ตอนที่ 6 : ใจแค้น แสนรัก : ตอนที่ 2 --- 70%
รถยนต์สปอร์ตคันหรูที่แล่นมาด้วยความเร็วสูงเลี้ยวผ่านประตูรั้วอัลลอยด์เข้ามาจอดสนิทหน้าเชิงบันไดมุกของบ้านวรรักษ์ธิกุล มีสาวใช้วัยรุ่นรีบวิ่งตึกๆ ออกมายืนรอต้อนรับด้วยใบหน้าเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มดีใจ ก่อนประตูรถยนต์ด้านข้างคนขับจะเปิดออกพร้อมกับร่างสูงใหญ่ในชุดลำลองที่ก้าวลงมายืนเต็มความสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบสามเซ็นติเมตร มีถุงกระดาษสีน้ำตาลสกรีนชื่อร้านขนมชื่อดังถือไว้เต็มสองมือ
ธิติใช้แขนดันประตูรถให้ปิดลง แล้วเดินอ้อมมาหยุดยืนตรงหน้าเด็กสาว
“สวัสดีค่ะคุณไปป์” เสียงเล็กๆ ร้องทักทายพร้อมกับกระพุ่มมือไหว้ชายหนุ่มอย่างนอบน้อม ขณะที่ธิติยิ้มเอ็นดูแล้วยื่นถุงขนมมากมายไปให้
“พายกับครัวซองต์ พี่จำได้ว่าเราชอบ”
“คุณไปป์ซื้อมาให้หนูหรือคะ”
“อืม รับไปสิ”
“ขอบคุณนะคะ” อีกฝ่ายยิ้มกว้างรับคำ พร้อมกับรับถุงขนมไปเปิดดูอย่างดีใจ เห็นได้จากประกายตาแววระยับยามก้มมองถุงขนมมากมายนั่น
“แล้วนี่แม่อยู่ไหน” ธิติละสายตาจากภาพตรงหน้า หันไปชะเง้อคอมองหาคนเป็นมารดา สาวน้อยที่ยืนอยู่จึงรีบบอกรายงานอย่างรวดเร็ว
“คุณผู้หญิงกำลังทำอาหารกลางวันอยู่ในห้องครัวค่ะ ส่วนคุณผู้ชายนั่งทำงานอยู่ในห้องหนังสือค่ะ”
ธิติพยักหน้ารับฟัง
“คุณไปป์จะให้หนูไปเรียนท่านให้ไหมคะ”
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพี่จัดการเอง เราจะไปทำอะไรก็ไปเถอะ” ธิติบอกปัด มองเด็กสาวที่เอาแต่กอดถุงขนมด้วยท่าทีดีใจ จนอดเอื้อมมือไปยีผมอีกฝ่ายเบาๆ อย่างเอ็นดูไม่ได้
“ชอบจังเลยน้า ขนมเนี่ย” สาวใช้วัยใสฉีกยิ้มกว้าง ก่อนเอ่ยบอกเสียงสดใส
“ก็มันอร่อยนี่ค่ะ หนูชอบกินอะไรหวานๆ”
“กินของหวานมากๆ ระวังเถ้อจะฟันผุ” ธิติแซ็วยิ้มๆ มองเด็กสาวที่เชิดหน้าฉีกยิ้มกว้างจนตาหยีให้เขาด้วยประกายตาอบอุ่น ก่อให้เกิดรอยยิ้มหวานบนใบหน้าคนถูกมอง
“ถ้าคุณไปป์ไม่มีอะไรแล้ว งั้นหนูขอตัวเอาขนมไปแบ่งให้ลุงกับป้าก่อนนะคะ”
“ไปเถอะ” ธิติพยักหน้าอนุญาต ก่อนคนตัวเล็กจะวิ่งแจ้นสวนออกไปที่ป้อมยาม เพื่อนำขนมไปให้ผู้เป็นลุง ซึ่งกำลังตัดหญ้าอยู่ที่สนามหน้าบ้าน เขาจึงดึงสายตาหันกลับมามองบ้านหลังใหญ่โตของตัวเองที่ไม่ค่อยได้กลับมาพำนักบ่อยนักอย่างหมายมาด แล้วเดินขึ้นบันไดตรงไปยังห้องครัวอย่างรวดเร็ว
