ADDICT 02
ลองดี [100%]
Jeon University
ตึกคณะนิเทศศาสตร์
วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดภาคเรียนปีการศึกษาใหม่ เด็กหนุ่มร่างบอบบางหันมองซ้ายขวาเมื่อก้าวขาเข้ามาภายในห้องเรียนวิชาแรกของเทอมนี้ สายตากลมสอดส่องมองหาที่นั่งว่างและไม่นานสายตาก็สะดุดพบกับแผ่นหลังของผู้ชายคนหนึ่งที่แทฮยองรู้สึกคุ้นตาเป็นอย่างมาก
ไม่รอช้า เขาเดินตรงไปที่ผู้ชายคนนั้นทันที โชคดีที่เก้าอี้ตัวข้างๆยังว่างอยู่ ทำให้แทฮยองหย่นก้นลงนั่งก่อนจะหันหน้าจ้องมองร่างสูงที่กำลังตั้งใจเล่นเกมส์ในโทรศัพท์อย่างเมามันส์
“นี่...”
“...” หลังจากเสียงเรียกที่แสนจะแผ่วเบาแต่ก็ดังพอที่ทำให้อีกฝ่ายเงยหน้าจากจอมือถือ เขาเบิกตากว้างและยอมตั้งโทรศัพท์ลงบนโต๊ะเรียนทันที
“...!”
“จองโฮซอก”
“เห้ย! คิมแทฮยอง!”
พรึบ
จองโฮซอกคว้าเอาคนตัวเล็กมากอดแน่น ทั้งคู่ฉีกยิ้มกว้างเพราะดีใจที่ได้เจอเพื่อนห้องเดียวกันสมัยมัธยมปลาย ถึงแทฮยองกับโฮซอกจะไม่ค่อยสนิทกันมากเท่าไรก็เถอะ แต่วันแรกของการเปิดเทอมปี 1 ที่ได้เจอคนคุ้นเคยในรั้วมหาวิทยาลัยแบบนี้ มันก็น่าดีใจไม่ใช่เหรอ
“มาเรียนที่นี้ทำไมกูไม่เห็นรู้วะ!”
“เราก็ไม่รู้ว่าโฮซอกจะเข้าที่นี้เหมือนกัน”
“แถมเข้าคณะเดียวกันอีก โคตรดีใจอ่ะ ฮ่าๆๆๆ” โฮซอกฉีกยิ้มกว้าง เขาเอามือโยกศีรษะเล็กไปมาในขณะที่แทฮยองก็ส่งยิ้มรูปกรอบสี่เหลี่ยมไปให้ ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความสุข
“กูไม่มีเพื่อนอยู่พอดีนะเนี้ย เรามาเป็นเพื่อนใหม่กันดีปะ”
“เพื่อนใหม่อะไรเล่า เราก็เป็นเพื่อนกันมาตลอดนี่นา” โฮซอกมองคนข้างกายที่ยู่ปากด้วยท่าทางน่ารัก เมื่อตอนที่เรียนมัธยมทั้งคู่อยู่คนละกลุ่มกัน มีนานๆทีจะเข้ามาคุยกันหรือทักทายตามประสา แต่ตลอดเวลาโฮซอกยอมรับว่าเขาก็แอบมองแทฮยองที่เป็นเหมือนนางฟ้าประจำห้องอยู่บ่อยๆ
...ก็คนอะไรทั้งน่ารัก ทั้งนิสัยดี แถมยังมีน้ำใจให้เพื่อนๆในห้องทุกคน แทฮยองเรียนเก่งมากๆแต่ไม่เคยหวงวิชาเอาไว้คนเดียวเหมือนเด็กเรียนคนอื่นๆ
12.00 น.
