ตอนที่ 11 : MAFIA 11 :: สวนทาง [100%]
ลานกว้างชั้นบนสุดของเรือยอร์ชตอนนี้ถูกประดับตกแต่งไปด้วยโต๊ะรับประทานอาหารซึ่งมีที่นั่งสำหรับสองคน ร่างสูงของมาเฟียหนุ่มนั่งอยู่เพียงคนเดียวกับอาหารทะเลราคาแพงมากมายหลายชนิดวางเรียงรายอยู่ข้างหน้า ส่งกลิ่นหอมน่ารับประทานโชยไปทั่วทั้งบริเวณ
“รสชาติไม่เลวนิ”
ยุนกิพูดกับตัวเองพลางตักนู้นตักนี้เข้าปาก
“คนบ้าอะไรพูดคนเดียว”
เสียงหวานพึมพำเบาๆและยังคงแอบตัวเองอยู่หลังเสาต้นใหญ่ไม่ไกลจากโต๊ะอาหาร แน่นอนว่าตอนนี้เธอกำลังแอบมองยุนกิทานอาหารอยู่ ทั้งๆที่ประกาศกร้าวออกไปแล้วว่าจ้างให้เธอก็ไม่ออกมาหาเขาเด็ดขาด
แต่จะทำยังไงก็คนมันหิวนี่นา
“ย่าส์! กุ้งตัวใหญ่อะไรขนาดนี้กัน”
ยุนกิจงใจกระแทกเสียงดังและใช้สองมือแกะเปลือกกุ้งตัวโตวางลงในจาน เขาทำแบบนั้นอยู่สักพักโดยที่รู้ตัวว่ามีบางคนกำลังแอบมองอยู่เลยคิดอยากจะแกล้งคนอวดเก่งว่าจะทนได้นานสักแค่ไหน
“แกล้งกันชัดๆ”
ข้าวยู่ปากและเลื่อนศีรษะเข้ามาด้านใน ตัดสินใจหันหลังพิงเสาและกระทืบเท้าไปมา
“เอาไงดี หิวจะตายอยู่แล้ว”
“เสียงใครน่ะ!”
“...!”
ยุนกิแกล้งตีเสียงโหด ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าใครที่กำลังแอบมองเขากินตั้งแต่แรก ข้าวหลับตาปี๋ ร้องคำว่าซวยแล้วในใจเพราะเธอกำลังจะถูกจับได้
“จะออกมาหรือไม่ออก!?”
ร่างบางตัดสินใจเดินออกมาจากเสาต้นใหญ่ กุมมือเล็กทั้งสองข้างไว้แน่นพลางก้มใบหน้า ก่อนจะค่อยๆเงยหน้าขึ้นสบตากับยุนกิที่ตีสีหน้านิ่งเย็นชาส่งกลับมา
“แอบมองฉัน?”
“ป...เปล่า”
“เปล่าก็ไปไกลๆ ไม่อยากเห็นหน้า”
“...”
ข้าวชะงักกับคำพูดของยุนกิเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้ารับเบาๆ ไม่แปลกใจหรอกที่เขาจะพูดจาแบบนี้กับเธอ เพราะเธอรู้ตัวเองอยู่แล้วว่าอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร แค่หวังอยากจะไปนั่งทานอาหารด้วยคน ข้าวก็หวังสูงมากพอแล้ว ร่างบางหันหลังทันทีเมื่อเริ่มรู้ตัวว่าทำสีหน้าเศร้าหงอยให้ยุนกิเห็น
“งั้นก็ทิ้งให้หมดเลย!”
กึก
เท้าเล็กหยุดเดินเมื่อคนด้านหลังพูดประโยคแปลกๆออกมา ไม่แน่ใจว่ายุนกิพูดกับใคร คงไม่ใช่...
“ถ้ายังเดินไปฉันจะทิ้งของพวกนี้ให้หมด”
“คุณจะเอายังไงกันแน่?”
ทนไม่ไหวจึงหันหน้ากลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง แวบหนึ่งที่เห็นรอยยิ้มบางๆบนใบหน้าหล่อนั่น ต้องตาฝาดไปแน่ๆ
“ฉันอิ่มพอดี แค่พูดว่าจะทิ้งเศษอาหาร ทำไม มีปัญหาอะไร?”
ยุนกิเห็นท่าทางน่ารักของอีกฝ่ายที่กำลังเขย่งปลายเท้าชะโงกหน้ากวาดมองอาหารบนโต๊ะและยู่ปากสีชมพูออกมา
“ยังเหลือตั้งเยอะแยะ ไม่ใช่เศษอาหารสักหน่อย”
“งั้นเหรอ มาสิ มากินของเหลือ”
หงุดหงิดกับคำพูดเย่อหยิ่งของอีกฝ่าย แต่ในเวลานี้เสียงท้องน้อยๆที่กำลังร้องประท้วงออกมาเพราะความหิวมีมากเกินไป เธอจึงมองผ่านคำพูดดูถูกทั้งหมดก่อนจะเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับยุนกิ
ใบหน้าน่ารักเม้มปากแน่นก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นอาหารทั้งหมดชัดๆ คำว่าเศษอาหารที่ยุนกิพูดถ้านึกภาพคงหนีไม่พ้นของเหลือเล็กๆน้อยๆแต่กลับไม่ใช่เลย ทุกอย่างในจานถูกตักออกไปแค่นิดเดียวเหมือนแค่ตักไปชิมเท่านั้น
และที่สำคัญ...กุ้งและปูตัวใหญ่ถูกแกะเปลือกออกจนหมด เผยให้เห็นเนื้อสีชมพูอ่อนๆวางอยู่ในจานคล้ายกำลังนอนรอใครบางคนมากินมัน
ถ้าตาไม่ฝาดยุนกิแกะเปลือกเจ้าพวกนี้ออกเองนี่นา แล้วทำไม...
