ตอนที่ 5 : ใจแค้น แสนรัก : ตอนที่ 2 --- 35%
ตอนที่ 2
ร่างแบบบางในชุดเดรสสั้นสีหวานที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ลายสวยภายในร้านอาหารหรูหราบนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมชื่อดังหยัดตัวขึ้นนั่งหลังตรงยามเห็นร่างสูงของคนที่เฝ้ารอในชุดนักศึกษาสวมทับด้วยเสื้อช้อปสีกรมท่าเดินดุ่มเข้ามาทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ตัวตรงข้ามด้วยใบหน้าเรียบเฉยติดจะเย็นชา
สุดท้าย เวลาสี่สิบห้านาทีที่เธอทนนั่งรอก็ไม่สูญเปล่า เพราะถ้าหากว่าคืนนี้เขาไม่มา เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะมีความกล้าเหมือนครั้งนี้หรือเปล่า
‘ไปป์มาเหนื่อยๆ ดื่มอะไรก่อนไหม น้ำอัดลมเย็นๆ หรือม็อกเทลดี’
'รีบพูดธุระของคุณมาดีกว่า ผมมีเวลาไม่มากนัก'
'แต่ลลิสสั่งอาหารไปแล้ว ไปป์จะไม่รอทานด้วยกันก่อนเหรอ'
'ผมไม่ได้มีเวลาว่างขนาดนั้น' เขาตอบเสียงห้วนสั้นพลางพลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาด้วยท่าทีเป็นกังวล ทำเอาลลิสาที่นั่งรอมานานหน้าจืดเจื่อน ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ไม่เคยมีความสำคัญในสายตาของเขา นอกเสียจากเป็นผู้หญิงเอาแต่ใจที่นำความน่ารำคาญมาให้เขาเท่านั้น
'ผมมีเวลาให้คุณสิบนาที มีอะไรก็รีบพูด ผมมีงานเยอะแยะต้องทำ ไม่มีเวลามานั่งฟังคุณพล่ามอยู่หรอกนะ'
ใบหน้าสวยหวานของคนฟังก้มต่ำ ซ่อนร่องรอยความรวดร้าวไว้ในดวงตาคู่สวย แต่เพียงแวบเดียวลลิสาก็เชิดหน้าขึ้นตั้งตรงอย่างพยายามเด็ดเดี่ยว ไม่ว่าอย่างไรทุกอย่างก็ต้องจบภายในวันนี้
'การมาพบฉัน คงทำให้คุณเสียเวลามากเลยสินะคะ'
'เหลือเวลาอีกเจ็ดนาที ถ้าคุณไม่พูด ผมจะกลับแล้ว' เสียงห้าวเอ่ยย้ำด้วยท่าทีรำคาญใจ ไม่แม้แต่จะสังเกตเห็นท่าทีแปลกไปของสาวคู่หมั้นที่โอนอ่อนให้เขากว่าที่ควรจะเป็น ทั้งที่สิ่งที่เขาเห็นมาตลอด คือ ความร้ายกาจและแสนเอาแต่ใจ ที่ทำให้เขานึกขยาด
‘งั้นฉันเข้าเรื่องเลยนะคะ’
‘…'
'คุณอยากจะถอนหมั้นไหม' สายตาคมตวัดมามอง มุมปากกระตุกยิ้มเยาะ คล้ายคำถามของเธอช่างไร้สาระ
'อย่าถามอะไรในสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้หน่อยเลย'
'ทำไมละคะ'
'คุณถามเหมือนไม่รู้ว่าทั้งพ่อแม่คุณและพ่อแม่ผมยินดีกับการหมั้นระหว่างคุณกับผมแค่ไหน พวกท่านคงยอมให้ผมถอนหมั้นง่ายๆ หรอกนะ'
ลลิสาเม้มปากแน่น ผู้ใหญ่ทุกคนรวมทั้งเธอยินดีกับการผูกมัดเขา คงมีธิติเพียงคนเดียวที่ไม่ยินดียินร้ายกับการหมั้นหมายครั้งนี้เลย เขาคงรู้สึกว่าถูกบังคับมาตลอดสินะ
‘แล้วถ้าเป็นฉันล่ะ...’ ธิติช้อนตาขึ้นมองคนพูด
'เป็นฉันที่บอกถอนหมั้นคุณเอง พวกท่านน่าจะเข้าใจ ในเมื่อการหมั้นหมายที่เกิดขึ้น มาจากความต้องการของฉันแต่แรก หากฉันจะขอยกเลิก พวกท่านคงไม่ว่าอะไร'
'...'
