ตอนที่ 36 : ดวงใจศิขรินทร์ : ตอนที่ 12 --- 70%
"พี่มีนขา คิตตี้อยู่นั่น" เสียงหนูดีร้องลั่นพลางชี้นิ้วออกไปด้านนอก เรียกให้มีนมีนาขยับเข้าไปส่องดูผ่านบานหน้าต่าง เห็นเจ้าแมวตัวน้อยหมอบตัวอยู่ใต้ต้นไม้ขนาดใหญ่ด้วยท่าทีหวาดกลัว ขณะที่เม็ดฝนตกกระหน่ำลงมากระทบหลังคาอย่างแรง ตามมาด้วยเสียงฟ้าคำรามดังลั่น
"พี่มีนขา คิตตี้จะไม่สบายไหมคะ" หนูดีเอ่ยถามขึ้นเสียงอ่อน ดวงตากลมทอดมองร่างของเจ้าคิตตี้อย่างห่วงใย นั่นทำเอาคนมองไม่สามารถวางเฉยได้ มีนมีนาวางมือลงบนศีรษะเล็ก แล้วเอ่ยบอกให้เด็กหญิงคลายกังวล
"มันไม่เป็นไรหรอกจ้ะ เดี๋ยวพี่มีนออกไปช่วยมันเอง"
"แต่ฝนตกแล้ว" หนูดีเอ่ยท้วง แล้วเงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยท่าทีละล้าละลัง ดูออกว่าเป็นห่วงทั้งคนเป็นห่วงทั้งแมว มีนมีนาจึงเอ่ยบอกให้เด็กหญิงวางใจ
"แค่นี้เอง เดี๋ยวพี่มีนวิ่งไปแป๊บเดียว"
"จะไปไหนกันหรือคะ" ป้าเหมยที่เดินถือจานอาหารออกมาวางบนโต๊ะรับประทานอาหารเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นสองสาวต่างวัยยืนสุมหัวคุยกันอยู่ตรงหน้าต่าง
"มีนจะออกไปช่วยคิตตี้ที่ติดฝนอยู่ด้านนอกน่ะค่ะ ป้าเหมยพอจะมีร่มไหมคะ"
"เดี๋ยวหนูดีไปหยิบให้เองค่ะ" เด็กหญิงเอ่ยบอก ก่อนวิ่งตึกๆ ขึ้นไปด้านบน แล้วกลับลงมาพร้อมด้วยร่มสีสันสดใส
"นี่ร่มค่ะพี่มีน"
"ขอบใจจ้ะ หนูดีรอพี่มีนแป๊บนะ เดี๋ยวพี่มีนจะออกไปช่วยเจ้าคิตตี้เอง" มีนมีนาบอกให้เด็กหญิงคลายกังวล ก่อนจะเปิดประตูบ้านออกไป ท่ามกลางสายลมที่พัดแรง หญิงสาวกางร่มออก ก่อนจะวิ่งฝ่าสายฝนออกไปด้านนอกอย่างระมัดระวัง แต่ยังไม่ทันก้าวไปถึงตัวเจ้าคิตตี้ก็ต้องหวีดร้องอย่างตกใจ จนเผลอปล่อยร่มที่ถืออยู่ยกมือขึ้นป้องหู เมื่อได้ยินเสียงฟ้าร้องคำรามดังสนั่นจนเกิดประกายไฟวาบไปทั่วบริเวณ
ครู่เดียว หญิงสาวก็ตั้งสติ แล้วออกวิ่งฝ่าสายฝนออกไปหาเจ้าแมวตัวน้อยที่หมอบตัวสั่นงันงกอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ท่ามกลางสายฝนเม็ดใหญ่ที่เทกระหน่ำลงมาอย่างหนัก บดบังการมองเห็นรอบด้าน ที่มีแต่ม่านฝนสีเทาเต็มไปหมด
"คิตตี้" มีนมีนาเปล่งเสียงเรียกเจ้าเหมียวตัวน้อยเบาๆ พลางยกมือขึ้นลูบใบหน้าที่เปียกชื้นไปด้วยหยาดน้ำฝนออกลวกๆ ก่อนเอื้อมมือออกไปจับเจ้าคิตตี้มาอุ้มแนบอก เมื่อมันครางรับเสียงแผ่วไม่แพ้กัน ก่อนวิ่งฝ่าสายฝนกลับไปยืนตัวสั่นใต้ชายคาบ้านอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ซึ่งกว่าภารกิจจะสำเร็จก็ทำเอาเปียกปอนไปทั้งเนื้อทั้งตัว
โครม!
ร่างบางหลับตาปี๋อย่างตกใจ เมื่อเสียงฟ้าคำรามดังไล่หลังมาติดๆ ทำเอาทั้งคนและแมวเนื้อตัวสั่นอย่างหวาดกลัวไม่แพ้กัน โดยไม่รู้เลยว่ากำลังถูกสายตาคมที่เพิ่งเดินออกมาจากโรงจอดรถด้านข้างจ้องมองอย่างตำหนิติติงเพียงใด
เรื่องไม่ห่วงตัวเอง มีนมีนานี่ที่หนึ่งเชียวล่ะ!