“เฮ้อ วันแรกก็สั่งงานซะละ อะไรจะขนาดนั้นวะ!” โฮซอกถอนหายใจเมื่ออาจารย์คลาสแรกได้เดินออกไปพร้อมกับสั่งการบ้านเล็กๆน้อยๆทิ้งท้ายเอาไว้และกำหนดส่งสัปดาห์หน้า
“ส่งตั้งอาทิตย์หน้า อย่าพึ่งบ่นสิ” แทฮยองส่ายหน้ากับความขี้บ่นของเพื่อนตัวเอง
“เที่ยงนี้กินอะไรกันดี”
“เรายังไม่รู้จักโรงอาหารเลยอ่ะ”
“กูก็เหมือนกัน งั้น...ไปเดินสำรวจกันเถอะ ไปกัน!”
“ได้ ขอเก็บของก่อนนะ”
“เร็วๆเลยไอ้ลูกหมา”
15.30 น.
ตึกคณะบริหารธุรกิจ
ห้องลับ
ภายในห้องกว้างขวางที่เครื่องปรับอากาศเปิดใช้งานอยู่ตลอดเวลา ตรงกลางของห้องมีโซฟานุ่มตัวยาวที่ด้านหน้าเป็นทีวีจอแบนขนาดใหญ่ถูกฝังลงในกำแพง ด้านข้างของห้องถูกจัดเป็นเคาเตอร์บาร์ขนาดกลางที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ตั้งเรียงรายอยู่มากมาย ห้องลับแห่งนี้ไม่มีใครเข้ามาได้ยกเว้นเจ้าของห้องเพียงแค่สามคนเท่านั้น มีแต่เพียงแม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาดตอนเย็นทุกๆวัน บนโซฟาตัวสีเทาปรากฏร่างสูงที่อยู่ในชุดนักศึกษาทั้งสามคน หนึ่งในนั้นคือลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัยและเป็นคนที่สั่งทำห้องลับนี้ขึ้นมา
(ดูแลน้องด้วย เข้าใจมั้ยจองกุก)
“...”
(ฉันพูดน่ะ แกได้ยินมั้ย)
“ทำไมต้องดูแล ป่วยหรือพิการ?”
(จอนจองกุก!!)
“แค่นี้นะครับ ผมไม่ว่าง”
(รับปากฉันมาก่อนว่าจะดูแลแทฮยอง น้องไปเรียนวันแรกยังไม่รู้เรื่องอะไร)
“โตแล้วปะไม่ใช่เด็กอนุบาล พ่ออย่าเวอร์ไปหน่อยเลย!”
(ฉันไม่ได้เวอร์ แต่แกต้องดูแลน้อง ทั้งตอนนี้และวันข้างหน้า)
“หึ...ฝันไปเถอะครับ”
ติ๊ด
จองกุกกดตัดสายบิดาของตนเองทันที เขาโยนโทรศัพท์เครื่องหรูลงบนโซฟาข้างๆ ใบหน้าหล่อฉายแววหงุดหงิด ตั้งแต่สองแม่ลูกนั่นเข้ามาอยู่ในบ้านของเขา ชีวิตของจองกุกก็มีแต่คำว่าน้องวนเวียนไปมาแทบทุกวัน ตั้งแต่เรื่องราวที่โต๊ะอาหารคืนนั้นจองกุกก็ไม่กลับบ้านอีกเลย เขาอาศัยอยู่คอนโดฯสุดหรูไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก ปกติแล้วนานๆทีเขาจะกลับบ้าน แต่สองแม่ลูกนั่นเล่นแห่กันมาอยู่ในบ้านของเขา ยิ่งทำให้จองกุกสัญญากับตัวเองเลยว่าเขาจะไม่กลับไปเหยียบที่บ้านหลังนั้นอีก...จนกว่าสองแม่ลูกนั่นจะออกไป
“เป็นไรวะจองกุก ทำหน้าเหมือนจะแปลงร่าง”
คิมยูคยอมยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มพลางเอ่ยถามเพื่อนตัวเอง
“นั้นดิ พ่อมึงคุยอะไรวะ ทำไมดูซีเรียส?”
