ADDICT 01
-Intro-
ยามค่ำคืนของท้องฟ้ามืดมิด ท่ามกลางเสียงดนตรีคลาสสิกบรรเลงเป็นท้วงทำนองหวานหู ภายในคฤหาสน์ใหญ่โตบ่งบอกถึงฐานะของผู้ที่อาศัยอยู่ ห้องอาหารที่เคยเงียบเหงามาห้าเดือนเต็ม...จะไม่เป็นอย่างนั้นอีกต่อไป
“ทานเยอะๆนะหนูแทฮยอง พ่อสั่งให้ทำของโปรดของหนูทั้งนั้นดูสิ” รอยยิ้มอบอุ่นไร้การแสแสร้งส่งกลับมาให้จากชายวัยกลางคนที่นั่งหัวโต๊ะอาหาร เด็กหนุ่มน่าตาน่ารักค่อยๆผ่อนคลายอาการเกร็งจากที่ก่อนหน้านี้เขาประหม่ายิ่งนัก
“ขอบคุณครับ”
“ของโปรดของหนูจริงด้วย แม่ตักให้นะแทฮยอง”
คิมซอนมี เอื้อมตักซุปเนื้อของโปรดของลูกชายและใส่ไว้ในจานตรงหน้าแทฮยอง เขาอมยิ้มให้แม่แท้ๆของตัวเองก่อนจะหันไปสบตากับผู้ชายที่นั่งตรงหัวโต๊ะอาหาร คนที่เขากำลังจะเรียกว่า พ่อ ในอีกไม่ช้านี้
“ขอบคุณครับแม่”
ทั้งสามคนรับประทานอาหารค่ำภายใต้แสงเทียน บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสุขและอบอุ่นถูกถ่ายทอดออกมาจากผู้ใหญ่ทั้งสองคนจนแทฮยองสัมผัสได้
เวลาผ่านไป...
“เห้อ ให้ตายเถอะ เจ้าลูกชายของฉันมันเหลวไหลจริงๆ”
จอนจองซู ยกผ้าสีขาวสะอาดขึ้นซับริมฝีปากก่อนจะนัยน์ตาคมจะค่อยๆฉายแววดุดันขึ้นมา แทฮยองเงยหน้าจากถ้วยขนมหวานและสบตาเข้ากับจานเปล่าฝั่งตรงข้าม ซึ่งน่าจะเป็นที่นั่งของอีกคน
“ไม่โมโหสิคะคุณ จองกุกอาจจะติดธุระก็ได้” ซอนมีเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เพื่อหวังว่าให้คนขี้หงุดหงิดได้ใจเย็นลงมาบ้าง
“ทั้งที่มันรู้ว่าวันนี้คือวันที่ฉันจะแนะนำแม่คนใหม่และน้องชายให้มันรู้จัก แต่ก็ยังกล้าที่จะเบี้ยวนัด!”
“ผมไม่กล้าเบี้ยวพ่อหรอกครับ”
น้ำเสียงแข็งกร้าวดังขึ้นหน้าประตูห้องอาหาร ปรากฏร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีดำสนิทยืนกอดอกพิงบานประตู ใบหน้าหล่อเหลาที่แฝงความร้ายกาจและเย็นชา นัยน์ตาดุดันถอดแบบออกมาจากพ่อของเขาอย่างชัดเจน
“หึ มาแล้วเหรอไอ้ตัวดี”
“...”
“คุณ...พูดกับลูกดีๆสิคะ”
“ใครลูกคุณน้าไม่ทราบครับ?”
จอนจองกุก ลูกชายคนเดียวของจอนจองซูปล่อยแขนออกจากกันพลางก้าวเท้าเข้ามาภายในห้องอาหาร เขากระตุกยิ้มอย่างนึกรังเกียจเมื่อได้ยินอีกฝ่ายเรียกเขาว่าลูก
“เอ่อ...น้า น้าขอโทษค่ะ” ซอนมีรีบลุกขึ้นยืนก่อนจะโค้งลำตัวให้คนที่เด็กกว่าแต่ก็ถูกมือหนาของจองซูคว้าต้นแขนเอาไว้
“เธอไม่ต้องไปก้มหัวให้มัน”
“แต่...”
