คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ความต้องการ
“เมธิส...” น้ำเสียงแหลมสูงดังขึ้นจากหน้าบ้าน
“เมธิส...” เสียงเดิมเรียกชื่อเจ้าของบ้านดังขึ้นอีก เพราะไม่เห็นแม้วี่แววการตอบสนองภายในบ้าน
“............” กรอสเงียบอยู่สักพักจึงพูดต่อ
“เมธิส... เจ้าอยู่บ้านมั้ยเนี่ย?.... ข้าจะเข้าไปล่ะนะ” พูดจบ สาวทรงเสน่ห์ก็เปิดประตูหน้าบ้านแล้วพาร่างกายเข้าไปข้างใน
ภายในบ้านตกแต่งแบบเรียบง่าย โดยมากเป็นเครื่องใช้ที่ทำจากไม้ เครื่องมือเครื่องใช้กระจุกกระจิกต่างๆถูกนำมาจัดวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ที่สะดุดตาที่สุดเห็นจะเป็นโต๊ะไม้ขนาดเล็กพอสำหรับใช้ทานอาหาร 2 คนตั้งอยู่กลางห้อง ถัดไปเป็นส่วนที่ใช้แผ่นไม้พับหลายตอนขนาดบางกั้นแยก แบ่งห้องออกเป็นอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ใช้สำหรับทำอาหาร อีกด้านหนึ่งตรงข้ามส่วนครัว เป็นประตูไม้ที่จะเปิดสู่ห้องนอน
กรอสเดินสำรวจภายในห้องสักพักหนึ่ง จึงได้ยินเสียงกุกกักดังขึ้นในห้องครัว เมื่อหล่อนเข้าไปดู จึงได้เห็นแมวสีน้ำตาลตาสีเหลืองอำพันหางยาว กำลังดมๆเหมือนจะหาอะไรสักอย่าง ก่อนจะหันมามองแขกที่มาเยือนอย่างไม่เป็นมิตร แล้วกระโดดแผล็วออกไปทางหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้
ไม่นานนัก เสียงประตูบ้านก็ดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคักจากหญิงผู้ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านเล็กๆหลังนี้ ตามมาด้วยเสียงร้องของแมวเจ้าของตาสีเหลืองอำพันที่เพิ่งจะกระโดดออกไปทางหน้าต่าง ที่บัดนี้มันกำลังตามเคลียคลออยู่ที่ข้อเท้าทั้งสองของหญิงสาว
“ให้ตายเถอะ เมธิส... หากเจ้าจะไม่อยู่บ้านก็หัดปิดประตูให้สนิทซะหน่อยสิ ถ้าข้าเป็นขโมยขึ้นมา เจ้าไม่ต้องกลับมาเจอบ้านว่างๆที่ไม่มีอะไรเหลือแล้วรึ” กรอสบ่นพลางเดินออกมาจากห้องครัว เมื่อเห็นสีหน้าที่เหมือนทองไม่รู้ร้อนของเมธิส จึงเอ่ยต่อ
“เออ! เอากับเจ้าสิ เมธิส เอ๋ย ยังทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่อีก ข้าล่ะสงสัยนัก หากวันไหนเจ้าไม่มีข้า เจ้าจะเป็นอยู่ยังไง” กรอสพูดเสริม แล้วมองหน้าเจ้าของบ้านที่ยังคงทำหน้าไร้เดียงสา
“ข้าก็ไม่เห็นจะต้องทำยังไงเลยนี่ ก็แค่ใช้ชีวิตเหมือนเดิม เหมือนเมื่อเดือนที่แล้ว ก่อนที่ข้าจะรู้จักเจ้าไง” เมธิสตอบยิ้มๆ อย่างไม่ใส่ใจอะไรกับอารมณ์ที่ส่งมาตามน้ำเสียงแหลมสูงนั้น แล้วเดินเข้าไปในบ้าน
“อ้อ! จริงสินะ ข้ามันไม่สำคัญอะไรกับชีวิตเจ้าอยู่แล้วนี่ งั้นข้าขอตัวก่อนล่ะ ไม่อยู่ให้เกะกะเจ้าแล้ว” กรอสทำท่าจะเดินออกไป แต่ก็ต้องหันกลับมาพร้อมกระตุกยิ้มนิดๆที่มุมปาก
“เดี๋ยวก่อน! อย่าเพิ่งไป” เมธิสร้อง ทว่าประโยคต่อมากลับทำให้กรอสหน้าบูดบึ้งยิ่งไปกว่าเก่า
“เจ้าลืมถุงย่ามแน่ะ”
กรอสเข้ามาคว้าถุงย่ามของเธอกลบไป แต่เมธิสกลับยื้อถุงย่ามนั้นไว้พลางพูดแหย่เพื่อนสาว
“แหม! ข้าล้อเล่นหรอกน่ะ ตั้งแต่ได้รู้จักเจ้า ข้าก็ได้รู้จักความสนุกที่เข้ามาในชีวิตตั้งมากมาย แถมเจ้ายังช่วยข้าตั้งหลายเรื่องแน่ะ แล้วอย่างนี้เจ้าจะไม่สำคัญได้ยังไง”
กรอสเชิดหน้าแล้วยกมุมปากขึ้นนิดนึง
“ข้าไม่เห็นจะสนใจ”
เมธิสเข้ามาคล้องแขนกรอสแล้วพาเดินมาที่โต๊ะไม้ตรงกลางห้อง
“เอาน่า... อย่างอนไปหน่อยเลย มา... มาดื่มชากันก่อน..... นะ” เมธิสพูดทิ้งท้ายพร้อมกับหันไปส่งยิ้มให้คนข้างตัว “ข้ารู้... ว่าวันนี้เจ้าว่างทั้งวัน และตอนนี้เจ้าก็ไม่มีอะไรทำ ข้าเองก็เหงาๆ ว่างๆ เรามานั่งคุยกันสักหน่อยดีกว่า”
เมธิสผายมือเชิญให้หญิงสาวนั่งลงที่โต๊ะ ส่วนหล่อนเดินไปลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งฝั่งตรงข้าม ทันที่ที่เมธิสนั่ง เจ้าแมวที่รอจังหวะอยู่นาน ก็กระโดดผลุงขึ้นมาบนตัก แล้วทำท่าจะหลับยาวบนตักอุ่นๆนั้น
กรอสเหลือบมองเจ้าแมวตัวดีที่นอนสบายอยู่บนตักเมธิสอย่างหมั่นไส้ก่อนเปรยขึ้น
“นี่ถ้าข้าไม่รู้มาก่อน ข้าคงจะนึกว่าเจ้าแมวตัวนี้เป็นตัวผู้แน่เลย ตามติดเจ้าแจออกอย่างนี้”
เมธิสหัวเราะแทนคำตอบ ก่อนจะกันไปรินน้ำชาในกาให้คนตรงหน้า
“และถ้าหาก เนด้า เป็นตัวผู้แล้วล่ะก็ ข้าก็คงจะไม่ต้องปวดหัวกับเรื่องที่อาจตามมาได้หรอก” พูดจบเจ้าตัวก็หัวเราะคิก ปล่อยให้คนเปิดประเด็นต้องงงกับเรื่องที่อาจตามมาของคนพูดว่ามันคืออะไร
“ข้าล่ะกลัว เนด้ามันจะท้องแล้วออกลูกมามากมายให้ข้าช่วยเลี้ยง บอกตามตรง ข้าไม่มีปัญญารับผิดชอบได้มากขนาดนั้น” เมธิสเฉลย
เมื่อกรอสเข้าใจแล้ว จึงพูดสนับสนุนคำเมธิส
“ข้าก็ว่าอย่างนั้น ขนาดเจ้านี่แค่มาป้วนเปี้ยนได้ไม่นาน เจ้าก็ตั้งชื่อให้มันละ ทำอย่างกับว่าเป็นเจ้าของมัน ดูแลมันมานานงั้นแหละ”
“ก็...นะ ข้าว่ามันน่าเอ็นดูดีออก ไม่หยิ่งด้วย” เมธิสแก้ตัวพร้อมกับลูบหัวลูบตัวเจ้าแมวที่ถูกนำมาพูดถึงอย่างแผ่วเบา
“ฮึ! ไม่หยิ่ง ก็คงแค่กับเจ้าคนเดียวเท่านั้นล่ะ ข้าจะบอกอะไรให้เจ้ารู้ไว้อย่างนะ แมวจรจัดน่ะ ไว้ใจมากนักไม่ได้หรอก” กรอสยืนกรานคำเดิม