คิมมินกยูทำสีหน้าอยากรู้ด้วยอีกคน ส่งผลให้เพื่อนรักสุดโหดของพวกเขาปรายสายตาเย็นๆมองก่อนจะตวัดสายตาคมกลับไปที่หน้าจอทีวีเช่นเดิม
“ดูท่า อารมณ์มันจะไม่ดีว่ะ”
“นั้นดิ แต่อยากเสือกไงสัด อยากเสือก” ยูคยอมกับมินกยูกระซิบกระซาบกันเบาๆ ถึงแม้จะเป็นเพื่อนสนิทกันมากแค่ไหนแต่ทั้งสองก็ยังมีความเกรงใจจองกุกอยู่ไม่น้อย เพราะใครๆก็ต่างรู้ดีว่าอารมณ์ของผู้ชายคนนี้ไม่ปกติเหมือนคนอื่น นอกจากจะอารมณ์ร้ายแล้วยังชอบใช้กำลัง จองกุกเป็นลูกชายเจ้าของมหาวิทยาลัยจึงสามารถทำอะไรก็ได้ในที่แห่งนี้ เมื่อเขาไม่พอใจใครก็แค่ชี้นิ้วไล่ออกก็แค่นั้น ทำให้ในมหาวิทยาลัยไม่มีใครกล้าเข้าใกล้จองกุกเกินกว่าสองเมตร แม้กระทั้งอาจารย์ก็ยังไม่กล้าจะมีปัญหาด้วย
ครืดด
จู่ๆเสียงข้อความในก็ดังขึ้น จองกุกหยิบมือถือที่ตั้งอยู่ข้างๆขึ้นมาดู ก็พบข้อความของพ่อเขาเองส่งมาให้เป็นการย้ำเตือนอีกครั้ง
‘เย็นนี้รับน้องแล้วมาส่งที่บ้าน ทานอาหารเย็นด้วยกัน ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับแก’
“หึ”
“นั่นมึงจะไปไหน?” ยูคยอมถามขึ้นเมื่อเพื่อนตัวสูงลุกขึ้นพรวดและคว้ากุญแจรถทันที
“กลับล่ะ”
“เอ้า ทำไมรีบวะ”
“มีธุระต้องไปจัดการนิดหน่อย”
“มึงกลับยังไงแท ให้กูไปส่งมั้ย?” โฮซอกถามขึ้นพลางควงกุญแจรถมอเตอร์ไซค์ไปมา ทั้งสองเดินออกมาจากลิฟต์หลังจากที่เรียนคลาสสุดท้ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว
‘ตอนเย็นกลับกับพี่จองกุกนะลูก’
คำพูดของซอนมีดังขึ้นในหัวทันที ก่อนออกจากบ้านแม่ของเขาได้สั่งไว้ว่าให้กลับบ้านพร้อมจองกุก แทฮยองไม่ได้ปฏิเสธออกไปแต่เขาก็ตั้งใจที่จะไม่ทำตามอยู่แล้ว และอีกอย่างวันนี้ทั้งวันแทฮยองก็ไม่เห็นหน้าจองกุกเลยด้วยซ้ำ ไม่มีทางที่ผู้ชายคนนั้นจะอยู่รอรับเขากลับบ้านด้วยหรอก
“ไม่เป็นไร เรากลับเองได้”
“บ้านใหม่มึงเป็นทางผ่านกูนะ ไปด้วยกันนี่แหละ”
“แต่เราเกรงใจ--”
“เกรงใจห่าไร มึงกับกูเป็นเพื่อนกันนะไอ้ลูกหมา”
“งื้อ ผมเรายุ่งหมดแล้วนะโฮซอก!”