“คุณกินไปหรือยังคะ”
“ถามทำไม”
“ก็...มันยังเหลือเยอะแยะเลย”
“เยอะแยะอะไรตาบอดเหรอ?”
“...”
“สงสัยอะไรหนักหนา จะกินไม่กิน?”
“ก...กินค่ะ!”
หมับ!
มือเล็กๆทั้งสองข้างคว้าไปที่เนื้อปูของโปรดก่อนจะตักน้ำจิ้มรสเด็ดมาราดลงไป ริมฝีปากอวบอิ่มอ้ากว้างรอให้ทุกอย่างตรงหน้าเข้ามาก่อนจะเคี้ยวตุ่ยๆเต็มแก้มจนกลมไปหมดแล้ว
“ยัยตะกละ”
“แค่กๆๆ”
ยุนกิเบ้หน้าทันทีเมื่อคนตรงหน้าสำลักออกมา ก่อนที่เธอจะเอามือปิดปากตัวเอง พยายามไอเบาๆเพราะกลัวว่าคนใจร้ายจะโมโหแล้วพาลไม่ให้เธอกินต่อ
“ขอ แค่กๆ โทษค่ะ”
ข้าวเงยหน้าสบตายุนกิ ก่อนจะรีบก้มหน้าทานอาหารตรงหน้าต่อไป โดยไม่รู้เลยว่ามีบางคนกำลังจ้องมองการกระทำบางอย่างที่เขาสามารถดูออกได้ตั้งแต่แรก เธอจะตัวสั่นทุกครั้งเมื่อถูกดุ จะรีบขอโทษทุกครั้งที่ตัวเองทำบางอย่างไม่ดีออกมา ซึ่งต่างกับมาเฟียหนุ่มเหมือนด้านขาวและด้านดำ ความบริสุทธิ์ใสสะอาดต้องมาแปดเปื้อนกับความสกปรก แม้ว่าใครจะมองว่าสีขาวของเธอจะถูกครอบงำไปด้วยสีดำจนตอนนี้กลายเป็นสีเทาแล้วก็เถอะ แต่ยุนกิยังคงมองว่าผู้หญิงตรงหน้ายังคงขาวใสไร้ที่ติเหมาะแก่การครอบครอง
เขาอยากอยากครอบครองเธอเป็นครั้งที่เท่าไรของวันแล้วนะ?
อีกด้านที่ยังคงทานอาหารต่อไปไร้บทสนทนาใดๆ ดูเหมือนว่าเธอจะยอมมานั่งทานอาหารโต๊ะเดียวกับเขาได้ไม่ใช่เพราะลืมเรื่องทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้น ทุกครั้งที่เงยหน้ามองใบหน้าเย็นชานั้นยิ่งเจ็บลึกไปถึงขั้วหัวใจ ภาพเหตุการณ์ในแต่ละครั้งที่คนใจร้ายคอยเหยียบย่ำร่างกายและศักดิ์ศรีมันยังฉายวนซ้ำๆ จนเธอคิดไม่ออกเลยว่าชาตินี้จะให้อภัยผู้ชายคนนี้ได้อีกหรือเปล่า
[30%]
ตกเย็น
เสียงเม็ดฝนอย่างหนักตกลงมากลางมหาสมุทรทำให้ร่างบางที่ยืนรับลมเย็นๆ มองวิวทิวทัศน์อย่างผ่อนคลายต้องรีบวิ่งเข้าไปภายในห้องรับรองของเรือสุดหรูแทบไม่ทัน ข้าวปัดๆความชื้นเปียกที่เสื้อผ้าก่อนจะเดินตรงไปที่ห้องนอน ห้องที่เธอใช้หลับนอนกับยุนกิเมื่อคืนนี้...
แอ๊ด
เมื่อเปิดประตูและชะโงกหน้าเข้าไปดูก็พบว่าภายในห้องว่างเปล่าไม่มีใครอยู่ เธอจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอกเพราะถ้ายุนกิอยู่ในห้องนี้ละก็เธอจะไม่มีทางเข้าไปเด็ดขาด
“อาบน้ำเลยดีไหมนะ?”
