเป็นฝาไปเสียที เขาเลยตกเป็นเป้าหมายต่อไปของนางลูซินดาผู้เป็นย่า สังหรณ์ว่าชีวิตคาสโนว่าแสนสุขกำลังจะจบลงในไม่ช้า และที่กังวลสุดๆ นั่นคือ นางลูซินดาหมายตาสาวสวยคนนี้ไว้ให้เขาด้วยสิ คุณย่าผู้แสนดีคงเห็นว่าหลานชายสุดหล่อมีความสุขกับชีวิตหนุ่มโสดมากจนเกินไปกระมัง งานของเขานอกจากจะทำข่าวของคนอื่นแล้ว ตัวเขาเองก็ยังตกเป็นข่าวไม่เว้นแต่ล่ะวัน มันก็เป็นธรรมดาที่หนุ่มฮอตเช่นเขาจะตกเป็นเป้าสายตาของบรรดาสื่อทั้งหลาย ในฐานะผู้ทรงอิทธิพลในวงการสื่อสิ่งพิมพ์ยุคใหม่ โดยเฉพาะนิตยสาร ฮอว์คอาย ซึ่งฮอตติดลมบน เป็นนิตยสารแนวธุรกิจ และยังมีบริษัทที่ทำเกี่ยวกับการตลาดและโฆษณาอีกด้วย เรียกได้ว่าลุกซ์กำลังมาแรงสุดๆ

    ช่วงวิกฤติที่เขาอาจจะถูกพรากความโสดไป เขาก็มองเห็นโอกาสเข้าพอดี เมื่อได้พบกับหมอสาว และรู้เรื่องยุ่งที่เพื่อนหมอมธุรินก่อไว้ เขาจึงเอามันมาใช้ต่อรองเธอให้เป็นคู่ควงชั่วคราว เพื่อกันท่าใครก็ตามแต่ ที่ย่าของเขาจะเอามายัดเหยียดให้ ทว่าคู่ควงกำมะลอคนนี้ กลับทำให้เขาสนอกสนใจขึ้นมาอย่างจริงจัง เพราะความเย็นชาของสาวเจ้า ไม่เคยยิ้มให้เขาเลยด้วยซ้ำ ดังเช่นตอนนี้ หน้าบูดแต่ไกลเชียว

    “ทำไมมาเร็วนักคะ เรานัดกันตอนเย็นไม่ใช่หรือ”

    “ผมกลัวคุณลืมเลยมาเตือน”

    “ฉันไม่ลืมหรอกน่า”

    “เสร็จงานแล้วใช่ไหม คุณนี่ขยันจังนะ ขนาดวันหยุดยังอุตส่าห์มา”

    “คนป่วยเขาไม่หยุดด้วยหรอกนะคะคุณอัลเลน หน้าที่ฉันคือรักษาชีวิตคน” เธอบอกเหตุผลที่ต้องขยัน แต่เขาอาจจะไม่สนใจหรอกกระมัง นอกจากสนุกกับชีวิตสเพลไปวันๆ

    “แบบนี้จะมีเวลาให้กับแฟนรึเปล่าเนี่ย”

    “ถ้าใครจะมาเป็นแฟนฉันก็คงต้องทำใจ เพราะระหว่างคนรักกับคนไข้ ฉันเลือกอย่างหลัง” ก็เพราะอย่างแรกเธอไม่มีนี่ การอยู่เป็นโสดมีอิสรเสรีออก

    “ได้ครับ ผมจะทน”

    “หือ หมายความว่าไงจะทน อย่าลืมนะ เราไม่ได้คบกันจริงๆ” เธอบอกเสียงเขียว ด้วยกลัวเขาจะโมเมเอาเอง

    “ผมรู้น่า ก็แค่คิดว่า บางทีเราอาจจะ...”

    “ไม่มีทางหรอกค่ะ” เธอพูดดักอย่างรู้ทัน คนเจ้าชู้แบบนี้ ขืนเปิดโอกาสให้ ผู้หญิงของเขาเยอะแยะมากมายจนนับไม่ไหว

    “แหมคุณหมอ กับคนไข้นี่ใจดีจัง แต่ทำไมกับผมคุณถึงใจดำนักล่ะครับ”

    “ก็เพราะคนไข้เขาไม่กระลิ้มกะเหลี่ยใส่ฉันน่ะสิคะ ฉันไม่เข้าใจคุณเลยจริงๆ ผู้หญิงของคุณก็มี ทำไมไม่เลือกเอาสักคน”

    “ก็ผมไม่อยากไปกับคนอื่นนี่” เหนือสิ่งอื่นใด เขาไม่อยากให้ใครมีความหวังในตัวเขา ผู้หญิงของเขาทุกคนส่วนใหญ่ เจอกันบนเตียงแล้วก็จบ

    “แต่ฉันไม่อยากไปกับคุณเลย แต่เพราะคุณบีบฉัน” คนบอกเสียงเขียว อารมณ์ดูหงุดหงิด

    “ช่วยไม่ได้นี่ คุณอยากไปร่วมมือกับยัยเพื่อนตัวแสบนั่นทำไม ผมไม่เอาเรื่องก็ดีเท่าไหร่แล้ว อยากรวมหัวกันดีนักนี่ ทำคนอื่นหัวปั่น”