โฮซอกอดหมั่นเขี้ยวความน่ารักของคนที่เขาเรียกว่าไอ้ลูกหมาไม่ได้ จนต้องรวบตัวมันมารัดคอและพาเดินไปที่ลานจอดรถมอเตอร์ไซค์ มือก็อยู่ไม่นิ่ง ค่อยขยี้ผมนุ่มๆของอีกฝ่ายไปด้วยตลอดทาง
“เราเดินเองได้น่าไม่ต้องรัดคอ”
“ไม่ เดี๋ยวมึงหนีกู”
“ไม่หนี”
“ผมมึงหอมจังว่ะ ใช้แชมพูอะไร” จมูกโด่งเผลอสูดดมกลิ่นแชมพูจากเส้นผมสีน้ำตาล ไม่ได้ล้อเล่นสักนิดก็ผมของแทฮยองมันหอมจริงๆนี่นา
“เราไม่ได้สระผมตั้งสองวันแล้วนะ”
“อย่ามาโกหกกู เนี่ย! หอมทั้งหัวเลย”
ฟอดด
“งื้อ โฮซอก ปล่อยคอเราสักที”
“ฮ่าๆๆ”
ตุบ!
“ขอโทษครับ”
“ขอโทษครับ”
เพราะมัวแต่แกล้งกันตลอดทางทำให้แทฮยองและโฮซอกเดินชนกับใครบางคนเข้า เด็กหนุ่มทั้งสองเอ่ยขอโทษพร้อมกันก่อนที่แทฮยองเงยหน้ามองคนที่เขาพึ่งเดินชน ดวงตากลมเบิกกว้างเพราะไม่คิดว่าจะได้เจอหน้าของคนใจร้ายอีกครั้ง
“พะ...พี่จองกุก”
“มึงรู้จักเหรอ?”
“อือ” แทฮยองหลบสายตาจองกุกที่จ้องหน้าเขานิ่ง หันไปตอบโฮซอกเบาๆก่อนที่ใบหน้าหวานจะเอาแต่ก้มมองปลายเท้าตัวเอง อาการของแทฮยองแปลกไปทำให้โฮซอกมองหน้าคนที่คาดว่าเป็นรุ่นพี่อีกครั้ง เพราะดูจากการแต่งตัวที่ผิดระเบียบของอีกฝ่าย
“ขอโทษอีกครั้งครับ ไปเถอะแท” โฮซอกคว้ามือเล็กมาจับแน่น เขาลากแทฮยองเพื่อจะเลี่ยงเดินไปอีกทางแต่ก็ถูกรุ่นพี่ตัวสูงที่ไม่พูดไม่จาเดินดักทางเอาไว้เสียก่อน
“ขอทางหน่อยครับ” โฮซอกรู้สึกว่ามือเล็กที่กุมอยู่สั่นระริก ถึงเขาจะไม่เข้าใจอะไรบางอย่างแต่ก็สัมผัสได้ว่าแทฮยองกำลังกลัวรุ่นพี่ตรงหน้า
“สั่งกู?”
“ไม่ได้สั่งครับ แค่ขอทาง”
“หึ” จองกุกแสยะยิ้มกับความกล้าของเด็กปีหนึ่งตรงหน้า อาจจะยังไม่รู้จักเขาถึงได้กล้าใช้น้ำเสียงและสายตาแข็งกร้าวแบบนั้น
“เก่งให้ตลอดนะมึงน่ะ”
“...” โฮซอกขมวดคิ้วแน่นกับคำพูดของรุ่นพี่ เขาไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำไมอีกฝ่ายต้องทำท่าเหมือนจะประกาศศึกกับเขา ทั้งๆที่ทั้งคู่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
“โฮซอก ไปกันเถอะ” แทฮยองที่เงียบมานานเอ่ยบอกเพื่อนตัวเองเสียงเบา เขาไม่เงยหน้ามองจองกุกเลยแม้แต่นิดเดียว
“อืม” โฮซอกตอบออกไป เขาเห็นท่าไม่ดีจึงพาแทฮยองหมุนตัวเพื่อเดินกลับไปทางเดิม
พรึบ!!
แต่ข้อมือเล็กก็ถูกอีกคนกระชากอย่างแรงจนมือที่โฮซอกกุมอยู่หลุดออกไปอย่างง่ายดาย แผ่นหลังบางกระแทกเข้ากับหน้าอกแกร่งของจองกุกดังปึก โฮซอกเบิกตากว้างกับการกระทำของรุ่นพี่หน้าโหดคนนี้
“ป...ปล่อย!”