“คนดีจังเลยนะครับ คุณน้า” รอยยิ้มร้ายถูกส่งผ่าน สีหน้าและแววตาของร่างสูงบ่งบอกชัดเจนว่ารู้สึกอย่างไรกับเหตุการณ์ตรงหน้า
เขารังเกียจ และขยะแขยง
“พ่อมีใครจะแนะนำให้ผมรู้จักก็เชิญครับ เวลาของผมน่ะ...มันมีค่ามากกว่าเรื่องไร้สาระตรงนี้”
“จอนจองกุก!!!” จองซูตวาดลูกชายตัวเองลั่น ส่งผลทำให้เด็กหนุ่มร่างบางที่นั่งกำมือตัวเองแน่นสะดุ้งด้วยความตกใจ แทฮยองเผลอสบตากับคนใจร้ายเพียงชั่วครู่ ก่อนที่ดวงตากลมจะเป็นฝ่ายหลุบหนีลงเสียก่อน
“ยกกันมาทั้งบ้าน? หมดยังล่ะ หมาแมว คนรับใช้? ขนกันมาให้หมดสิครับคุณน้า” จองกุกเลิกคิ้วถามหญิงสาวที่ยืนตัวสั่นระริก เธอพยายามอดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมากับคำพูดของอีกฝ่าย แต่มันช่างยากเย็นเหลือเกิน
“พอได้แล้วจอนจองกุก!!”
“ฮึก คุณคะ อย่าดุคุณจองกุกเลย” ซอนมียกหลังมือเช็ดน้ำตาบนใบหน้าตัวเอง เธอหันหน้ามาสบตากับลูกชายคนเดียวที่นั่งมองเหตุการณ์ทุกอย่างเงียบๆ แทฮยองรู้สึกเหมือนจะขาดใจลงตรงนี้ เมื่อเห็นใบหน้าของคนที่ตัวเองรักมากที่สุดเต็มไปด้วยหยดน้ำตา
“แม่...” แทฮยองรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินอ้อมโต๊ะอาหารก่อนที่มือบางจะคว้าข้อมือของแม่ตัวเองให้ออกห่างจากคนใจร้ายที่ชื่อจองกุก ดวงตากลมจ้องเขม็งไปที่อีกฝ่ายด้วยท่าทางอวดเก่ง
“มองหน้ากูทำไม?”
แทฮยองกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ถึงเขาจะบอบบางกว่าอีกฝ่าย แต่เหตุการณ์แบบนี้แทฮยองต้องปกป้องแม่ของเขา
คนใจร้ายตรงหน้าทำให้แม่ของเขาร้องไห้ ไม่มีทางที่แทฮยองจะยอมเด็ดขาด
“ออกไปได้แล้วจองกุก” จองซูพยายามข่มน้ำเสียงให้เย็นลง เขาหลับตาแน่นก่อนจะชี้นิ้วไล่ลูกชายเพียงคนเดียวให้ออกไปจากตรงนี้
“ปกป้องคนอื่นถึงขนาดไล่ลูกตัวเอง พ่อดีเด่นจริงๆ”
“จอนจองกุก!!!”
“ไงครับคุณน้า ผมนี้แม่งโง่เนอะที่เคารพคุณน้ามาตั้งนาน” จองกุกหันมาหาเรื่องซอนมีต่อ สายตาคมตวัดมองมือของแม่ลูกที่ยังจับกันแน่นก็อดที่จะยกยิ้มออกมาไม่ได้
“...”
“เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนแม่ของผม คอยเข้าออกบ้านผมมาหลายปี คนโง่อย่างผมถึงไม่ได้เอะใจอะไร”
“...”
“หึ แต่ใครจะคิดละว่าเพื่อนสนิทแม่ตัวเองจะกลายมาเป็นแม่เลี้ยง...หลังจากที่แม่ของผมตายไปได้แค่ห้าเดือน!!”