    “ฉันไม่รู้นี่ ฉันก็ถูกเซลีนหลอกใช้เหมือนกัน ยังไงก็ช่างเถอะ ตอนนี้เซลีนก็รับกรรมของเธอไปแล้ว คุณก็อย่าต่อว่าอะไรเธออีกเลย อย่างน้อยๆ คุณก็โตมาด้วยกัน เห็นใจเธอหน่อย” น้ำเสียงหมอสาวอ่อนลง เมื่อนึกถึงเพื่อนผู้น่าสงสาร ถึงจะร้ายแค่ไหน หรือจะทำอะไรผิดไปสักเท่าไหร่ก็ตาม เธอได้ไปเยี่ยมเซลีนบ้าง หลังจากผิดหวังจากเคลวิน เซลีนมีอาการป่วยทางจิตทำให้เธอต้องเข้ารับการรักษา แม้อีกฝ่ายจะทำไม่ถูกต้อง กระนั้นความห่วงใยในฐานะเพื่อนก็ยังมีให้อยู่ สำหรับเคลวินกับลินนานั้น เธอเองก็รู้สึกผิดไม่น้อยเหมือนกัน ฉะนั้นวันนี้เธอจึงอยากไปร่วมแสดงความยินดีอย่างจริงใจ เพียงแต่ว่าคนที่เธอต้องไปด้วยอาจไม่น่าพิศวาสเท่าใดนัก

    “ก็ได้ ผมจะไม่ว่าอะไรเพื่อนรักคุณอีก ถ้าคุณยอมร่วมมือกับผมดีๆ” เขาสนุกกับการต่อรอง และรู้ว่าเธอจะไม่กล้าปฏิเสธ คู่ควงนี้ถึงจะพยศไปหน่อย แต่เธอก็สวยไม่น้อยหน้าบรรดาสาวๆ ของเขาเลย ถ้าเพียงแต่เธอแต่งตัวสักหน่อย แน่ล่ะด้วยนิสัยหนุ่มเจ้าชู้ ก็ย่อมหวังอะไรบ้าง บางทีถ้าเขาใช้ความพยายามอีกนิด ระหว่างที่อยู่ในสัญญา เธออาจจะใจอ่อนกับเขา เธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทนเสน่ห์เขาได้นานขนาดนี้ ผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่เคยรอดมือเขาเกินหนึ่งวัน แต่รายนี้ จับมือยังไม่ยอมเลย

    “ค่ะ ฉันก็อยากให้มันจบเร็วๆ คุณจะได้เลิกยุ่งกับฉันเสียที คุณอัลเลน”

    “ทำไมคุณยังเรียกผมว่าคุณอัลเลนอยู่อีก แบบนี้เดี๋ยวคนอื่นก็สงสัยเอาหรอก เรียกผมว่าลุกซ์ หรือไม่ก็ที่รักสิ จะได้สมกับที่เป็นคนรักกันจริงๆ หน่อย”

    “เราไม่ได้รักกัน ฉะนั้นฉันไม่จำเป็นต้องเรียกคุณแบบนั้น ที่รัก เฮอะ!” เธอแค่นเสียงเบาๆ มันช่างเป็นคำที่กระดากปาก ก็ไม่ได้อยู่ในสถานะนั้นจริงสักหน่อย

    “นี่รู้ไหม สาวคนไหนก็อยากเรียกผมแบบนี้กันทั้งนั้น” คนหลงตัวเองยืดอกบอกอย่างภูมิใจ พวกหล่อนยอมทุกอย่างเพื่อที่จะได้สิทธิ์เรียกเขาแบบนี้

    “เหรอค่ะ งั้นก็เอาไว้ให้ผู้หญิงของคุณเรียกเถอะ” เธอบอกอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนตรงไปที่รถ ทำเหมือนบทสนทนามันไร้สาระ และมันทำให้ลุกซ์ขัดใจเป็นอันมาก ใจแข็งไปเถอะ อยากรู้เหมือนกันจะแข็งได้นานสักเท่าไหร่

    ตอนนั้นเอง หญิงสาวก้าวฉับๆ อย่างอารมณ์ขุ่น มองไปข้างหน้าอย่างเดียวทำให้เท้าของเธอแตะเอาฝาท่อที่ริมทางเท้าจนหัวเกือบขมำลงพื้น ลุกซ์รีบคว้าเอวเธอไว้ ไม่เพียงเธอไม่ขอบคุณ ยังสะบัดเสียงเขียวใส่อีก

    “คุณอัลเลน อย่ามารุ่มร่ามกับฉันได้ไหม”

    “อะไร ผมช่วยคุณนะ ผมผิดรึไงที่ไม่ปล่อยให้คุณลงไปกองกับพื้นน่ะ คนเขาอุตส่าห์ช่วยแท้ๆ” ลุกซ์แกล้งประชด

    “ขอบคุณค่ะ คุณอัลเลน” จำเป็นต้องเอ่ยขอบคุณ

    “ลุกซ์ ผมชื่อลุกซ์ เรียกใหม่สิ เรียกให้ชินปาก”

    “ค่ะ คุณลุกซ์”

    “ดีมาก” ชายยิ้มพอใจ สักวันเถอะ เขาจะต้องปราบหมอสาวคนสวยให้ได้ ฉายาคาสโนว่าไม่ได้มีมาไว้ประดับเฉยๆ เรื่องหว่านเสน่ห์จนหญิงหลงมันคืองานถนัดของเขา









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×