เสียงหวานพึมพำกับตัวเองพลางหันมองไปรอบๆห้องที่เงียบสงัด มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่ถูกเปิดตลอดทั้งวัน ก่อนที่ขาเรียวจะก้าวไปยังห้องน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลก็ต้องหยุดชะงักเมื่อจู่ๆมีเสียงบางอย่างคล้ายเสียงข้อความของโทรศัพท์มือถือดังขึ้นแต่ตอนนี้เงียบไปแล้ว
ข้าวหมุนตัวเปลี่ยนเป้าหมายจากห้องน้ำเป็นบนเตียงนอนทันทีก่อนที่สายตาจะเห็นแสงสว่างของหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เธอเบิกตากว้าง หน้าอกข้างซ้ายเต้นไม่เป็นส่ำเพราะในหัวสมองกำลังคิดแผนการบางอย่างออกมา
ข้าวหันไปมองที่ประตู ทุกอย่างหยุดนิ่งเช่นเดิม เท้าเล็กรีบวิ่งไปกดล็อคลูกบิดทันทีก่อนจะวิ่งกลับมาหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูขึ้นมาไว้ในมือ
เสียงกลืนน้ำลายลงคอดังพอๆกับเสียงเต้นของหัวใจ นิ้วเรียวกดปุ่มปลดล็อคก่อนจะตัดสินใจสไลค์หน้าจอ
ขอให้ไม่ตั้งรหัสผ่านทีเถอะ
“สำเร็จ!”
เสียงหวานหลุดปากออกมาพร้อมกับรอยยิ้มดีใจ มือไม้สั่นแทบจะทำอะไรไม่ถูก ก่อนที่หญิงสาวจะตั้งสติและกดไปที่ไอคอนรูปโทรศัพท์ เธอต้องโทรหาใครบางคน ใช่แล้ว! ต้องโทรบอกลุงกับป้าว่าเธอยังมีชีวิตอยู่และให้พวกเขาแจ้งตำรวจ!
ปังๆๆๆ!!
“...!!”
ข้าวหันหน้าขวับไปที่ประตูเมื่อบานประตูกำลังสั่นอย่างแรงตามมาด้วยเสียงทุบจากคนข้างนอก เธอทำอะไรไม่ถูกจึงหันมาตั้งใจกดเบอร์โทรที่จำได้ขึ้นใจแต่กลับลืมไปว่าการที่จะโทรออกไปยังต่างประเทศต้องใส่รหัสประเทศปลายทาง ความยุ่งยากนี้ยิ่งทำให้ข้าวมือสั่นหนักกว่าเดิม
“ไขกุญแจ”
“...!!”
น้ำเสียงคุ้นเคยกำลังพูดอยู่ด้านนอกและเธอก็มั่นใจว่ายุนกิกำลังให้ลูกน้องของตนไขกุญแจเข้ามา ข้าวตัดสินใจล้มเลิกการโทรออกครั้งนี้แต่ไม่รู้อะไรดลใจให้เธอยัดโทรศัพท์มือถือของยุนกิลงในกระเป๋ากางเกงขาสั้นด้านในและดึงกระโปรงลงมาปิดทับอีกครั้ง
แกรก!
ร่างสูงโปร่งเจ้าของใบหน้าเย็นชาเปิดประตูเข้ามาสำเร็จ ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาเธอที่ยืนนิ่งๆ ดูภายนอกอาจจะไม่มีอะไรแต่นัยน์ตาคู่สวยนั้นมีพิรุธบางอย่างจนปิดไม่มิด
“ทำอะไรอยู่?”
“จะอาบน้ำน่ะค่ะ”
“แล้วทำไมต้องล็อคประตู”
“จะเปลี่ยนเสื้อผ้าก็เลยต้องล็อคประตูไงคะ”
“งั้นเหรอ?”
ข้าวพยักหน้าเบาๆก่อนจะช้อนสายตาขึ้นสบตานัยน์ตาดุคม น่ากลัวจนเธอต้องรีบก้มหน้าลงอีกครั้ง
“ฉันไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
ร่างบางเดินตรงไปยังห้องน้ำแต่ต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงทุ้มของคนข้างหลังดังขึ้น
“เห็นโทรศัพท์ฉันหรือเปล่า?”
“...”
“ว่าไง?”
“ไม่เห็นค่ะ”
“จำได้ว่าฉันวางไว้บนเตียง”
“...”
“ขอยืมมือถือนายหน่อย”
“ครับ”
ขวับ!
ข้าวหันหน้ากลับมาทันทีเมื่อยุนกิขอยืมโทรศัพท์จากลุกน้องที่ช่วยไขกุญแจเข้ามา ชายหนุ่มยื่นให้เจ้านายก่อนที่มาเฟียตัวร้ายจะกดเบอร์ตัวเองและยกขึ้นแนบหู
Rrrr
[60%]
เสียงริงโทนที่คุ้นเคยดังลั่น ทำไมจะไม่คุ้นเคยในเมื่อเสียงเรียกเข้านั้นเป็นเสียงที่เขาตั้งเองกับมือ
หญิงสาวตัวสั่นระริกเมื่อถูกจับได้คาหนังคาเขา สายตายุนกิเลื่อนต่ำลงมองที่มาของเสียง เขารู้เลยว่าโทรศัพท์มือถือของตัวเองอยู่ที่ผู้หญิงตรงหน้า
มาเฟียหนุ่มกดวางสายและส่งคืนให้เจ้าของและไม่ลืมหันไปสั่งบางอย่างกับลูกน้องตัวเอง
“ออกไปได้แล้ว”
“ครับ”
เมื่อบุคคลที่สามออกไปจากห้องนี้เรียบร้อยแล้ว กลายเป็นว่ายุนกิอยู่กับข้าวเพียงสองคน สายตาดุดันยังคงจ้องมองไปที่ใบหน้าสวยเช่นเดิม จนคนถูกมองรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมา เหงื่อชื้นตามไรเส้นผมและฝ่ามือ คิดไม่ออกว่าจะหาข้อแก้ตัวยังไงในเมื่อหลักฐานมัดตัวว่าเธอเอาโทรศัพท์ของเขาไป
ข้าวเบิกตากว้างเมื่อร่างสูงตรงเข้ามาถกกระโปรงขึ้นและล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงขาสั้นตัวเล็กจนเธอร้องลั่น
“ว้าย!!”
“เอาไปทำไม!?”
“ฉ...ฉัน”
ยุนกิชูโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นพลางเลิกคิ้วถาม ข้าวเบ้ใบหน้าด้วยความกลัว ดวงตาเอ่อล้นไปด้วยน้ำใสๆอีกครั้งก่อนจะพูดติดอ่างกลับไป
“ฉ...ฉัน ขอโทษค่ะ อึก”
เมื่อเห็นใบหน้าหล่อเย็นชาที่ตอนนี้คิ้วขมวดบึ้งตึง เธอรู้สึกไม่ชอบให้ยุนกิทำหน้าแบบนี้เอาซะเลย เพราะมันน่ากลัวทุกครั้ง
“จะโทรหาใคร? หา!!!”
ยุนกิเปิดเบอร์โทรล่าสุดที่ล้มเหลวในการโทรออก ชูขึ้นอีกครั้งและตวาดใส่คนตรงหน้า
“ฮึก”
“โทรให้คนมาช่วย?”
“ฉันคิดถึงลุงกับป้า”
เขาไม่พูดอะไรได้แต่ใช้สายตาน่ากลัวจ้องกลับไป เมื่อเห็นใบหน้าหวานๆกำลังซีดเผือกเพราะความกลัวก็ทำให้คนใจร้ายใจเย็นลงอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ถึงอย่างไรก็เถอะ คนตรงหน้าทำผิดเพราะกำลังคิดที่จะหนีไปจากเขา
มันเริ่มเป็นสิ่งที่ยุนกิเกลียดมากที่สุดรองจากคิมแทฮยองไปซะแล้ว
“ต่อให้เธอมีปีกก็หนีฉันไม่พ้น”
“...”
“ไม่เข็ดหรือไงถามจริง?”
“...”
“หรือต้องให้ฉันล่ามโซ่เอาไว้!!”
เสียงทุ้มน่าเกรงขามตวาดลั่นจนทำให้คนตัวเล็กยิ่งกลัวมากขึ้นกว่าเดิม แต่เธอพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้เพราะถ้าร้องไห้งอแงออกมาเมื่อไหร่จะยิ่งทำให้ร่างสูงโมโหมากขึ้นแน่นอน จมูกเล็กที่มีสีแดงอ่อนๆไม่ได้ทำให้ยุนกินึกสงสารแต่อย่างใด ยิ่งทำให้เขานึกอยากแกล้งคนขี้แยมากขึ้นด้วยซ้ำ
ว่าแล้วก็แกล้งสักหน่อยดีกว่า
หมับ!!
“ว้าย!! ทำอะไร!”
ยุนกิทนไม่ไหวอีกต่อไปเมื่อภาพตรงหน้าที่มองเห็นกลายเป็นลูกแมวตัวน้อยน่าจับฟัด น่าจับขย้ำให้จมเขี้ยว แขนแกร่งช้อนร่างบางขึ้นในท่าเจ้าสาวและเดินดุ่มๆเข้าห้องน้ำโดยไม่สนใจเสียงหวีดร้องและแรงทุบตีเลยสักนิด
ปัง!
ยุนกิปิดประตูห้องน้ำอย่างแรงและตรงไปที่อ่างกว้างสุดหรู คนตัวเล็กดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดทำให้เขานึกรำคาญจึงตวัดสายตาคาดโทษใส่
“คุณจะทำอะไร!”
“เห็นว่าจะอาบน้ำไม่ใช่เหรอ”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา รอยยิ้มของเขาทำให้เธอร้อนๆหนาวๆอย่างบอกไม่ถูก ผู้ชายคนนี้อารมณ์ไม่ปกติแล้วนี่เขาคิดจะทำอะไรอีก
คงไม่...
ไม่นะ!! ยังไม่หายเจ็บเลยให้ตายเถอะ!!
“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะคุณยุนกิ!!”
ตุบ!
ซ่า!!
“อ๊ะ! คุณ!!”
ข้าวหวีดร้องลั่นเมื่อยุนกิปล่อยเธอลงในอ่างอาบน้ำและจัดการเปิดน้ำใส่อ่างโดยไม่ปรึกษาใครเลยสักนิด กลายเป็นว่าตอนนี้ร่างบางเปียกปอนและพยายามจะลุกขึ้นยืนแต่เพราะมีน้ำเพิ่มขึ้นมาทำให้เธอลุกขึ้นด้วยความทุลักทุเล
พรึบ!
“ว้าย!!!”
มือหนากดไหล่เธอให้นั่งลงเหมือนเดิม ดวงตากลมโตฉายแววไม่พอใจเมื่อถูกแกล้งแบบนี้ ข้าวได้แต่ด่าในใจพลางจิกสายตาที่คนเห็นไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิดแต่กลับชอบใจมากกว่าที่เห็นลูกแมวตัวน้อยหัดขู่ฟ่อออกมา
“จะทำอะไรน่ะ!?”
เธอเบิกตากว้าง หน้าอกข้างซ้ายเต้นแรงเมื่อยุนกิถอดเสื้อของตัวเองออก เผยกล้ามหน้าท้องเป็นลอนสวยและผิวขาวสุขภาพดีของคนตรงหน้าทำให้เธอชะงักทำอะไรไม่ถูก ถึงจะเคยเห็นแล้วก็เถอะแต่ก็ใช่ว่าจะชิน
พรึบ!
“จะทำอะไร!”
คนตัวเล็กถดหนีจนแผ่นหลังชิดกับขอบอ่าง เมื่อร่างสูงก้าวขาลงมาทั้งในสภาพกางเกงขายาวสีดำตัวเดียวปราศจากท่อนบน ยุนกินั่งลงและตวัดสายตามองเหยื่อที่อยู่ไม่ไกล
หมับ!
“อ๊ะ!”
เมื่อระดับน้ำอยู่ที่หน้าอก มือหนาจัดการปิดน้ำทันทีและหันมาดึงข้อมือเล็กจนเธอปลิวมากระแทกกับแผงอกแกร่ง ยุนกิกระตุกยิ้มร้ายก่อนจะก้มลงมองใบหน้าน่ารักที่มีสีชมพูระเรื่อข้างสองแก้ม
“ปล่อยนะคะ!!”
“ไม่ปล่อยมีปัญหาอะไร?”
“เล่นอะไรของคุณมันเปียกหมดแล้วนะ!!”
ข้าวชักสีหน้าโกรธ แกะร่างกายตัวเองให้ออกจากอ้อมกอดของยุนกิ
“เปียกก็ถอดสิ”
“บ...บ้าเหรอ!!”
ลูกแมวถลึงตาและขึ้นเสียงใส่มาเฟียสุดโหดอย่างลืมตัว แต่ตอนนี้เธอขอไม่กลัวอะไรอีกแล้วเพราะสถานการณ์น่าเป็นห่วงยิ่งนัก ทำให้ยุนกิโมโหแต่ละครั้งต้องลุ้นกันน้ำตาแทบไหลว่าจะถูกลงโทษแบบไหน และครั้งนี้ดูเหมือนยุนกิจะโกรธมากด้วยที่เธอแอบเอาโทรศัพท์ของเขาไปใช้ จะทำยังไงก็ได้แต่ขอร้องอ้อนวอน
เดี๋ยวนะ...อ้อนวอนเหรอ?
ถ้าทำแล้วจะรอดไหม ถ้าไม่ทำล่ะ จะรอดไหม!
ในหัวตีรวนไปหมด ใบหน้าหวานก้มหน้าลงเพื่อหลบเลี่ยงสายตาคมที่จะมองอะไรกันนักหนาก็ไม่รู้ และดูเหมือนข้าวจะคิดอะไรออก บางทีการพูดดีๆกับเขาอาจจะทำให้ยุนกิใจเย็นลงก็ได้...มั้ง
“เอ่อ...”
เธอเงยหน้าขึ้นสบตาเขาอีกครั้ง ดวงตากลมเป็นประกายที่สะกดคนมองมานักต่อนักกำลังจ้องมองไปที่ใบหน้าหล่อ ยุนกิเหมือนตกอยู่ในภวังค์เมื่อเธอขยับริมฝีปากจะพูดบางอย่าง ยิ่งเห็นเธอใกล้ๆแล้วยิ่งรู้สึกแปลกๆที่หน้าอกข้างซ้าย
มันไม่ได้เต้นแรงมานานจนเจ้าของคิดว่าถูกปิดตาย ตอนนี้กลับมาเต้นแรงอีกครั้งเพราะคนตรงหน้า
“ฉ...ฉันขอโทษค่ะ”
“...”
“คุณอย่าใจร้ายกับฉันเลยนะ ฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว”
“...”
“อย่าโกรธฉันเลยนะคะ”
ยุนกิกลืนน้ำลายลงคอเสียงดังอึกเมื่อถูกคนตัวเล็กในอ้อมกอดใช้น้ำเสียงหวานใสพูดสวนกลับมา แถมยังทำหน้าตาน่ารักเป็นลูกแมวน้อยที่พึ่งหัดพูดแบบนี้คิดว่าอะไร? คิดว่าเขาจะหายโกรธงั้นเหรอ
ใช่ ยุนกิหายโกรธแล้ว หายมากๆด้วย
“ทำไมฉันต้องเชื่อเธอ?”
“...”
“คิดว่าฉันเป็นเด็กเหรอที่จะเชื่อคำพูดของใครง่ายๆ”
“ฉันจะไม่ทำจริงๆนะ”
ริมฝีปากแดงฉ่ำคว่ำลงเหมือนคนถูกขัดใจ เกิดมายุนกิไม่เคยถูกผู้หญิงอ้อนได้นานขนาดนี้เลยให้ตายเถอะ! ผู้หญิงที่เคยร่วมนอนกับเขาพยายามอ้อนขอนั่นขอนี่หลังจากทำกิจกรรมเสร็จ แต่ไม่ทันได้เอ่ยปากพูดก็ทำให้มาเฟียหนุ่มรำคาญจนไล่ตะเพิดไปนักต่อนัก
แล้วยัยตัวเล็กตรงหน้าเป็นใครกัน ทำไมเขาต้อง...
“ฉันหนาวแล้วนะคะ”
ทำไมต้องให้เธอแช่น้ำนานขนาดนี้ด้วย!
แค่ใบหน้าหวานซุกลงมาที่แผงอกของเขาเท่านั้นแหละ ยุนกิรีบเอื้อมมือไปปล่อยน้ำออกทันที น้ำใสค่อยๆไหลออกจากอ่างอาบน้ำจนระดับน้ำลดลงเรื่อยๆ ข้าวรู้สึกโล่งอกเมื่อเห็นว่ายุนกิใจเย็นลงแล้วจริงๆ เธอจึงเอาใบหน้าออกจากแผ่นอกเปลือยเปล่าและค่อยๆช้อนสายตาขึ้นมอง สิ่งที่เห็นคือใบหน้าเย็นชานิ่งเฉยราวกับคนไร้ความรู้สึก เธอกระตุกวูบในใจเพราะไม่รู้ว่ายุนกิกำลังคิดอะไรอยู่
ยังไม่หายโกรธแน่ๆ
“ฉันจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้า”
เธอพูดพลางดันตัวยุนกิให้ออกไป แต่ถูกกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้นเป็นสิบเท่า ข้าวเบ้หน้าเมื่อรู้สึกเจ็บที่หน้าอกทั้งสองข้าง ก็แหงละสิ...คนเจ้าเล่ห์เล่นกอดจนร่างทั้งสองแนบชิดติดกันขนาดนี้ ราวกับจงใจให้หน้าอกนูนของเธอบดเบียดกับร่างกายของตัวเองให้มากที่สุด
“ปล่อยนะคุณยุนกิ”
“ไม่ถามหรอว่าฉันหายโกรธหรือยัง”
“แล้วคุณหายหรือยังล่ะ”
ฟอด!!
“อ๊ะ!!”
มือเล็กยกขึ้นมาปิดแก้มตัวเองทันทีเมื่อถูกจมูกโด่งจู่โจมฝังลงมาอย่างแรง เธอตกใจจนเบิกตากว้างเพราะไม่คิดว่าเขาจะทำอะไรแบบนี้
“ยังไม่หาย”
“คุณ!!”
พรึบ!!
“น...นี่!! จะทำอะไรฉัน”
มือปลาหมึกรูดซิบด้านหลังชุดกระโปรงจนสุดและจัดการถอดออกจากทางไหล่ แผ่นไหล่เนียนที่ยังเต็มไปด้วยรอยรักของเขาและแทฮยองปะปนกันเด่นชัดอยู่อย่างเดิม ยุนกิหัวเสียเล็กน้อยเมื่อจำได้ว่ารอยคิสมาร์คไม่ใช่ของเขาเพียงคนเดียว แต่ก็เอาเถอะ อย่างน้อยของเขามันก็มากกว่าอยู่แล้ว
“ถอดชุดฉันทำไม อ๊ะ! เจ็บนะ!!”
ยุนกิยื่นใบหน้าเข้าไปแถวไหปลาร้าก่อนจะประทับริมฝีปากออกแรงดูดเม้มจนเกิดเสียง ข้าวร้องห้ามดังลั่นเพราะทั้งเจ็บ ทั้งกลัว แต่เขาไม่สนใจเลยสักนิด ความหน้ามืดตามัวของคนที่โดนอ้อนใส่มันเป็นแบบนี้นี่เอง รู้ว่าอ้อนแล้วเป็นแบบนี้ทีหลังจะไม่ทำแล้ว!
“ย...อย่านะ”
“อื้อ อยู่เฉยๆสิ”
เสียงครางต่ำเบาๆ เขากระชับอ้อมกอดมากขึ้นและโน้มลำตัวเพื่อดูดเม้มไปทั่วลาดไหล่และเนินอกขาว
ข้าวกัดริมฝีปากเพื่อไม่ให้ส่งเสียงที่น่าเกลียดออกมา เธอก้มลงมองกลุ่มผมสีดำสนิทที่กำลังนัวเนียกับร่างกายของเธอจึงอดแปลกใจไม่ได้ ท่าทีของยุนกิเปลี่ยนไปมากๆ จากที่ไม่ชอบให้เข้าใกล้แต่ตอนนี้กลับหาเรื่องตัวติดกับเธออย่างกับปลาท่องโก๋ ชอบลวนลาม ฉวยโอกาส...สารพัดไปหมด
“หวาน”
มาเฟียหนุ่มผละใบหน้าออกและจ้องมองใบหน้าน่ารักที่หายใจถี่ๆเหมือนคนกำลังต้องการออกซิเจน ข้าวหน้าแดงซ่านยิ่งทำให้ยุนกิชอบใจมากกว่าเดิม
สายตาของทั้งสองฝ่ายยังคงจับจ้องกันอยู่ มือหนาเลื่อนต่ำลงไปที่กางเกงขาสั้น เขาทนไม่ไหวแล้วทั้งๆที่เขาและเธอพึ่งจะผ่านบทเพลงรักกันไปเมื่อคืนนี้เอง
ฟอด!!
คนถูกหอมแก้มหลับตาปี๋ก่อนจะรู้สึกตัวว่ามือซนของบางคนกำลังจะถอดกางเกงของเธอ
“ไม่นะคะ!!”
“...”
“ไม่เอานะ”
ข้าวส่ายหน้าแรงๆ น้ำตาเอ่อล้นมาอีกครั้ง เธอยังกลัวเขาไม่หายอยู่แล้วนี่จะทำอีกแล้วเหรอ?
“ทำไม”
“ฉ...ฉันเจ็บ”
“...”
“ยังไม่หายเจ็บเลยนะคะ”
น้ำเสียงหวานสั่นพร่า บ่งบอกว่าเธอไม่อยากให้เขาทำจริงๆ ยุนกิถอนหายใจแรงๆและหยุดมือที่กำลังเล่นซนอยู่ข้างล่าง เขายอมก็ได้ ไม่ใช่อะไรหรอกแค่ไม่อยากทำคนแถวนี้ร้องไห้ก็เท่านั้นเอง
มือของยุนกิเลื่อนขึ้นมารั้งท้ายทอยของเธอเอาไว้ ก่อนจะดึงเข้าหาจนใบหน้าแทบจะชิดติดกัน
“ก็ได้ แต่ครั้งหน้าห้ามขัดฉันนะ”
“...”
ข้าวร้อนเผ่าที่ใบหน้าเมื่อได้รับคำสั่งแบบนี้ เธอไม่ตอบอะไรได้แต่พยายามเบนสายตาไปทางอื่น ไม่อยากมองหน้าเขา ไม่อยากสบตามินยุนกิเลยจริงๆ
“คุณจะทำอะไร!!”
คิดว่าคนใจร้ายจะพอแล้วแต่ที่ไหนได้ กะเอาให้คุ้มเลยหรือไง?
ยุนกิเอื้อมมือไปปลดตะขอบราเซียร์และแกะออกมาอย่างง่ายดาย ข้าวตกใจจึงรีบยกมือปิดหน้าอกคู่สวยของตัวเอง
“คุณ!!!”
“แบบนั้นก็ทำไม่ได้ แบบนี้ก็ทำไม่ได้! จะให้ทำอะไร!!”
“...!!”
“เอามือออก”
ยุนกิจับข้อมือทั้งสองข้างออก จึงปรากฏหน้าอกขนาดกำลังพอดีที่เขาเคยเห็นมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ความสวยงามของมันก็ไม่ได้ทำให้เขาชินเลยสักนิด
“อ๊ะ!”
ริมฝีปากหนาครอบครองยอดสีชมพูก่อนจะใช้มือดันเอวบางให้แนบชิดเข้ามาอีก ข้าวกำเส้นผมนุ่มสีดำและกัดริมฝีปากเอาไว้เมื่อลิ้นร้อนกำลังละเลงไปที่ยอดแข็งฝั่งขวา ก่อนจะผละออกและดูดเม้มบริเวณเนินอกจนเกิดรอยแดงไปทั่ว
“เจ็บนะ พ...พอได้แล้ว! อ๊ะ”
ยุนกิปรนเปรอสนองอารมณ์ตัวเองทั้งด้านซ้ายและด้านขวาจนอิ่มเอม เขาผละใบหน้าออกมาและจ้องมองดูผลงานตัวเองอย่างมีความสุข เขากลายเป็นคนชอบอะไรแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ
จุ๊บ
“ค...คนบ้า!”
เสียงหวานหวีดลั่นเมื่อคนเจ้าเล่ห์จุ๊บไปที่จุกยอดอกของเธอ ยุนกิเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าสวยที่เปียกชื้นด้วยเหงื่อเม็ดเล็กๆ แก้มใสแดงระเรื่อจนปิดไม่มิด
น่าแปลกที่ครั้งนี้ไม่ร้องไห้แหะ...
“ห้ามฉันดีนัก”
“คนใจร้าย!”
