ตอนที่ 18 : ดวงใจศิขรินทร์ : ตอนที่ 6 --- 70%
"เอาล่ะ งั้นพักเรื่องแกไว้ก่อน แล้วมาเข้าเรื่องฉันกันบ้าง"
"เรื่องอะไร แกมีอะไรให้เล่ามากมายนักหรือ" มีนมีนาเอ่ยถามเพื่อน ขณะที่ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนส่งเสียงกะแอมกระไอแว่วมา
“อะแฮ่ม”
“เป็นอะไร ไม่สบายหรือ หรืออะไรติดคอ”
“ว้อยยยย” มีนมีนาหัวเราะ เมื่อพะแพงทำเสียงประหลาดชวนขัน “ฉันอุตส่าห์จะเล่าให้ตื่นเต้นเสียหน่อย”
“เล่าๆ มาเหอะ ลีลา”
“ฉันกำลังจะแต่งงาน”
“อะไรนะ” มีนมีนาอุทานราวกับไม่เชื่อหูตัวเอง เสียจนปลายสายฝั่งกรุงเทพมหานครต้องบอกย้ำ
“ฉันกำลังจะแต่งงาน เพื่อนแกกำลังจะได้เป็นเจ้าสาวแล้วย่ะ”
"นี่พูดจริง" คนฟังทวนถามอย่างประหลาดใจ สวนกับประกายความรู้สึกในดวงตากลมโตที่ฉายชัดทั้งความรู้สึกตื่นเต้นดีใจ
"จริงสิ พี่บาสขอฉันเมื่อวานนี้ตอนไปกินข้าวด้วยกัน ฉันกะจะโทรบอกแกตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่โทรไม่ติด"
“ย่ะ ดีใจด้วยนะ ในสุดท้ายพี่บาสก็ไม่หลุดมือแกไปจนได้" คนไกลบ้านบอกยิ้มๆ ด้วยเพราะพะแพงและแฟนหนุ่มนั้นคบหากันมาเนิ่นนานตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว
"แกโอเคนะมีน" คนถูกถามขมวดคิ้วฉับ
"แล้วทำไมฉันถึงต้องไม่โอเคด้วยล่ะ"
"ก็ฉันดันมามีความสุขในเวลาที่แกกำลังทุกข์นี่นา" ปลายสายทำเสียงออดๆ เสียจนมีนมีนาต้องรีบบอกปัดให้เพื่อนคลายความกังวลใจ เพราะแม้เธอจะสนิทกันมาก แต่ก็ใช่ว่าจะมาคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องที่น่ายินดีเสียเมื่อไหร่
"แกน่ะคิดมาก ฉันไม่ได้ทุกข์อะไรมากมายเสียหน่อย"
"งั้นหรือ แกไม่ซีเรียสจริงๆ นะ"
"เออ แกอย่ามาทำอาลัยอาวรณ์ฉันเหมือนคู่รักได้ไหมเนี่ย" มีนมีนาว่าเสียงสะบัด ขณะที่พะแพงหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเอ่ยเสียงสะบัด
"ฉันก็ถามเพราะเป็นห่วง กลัวว่าข่าวดีของฉันจะทำให้คนเพิ่งจะอกหักหมาดๆ อย่างแกอกแตกตายน่ะสิ"
"เพื่อนเลว" มีนมีนาบริภาษอย่างไม่จริงจังนัก คราวนี้ทำเอาพะแพงหัวเราะลั่นเสียงดังอย่างชอบใจ
"แล้วนี่ดูฤกษ์ยามหรือยัง"