“แม่มึงสั่งให้กลับกับกูไม่ใช่เหรอ?” น้ำเสียงแหบกระซิบถามข้างใบหู แทฮยองรู้สึกว่ามันน่ากลัวจนขอบตาทั้งสองข้างร้อนเผ่า โฮซอกมองการกระทำของจองกุกที่เหมือนกำลังจะขู่บังคับแทฮยอง เขาจึงเข้าไปดึงมือเล็กให้ออกมาแต่ก็ถูกจองกุกผลักไหล่อย่างแรงจนร่างของโฮซอกล้มลงไปกับพื้น
ตุบ!
“โฮซอก!”
“อย่าเสือก” จองกุกด่าคนบนพื้นด้วยถ้อยคำหยาบคาย ก่อนจะกระชากแขนบางให้เดินตามไปยังลานจอดรถยนต์ทันที
[50%]

บรื้น!!!
แทฮยองเห็นโฮซอกทำท่าจะวิ่งตามแต่ก็ไม่ทัน เขาได้แต่มองท้ายรถยนต์ที่ขับออกไปและในนั้นมีแทฮยองนั่งอยู่ เด็กหนุ่มกำมือตัวเองแน่น เขารู้สึกเป็นห่วงแทฮยองมากๆจึงหยิบมือถือออกมาและกดหาเบอร์ของอีกฝ่ายทันที
Rrrr
ภายในแลมโบกินีคันหรู เสียงเรียกเข้ามือถือของแทฮยองดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ เขาหยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกงและกดรับสาย
“โฮซอก”
(แท มึงเป็นไงบ้าง มันพามึงไปไหน)
“ร...เราไม่เป็นไร เขาจะพาเรากลับบ้าน”
(มึงแน่ใจนะ ไอ้นั่นแม่งไม่น่าไว้ใจ มึงห้ามวางสาย--)
พรึบ!
จองกุกชะลอความเร็วก่อนจะกระชากมือถือของแทฮยองและกดเปิดกระจกรถ เมื่อกระจกถูกเลื่อนลงมา จองกุกจัดการเอาของในมือโยนลงไปนอกหน้าต่างทันที
“พี่จองกุก!!” แทอยองเบิกตากว้างเมื่อโทรศัพท์มือถือถูกโยนออกไปนอกรถ เขาแทบไม่อยากจะเชื่อว่าอีกฝ่ายจะกล้าทำอะไรรุนแรงขนาดนี้ แทฮยองหันมองตามบนพื้นถนนก็เห็นโทรศัพท์ของเขาถูกรถคันหลังเหยียบต่อหน้าต่อตา
“ทำไมทำแบบนี้!!”
“เรื่องของกู”
“ฮึก” แทฮยองหันกลับมานั่งตัวตรงอีกครั้ง ยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้มใสแรงๆเมื่อสิ่งที่จองกุกทำมันแย่มากสำหรับเขา แต่แทฮยองจะด่าหรือเถียงอะไรออกไปได้ละ ในเมื่ออีกฝ่ายน่ากลัวขนาดนี้ เขายอมรับว่ากลัวจองกุก
“จอดเลย ผมจะกลับเอง”
“หึ”
“ผมบอกให้จอด!”
“อย่ามาสั่ง!”
“ฮึก ผมจะกลับบ้านเอง”
“ใครบอกว่ากูจะพามึงกลับบ้าน?”
“...?” แทฮยองมองออกไปข้างทางทันที เขาไม่คุ้นกับเส้นทางใหม่เพราะบ้านเก่าของแทฮยองไม่ได้อยู่ในละแวกบ้านของคุณลุงเลย ถึงจะพาออกนอกเส้นทางจริงๆ แทฮยองก็ไม่รู้หรอก
“พี่จองกุกจะพาผมไปไหน?”
“อย่าสะเออะเรียกกูว่าพี่”
“...”
“เพราะกูไม่นับมึงเป็นน้อง”
แทฮยองกัดริมฝีปากตัวเองแน่น จองกุกพาเขาขับออกมาได้สักพักใหญ่แล้ว แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเป็นเส้นทางกลับคฤหาสน์เลย แทฮยองได้แต่นั่งกำมือตัวเองแน่น กวาดสายตาอ่านป้ายก็พบว่าจองกุกกำลังจะพาเข้าออกจากตัวเมือง
“พี่— คุณจะพาผมไปไหน ผมไม่ไปนะ!!”
“...”
ไม่มีคำตอบจากอีกฝ่าย แทฮยองจึงตัดสินใจตวัดสายตามองคนขับที่กระตุกยิ้มร้ายอย่างน่ากลัว แทฮยองรีบหันหน้ากลับมาทันที เขาไม่รู้ว่าจองกุกรู้เรื่องแต่งงานหรือยัง แต่เขาน่ะรู้อยู่แล้วและก็คิดว่าตัวเองไม่สามารถขัดคำสั่งของแม่กับคุณลุงได้
แต่สำหรับจองกุก...แทฮยองมั่นใจว่าจองกุกต้องปฏิเสธจนหัวชนฝาแน่ๆ เขาจึงทำเป็นนิ่งเพราะมั่นใจว่ายังไงซะจองกุกก็ต้องไม่ยอมแต่งงานกับเขาแน่นอน
“ที่ไหน!?” แทฮยองถามออกไปเมื่อรถยนต์ค่อยๆชะลอและจอดลงในที่สุด รอบข้างที่เต็มไปด้วยตู้คอนเทนเนอร์เก่าๆมากมาย ภายนอกช่างเงียบสงัดและท้องฟ้าที่ค่อยๆมืดลงเพราะเวลานี้ใกล้มืดเต็มทีแล้ว
“คุณพาผมมาที่นี้ทำไม?”
จองกุกไม่สนใจเสียงหวานที่สั่นเครือ เขาจอดรถและเปิดประตูลงไปทันทีทำให้แทฮยองมองไปรอบๆด้วยความหวาดกลัว ไม่นาน...ประตูฝั่งของแทฮยองก็ถูกเปิดออกจากจองกุก
หมับ!
“โอ๊ย!!”
มือหนากระชากต้นแขนเล็กจนร่างบอบบางของเด็กหนุ่มปลิวลงจากรถอย่างง่ายดาย ดวงตากลมที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาช้อนมองคนใจร้ายที่ใช้สายตาดุดันมองเขาอยู่
พรึบ!
จองกุกเหวี้ยงแทฮยองอย่างแรงจนคนที่ตัวเล็กกว่าเกือบล้มหน้าคะมำลงกับพื้น
“จัดการมันซะ”
แทฮยองเบิกตากว้างเพราะจู่ๆจองกุกก็พูดบางอย่างออกมา เขาไม่เข้าใจจนกระทั้งหันหลังไปมองก็พบแก๊งวัยรุ่นชายเกือบสิบคนค่อยๆเดินเข้ามาใกล้
“ฮึก ไม่นะ” แทฮยองส่ายหน้าแรงๆก่อนจะหันมองเจ้าของคำสั่ง แทฮยองไม่รู้ว่าคนพวกนี้เป็นใครแต่เขามั่นใจว่าพวกมันไม่ได้มาดีแน่ๆ
“คุณจองกุก อย่าทำแบบนี้เลยนะ ผ...ผมขอโทษ”
“ขอโทษเรื่องอะไรล่ะ มึงรู้ตัวด้วยเหรอว่าผิดเรื่องอะไร?”
“ผมขอโทษแทนแม่...”
“กองไว้ตรงนั้น” ใบหน้าหล่อกระตุกยิ้มมุมปาก เขาตวัดสายตามองแก๊งลูกน้องอันธพาลที่เอาไว้ใช้งานนานๆที
โดยเฉพาะช่วงที่เขาอยากซ้อมคน
“ทำให้แม่มันเห็นแล้วอกแตกตาย”
“ได้เลยลูกพี่!!!”