ลลิสากระพริบตาปริบไล่น้ำตา ก่อนรูดเอาแหวนเพชรเรียบๆ แต่ทว่าน้ำงามออกจากนิ้วนางข้างซ้ายด้วยความรู้สึกวูบโหวงในอก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเธอผูกมัดเขาด้วยคำว่าคู่หมั้นมาตลอด แต่วันนี้เธอจะคืนทุกสิ่งทุกอย่างให้เขาด้วยตัวเอง เพราะไม่อย่างไรเธอก็เป็นได้แค่ผู้หญิงน่ารำคาญที่ตามตื้อ ร้องขอความรักจากเขาอย่างไร้ศักดิ์ศรีเท่านั้น
‘ฉันคืนอิสระให้คุณแล้ว ขอโทษสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา ขอโทษนะ’
หญิงสาววางแหวนหมั้นลงตรงหน้าธิติ แล้วรีบชักมือกลับอย่างรวดเร็ว กลัวว่ามันจะสั่นระริกเป็นการประจานความอ่อนแอของตัวเองต่อหน้าเขา ก่อนรีบฝืนพูดประโยคต่อมาเพื่อให้ความสัมพันธ์ครั้งนี้สิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์
'ฉันขอถอนหมั้น ขอให้คุณมีความสุขกับชีวิตที่ไม่มีฉันนะคะ'
“โอ้ยตาย อกอีแป้นจะแตก นี่แกเสร็จอดีตคู่หมั้นวัยละอ่อนที่มีโปรไฟล์หรูเลิศไปแล้วจริงๆ น่ะเหรอ ก็ไหนว่าเกลียดกันเข้ากระดูกดำไงละยะ” เพื่อนสาวคนสนิทอย่างเนตรกมลยกมือขึ้นทาบอกด้วยท่าทีตกอกตกใจ หลังจากได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของลลิสาที่นั่งทำหน้ากระอั่กกระอ่วนใจอยู่ตรงข้ามอย่างคิดไม่ตก ขณะนั่งคุยกันอยู่ตรงโซฟารับแขกภายในร้านเสื้อผ้าดีไซน์เก๋ไก๋ของตัวเอง หลังจากที่ผู้บริหารสาวอย่างลลิสาขับรถมาหาถึงที่
“ฉันไม่แน่ใจ แถมจำอะไรไม่ค่อยได้เลย”
“ก็ถ้าตัวแกมีรอยมากมายอย่างที่บอกจริง ก็คงไม่เหลือหรอกย่ะ แกเองก็ออกจะสวย เอ็กซ์ เซ็กซี่ซะขนาดนี้ คุณไปป์เขาคงไม่ทนนอนมองแกเฉยๆ หรอก”
“แต่อย่างน้อยฉันก็น่าจะจำอะไรได้บ้างสิ แกก็รู้ว่าฉันไม่ใช่คนเมาแล้วไร้สติ” ลลิสาเถียงอย่างไม่ยอมแพ้ แม้จะไม่เต็มเสียงเท่าไรนัก เนื่องจากยังจำความรู้สึกเสียดเสียวช่วงกลางลำตัวเมื่อค่ำคืนนั้นได้ดี ไหนจะรอยสีแดงคล้ำเปรอะกางเกงชั้นในที่เป็นหลักฐานชั้นดีว่าเธอตกเป็นของเขานั่นด้วย
“แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าแกไม่เคยเมานะยะ” เนตรกมลแย้ง เพราะเคยเห็นลลิสาเมาแอ๋และสลบเหมือดข้ามคืนเมื่อครั้งเลิกรากับธิติ
