ตอนที่ 31 : ดวงใจศิขรินทร์ : ตอนที่ 10 --- 100%
บรรยากาศภายในห้องบรรยายที่มีร่างสูงใหญ่ยืนตระหง่านอยู่หน้าห้อง ในชุดเสื้อเชิ้ตสีอ่อนกับกางเกงสแลกทรงสุภาพ ซึ่งเป็นเจ้าของวิชาเป็นไปอย่างราบรื่น โดยมีสายตาของบรรดานิสิตนักศึกษาราวสี่สิบคู่จดจ้องไปยังจอโปรเจ็กเตอร์ที่กำลังแสดงเนื้อหาประกอบการบรรยายของชายหนุ่มอยู่อย่างให้ความสนใจ หลังจากที่เขาแจ้งให้นักศึกษาทุกคนทราบว่าเนื้อหาจากการบรรยายในวันนี้จะปรากฏอยู่ในข้อสอบปลายภาคถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ นั่นจึงเป็นที่มาที่ทำให้ชั้นเรียนในวันนี้ดูสงบเสงี่ยมกว่าที่เคย
"มีใครมีคำถามอะไรไหมครับ ไม่เข้าใจตรงไหนบ้างหรือเปล่า" ศิขรินทร์เอ่ยถามขึ้น เมื่อการสอนดำเนินมาถึงช่วงท้ายชั่วโมง เขากวาดสายตามองบรรดานักศึกษาอย่างสำรวจ แต่กลับไม่มีใครยกมือถามข้อคำถามที่สงสัยสักคน นิ้วเรียวจึงจัดการกดปิดรีโมตจอโปรเจ็คเตอร์ในมือ แล้วเอ่ยขึ้น
"ถ้าไม่มีคำถามอะไร ผมขอจบการสอนไว้เพียงเท่านี้ เจอกันคลาสหน้าครับ" สิ้นเสียงศิขรินทร์ บรรดานักศึกษาที่นั่งสงบเสงี่ยมมาตลอดสามชั่วโมงก็ส่งเสียงบอกทำความเคารพตามมาด้วยเสียงพูดคุยเซ็งแซ่และเสียงดังครืดคราดจากการเลื่อนถัดของเก้าอี้ ก่อนพากันทยอยเดินออกจากห้องบรรยาย ร่างสูงจึงละสายตาจากภาพกลุ่มนักศึกษาตรงหน้า หันมาจัดเก็บข้าวข้าวของที่วางระเกะระกะบนโต๊ะทั้งแท็ปเล็ต เอกสารประกอบการสอน และปากกาลงกระเป๋าเป้ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่โทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงกรีดเสียงดังขึ้น
ศิขรินทร์รูดซิปกระเป๋าปิดอย่างรวดเร็ว ก่อนควักโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูและกดรับสาย เมื่อพบว่าเป็นสายเรียกเข้าจากอคิน
"ว่าไง" ชายหนุ่มกรอกเสียงลงไปพร้อมกับยกกระเป๋าเป้ขึ้นคล้องบ่า ก่อนก้าวเท้ายาวๆ ออกจากห้องบรรยาย ท่ามกลางสีหน้าผิดหวังของบรรดานักศึกษาสาวหลายคนที่กำลังจะเดินตรงเข้ามาหา
"แกอยู่ไหน สอนเสร็จหรือยัง" ปลายสายส่งเสียงห้วนๆ ย้อนถามสวนมา
"เพิ่งสอนเสร็จ มีอะไร"
"วันนี้รีบกลับหรือเปล่า ไปกินเหล้าเป็นเพื่อนหน่อยสิ" อคินเอ่ยทำเอาศิขรินทร์ขมวดคิ้วฉับ
"อาการไหนของแกเนี่ย"
"ก็อยากเจอเพื่อนบ้างอะไรบ้าง นี่ฉันก็โทรนัดไอ้เอมกับไอ้ธันว์ไว้แล้ว" อคินหมายถึงเพื่อนสนิทที่คบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียยมัธยมอีกสองคน ซึ่งชื่อของคนที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานานทำให้ศิขรินทร์ลังเล
"เมียมันจะยอมให้มากันหรือ"
"ยอมสิวะ นานๆ จะเจอกันที สรุปแกว่าไง" ร้อยโทอคินย้ำถามซ้ำ ก่อนศิขรินทร์จะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลา แล้วจึงเอ่ยถาม
"กี่โมง"
"สักสี่โมงเย็นไหม บ่ายนี้ฉันต้องเข้าประชุมก่อน" นายตำรวจหนุ่มบอกกะเกณฑ์
"ก็ได้ เดี๋ยวฉันแวะไปตรวจงานที่คณะรอ"
"โอเค งั้นเดี๋ยวเจอกัน อย่าเบี้ยวนะเว้ย"
“เออ” ศิขรินทร์รับคำเพื่อนที่เอ่ยย้ำมาอีกครั้งสั้นๆ แล้วกดวางสาย พร้อมกับเปลี่ยนเส้นทางการเดิน จากที่กำลังมุ่งหน้าไปลานจอดรถ ตรงไปยังห้องพักของบุคลากรประจำคณะแทน ก่อนจะใช้เวลาที่เหลือนั่งตรวจงานที่สั่งไว้จนเสร็จและออกจากมหาวิทยาลัยในเวลาสิบสามนาฬิกา
........
“เอ้า ชน” เสียงร้อยโทอคินเอ่ยนำขึ้นเป็นคนแรกพร้อมกับยกแก้วบรรจุเครื่องดื่มสีอำพันขึ้นสูง เรียกให้เพื่อนคนอื่นต้องยกแก้วขึ้นทำตามแบบเดียวกัน ก่อให้เกิดเสียงดังกริ๊งๆ ไปทั่วทั้งโต๊ะ
“กินเหล้าตอนห้าโมงเย็น ฉันว่าเดี๋ยวได้เมากันพอดี” ธุวธันว์เอ่ยขึ้นยิ้มๆ พร้อมกับยกแก้วเหล้าขึ้นจิบบางๆ
“เอาน่า นานๆ เจอกันที กินๆ เข้าไปเถอะ” อมรเทพว่าสมทบพลางทำหน้าเหยเก หลังซดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปอึกใหญ่ราวกับอดยากปากแห้งมานาน ก่อนทำเสียงร้องเบาๆ
"ฮ้า ชื่นใจ"
"อะไรกัน แกทำท่าอย่างกับไม่ได้กินเหล้ามานาน" อคินค่อน ขณะศิขรินทร์กระตุกยิ้มขันพร้อมกับวางแก้วเหล้าที่จิบไปเพียงนิดเดียวลงบนโต๊ะ ด้วยเพราะไม่ค่อยนิยมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่าไร
"พูดแล้วก็จะหาว่ากลัวเมีย นี่ฉันไม่ได้กินเหล้ามาหกเดือนแล้ว"
"นี่แกพูดจริงเหรอวะ" อคิน คนที่ดื่มบ่อยที่สุดในกลุ่มทำเสียงไม่อยากเชื่อ ด้วยเพราะรู้ดีว่าอมรเทพและธุวธันว์ชอบดื่มแฮงก์เอ้าท์กันมากแค่ไหน
"จริงสิวะ ลูกยังเล็กด้วย เลยโดนสั่งห้ามเด็ดขาด เดี๋ยวเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี"
"แหม่ คุณพ่อดีเด่น"
"ก็ลองเมียไม่ห้ามสิ ฉันว่าไอ้เอมแม่งจิบเช้าจิบเย็นแน่"
"เหอะ แกไม่โดนเมียสั่งห้ามเลยเนอะ" อมรเทพหันไปว่าเพื่อน ทำเอาธุวธันว์เปิดปากหัวเราะอย่างขบขัน ด้วยเพราะตัวเองก็ถูกสั่งห้ามเหมือนกัน
“แล้วยายตัวเล็กเป็นไงบ้างล่ะคาม สบายดีไหม ไม่ได้เจอนานแล้ว ป่านนี้โตขึ้นเยอะแล้วมั้ง” อมรเทพถามถึงเด็กหญิงหนูดีที่เจอกันครั้งล่าสุดเมื่อห้าหกเดือนที่แล้ว เมื่อครั้งที่ศิขรินทร์พาหนูดีมาเยี่ยมลูกสาวเขาที่โรงพยาบาล
"นั่นสิ อ้วนแก้มเต่งแล้วแน่ๆ"
"ไม่อ้วนหรอก กำลังจ้ำม่ำ" ศิขรินทร์ตอบยิ้มๆ ยามนึกถึงใบหน้าจิ้มลิ้มของลูกสาว
"แล้วนี่แกยังทำงานเป็นอาจารย์พิเศษอยู่หรือ"
"อือ ลุงไทเขาขอไว้น่ะ" ศิขรินทร์หมายถึงเพื่อนสนิทของบิดาที่เคารพนับถือกัน "แต่ถ้าปีหน้าลุงไทเกษียณ ฉันก็อาจจะออกด้วย"
"อ้าว ทำไมล่ะ"
"ฉันว่าจะลงมือแปลงโฉมมะปินจริงๆ จังสักที" ศิขรินทร์ตอบขณะที่เพื่อนพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เพราะพอรู้เรื่องเกี่ยวกับโครงการใหญ่ของเพื่อนอยู่บ้าง
"มีอะไรให้ช่วยก็บอกได้" ธุวธันว์เอ่ยเสนออย่างจริงใจ ด้วยเพราะสนับสนุนเพื่อนอยู่เสมอ
"เออ เดี๋ยวได้รบกวนแกแน่"
"ยินดีเสมอ" เจ้าของร้านค้าส่งวัสดุวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ของจังหวัดรับคำอย่างเต็มใจ ก่อนอมรเทพจะหันไปหานายตำรวจหนุ่มที่นั่งจิบเหล้าอยู่เงียบๆ
"แล้วแกอ้ะอคิน เมื่อไรจะมีเมียสักทีวะ"
"งานหนัก เครียดจนหัวจะหงอก จะเอาเวลาที่ไหนไปมีเมียวะ วันนี้ก็เพิ่งไปประชุมเรื่องไอ้จองมา"
"อะไร ยังจับไม่ได้เหรอ"
"โอโห้ไอ้เอม พูดแบบนี้ แกเอาปืนมายิงฉันเลย" เจ้าของคดีโอดด้วยใบหน้ายับยุ่ง ทำเอาบรรดาเพื่อนๆ หัวเราะลั่น
"แล้วทำไมมันถึงจับยากจับเย็นนักล่ะวะ"
"มันเข้าร่วมขบวนการกับนักค้ายาเสพติดแก๊งค์ใหญ่น่ะสิ หายหัวไปหลายเดือนแล้ว แต่เพิ่งจะโผล่หัวกลับมาที่มะปินอีก คุณมีนเลยเจอแจ็กพอต ดีที่คามไปช่วยไว้ทัน" อคินอธิบายยืดยาว แต่ทำเอาศิขรินทร์ชะงัก ด้วยเพราะเพื่อนสนิทเผลอเอ่ยชื่อบุคคลที่สามขึ้นมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
"ยังกับหนังบู๊มันๆ เลยแหะ ว่าแต่คุณมีนนี่ใครเหรอ" อมรเทพเอ่ยถามขึ้น ก่อนอคินจะพยักเพยิดหน้าโบ้ยไปที่ศิขรินทร์
"ถามคามสิ"
"แฟนใหม่หรือวะ"
"เปล่า" ศิขรินทร์ปฏิเสธเสียงเรียบ ขณะที่อคินหันไปลอบขยิบตาส่งสัญญาณให้เพื่อนสนิทอีกสองคนแทน ในตอนที่นายใหญ่แห่งมะปินเสยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ
"อ้าว แล้วมันยังไงกัน" อมรเทพอุทานอย่างไม่เข้าใจ ขณะที่ร้อยโทตีสีหน้าขรึม ก่อนเอ่ยถามเพื่อน
"ตกลงว่าแกจะไม่ได้คิดอะไรกับคุณมีนจริงๆ ใช่ไหมคาม"
ศิขรินทร์ปิดปากเงียบ โดยไม่ยอมตอบคำถามคาดคั้นนั่น
"แกมีรูปคุณมีนหรือเปล่าวะคิน ขอดูหน้าหน่อยสิ" อมรเทพถามขึ้นด้วยความอยากรู้พลางขยับเข้าไปนั่งชิดอคินที่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดรูปมีนมีนาให้บรรดาเพื่อนสนิทได้ดู ขณะที่ศิขรินทร์เอาแต่นั่งจิบเครื่องดื่มในมือเงียบๆ พยายามไม่สนใจท่าทีของเพื่อน
"หูย หน้าตาน่ารักนี่หว่า"
"โสดไหม จีบได้เปล่าวะ กำลังอยากมีกิ๊กพอดี" เสียงเพื่อนเอ่ยแซวกันสนุกปาก ขณะที่คนฟังเพียงคนเดียวอย่างศิขรินทร์นั่งคอแข็ง
"น่ารักแบบนี้สเปกเอมเลยวุ้ย"
"จะพูดจาอะไร ให้เกียรติเขาหน่อย"
"อูย" อมรเทพสูดปาก เมื่อศิขรินทร์เอ่ยขัดขึ้นเสียงเรียบ ขณะที่อคินยกยิ้มถูกใจ ก่อนเอ่ยแซวอย่างไม่กลัว
“ได้กลิ่นคนหวงก้างหนึ่งอัตราหว่ะ ปากแข็งอยู่ได้”
“นั่นสิ คิดก็ยอมรับว่าคิดสิวะ หรือแกยังคิดมากเรื่องแม่หนูดีอยู่” ธุวธันว์คาดคั้น แต่คนถูกถามกลับไม่ยอมเอ่ยปาก เอาแต่นั่งนิ่ง
“เอาจริงๆ นะเว้ยคาม หนูดีจำหน้าแม่ของแกไม่ได้ด้วยซ้ำ ถ้าแกชอบคุณมีนจริงๆ ขึ้นมา แกก็ควรเปิดใจ เผื่อสักวัน แกจะได้มีครอบครัวที่พร้อมหน้าพร้อมตากันสักที เพราะถึงยังไง แกก็ไม่ได้รอให้คุณโรสกลับมาอยู่แล้ว” อคินดีดนิ้วเปาะอย่างถูกใจเพราะเห็นด้วยกับคำพูดของเพื่อน
“ไอ้ธันว์พูดถูก ฉันอยากให้แกเดินไปข้างหน้าเสียที เพื่อตัวแกเองและหนูดีด้วย แกก็เห็นว่าคุณมีนเข้ากับหนูดีได้ดีแค่ไหน อะไรๆ ก็พี่มีนตลอด” ศิขรินทร์นิ่งคิด และไม่ปฏิเสธคำพูดของเพื่อน เพราะลูกสาวอย่างหนูดีดูมีความสุขเวลาอยู่กับพี่มีนจริงๆ ซึ่งนั่นทำให้เขาพลอยรู้สึกมีความสุขตามไปด้วย
“ชอบก็จีบสิวะ ลังเลอะไร” อมรเทพสนับสนุน ทำเอาศิขรินทร์ที่ลังเลยอมเอ่ยปากพูดถึงสาเหตุที่ทำให้ไม่กล้าเดินหน้าเรื่องของมีนมีนาแบบจริงๆ จังๆ
“เขาเพิ่งอกหัก”
“ใคร คุณมีนน่ะหรือ” อคินถาม ก่อนศิขรินทร์จะพยักหน้ารับ
“อือ”
“แล้วไงวะ แกไม่ใช่คนที่หักอกเขาเสียหน่อย”
“พูดอีกก็ถูกอีก” อคินเห็นด้วยกับคำพูดของธุวธันว์ ขณะที่ศิขรินทร์ยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ พลางครุ่นคิดในสิ่งที่กำลังจะตัดสินใจ แล้วจู่ๆ ก็ผุดลุกขึ้น
“งั้นฉันกลับล่ะ”
“เฮ้ย!” อมรเทพอุทานอย่างตกใจ “นี่แกใจร้อนขนาดนี้เลยเหรอ”
“เปล่า ต้องไปซื้อขนมให้หนูดี เดี๋ยวหนูดีรอกินขนม” ศิขรินทร์บอกปัด แต่ไม่มีเพื่อนคนไหนเชื่อ เพราะท่าทีของศิขรินทร์ไม่เหมือนคนที่รีบไปซื้อขนมตรงไหน ดูท่าว่าอยากเคลียร์ความรู้สึกที่ค้างอยู่ในใจมากกว่า อคินจึงเอ่ยบอกให้เพื่อนสนิทอีกสองคนเข้าใจในสถานการณ์มากขึ้น
“คุณมีนเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านมัน”
“อ๋อ แบบนี้ก็งานสะดวก เคลียร์ง่าย เดินหน้าจีบเลย” อมรเทพเชียร์เต็มที่ เพราะนานทีจะเห็นว่าพ่อหม้ายหนุ่มอย่างศิขิรนทร์นึกสนใจผู้หญิงสักคน ทั้งที่ผ่านมาก็มีผู้หญิงมากหน้าหลายตาเพียรเข้ามาทำความรู้จัก แต่เพื่อนเขาก็ไม่มีนึกชอบใครสักคน จนมาถึง ‘พี่มีน’ นี่แหละ
“ขอให้โชคดีเว้ย”
“แล้วเจอกัน” ศิขรินทร์บอก แล้วเดินออกมา ท่ามกลางความมากมายที่วิ่งวนอยู่ในความคิด
เขาไม่เคยจีบใครมานานมากแล้ว แถมอายุอานามตอนนี้ก็ไม่ใช่น้อยๆ จะมาให้พูดจาหวานๆ ทำตัวเลี่ยนๆ ก็คงไม่เหมาะ
เขา...จะจีบยังไงให้ดูเหมือนไม่จีบนะ
-----------------------------
มาแล้วจ้าาๆๆๆ ครบ 15 คอมเมนต์ตามสัญญาาา
คุณคามจะเดินหน้าจีบแล้วจ้า มาปูเสื่อรอดูว่าหนุ่มมาดนี้ ลุคนี้ เขาจะจีบสาวกันยังไงงง อิอิ
แล้วหนูดีตัวน้อย จะช่วยเป็นกามเทพยังไงบ้างน้าาา มารอติดตามกันค่ะ
สามารถสั่งจองได้ที่เว็บไซต์ของสนพ.นะคะ หนังสือราคา 280 บาท ลด20% เหลือ 224 บาทเท่านั้นค่ะ
ส่วนใครอยากอ่านกันต่อเนื่องงง ปาคอมเมนต์และกำลังใจมาจ้าาาาา ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

โธ่ เครียดเรื่องนี้เหรอคะ คนท่ามาก
ค้างๆตามพระเอกกลับบ้าน
เชียร์คุณคามสุดตัวเลยจ้า จีบๆๆๆๆๆ
รีบๆไปหาวิธีการจีบ หน่อย เด่วค่ายปิดไปเสียก่อน กินแห้วนะ
รอดูวิธีการจีบแบบไม่ให้รู้ว่าจีบ จะเป็นงัยรออยู่นะคุณคามอย่าช้า
ไม่ต้องท่ามากจ้า ลุยเลย จีบคือจีบ