ร่างสูงใหญ่เดินสวนกับสาวใช้ที่เดินถือถาดบรรจุจานชามเตรียมจัดขึ้นโต๊ะ ตามกลิ่นหอมของพริกแกงเผ็ดเข้าไปยังห้องครัว ทันได้เห็นคนเป็นมารดากำลังยืนกำกับสาวใช้อีกกลุ่มให้โขลกพริกแกงสีส้มแดงในครกหินใบอวบอ้วนจนเกิดเสียงดังลั่นไปทั่วทั้งบ้าน
ธิติหลุดยิ้มให้กับภาพแสนคุ้นเคย ก่อนเดินดิ่งเข้าไปสวมกอดแม่ครัวใหญ่จากทางด้านหลัง พร้อมกับก้มลงกดปลายจมูกโด่งเป็นสันเข้ากับซีกแก้มอิ่มเต็มของคนเป็นมารดาฟอดใหญ่ทันที
“ทำอะไรอยู่ครับแม่ กลิ่นห้อมหอม น่ากินจัง”
แม่ครัวใหญ่แห่งบ้านวรรักษ์ธิกุลหันขวับไปมองเจ้าของอ้อมแขนใหญ่ แล้วเอ่ยทักทาย
“ลมอะไรหอบมาถึงนี่จ๊ะคุณผู้บริหารใหญ่ แม่นึกว่าจะลืมทางกลับบ้านไปแล้วซะอีก”
“ก็ลมคิดถึงหอบมาน่ะซิครับ คิดถึ้ง คิดถึง” เสียงห้าวร้องบอกออดอ้อน แล้วก้มลงหอมแก้มคุณวิยะดาอีกฟอดด้วยท่าทีประจบประแจงเพื่อลดทอนความผิดของตัวเองที่หายหน้าหายตาจากบ้านไปเสียนาน เพราะหลังจากที่กลับมาจากการเรียนต่อต่างประเทศ ธิติก็ใช้เพนส์เฮาส์ส่วนตัวเป็นที่พักถาวร จะกลับมานอนบ้านในช่วงวันหยุดยาวเท่านั้น
“แล้ววันนี้ว่างหรือไง ถึงแวะมาหาแม่ได้น่ะ”
“ว่างครับ เพิ่งปิดจ๊อบไปหนึ่งงาน” ธิติเอ่ยตอบ แต่บอกไม่หมดหรอกว่าการกลับมาบ้านในวันนี้ เขามีแผนการบางอย่างที่จะต้องมาจัดการทำให้สำเร็จ หลังจากปล่อยให้เรื่องราวเงียบอยู่นาน เนื่องจากว่าเขาติดพันงานหลายอย่างๆ ป่านนี้ลลิสาคงคิดว่าเขาถอดใจไปแล้วแน่ๆ
“งั้นดีเลย แม่กำลังจะทำครองแครงสดใส่เผือกพอดี อยู่ทานด้วยกันก่อนสิ”
“ได้สิครับ ว่าแต่มีแกงจืดสาหร่ายใส่เต้าหู้ไข่ของผมขึ้นโต๊ะบ้างหรือเปล่าน้า”
“ไม่มีในรายการจ้ะ แต่เดี๋ยวแม่ทำให้ได้” คุณวิยะดาเอ่ยบอกเอาใจ ก่อนผละออกจากอ้อมแขนใหญ่ของลูกชาย แล้วหันไปกวาดตามองใบหน้าอีกฝ่ายอย่างสำรวจ เห็นใบหน้าคร้ามคมซูบซีดลงจึงเอ่ยทัก
“ไปป์ดูผอมลงนะลูก ทานข้าวบ้างหรือเปล่าหึ” เอ่ยถามพลางยกมือขึ้นจับใบหน้าคมสันอย่างห่วงใย ขณะที่ธิติยิ้มบางๆ ให้กับความเอื้อเอ็นดูที่มารดามอบให้
“งานยุ่งน่ะครับแม่ ผมเลยไม่ค่อยได้หาอะไรทานนัก”
“ดูแลตัวเองหน่อยสิจ้ะ ดูสิขอบตาดำคล้ำเชียว”
“ดีออก แม่จะได้มีลูกเป็นหมีแพนด้าไงครับ” ธิติเย้าด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ ทำเอาสาวใช้ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ หลุดหหัวเราะกิ๊ก ขณะที่คุณวิยะดายังมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเป็นกังวล
“ไม่ต้องทำมาเป็นตลกเลย ถ้าคราวหน้ายังดูแลตัวเองได้ไม่ดี แม่จะหาคนไปช่วยดูแลแล้วนะ ลูกสาวคุณพิมานกำลังหน้าตาน่ารักเชียว เพิ่งเรียนจบเอกคหกรรมมาหมาดๆ ด้วย”
“แม่อยากให้ผมกินเด็กเหรอ”
“ยี่สิบแล้วจ้ะ ไม่เด็กแล้ว” คุณวิยะดาบอกเสียงหวาน “สนใจไหม เดี๋ยวแม่นัดน้องให้”
“ยังดีกว่าครับ เดี๋ยวผมลองหาเองก่อน”
“ทำงานหนักแบบนี้จะไปหาที่ไหนจ้ะ สาวๆ น่ะ”
“อืม ก็พออยู่บ้างนะครับ” ธิติตอบยิ้มๆ ขณะคุณวิยะดาหรี่ตามองอย่างจับผิด
“พูดแบบนี้ แปลว่ามีสาวในดวงใจแล้วสิท่า”
“ก็มองๆ ไว้คนหนึ่งครับ” เขาตอบตามตรง แต่ไม่ได้บอกมารดาว่าสาวที่เขามองคืออดีตคู่หมั้นที่เคยมีเรื่องมีราวเสียจนเกือบเข้าหน้ากันไม่ติดอย่างลลิสา “กำลังดูๆ กันอยู่”
“จริงหรือลูก” คุณวิยะดาอุทานอย่างดีใจ เพราะหลังจากที่ลูกชายเลิกรากับลลิสาไป ธิติก็ยังไม่มีคนรักเป็นตัวเป็นตนสักที “ว่างๆ ก็พามาให้แม่กับพ่อทำความรู้จักบ้างสิจ๊ะ ลูกเต้าเหล่าใครกันนะ”
“ได้สิครับ แต่ขอให้ผมแน่ใจกว่านี้อีกนิด” เอ่ยบอกพลางยกนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ขึ้นจีบประกอบท่าทาง
“อย่าช้านักนะ แม่แก่แล้ว”
“ครับผม” คนตัวโตรับคำ แล้วก้มลงหอมแก้มมารดาอีกฟอดอย่างคิดถึงจับใจ ทำเอาบรรดาสาวใช้ที่ยืนมองอยู่อดยิ้มตามไปกับท่าทางน่ารักของสองแม่ลูกไม่ได้
“ไปป์ออกไปนั่งรอข้างนอกดีกว่าลูก เดี๋ยวแม่ยกขนมไปให้ ปล่อยให้เด็กๆ ทำครัวกัน”
“ได้ครับแม่” ธิติรับคำ ก่อนจะเดินออกมานั่งรอมารดาที่ห้องนั่งเล่นอย่างว่าง่าย พร้อมกับควักโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายหาเพื่อนสนิท รออยู่ชั่วครู่ ปลายสายจึงกดรับด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
------------------------------------
มาอัพอ่อยไว้ก่อนน เดี๋ยวจะรีบปั่นแล้วมาลงต่อให้นะคะ ^^
ฝากผลงานของลานีนด้วยค่าาา
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ที่บอกว่าดูๆอยู่นี่ ถามสาวหรือว่าอยากดูใจด้วยไหม
อีพต่อเร็วๆนะค้าาา