“แต่ฉันจำได้ว่าเมื่อคืนไม่ได้แตะมาร์ตินี่หรือจินโทนิกที่ฉันมักจะแพ้เลยนะ”
“โอ้ย อย่างอื่นมันก็ทำให้เมาได้ไหมย่ะ ถ้าดื่มเยอะๆ น่ะ” ดีไซเนอร์สาวค้อนปะหลับปะเหลือกใส่เพื่อน “นี่แกจะบอกว่าคุณไปป์มอมเหล้าแกหรือไง”
ลลิสากัดปากอย่างคิดไม่ตก
“ฉันว่าเหตุการณ์มันดูไม่ชอบมาพากล จู่ๆ ฉันก็ตื่นมาบนเตียงเดียวกับเขา แล้วก็จำอะไรไม่ได้”
“แล้วเขาจะไปมอมเหล้าแกตอนไหน”
“ก็นั่นนะสิ” ลลิสาพูดอย่างอ่อนใจ เพราะจำได้ว่าคืนนั้น เธอไม่ได้เจอธิติเลย
“แกอาจจะเมามากๆ แล้วเขาเองก็กรึ่มๆ จริงก็ได้ เรื่องมันเลยออกมาแบบนี้ แกน่ะคิดมากไปเอง เขาอาจจะเข้าไปช่วยแกจากไอ้ชั่วนั่นจริงๆ ก็ได้”
“แต่ฉันไม่รู้สึกว่าถูกใครลากหรือบังคับอะไรเลยนะ”
“ก็แกเมาจะไปรู้เรื่องได้ยังไงย่ะ” เนตรกมลแหวใส่เพื่อนที่ยังคงดึงดันใส่ความธิติ “ดูเหมือนว่าแกจะพยายามยัดเยียดความผิดให้คุณไปป์เหลือเกินนะลลิส”
“ก็มันแปลกๆ นี่นา ท่าทีของเขาก็แปลกด้วย ดึงดันจะรับผิดชอบฉันให้ได้ ทั้งที่ควรจะผลักไส”
“เอ้า ก็เขาเป็นสุภาพบุรุษ”
“แต่ฉันไม่ต้องการนี่” ลลิสาหน้ายุ่ง คิดไม่ตกว่าเขาจะรับผิดชอบเธอไปทำไม
“เขาเองก็แสดงท่าทีต่อต้านแกมาตลอดเวลาที่หมั้นกัน จู่ๆ เขาจะเอาห่วงไปผูกคอตัวเองอีกรอบทำไมย่ะ ทั้งที่หลุดออกมาจากวงโคจรของแกได้แล้วแท้ๆ”
“ใช่ไหมล่ะ เขาควรจะรับข้อเสนอของฉันแล้วปล่อยให้มันเป็นแค่ความสัมพันธ์ชั่วคืนเท่านั้น”
เนตรกมลทำท่าครุ่นคิด
“งั้นเป็นไปได้ไหมว่าคุณไปป์อาจจะเพิ่งรู้ใจตัวเอง เลยคิดกลับมาหาแก แต่กลัวว่าจะช้าเกินแกงเพราะแกกำลังมีข่าวกับไฮโซหนุ่มหล่อพ่อรวย เลยจัดการรวบหัวรวบหางแกให้เป็นของเขาตัดหน้าคุณเจตน์ซะก่อน” เนตรกมลหมายถึงชายหนุ่ม ทายาทเจ้าของร้านเพชรชื่อดังที่เข้ามาเกาะแกะลลิสา จนถูกนักข่าวสายบันเทิงเล่นข่าวว่าทั้งคู่กำลังคบหากันอยู่ในขณะนี้
“เพ้อเจ้อน่า” ลลิสาทำหน้ายุ่ง ไม่เห็นด้วยกับคำคาดการณ์ของเพื่อน แต่กระนั้นก็คิดไม่ตกว่าธิติยืนกรานจะรับผิดชอบเธอไปเพื่ออะไร ในเมื่อเหตุการณ์ครั้งเก่าก่อนทำให้สองครอบครัวเกือบเข้าหน้ากันไม่ติดไปครั้งหนึ่งแล้ว
“เอ้า ไม่แน่นะยะ เขาอาจจะเพิ่งรู้ว่ารักแกจริงๆ ก็ได้”
“คนอย่างธิติน่ะเหรอ ไม่มีทางซะหรอก” ลลิสาสวนเพื่อนทันควัน เพราะยังจำสายตาฉายแววรำคาญของอดีตคู่หมั้นได้ดี ธิติไม่มีวันหวนกลับมาหาเธอได้ ในเมื่อเธอทำนิสัยเสียใส่เขาซะขนาดนั้น ทั้งวีนเหวี่ยงใส่ผู้หญิงที่เขาชอบ ตามหึงหวงเขาอย่างไร้เหตุผลไม่ผิดจากนางร้ายในละครหลังข่าว และอีกอย่างที่สำคัญ ธิติไม่ได้มีจิตคิดพิศวาสเธอ
“เขาขยาดผู้หญิงอย่างฉันจะตายไป”
“แกพูดเหมือนประชดเลยนะยะ” เนตรกมลจับผิด เมื่อได้ยินน้ำเสียงติดแววเยาะหยันของเพื่อนยามเอ่ยถึงธิติ ขณะที่ลลิสารีบปฏิเสธ
“ทำไมฉันต้องประชดด้วย”
“เพราะว่าแกยังลืมเขาไม่สนิทน่ะสิ” ลลิสาทำหน้าเบื่อเมื่อได้ยินคำพูดของเพื่อน
“เรื่องมันผ่านไปตั้งนานแล้ว ฉันลืมไปหมดแล้ว”
“จะให้ฉันเชื่อเหรอ แกเคยหลงเขาจะตาย” เพื่อนสาวตั้งข้อสงสัย ด้วยเพราะรู้ดีว่าลลิสามีรักฝังใจกับชายหนุ่มรุ่นน้องอย่างธิติมากแค่ไหน แต่ดูเหมือนฝ่ายชายจะไม่ได้คิดแบบเดียวกัน ตลอดระยะเวลาที่หมั้นหมายกัน ชายหนุ่มจึงไม่ได้ดีกับเพื่อนของเธอนัก
“แกจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่แกเลยอาย แต่ฉันลืมทุกอย่างไปแล้วจริงๆ” ลลิสาตอบเสียงหนักแน่น ซึ่งขัดกับความรู้สึกอ่อนไหวภายในที่เธอพยายามขุดหลุมฝังมันให้อยู่ลึกสุดใจ
“เออลืมก็ลืมย่ะ” เนตรกมลทำเสียงกึ่งรำคาญใจ “แล้วตกลง ไม่ว่าอย่างไรแกก็จะปฏิเสธความรับผิดชอบที่แสนจะเป็นสุภาพบุรุษจากเขาใช่ไหม”
“อือ ฉันไม่อยากให้เรื่องมันจบแบบเดิม”
“แล้วเขาได้ติดต่อแกมาอีกหรือเปล่าล่ะ” ลลิสาส่ายหน้า เพราะหลังจากคืนนั้นธิติก็หายหน้าไปเลย
“เปล่า”
“ถ้างั้นแกก็วางใจเหอะ นี่ก็ผ่านมาตั้งสองอาทิตย์แล้ว ถ้าหากว่าเขาจะรับผิดชอบแกอย่างที่บอกจริงๆ เขาคงไม่รอให้เนิ่นนานขนาดนี้หรอก”