“ฮึก มันไม่ใช่อย่างที่คุณจองกุกเข้าใจนะคะ ฮึก...น้าไม่เคยเป็นชู้กับคุณจองซู น้าไม่เคยคิดจะหักหลังเพื่อนตัวเองเลยนะ”
“แม่ครับ อย่าร้องได้มั้ย...” แทฮยองบีบมือบางแน่น ยิ่งซอนมีอยากจะอธิบายเท่าไรยิ่งทำให้จองกุกโมโห
“งั้นเหรอครับ จะบอกว่าคุณน้ากับพ่อผมดูใจกันแค่ห้าเดือน ระหว่างงานศพของแม่ผมงั้นเหรอ!!!” น้ำเสียงแข็งกร้าวตวาดขึ้นอย่างน่ากลัว เส้นเลือดสีเขียวนูนขึ้นตามลำคอเพราะความเกร็ง จองกุกโมโหจนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้นั่นคือนิสัยของเขา
“หยุดสักทีจองกุก ฉันบอกให้แกหยุดไง!!”
“ฮึก” หญิงสาวเพียงคนเดียวก้มใบหน้าเพื่อซ่อนความอ่อนแอเอาไว้ เธอยอมรับผิดกับการกระทำที่กำลังทำอยู่ แต่ที่จองกุกพูดมันก็ไม่ถูกทั้งหมด...
“หยุดก็ได้ครับ เห็นแก่ว่าที่น้องชาย...ที่กลัวจนตัวสั่น” ใบหน้าหล่อแสยะยิ้มสมเพชกับสองแม่ลูกตรงหน้า จองกุกจ้องเขม็งไปที่ใบหน้าน่ารักของเด็กผู้ชายที่ตัวเล็กกว่าก่อนจะลั่นวาจาบางอย่าง
“อย่าให้กูเห็นหน้ามึง”
สิ้นเสียงประโยคสุดท้าย จองกุกหมุนตัวเดินออกจากห้องอาหารทันที และไม่นานก็ปรากฏเสียงเครื่องยนต์ขับออกไปดังสนั่น
“คุณ ไม่เป็นไรนะ ผมขอโทษแทนไอ้ลูกไม่รักดี--”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่เป็นไร”
มีเพียงรอยยิ้มบางๆถูกส่งให้แกกันเพื่อปลอบประโลม
22.15 น.
ภายในห้องนอนที่ถูกจัดแต่งขึ้นอย่างน่าอยู่ แทฮยองนอนหนุนตักแม่ของเขามาได้สักพัก โดยมีฝ่ามือบางคอยลูบหัวทุยอยู่เป็นระยะ
“แม่ เรากลับบ้านกันเถอะ...นะครับ”
“หนูก็รู้ว่าเรากลับไม่ได้”
“ทำไมละครับ ถ้าคุณลุงรักแม่จริงๆ ก็ต้องยอมให้เรากลับ” แทฮยองไม่เข้าใจเลยสักนิด เขารู้ว่าซอนมีกับจองซูรักกัน และเขาก็เชื่อว่าแม่ของเขาไม่ได้เป็นอย่างที่จองกุกกล่าวหา
แม่ของเขาไม่ได้แย่งคุณลุงมาจากใครแน่นอน
ถึงมันจะเร็วเกินไปจนไม่น่าให้อภัย แต่ความรักเป็นสิ่งที่ห้ามกันไม่ได้ แทฮยองไม่รู้หรอกว่าทั้งคู่รักกันมากขนาดไหน แต่เหตุการณ์เมื่อห้าเดือนก่อน ช่วงเวลาที่แสนยากลำบาก คนสองคนที่ต้องมาสูญเสียคนที่ตัวเองรักไปพร้อมๆกัน จองซูสูญเสียภรรยาในขณะเดียวกันซอนมีก็สูญเสียเพื่อนรัก พวกเขาต่างคอยดูแลและปลอบใจ อยู่ข้างๆวันที่ร้องไห้ โอบกอดกันในฐานะเพื่อนจนแปรเปลี่ยนเป็นคนรักในที่สุด