พรึบ
ยุนกิกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นและยกยิ้มร้ายที่มุมปาก
“ลงโทษคนดื้อ นี่ยังน้อยไปด้วยซ้ำ”
“พอแล้วนะ ฉันง่วงนอนแล้ว”
ยุนกิเห็นว่าคนตัวเล็กหอบหายใจถี่ๆเพราะอามรณ์ที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งไม่ต่างจากเขาที่ต้องการคนตรงหน้าแทบตาย แต่เขายังเห็นว่าเธอเจ็บอยู่ ไม่งั้นคืนนี้ก็ไม่รอดหรอก
“คืนนี้นอนในห้องน้ำ”
“หะ!!?”
ยุนกิหัวเราะในลำคอเบาๆเพราะเห็นใบหน้าหวานงอเป็นคอเป็ด ริมฝีปากอวบอิ่มแดงฉ่ำล่อตาล่อใจเกินไป จนร่างสูงทนไม่ไหว ค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้าไปหาก่อนที่จะหยุดอยู่กับที่...เปลี่ยนเป็นกดริมฝีปากลงที่บริเวณแก้มใสแทน
จุดที่ใกล้ริมฝีปากของเธอมากที่สุด
“ออกไปได้แล้ว ฉันจะทำธุระ”
เมื่อยุนกิผละใบหน้าออกมาเขาก็สั่งคนตรงหน้าทันที ข้าวพยักหน้ารัวๆด้วยความโล่งใจ ถึงยังไงก็เถอะวันนี้เธอก็รอดน้ำมือคนหื่นไปได้อีกหนึ่งวัน
การกระทำในครั้งนี้สร้างความสงสัยให้กับหลายฝ่าย ทั้งเธอและตัวเขาเอง ข้าวไม่เคยคิดจะเข้าข้างตัวเองหรอกนะเพราะยังไงแล้วสิ่งที่เธอคิดมันไม่มีทางเป็นไปได้ มาเฟียที่ขึ้นชื่อว่าไร้หัวใจอย่างมินยุนกิจะมาหลงรักสินค้าของตัวเองน่ะเหรอ...ไม่มีทางเป็นไปได้ซะหรอก
เธอคงเป็นได้แค่ของเล่นชั่ววูบให้กับผู้ชายคนนั้น อีกไม่นานก็คงเบื่อและโยนทิ้งไปเอง ส่วนเธอจะรอวันนั้น วันที่เขาเบื่อและโยนทิ้งไปสักที...
[100%]
#ฟิคมาเฟียยุนกิ
TBC.
40% สุดท้ายยาวแท้ 555555555555
ไม่อยากให้ค้างเลยอัพไปให้หมดเลยค่ะ อิอิ เขินจังเรย เข้าใจฟีลคนปากแข็งดั่งหินผาอดใจไม่ไหวมั้ย แบบว่าหมั่นเขี้ยวและนางเอกก็น่าร๊ากอะไรแบบนี้ จับหอมจับดูดแค่กๆ นี่ขนาดยังไม่ได้รักนะจับฟัดจนตัวช้ำขนาดนี้ ถ้าเป็นแฟนกันเมื่อไหร่คงแบบ... -,,-
ขอบคุณคอมเม้นท์น่ารักๆนะคะ รออ่านอยู่เด้อออ
สกรีมแท็ก #ฟิคมาเฟียยุนกิ อย่าลืมไปเล่นกันน้า
ทวงฟิคและอ่าน NC @Pimtae_95
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ยุนกิเเกเป็นคนหื่น เห็นข้าวอ้อนก็ใจอ่อนเเล้ว เเล้วอย่างงี้จะทนไปได้สักกี่น้ำคะคุณชาย จูบน่ะเห็นๆกันอยู่ว่าอยากจูบ เเต่ก็เนียนเป็นจูบที่อื่น ไม่ใจเลยนะคะ ระวังเถ๊อะข่าวหนีไปขึ้นมา คงจะผีเข้าน่าดู
เม้นให้เยอะขนาดนี้ ไรท์ต้องตบรางวัลให้นะคะ ตอนหน้าจัดncให้หนูเถอะนะ#เดี๋ยวๆ55555
จะจูบก็ไม่จูบ นี่ลุ้นทุกตัวอักษร ไม่จูบ แต่แทบกลืน -,,- นึกว่าจะมี NC ซะแล้ว ดีนะข้าวอ้อนก่อน เอ๊ะ หรือยิ่งอ้อนพี่กิยิ่งหิว
เมื่อไหร่จะชัดเจนกันสักทีสองคนนี้~ เพราะตอนแรกนึกว่ายุนกิจะทุ่มข้าวลงเตียงซะอีก แต่นี่หายโกรธไวมาก แกรักเค้าแหละ ยังไม่รู้ตัวอีกกกก
ยังคงทีมแทฮยองอยู่นะ ขอโมเม้นต์หน่อยยย
ไรเตอร์ เป็นกำลังใจให้นะคะ รออ่านตลอดแหละ ชอบ เนื้อเรื่องน่าติดตาม มาอีกน๊า