จองกุกใช้ลิ้นดุดกระพุ้งแก้มสองสามทีก่อนจะแสยะยิ้มอย่างนึกสมเพชร่างบางตรงหน้าที่เริ่มร้องไห้ออกมา
“ขี้ขลาดว่ะ”
“ฮึก” แทฮยองร้องไห้ออกมาอย่างหนัก มือทั้งสองข้างกำขากางเกงแน่น แทฮยองรู้ว่าจองกุกต้องการให้คนพวกนี้ซ้อมเขาให้สมกับความโกรธที่จองกุกมีให้แทฮยองและแม่ แต่แทฮยองรู้ตัวว่าตัวเองคงจะสู้ผู้ชายพวกนี้ไม่ได้ ถึงเขาจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่แทฮยองไม่ได้แข็งแรงถึงขั้นต่อสู้เป็น เขาออกจะอ่อนแอซะด้วยซ้ำ...
“จัดการมัน!” ยิ่งเห็นใบหน้าของแทฮยองยิ่งทำให้เขานึกถึงใบหน้าของซอนมี จองกุกกำหมัดแน่นเพราะภาพรอยยิ้มของพ่อของเขาที่ส่งให้ผู้หญิงคนนั้นผุดขึ้นมา
รอยยิ้มนั่น...มันเคยเป็นของแม่เขา และต้องเป็นของแม่เขาคนเดียวเท่านั้น!
ตึกๆๆ
เสียงฝีเท้าที่ค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ ก่อนที่มือหนาของบางคนจะผลักเข้าที่ไหล่บางอย่างแรงจนแทฮยองกระเด็นล้มลงกับพื้น จากนั้นร่างบางถูกคร่อมทับด้วยวัยรุ่นคนหนึ่งก่อนที่ใบหน้าหวานจะถูกหมัดหนักๆกระแทกเข้าที่แก้ม
ผลัวะ!!!
“อึก!”
ผลัวะ!!!
ใบหน้าของแทฮยองหันซ้ายขวาตามแรงที่ถูกต่อย เขาเจ็บจนน้ำตาไหลพรากออกมา แต่ยิ่งเจ็บใจไปกว่านั้นคือเขาสู้ไม่ได้เลย ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะร้องขอความเห็นใจ
“ฮึก!”
“ร้องไห้อย่างกับผู้หญิง!” วัยรุ่นคนหนึ่งที่ยืนดูเหตุการณ์ด้วยความสนุกพูดขึ้นมา ดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำใส่ๆเผลอสบเข้ากับสายตาคู่คมที่ยืนกอดอกมองเหตุการณ์นิ่งๆ
“เออว่ะ จะว่าไปมึงก็เหมือนผู้หญิงเหมือนกันนี่หว่า”
“ฮึก ไม่!” แทฮยองพยายามดิ้นเมื่อคนที่คร่อมร่างเขาไว้ใช้มือสอดเข้าไปในเสื้อก่อนจะบีบเนื้อนุ่มๆอย่างพิจารณา
“เฮ้ยพวกมึง! ตัวนิ่มเอาเรื่องว่ะ!”
“จริงดิ!”
“กูขอจับบ้าง!”
“ฮื้อ ไม่ ออกไปนะไอ้ชั่ว!!!” แทฮยองดิ้นพล่านเมื่อวัยรุ่นผู้ชายที่เหลือกำลังจะรุมล้อมตัวเขา ยิ่งสายตาน่ารังเกียจยิ่งทำให้แทฮยองหวาดกลัว แทฮยองช้อนสายตามองคนที่บงการทุกอย่างก็เห็นจองกุกขมวดคิ้วแน่น นัยน์ตาคู่คมฉายแววลังเลบางอย่าง
“หยุดซะ!!”