“แต่เนด้าน่ะ ไม่ใช่แมวจรจัดหรอก ข้ารู้ ดูสิ ลักษณะอย่างนี้น่ะเหรอ จะจรจัด ตรงกันข้าม ข้ากลับคิดว่ามันเคยถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีซะล่ะมากกว่า” เมธิสแย้งตามความคิดตนพลางบรรจงอุ้มเจ้าแมวที่นอนอยู่อย่างเบามือ
เนด้าดิ้นอย่างไม่พอใจที่โดนรบกวนการนอน เมธิสจึงปล่อยเจ้าแมวลงตามเดิม ก่อนที่มันจะเดินไปหาที่ซุกตัวหลับอีกมุมหนึ่งของห้อง
“เจ้าก็ดูเอาเองละกัน... ไม่เอาละ เลิกพูดถึงเรื่องแมวดีกว่า” ว่าแล้วกรอสก็เปิดดูภายในถุงย่ามของหล่อน ก่อนจะเหลือบตาขึ้นมองเมธิส แล้วถามคำถามที่เจ้าตัวก็รู้คำตอบดีอยู่แล้ว
“ของของข้าหายไปไหนนี่”
เมธิสยิ้มแห้งๆก่อนตอบ “นิมบ์เอาไปแล้ว” แล้วเสริมว่า “เค้าบอกว่าเจ้ารู้จักเค้าดี”
กรอสพ่นลมหายใจแรงๆออกมาครั้งหนึ่งก่อนกล่าวว่า
“แล้วเจ้าก็เชื่อเค้า เมธิส เจ้าเนี่ยนะ เชื่อคนง่ายจริงๆ ระวังตัวไว้เถอะ จะถูกหลอกเข้าสักวัน”
กรอสยกน้ำชาขึ้นจิบก่อนพูดต่อ “แต่นั่นก็ถือเป็นข้อดีของเจ้าล่ะนะ สังคมทุกวันนี้หาคนอย่างเจ้าได้ยากเต็มที มองโลกในแง่ดีไปซะเหลือเกิน ข้าขอเตือนนะ ในสังคมนี้คนฉลาดเท่านั้นที่อยู่รอด และไม่ใช่ทุกคนที่จะคิดทำแต่สิ่งดีงามอย่างเจ้า ทุกคนล่วนแล้วแต่ใส่หน้ากากเข้าหากัน โกหก ปลิ้นป้อนกันไปสารพัด เพื่อที่จะสามารถหาผลประโยชน์ใส่ตัวเอง”
พูดจบสาวทรงเสน่ห์ก็ยกน้ำชาขึ้นจิบอีกครั้ง
“เจ้าหมายถึง....” เมธิสพูดค้างไว้แล้วขมวดคิ้วอย่างคนที่กำลังคิดอะไรยุ่งยาก
“ช่างเถอะ” กรอสตัดบทอย่างรำคาญ “เอาเป็นว่า ข้ารู้จักนิมบ์จริงอย่างที่เค้าบอกเจ้าก็แล้วกัน”
เมธิสฉีกยิ้มกว้างด้วยความโล่งใจ ก่อนจะชะงักเมื่อกรอสพูดต่อ
“แต่ตอนนี้ข้ายังต้องใช้ของที่นิมบ์เอาไปอยู่ ถ้ายังไง ข้าวานเจ้าไปเอาของคืนมาให้ข้าหน่อยได้มั้ย”
“แต่ข้าไม่รู้ว่าเค้าอยู่ที่ไหนนี่” เมธิสตอบเสียงกร่อย
“เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหา” กรอสหัวเราะคิก แล้วลุกยืนขึ้น
“ในเมื่อข้ารู้จักนิมบ์ ข้าก็ย่อมรู้วิธีที่จะติดต่อนิมบ์อย่างแน่นอน” กรอสพูดแล้วหันหน้าไปทางประตูบ้าน ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าที่เศร้าขึ้นมาชั่ววูบ แล้วหันกลับมาส่งยิ้มกว้างให้เมธิสอีกครั้ง
“แล้วเย็นนี้ ข้าจะมาบอกเจ้า ที่เจ้าต้องทำตอนนี้ก็คือ แต่งตัวให้สวยๆ สวยที่สุดที่เจ้าจะทำได้ แล้วรอข้าที่นี่” พูดจบกรอสก็หันหลังแล้วออกจากบ้านไปทันที ไม่มีแม้คำกล่าวลา ทิ้งให้หญิงสาวนั่งงงอยู่ที่โต๊ะไม้ โดยไม่รู้ว่าฟันเฟืองของแผนการที่กรอสวางไว้ได้เริ่มหมุนอีกครั้งแล้ว...
ความคิดเห็น