“ฉันก็หวังว่าอย่างนั้น” หญิงสาวพึมพำ ไพล่นึกถึงท่าทีเกรี้ยวกราดยามที่เธอปฏิเสธความรับผิดชอบจากเขาได้ติดตาเพราะดูเหมือนว่าธิติจะไม่พอใจเอาเสียเลยกับข้อเสนอที่เธอหยิบยื่นให้ จนเธอกลัวใจเหลือเกินว่าเขาจะโผล่มาหาเธอที่บ้านในเช้าวันรุ่งขึ้น แต่เขาก็ไม่ได้มาอย่างที่เธอกังวล ถึงวันนี้ก็ครบสองอาทิตย์เต็มแล้ว ลลิสาจึงบอกตัวเองว่าคิดมากเกินไป เขาอาจจะแค่หลุดปากออกมาเท่านั้น และป่านนี้คงกำลังกลัวว่าเธอจะยอมรับข้อเสนอล่ะมั้ง ถึงได้ทำเนียนๆ เงียบหายไปแบบนี้
“วางใจเถอะย่ะ ไม่งั้นป่านนี้เขาก็ต้องโผล่หน้ามาให้แกเห็นบ้างแล้วสิ ไม่ใช่เงียบหายไปเลยแบบนี้” เนตรกมลปลอบเพื่อนให้คลายใจ ก่อนจะเปรยขึ้น “ว่าแต่...”
“อะไร” ลลิสาหันไปมองเพื่อนที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ด้วยใบหน้ากรุ้มกริ่มอย่างไม่ไว้ใจ ดวงตาตี่เรียวชั้นเดียวหรี่ลงลิบๆ ดูมีลับลมคมใน
“หุ่นอดีตคู่หมั้นแกแซ่บมากไหมอ้ะ”
“ถามอะไรของแกเนี่ย”
“ก็ฟังจากสิ่งที่แกเล่าแล้ว เช้านั้นแกต้องตื่นมาเจอเขาในสภาพกึ่งเปลือยแน่ๆ ซิกแพคส์คงแน่นน่าดูเลยสินะ ใช่มะ”
“นี่!” เนตรกมลหัวเราะลั่นเมื่อถูกเพื่อนถลึงตาใส่ ก่อนหันไปทางประตูกระจกหน้าร้านซึ่งถูกลูกค้าผลักเข้ามาจนกระดิ่งที่ห้อยอยู่ส่งเสียงดังกรุ๊งกริ๊งบอกสัญญาณ
“เดี๋ยวฉันออกไปต้อนรับลูกค้าก่อนนะ แกนั่งจิบกาแฟรอไปพลางๆ ก่อน เดี๋ยวค่อยออกไปหาอะไรอร่อยๆ กินกัน”
“อือ” ลลิสาพยักหน้าให้เพื่อน แล้วยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ มองตามหลังอีกฝ่ายที่รีบเดินดิ่งเข้าไปต้อนรับลูกค้าด้วยมาดเจ้าของร้านแสนมาดมั่น พลันคำถามเรื่องหุ่นของธิติจากเนตรกมลก็แวบกลับเข้ามาในความคิดพร้อมภาพประกอบแน่นหนั่นชวนให้ใบหน้าร้อนวูบวาบ เพราะธิติไม่ใช่แค่เด็กหนุ่มนักศึกษาหุ่นเก้งก้างอย่างวันวานอีกต่อไปแล้ว
-----------------------------------------------------------
อัพแล้วค่ะ
อย่าลืมคอมเม้นต์ โหวตเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ
ฝากเพจและผลงานไว้ด้วยจ้าาา
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ไปป์หายไปก็ใช่ว่าจะหายไปเลยอาจจะวางแผนอะไรก็ได้
ต่อจากเสี่ยติณ
นะจ้ะ ไรท์ ลานีน
มาอัพ ด้วยจร้า
เค้าไม่ชอบ Y อ่ะ
กลัวไรท์ ไปหา รพี_ศรา
อย่าลืมมาหาไปป์ ด้วย