กึก
ทุกอย่างหยุดอยู่กับที่ วัยรุ่นนับสิบคนชะงักมือเอาไว้เพราะน้ำเสียงแข็งกร้าวที่ฟังแล้วขนลุกกันไปตามๆกัน
“เอ่อ...ถ้าลูกพี่ยกมันให้พวกผมแล้ว พวกผมขอเอามันไปเล่นสนุกละกันนะ” เด็กที่คาดว่าอายุน้อยกว่าจองกุกพูดออกมา คิ้วหนากระตุกเล็กน้อยเมื่อไอ้เด็กเมื่อวานซืนตรงหน้ากล้าขอลูกเมียน้อยที่เขาอยากจะเก็บไว้แกล้งอย่างหน้าด้านๆทั้งที่เขาก็พึ่งเอ่ยปากบอกให้พวกมันหยุดเมื่อครู่นี้
“กลับไปให้หมด”
“แต่ลูกพี่--”
“กูบอกให้กลับไป!!!” เมื่อน้ำเสียงโหดเหี้ยมตวาดลั่น ไม่มีใครในที่นี้กล้าต่อรองอะไรทั้งนั้น เด็กวัยรุ่นนับสิบคนวิ่งหายไปจากตรงนี้จนหมด เหลือเพียงร่างของแทฮยองที่นอนอยู่บนพื้นทราย เนื้อตัวมอมแมม ใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยหยดน้ำตาและที่สำคัญ...มุมปากกับแก้มทั้งสองข้างช้ำเขียวและมีเลือดไหลออกมาไม่หยุด
“ฮึก”
“...” จองกุกมองคนที่ค่อยๆยันร่างตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา ก่อนที่ร่างสูงจะหมุนตัวเดินกลับไปที่รถ
แทฮยองยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาออก เขายันร่างกายที่บอบช้ำให้ลุกขึ้นยืนและจำใจเดินตามหลังคนใจร้ายไปที่รถ ไม่รู้ว่าจองกุกจะให้เขากลับด้วยมั้ยแต่แทฮยองไม่กล้าอยู่ที่นี้คนเดียวหรอก เขากลัวว่าคนเลวพวกนั้นจะย้อนกลับมาทำร้ายอีก...
กึก
แทฮยองถือวิสาสะเปิดประตูฝั่งข้างคนขับและแทรกตัวเข้าไปนั่งทันที ไม่แม้แต่จะหันหน้ามองคนใจร้ายที่ใช้สายตาน่ากลัวมองเขาอยู่
“ลงไป”
“...”
“หูหนวก?”
“ผม ฮึก...ขอกลับด้วย”
“กูต้องให้?”
“ครั้งสุดท้ายที่ผมจะกวนใจคุณ”
“...”
“ผมจะไม่มาให้คุณเห็นหน้าอีก” แทฮยองพูดออกไปทั้งที่ยังก้มหน้าอยู่ จองกุกกระตุกยิ้มร้ายเมื่อได้ยินประโยคที่ฟังแล้วเข้าหู
“แม่มึงด้วย”
“...”
“ออกไปจากบ้านกูให้หมด ไม่งั้นมึงกับกูไม่จบแค่แบบวันนี้แน่”
“ฮึก...ครับ”
[100%]
#ฟิคจองกุกเสพติด
TBC.
ใจร้ายยยยยยย TT ที่พี่เขาใจร้ายกับน้องขนาดนี้เพราะพี่แกยังเห็นน้องเป็นผู้ชายคนหนึ่งเลยลากไปซ้อม หลังๆอาจจะลากไปทำอย่างอื่น -..-
ใครเข้ามาอ่านแล้วชอบก็คอมเม้นท์บอก คุยกันได้นะคะ ขอกำลังใจเย้อๆ ^-^
ตายแล้ว โหดร้ายเหลือเกินพระเอกเรา (แต่ก็หนุกกกก )ใจหายวาบตอนพาคนมารุมน้องดีที่ยังช่วยเขา
จากนี้ก็สู้ๆนะแทฮยอง เตรียมตัวให้พร้อม คาดว่าจะโดนอีกเยอะ ????
ให้เย้ออๆ เลย~