ห้าเดือน...ถึงแม้มันจะน้อยนิดสำหรับบางคน แต่สำหรับบางคนที่กำลังอ่อนแอเหมือนโลกทั้งใบกำลังจะดับสิ้น เขากลับพบเจอแสงสว่างที่เข้ามาช่วยนำพาให้ชีวิตนี้มันน่าอยู่มากยิ่งขึ้น มันอาจจะดูไม่ถูกต้องที่เขาคนนั้นคือสามีของเพื่อน และเธอคนนั้นคือเพื่อนที่รักมากที่สุด
แต่ความรักมันเกิดขึ้นแล้วก็ยากที่จะหักห้าม จองซูและซอนมีตกลงกันว่าจะคบหาและอยู่กินกันที่คฤหาสน์แห่งนี้ ซอนมีที่เป็นม่ายมาหลายสิบปีก็ไม่ขัดข้องที่จะตอบรับรักเพราะเธอก็รักเขาไม่น้อยไปกว่ากัน แต่หน้าที่การงานและหน้าตาทางสังคมของจองซูจึงไม่สามารถบอกสื่อสังคมให้รับรู้ได้ว่าเขากำลังจะมีรักครั้งใหม่ อย่างที่รู้ๆกันว่าภรรยาคนเก่าของเขาเสียชีวิตไปเพราะอุบัติเหตุผ่านไปแค่ห้าเดือนเท่านั้น ผู้บริหารบริษัทยักษ์ใหญ่จึงต้องไว้หน้าเพื่อไม่ถูกเป็นที่กล่าวหาของสื่อสังคมว่าเขาและซอนมีไม่ได้เป็นชู้กันตั้งแต่ครั้งที่ภรรยาของเขายังมีชีวิตอยู่
“แม่ แทขอถามอะไรได้มั้ย?”
“แม่รู้ว่าหนูจะถามอะไร”
“...”
“แม่ไม่เคยคิดจะแย่งคนรักของเพื่อน ตลอดเวลาที่น้าแฮอินมีชีวิตอยู่ แม่คิดกับคุณจองซูแค่เพื่อนคนนึงเท่านั้น”
“...”
“แต่หลังจากวันนั้น วันที่แฮอินจากไป ทุกๆคนเสียใจ แต่คนที่เสียใจมากที่สุดก็คือคุณจองซู”
“...”
“เขาแทบจะไม่เป็นผู้เป็นคน แม่ทำได้เพียงอยู่ข้างๆเขาวันที่ทุกข์ใจ คอยคุยเป็นเพื่อนและอยู่เคียงข้างจนค่อยๆกลายมาเป็นความรัก”
“...”
“แม่รู้ว่ามันไม่ควร แต่แม่ก็รักคุณจองซูไปแล้วนะแทฮยอง”
“...” แทฮยองนอนฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากแม่ของเขา แทฮยองเชื่อว่าทุกคำพูดเป็นความจริง เด็กหนุ่มยิ้มออกมาบางๆ
“ผมยอมรับในการตัดสินใจของแม่”
“หนูเข้าใจแม่นะ”
“เข้าใจสิครับ ทำไมแทจะไม่เข้าใจล่ะ”
“แล้วอีกอย่าง...คิมกรุ๊ปกำลังประสบปัญหาอย่างหนัก ถ้าไม่ได้คุณจองซูช่วยเอาไว้ บริษัทเราก็แย่นะลูก”
“...”
“แต่คุณจองซูก็ช่วยได้เท่าที่เขาจะทำได้ การที่จะให้คิมกรุ๊ปกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งมันมีทางเดียวเท่านั้น...คือบ้านเราต้องแต่งงานกับตระกูลจอน”
“ถ้าอย่างงั้น แม่ก็ต้องแต่งงานใหม่?”