"ยังเลย แต่เดี๋ยวจะให้พ่อกับแม่ช่วยเป็นธุระให้ ฉันเองไม่เก่งเรื่องนี้น่ะ" พะแพงเอ่ยบอก หลังเริ่มวางแผนงานแต่งไว้คร่าวๆ บ้างแล้ว
"แล้วเรือนหอล่ะ ซื้อใหม่หรือยังไง"
"ฉันกับพี่บาสกะจะใช้คอนโดฯ พี่บาสเป็นเรือนหอก่อนน่ะ หากมีลูก ค่อยขยับขยาย"
"ก็ดีนะ เพราะอยู่ตรงนั้นก็สะดวกสบายด้วย" มีนมีนาเห็นด้วย เพราะคอนโดมิเนียมหรูของคนรักของเพื่อนอยู่ใจกลางเมือง ท่ามกลางความสะดวกสบาย โดยสารไปไหนมาไหนได้สะดวก ทั้งยังอยู่ใกล้สถานที่ทำงานของฝ่ายชายด้วย
"แต่ฉันอยากให้แกช่วยตกแต่งภายในให้ทีได้ไหม ถือว่าเป็นของขวัญให้ฉัน"
"นี่คุณว่าที่เจ้าสาว แกเองก็เป็นสถาปนิกไหม ทำไมไม่ทำเองย่ะ"
"ก็ฉันอยากให้แกทำ เอาห้องในฝัน เหมือนที่เราคุยกันเมื่อครั้งนั้น ที่ฉันบอกว่าชอบ" พะแพงบอก ชวนให้ฉุกคิดถึงเรื่องราวเมื่อครั้งที่พักอยู่หอด้วยกัน ยามที่สองสาวคุยกันเล่นๆ ถึงเรื่องงานแต่งงานในฝัน และพะแพงบอกว่าอยากได้เรือนหอที่ตกแต่งด้วยสไตล์เจ้าหญิงผสมผสานกับสไตล์มินิมอลเรียบๆ
"เรื่องนั้นตั้งนานมาแล้ว แถมไม่มีแปลนอะไรสักอย่าง ฉันจำได้แค่ลางๆ"
"ฉันอยากได้ห้องแนวนั่นแหละ คอนเซปต์ของฉันมีแค่นี้ นอกนั้นแกก็ออกแบบให้ฉัน นะมีน"
"แล้วพี่บาสจะโอเคใช่ไหม"
"โอเคสิ พี่บาสบอกให้ทำห้องแบบที่ฉันชอบ ตกลงแกตกแต่งภายในให้ฉันนะ"
"อือ ก็ได้" มีนมีนารับคำอย่างเสียไม่ได้ แต่ในหัวกลับเริ่มสร้างแปลนคร่าวๆ ขึ้นมาทันทีว่าจะตกแต่งหรือจัดวางอย่างไรให้เป็นแบบที่พะแพงชื่นชอบ และยังต้องคำนึงในส่วนความเป็นผู้ชายของรุ่นพี่หนุ่มด้วย
"แล้วนี่แกจะกลับเมื่อไหร่อ้ะมีน"
"ก็อีกสองเดือนแหละ นี่เพิ่งได้อาทิตย์กว่าๆ เอง แต่ก็น่าจะกลับไปทันตกแต่งห้องให้แกอยู่หรอก"
"ต้องทันสิ เพราะไม่ว่าอย่างไร ฉันก็จะรอให้แกกลับมาก่อน"
"โหย รู้สึกเหมือนเป็นคนสำคัญ" มีนมีนาว่าเสียงกลั้วหัวเราะ แบบที่พะแพงก็รีบตอบทันที
"สำคัญสิย่ะ ไม่งั้นฉันคงแอบแต่งงานหนีแกไปแล้ว”
“จ้ะ ขอบคุณที่ยังนึกถึงนะ”
“แล้วนี่แกทำอะไรอยู่ วันนี้มีกิจกรรมอะไร"
"วันนี้วันหยุด ฉันเลยตื่นไปช่วยป้าคำจันเก็บผักมา เสร็จแล้ว เลยมาเดินถ่ายรูปน่ะ ที่นี่สวย ถ้าแกมาเห็น แกต้องชอบแน่ๆ" มีนมีนาตอบยิ้มๆ ขณะทอดสายตามองวิวทิวทัศน์เขียวขจีตัดกับสีฟ้าสดใสสุดลูกหูลูกตาด้วยความรู้สึกผ่อนคลาย
"สวยพอเป็นที่ใช้มินิฮันนีมูนได้ไหม"
"สบายมาก ถ้าหากว่าแกชอบภูเขา ท้องฟ้าสีสดๆ กับทะเลหมอกอ้ะนะ"
"แหม ได้ยินแกยืนยันแบบนี้ แล้วอยากจะไปจัง" พะแพงทำเสียงชวนฝัน แล้วพากันคุยเรื่องสัพเพเหระต่ออีกชั่วครู่ ก่อนปลายสายจะมีสายเรียกซ้อนจากหนุ่มคนรัก มีนมีนาจึงถือโอกาสวางสายและแยกย้ายกัน
มือเรียวยัดโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนหมุนตัวเดินออกมาจากจุดนั้น พลันสายตาก็หันไปสบเข้ากับเด็กน้อยชายหญิงกลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินดุ่มๆ ไปตามเส้นทางในหมู่บ้าน โดยเฉพาะเด็กหญิงตัวป้อม แก้มป่อง ตากลมโตคนนั้นที่ดึงดูดความสนใจให้หญิงสาวก้าวเข้าไปทักทาย
"หนูดี" มีนมีนาส่งเสียงออกไปก่อนที่ตัวจะเดินไปถึง เรียกให้เด็กๆ ราวหกคนหันมามอง และเป็นหนูดีที่ส่งเสียงร้องเรียกเธออย่างคุ้นเคย
"พี่มีน" หญิงสาวยิ้มก่อนก้าวเข้าไปหาคนตัวเล็กแต่โดยดี
"สวัสดีค่าพี่มีน" หนูดียกมือขึ้นไหว้เธอทันทีอย่างคุ้นเคย ขณะที่เด็กๆ คนอื่นในกลุ่มก็ยกมือขึ้นไหว้เธอตามเป็นพรวน
"สวัสดีจ้ะ นี่จะไปไหนกันจ๊ะ" มีนมีนาเอ่ยถามพร้อมกับกวาดตามองเด็กคนอื่นอย่างเป็นมิตร
"ไปเก็บลูกพลับกันค่ะ" เด็กหญิงอีกคนที่ถือตะกร้าเอ่ยตอบด้วยภาษาเหนือชัดแจ๋ว ทำเอามีนมีนาถึงกับเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ
"ไปเก็บลูกพลับหรือ"
"ใช่ค่ะ พะกอบอกว่าต้นลูกพลับท้ายหมู่บ้านออกลูกเต็มไปหมด มีมะม่วงด้วยนะคะ" หนูดีบอกด้วยน้ำเสียงสดใสชวนฟัง ขณะที่มีนมีนาขมวดคิ้วมุ่น แล้วเอ่ยถามอย่างแปลกใจ
"แล้วไม่มีเจ้าของหรือ"
"พ่อบอกว่าเป็นของหมู่บ้านค่ะ เก็บกินได้ พี่มีนไปด้วยกันไหมคะ"
"น่าสนใจจัง" มีนมีนาเกริ่นขึ้นอย่างสนใจ ทำเอาเด็กๆ ตาวาว ก่อนหันไปพูดคุยปรึกษากัน ราวกับว่าหญิงสาวไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยกัน เธอจึงทำเป็นยืนตัวแข็ง นึกขันยามต้องยืนฟังบทสนทนาเกี่ยวกับตัวเองเงียบๆ
"ถ้าพี่เขาไปด้วย เราก็จะมีคนช่วยเก็บนะ"
"ใช่ๆ เราอาจจะได้กินมะม่วงด้วย ต้นมะม่วงสูงนะ"
"จริงด้วย" หนูดีพยักหน้า ก่อนหันมาหามีนมีนาที่ยืนทอดสายตามองบรรดาเด็กๆ ยิ้มๆ
"พี่มีนไปด้วยกันไหมคะ" มีนมีนาแสร้งทำท่าทีลังเล ขณะกำลังถูกจดจ้องด้วยสายตาอ้อนวอนของบรรดาเด็กน้อยตรงหน้า แกล้งได้ครู่เดียว หญิงสาวก็ตอบรับ
"ไปสิจ้ะ เดี๋ยวพี่ไปช่วยเก็บ"
“เย่”
มีนมีนาออกเดินไปพร้อมกับเด็กๆ มีจุดหมายปลายทางเป็นต้นลูกพลับท้ายหมู่บ้าน เด็กชายพะกอบอกว่าที่สวนท้ายหมู่บ้านนั้นมีผลไม้อีกหลายอย่างทั้งมะม่วง มะปรางและมะตูม ขึ้นเรียงรายกันเต็มไปหมด ใครอยากกินอะไร ก็สามารถมาสอยไปกินได้ทั้งหมด เพราะผลไม้ของที่นี่ปลอดสารพิษ ไม่ใช้สารเคมี
พักใหญ่กว่าบรรดาเด็กๆ และมีนมีนาจะเดินมาถึงจุดหมายใต้ต้นลูกพลับน้อยใหญ่ท้ายหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ติดตีนเขา มีขนาดความสูงราวสองเมตร บ่งบอกว่ามันเจริญเติบโตตามธรรมชาติ ไม่ได้รับการตกแต่งกิ่ง ดูแลอย่างที่ควรจะเป็น เด็กๆ พากันวิ่งเด็ดลูกพลับที่มีกิ่งห้อยระย้าไปกัดกินสดๆ อย่างเอร็ดอร่อย พร้อมกับเชิญชวนให้มีนมีนากินด้วย หญิงสาวจึงเอื้อมมือไปเด็ดลูกพลับมากัดกินบ้าง ซึ่งรสสัมผัสของการกินลูกพลับเป็นครั้งแรกถือว่าผ่านฉลุย เพราะรสชาติของลูกพลับสดใหม่นั้น ทั้งหวานทั้งกรอบถูกปาก เสียจนเธอกินเพลิน ครู่เดียวก็กินหมดไปถึงสามลูก
“พี่มีนขา เด็ดลูกพลับลูกนั้นให้หนูดีหน่อย”
“พี่มีนขา เอาลูกนั้นด้วยเจ้า”
“พี่มีน เอาเยอะๆ เลย”
มีนมีนาหลุดหัวเราะ ยามที่เด็กๆ ผสานเสียงสั่งเธอให้ช่วยเด็ดลูกพลับในจุดที่อยู่สูงขึ้นไป เพราะความสูงเฉลี่ยหนึ่งร้อยยี่สิบเซ็นติเมตรไม่สามารถเด็ดได้ด้วยมือเปล่า หญิงสาวจึงกลายร่างเป็นไม้สอยให้เด็กๆ ไปโดยปริยาย
"พอหรือยังจ๊ะ" หญิงสาวเอ่ยถามหลังวางพวงลูกพลับอีกพวงลงในตะกร้าที่เด็กๆ เตรียมมา
"พอแล้วค่ะ" เด็กหญิงผมสั้นที่หนูดีเรียกว่าวานีเอ่ยบอกยิ้มๆ
"แต่พวกเราอยากกินมะม่วงด้วย แต่มันอยู่สูง" ใครอีกคนเอ่ยบอก ดึงสายตาของมีนมีนาให้เงยหน้าขึ้นมองต้นมะม่วงสูงใหญ่ที่มีผลดกเต็มต้นอย่างสำรวจ
"เดี๋ยวเราสอยเอาก็ได้"
"แต่เราไม่ได้เอาไม้มานะ"
"งั้นให้พะกอปีน พะกอปีนต้นไม้เก่ง"
"หือ" มีนมีนาอุทาน ยามได้ยินบทสนทนาของเด็ก ๆ ก่อนจะหันไปมองร่างผอมกะหร่องของเด็กชายพะกออย่างแปลกใจ
"จะดีหรือจ๊ะ ต้นมะม่วงสูงอยู่นะ"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่มีน พะกอปีนต้นไม้เก่ง" หนูดียืนยันเสียงแจ๋ว แต่ผู้ใหญ่คนเดียวในกลุ่มไม่วางใจ ด้วยกลัวว่าเด็กๆ จะได้รับอันตราย เกรงว่าจะตกลงมาแข้งขาหักได้ หญิงสาวจึงยืนมองความสูงของต้นมะม่วงอย่างประเมินอยู่ครู่หนึ่ง
"เดี๋ยวพี่เป็นคนเก็บให้เอง"
"พี่มีนปีนต้นไม้เป็นหรือคะ"
"พี่มีนซะอย่าง สบายมากจ้ะ" มีนมีนาบอก ก่อนปลดสายกล้องถ่ายภาพคล้องคอเด็กหญิงหนูดีไว้ พร้อมด้วยโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกง จากนั้นจึงเดินดิ่งไปที่ต้นมะม่วง ก่อนถอดรองเท้าและถุงเท้าออกกองไว้ที่พื้น แล้วออกแรงปีนขึ้นต้นมะม่วงด้วยท่าทีเก้กังเล็กน้อย โดยมีเด็กๆ ยืนเอาใจช่วยอยู่ด้านล่าง
แม้ว่ามีนมีนาจะปีนขึ้นต้นมะม่วงด้วยท่าทางทุลักทุเล แต่ก็สามารถขึ้นไปยืนเกาะกิ่งมะม่วงได้ในที่สุด ท่ามกลางความรู้สึกโล่งใจของตัวเอง
"เตรียมเก็บนะ" พอทลายความกังวลเรื่องการปีนต้นไม้ได้แล้ว มีนมีนาก็ร้องบอกกับเด็กๆ อย่างนึกสนุก ก่อนเด็ดลูกมะม่วงโยนลงไปที่พื้นด้านล่าง ซึ่งมีเด็กๆ ยืนรออยู่
มือเรียวคว้าเด็ดลูกมะม่วงด้วยท่าทีคล่องแคล่วว่องไว เสียจนเผลอตวัดมือไปโดนรังมดแดงที่อยู่ใกล้ ๆ ร่างบางจึงขยับตัว เตรียมย้ายที่หนี แต่ทันใดนั้นเสียงเข้มใหญ่ก็ดังขึ้นมาจากด้านล่าง
"นั่นคุณทำอะไรน่ะ!"
-----------------------------------
ปากำลังใจมาให้หน่อยค่าาา อิอิ
ช่วงนี้โปรโมชัน อัพฉลองเขียนต้นฉบับเสร็จค่ะ 5555
มีนักอ่านท้วงมาว่าพระเอกค่าตัวแพง เลยพามาเข้าฉากแล้วนะคะ
ประโยคเดียวพออออ 555
ส่งกำลังใจ คอมเมนต์แนะนำติชม ให้กำลังใจกันสักนิดนะคะ
เผื่อได้อ่านจบตอนที่ 6 กันไปเลยเนอะะ ^^
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

กลายเป็นหัวโจกโข่งซะแล้ว
รีบมาต่อนะคะ รอว่า พี่มินจะรอดมั้ย
พี่มินแปลงกายแล้ว. ระวังตกต้นไม้นะ
พี่มินตกใจจนตกต้นมะม่วงหรือเปล่า คุณพ่อ ดุจัง
ขุ่นพ่ออออออ
พระเอกทักแบบนั้นนางเอกจะตกใจจนร่วงลงมาหรือเปล่าเนี่ย
ไรท์น่าจะอัพทุกวันเลย ชดเชยที่หายไปหลายวัน อิอิ