ศิขรินทร์กวาดตามองร่างบางที่ยืนตัวเปียกมะล่อกมะแล่กอยู่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกไม่ชอบที่หญิงสาวไม่คิดจะใส่ใจดูแลตัวเองบ้าง รู้ทั้งรู้ว่าฝนตกฟ้าคะนอง ก็ยังจะดื้อแพ่งวิ่งตากฝนออกไป ภาพตอนที่ฟ้าแลบเป็นสาย แล้วหญิงสาวปล่อยร่มที่ถืออยู่หลุดมือไปเมื่อครู่ ทำเอาศิขรินทร์ที่ขับรถเข้ามาและทันเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดเข้าพอดีถึงกับกลั้นหายใจ หากเป็นน้องเป็นนุ่งคงได้จับมาฟาดสักป้าบ โทษฐานที่ดื้อด้านนัก
"มีน" ศิขรินทร์เรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงเข้มและดังพอที่จะทำให้มีนมีนาได้ยิน หญิงสาวจึงหันมาเผชิญหน้ากับเขาในสภาพมอมแมม เสื้อยืดที่สวมอยู่เปรอะไปด้วยคราบดินโคลน
"อ้าว กลับมาแล้วหรือคะ" หญิงสาวร้องทักอย่างแปลกใจ เมื่อเห็นคนตัวโตยืนตระหง่านทำหน้าถมึงทึงอยู่ตรงหน้า
"คุณวิ่งออกไปข้างนอกทำไม ไม่เห็นหรือว่าฝนตก"
"ฉันไปช่วยเจ้าคิตตี้มาน่ะค่ะ มันติดฝนอยู่ใต้ต้นไม้" มีนมีนาบอกพลางหลุบตามองเจ้าแมวตัวน้อยที่นอนเปียกน้ำมะล่อกมะแล่กอยู่ในอ้อมแขน แต่ดูเหมือนว่าร่างสูงจะไม่เข้าใจในเหตุผลของเธอ
"วิ่งท่อมๆ ออกไปโดยไม่กลัวฟ้ากลัวฝนเลยหรือ ที่นี่ไม่ใช่กรุงเทพฯ ที่จะมีสายล่อฟ้าหรอกนะ" หญิงสาวช้อนสายตามองคนหน้าบึ้งตาขุ่น ไม่เข้าใจว่าทำไมศิขรินทร์ถึงมาทำโมโหใส่เธอได้ ทั้งๆ ที่เธอหวังดี ออกไปช่วยเจ้าคิตตี้ แมวของลูกสาวตัวเองแท้ๆ นั่นจึงทำให้มีนมีนาออกปากเถียง
"แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไง ยืนมองมันนั่งตากฝนอยู่ข้างนอกเฉยๆ น่ะหรือคะ"
"มันออกไปข้างนอกเองได้ ก็ต้องกลับเข้ามาเองได้"
"แปลว่าถ้าเป็นคุณเห็นมันนั่งหมอบอยู่ท่ามกลางสายฝน คุณจะไม่ออกไปช่วยมันงั้นหรือ" ศิขรินทร์เงียบ เมื่อถูกสายตากลมโตจ้องมองด้วยความรู้สึกผิดหวัง เขาเป็นห่วงเธอและแค่อยากเอ็ดให้หลาบจำเท่านั้น แต่ไปๆ มาๆ กลับดูเหมือนว่าเขาและเธอจะทะเลาะกันจริงจังเสียแล้ว
"เผื่อคุณจะลืมไป คิตตี้เป็นแมวของหนูดี ถ้าคิตตี้เป็นอะไรขึ้นมา หนูดีจะเสียใจ"
"ผมรู้ แต่การที่คุณจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือเรื่องอะไร คุณควรพิจารณาดูด้วยว่าเรื่องนั้นมันอันตรายแค่ไหน" ศิขรินทร์ตำหนิ ทำเอาคนหวังดีเม้มปากแน่น นึกโมโหเขาขึ้นมาบ้าง ทำดีไม่ได้ดีเป็นแบบนี้นี่เอง
"ก็แค่วิ่งออกไปช่วยแมวตากฝน ไม่เห็นจะอันตรายตรงไหนนี่คะ"
"แต่นั่นมันเป็นที่โล่งแจ้ง แถมมีน้ำเจิ่งนองไปหมด หากสายฟ้าฟาดลงมา คงได้วิ่งเข้าตัวคุณแน่" ศิขรินทร์อธิบายเสียงเฉียบเย็น อย่างพยายามระงับอารมณ์เต็มที่
"แต่ฉันก็ปลอดภัยดีนี่ค่ะ ไม่ได้ถูกฟ้าผ่าอย่างที่คุณว่า" มีนมีนาเถียงด้วยน้ำเสียงประชดประชัน ทำเอาคนฟังถึงกับต้องสูดลมหายใจลึก
"ก็แล้วถ้าเมื่อครู่มันไม่ได้โชคดีแบบนั้นล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น"
"ฉันแค่เป็นห่วงความรู้สึกของหนูดี"
"แต่คุณก็ควรระมัดระวัง ไม่ใช่ทำให้คนอื่นต้องคอยเป็นห่วงอยู่เรื่อยแบบนี้" ร่างสูงติด้วยน้ำเสียงกดต่ำ ขณะที่หญิงสาวได้แต่ยืนกระพริบตาปริบๆ เพราะดูท่าว่าความหวังดีของเธอจะทำให้เขาไม่พอใจ
"ถ้าความห่วงใยที่คุณมีให้ฉันมันทำให้คุณกระวนกระวายใจนัก ฉันก็ขอโทษด้วยค่ะ ฉันแค่เป็นห่วงความรู้สึกหนูดี"
"มีน…"
"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ" มีนมีนาบอก แล้วตัดบทด้วยการหันไปเปิดประตูบ้าน เผยให้เห็นเด็กหญิงหนูดียืนทำตาปริบๆ อยู่ตรงหน้า ซึ่งประโยคแรกที่เด็กหญิงเอ่ยคือการหันไปพูดกับบิดาที่ยืนอยู่ด้านหลังของเธอ
“พ่อ อย่าดุพี่มีนเลยนะ หนูดีขอให้พี่มีนไปช่วยเจ้าคิตตี้เอง”
มีนมีนายืนตัวแข็งทื่อ ด้วยเพราะไม่คิดว่าคนตัวเล็กจะมีน้ำใจเอ่ยแก้ต่างให้ ทั้งที่เธอเป็นคนเอ่ยอาสาเอง ขณะที่ศิขรินทร์เงียบไม่ได้เอ่ยอะไร เธอจึงวางเจ้าคิตตี้ลงบนงบนพรมเช็ดเท้า
“หนูดีพาเจ้าคิตตี้ไปอาบน้ำเถอะจ้ะ เดี๋ยวพี่มีนก็จะไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เหมือนกัน”
“ค่ะ”
“พี่มีนขอตัวแป๊บนะ” หญิงสาวบอก แล้วเดินเลี่ยงขึ้นชั้นบนไป เพื่อจัดการอาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่ เนื่องจากเนื้อตัวเปรอะประเปียกปอนไปหมด
มื้ออาหารยามเย็นยังคงดำเนินไปโดยมีสมาชิกอยู่ครบ ทั้งศิขรินทร์ หนูดี ป้าเหมยและมีนมีนา ด้วยเพราะหญิงสาวยังคงทำตัวปกติ ไม่ได้เลี่ยงการเผชิญหน้ากับเขาอย่างที่ใจอยากทำนัก ซ้ำยังพูดคุยกับหนูดีและป้าเหมยเหมือนเดิม ยกเว้นแต่กับศิขรินทร์เท่านั้น จริงๆ แล้ว เธอไม่ได้อยากทำนิสัยเด็กน้อย แต่ก็อดไม่ได้จริงๆ ที่ทำดี แต่กลับถูกเขาตำหนิแบบนี้ ทั้งๆ ที่เธอห่วงความรู้สึกของหนูดีแท้ๆ
มีนมีนารวบช้อนตอนที่กินข้าวหมดจาน ก่อนถามหายาแก้ไข้จากป้าเหมย เมื่อรู้สึกเนื้อตัวรุมๆ แล้วจึงเอ่ยขอตัวเดินขึ้นห้องไปพักผ่อนทันที โดยมีสายตาคมของศิขรินทร์ที่นั่งเงียบตลอดมื้ออาหารจ้องมองแผ่นหลังบอบบางไปด้วยความรู้สึกว้าวุ่นใจ
-------------------
อัพแล้วจ้าาาพี่จ๋าาาา
สำหรับตอนนี้มีนักอ่านหลายท่านที่สั่งจองกับสนพ.ได้จับเล่มแล้ววว เล่มจริงสวยมากค่ะ
หากอ่านจบแล้ว อย่าลืมมาส่งฟีดแบ็กกันบ้างนะค้าา ว่าชอบหรือไม่ชอบอย่างไร แนะนำกันเข้ามาได้จ้าา
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ใจเย็นลงก็น่าจะได้คุยกันดีๆ นะคะ จะได้บอกหนูดีให้ระวังไปด้วย มันอันตรายจริงๆ แหละ
รีบง้อเร็ว
ได้เล่มวันนี้จ้า เดี๋ยวจะรีบไปอ่านต่อๆๆ
พ่อคามเอ้ย งานนี้ไม่ใครผิดใครถูกหรอกนะ ห่วงความปลอดภัยน่ะไม่ผิดหรอก
ว่าแต่เช้ามาพี่มีนจะไม่สบายหรือเปล่านะ
ขอ 100% เถอะไรท์จ๋าาาา