“แม่แต่งไม่ได้” ซอนมีส่ายหน้าเบาๆ เป็นเหตุให้แทฮยองลุกขึ้นจากตักนุ่มๆ เขานั่งนิ่งจ้องหน้าแม่ตัวเองที่มีนัยน์ตาสั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด
“...”
“พินัยกรรมของจอนกรุ๊ปที่มีมานาน ระบุว่าไม่ต้องการสะใภ้หรือเขยคนที่สองในการแต่งงานเพื่อปรองดองทางธุรกิจ”
“...?”
“พูดง่ายๆก็คือ...ถึงแม่จะแต่งงานใหม่ แต่เป็นสะใภ้คนที่สองไม่ใช่ภรรยาคนแรกของคุณจองซูก็ไม่มีสิทธิอะไรกับหุ้นส่วนในจอนกรุ๊ป”
“แม่หมายความว่ายังไง แล้ว--”
“...แทฮยอง”
มือที่สั่นไหวเอื้อมไปจับมือบางของลูกชาย ซอนมีส่งยิ้มบางๆให้คนที่เธอรักมากที่สุดในดวงใจ ถึงแม้จะรู้ตัวว่ากำลังทำร้ายลูกอยู่ก็ตาม
แต่เธอไม่ทางเลือก
“แม่คุยกับคุณจองซูแล้ว เมื่อแทฮยองอายุ 20 ปีบริบูรณ์...”
“...?”
“หนูจะต้องแต่งงานกับคุณจองกุกนะลูก”
“...!!!”
Jeon Casino
ร่างสูงกำยำในชุดเสื้อเชิ้ตสวมทับด้วยเสื้อหนังราคาแพง กางเกงยีนส์สีซีดพอดีตัว ชายหนุ่มอายุ 22 ปีบริบูรณ์ที่ไม่บอกก็คงไม่มีใครรู้ว่าเขาคือเจ้าของคาสิโนใต้ดินแห่งนี้
“จัดการตามที่บอกให้ด้วย”
“ครับ คุณจองกุก”
ลีวังซอง ลูกน้องคนสนิทของจอนจองกุกค้อมลำตัวรับคำสั่งก่อนจะเดินแยกไปอีกทาง
ภายในห้องทำงานกว้างขวางที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง เจ้าของบ่อนคาสิโนผิดกฎหมายที่อายุน้อยที่สุดกำลังตรวจเช็คเอกสารมากมายบนโต๊ะทำงานของเขา เป็นประจำทุกวันที่จองกุกจะต้องเข้ามาตรวจเช็คเอกสารเพื่อป้องกันความผิดพลาดและเซ็นชื่อในช่องผู้บริหารลงไป
ถึงแม้ว่า Jeon Group จะเป็นบริษัทหลักทรัพย์ที่ถูกต้องตามกฎหมายและอยู่คู่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่แถวหน้าของเกาหลีใต้ก็จริง แต่มีเพียงจอนจองซูพ่อของจองกุกเท่านั้นที่เป็นผู้บริหารหลัก ส่วนลูกชายคนเดียวอย่างจองกุกที่ชื่นชอบกิจการผิดกฎหมายเป็นชีวิตจิตใจ เป็นเพียงนักศึกษาปี 4 แต่สามารถเปิดธุรกิจที่เป็นของตัวเองภายใต้ความขาวสะอาดของ Jeon Group ไม่ว่าจะเป็นผับใต้ดินอย่าง Jeon Pub สนามแข่งรถผิดกฎหมายอย่าง Jeon Circuit คาสิโนยักษ์ใหญ่ที่ใครๆต่างรู้จักอย่าง Jeon Casino และผู้ที่ทำแบบนี้ได้คงจะมีแต่ผู้ที่ไม่สนกฎหมาย หรือไม่...
กฎหมายก็ทำอะไรพวกเขาไม่ได้นั่นเอง
#ฟิคจองกุกเสพติด
TBC.
เปิดเรื่องใหม่อีกแย้วววววว ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ เลิฟๆ ><
O W E N TM.
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย