ตอนที่ 23 : ใจแค้น แสนรัก : ตอนที่ 8 --- 35%
ตอนที่ 8
“วันนี้คุณลลิสมีประชุมเรื่องโครงวรวรารีสอร์ตที่เดอะแกรนด์วรรักษ์ตอนบ่ายโมงนะคะ” เสียงแจ้วๆ ของพิมพ์ลดารายงาน ขณะยืนรอแฟ้มงานของฝ่ายงานที่ลลิสากำลังลงลายเซ็นต์ ทำเอามือของผู้บริหารสาวที่จับปากกาอยู่ชะงักไปนิด ก่อนปิดแฟ้มงานแล้วยื่นคืนให้เลขานุการประจำตัวด้วยท่าทีปกติ เมื่อลงลายมือเสร็จเรียบร้อย
“ขอบคุณสำหรับคำเตือนนะคะ เกือบจะลืมไปซะแล้ว” ลลิสาบอกยิ้มๆ แล้วเอื้อมไปหยิบ
“คุณพิมพ์เตือนฝ่ายสถาปนิคไปหรือยังคะ เผื่อเขาลืม ลลิสไม่อยากให้งานนี้พลาด”
“โอ้ย ไม่ต้องห่วงค่ะ ตอนนี้ฝ่ายนั้นไปนั่งกินซูชิรออยู่ที่เดอะแกรนวรรักษ์แล้วค่ะ ไม่มีพลาดแน่นอนค่ะ”
“ไปกินซูชิที่เดอะแกรนด์วรรักษ์หรือคะ” หญิงสาวร้องถามอย่างนึกแปลกใจ
“ค่ะ ตอนนี้ที่นั่นจัดเทศกาลซูชิอยู่ค่ะ เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ด้วย ราคาไม่แรงเลย” พิมพ์ลดารายงานอย่างรู้ดี ประหนึ่งว่าตัวเองเป็นหนึ่งในพนักงานของเดอะแกรนด์วรรักษ์ด้วย คงมีแต่ลลิสาเท่านั้นที่ไม่รู้อะไรเลย จึงได้แต่รับคำเสียงเบา
“งั้นหรือคะ”
“ค่ะ คุณลลิสลองไปเดินชมดูสิค่ะ มีแต่ซูชิอร่อยๆ น่าทานทั้งนัั้นเลย เมนูซาเซมิ เนื้อปลาก็สดกรอบ หว๊านหวาน ข้าวปั้นก็อร่อยมากเลยค่ะ อร่อยทุกอย่างเลย”
“คุณพิมพ์พูดเหมือนไปมาแล้วเลยนะคะ” ลลิสาพูดท้วง ขณะที่ฝ่ายนั้นหัวเราะแห้งๆ ก่อนทำท่ากระซิบกระซาบเอ่ยบอก
“คุณไปป์ให้บัตรกิฟวอเชอร์พี่มาน่ะค่ะ พี่เลยไปกินมาเมื่อวาน”
“หรือคะ” ลลิสารับคำ อย่างไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี ยามได้ยินชื่อคู่หมั้นหนุ่มที่พักนี้หายหน้าไปเลย หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นที่เธอต่อปากต่อคำกับเขาต่อหน้าราเชนทร์ ซ้ำยังเอ่ยปากไล่เขาอีก พลันคำพูดของเนตรกมลก็แวบเข้ามา
‘โอ้ย แกทำไม่ถูก ฉันรู้ว่าแกไม่อยากเป็นเบี้ยที่คอยเชื่อฟังและทำตามคำสั่งของคุณไปป์ทุกอย่าง แต่แกก็ไม่ควรไปแสดงกิริยาแบบนั้นกับเขาต่อหน้าคุณราเชนทร์ ซึ่งถือว่าเป็นคนนอกไหมย่ะ แบบนี้เขาเรียกหักหน้ากันชัดๆ เลย พวกผู้ชายถือเรื่องนี้กันมากเลยนะ แต่ถ้าเป็นฉันเจอแบบนี้ก็เฟลหว่ะ’
“ขนาดพี่ไปแต่เช้า คนยังเยอะมากเลยค่ะ วันนี้คุณลลิสก็ออกไปก่อนเวลาสิคะ ลองไปเดินชมดู ถ้าไม่ชอบซูชิ ขนมหวานจากญี่ปุ่นก็มีมาให้เลือกทานเยอะนะคะ คุณไปป์เชิญแต่เชฟอาหารญี่ปุ่นดังๆ มาทั้งนั้นเลย”
“ค่ะ” ลลิสารับคำส่งๆ แล้วหันมาสนใจกับการรวบเก็บแฟ้มงานด้วยท่าทีนิ่งๆ ด้วยเพราะความรู้สึกผิดที่พุ่งขึ้นมา จนเลขานุการสาวที่ยืนอยู่ยังรับรู้ได้ถึงความอึมครึมที่แผ่คลุมกะทันหัน จึงขยับเอ่ยขอตัว
“งั้นพี่ขอตัวก่อนนะคะ พอดีพิมพ์งานค้างไว้”
“เชิญค่ะ” ลลิสาบอก ก่อนที่ฝ่ายนั้นจะรีบหมุนตัวเดินออกไป ทิ้งเธอไว้กับความรู้สึกปั่นป่วนใจเพียงลำพัง หรือว่าวันนั้นเธอจะทำเกินไปจริงๆ
ลลิสามาถึงโรงแรมเดอะแกรนด์วรรักษ์ด้วยรถยนต์...คันเก่งในตอนเกือบเที่ยง แม้ในใจจะร่ำๆ ไม่อยากมา เพราะกลัวว่าจะได้เผชิญหน้ากับธิติก่อนเวลาประชุม แต่ด้วยคำว่า ‘งาน’ ที่ค้ำคอ ทำให้เธอต้องจำใจมาก่อนเวลา เพื่อมาศึกษาดูงานเทศกาลซูชิที่เขาจัดขึ้นกับตาว่าได้รับการตอบรับจากบรรดาลูกค้าอย่างล้นหลามเหมือนที่พิมพ์ลดาคุยไว้หรือไม่
ลลิสาขึ้นลิฟต์พร้อมด้วยเพื่อนร่วมโดยสารหลายคนเพื่อตรงไปยังห้องอาหารชั้นเจ็ดซึ่งใช้เป็นสถานที่จัดงานบุฟเฟ่ต์ซูชิ ตามป้ายเชิญชวนที่จัดวางเป็นสัดส่วนแต่สามารถมองเห็นได้เด่นชัดเพราะมีรูปซูชิน่าทานหลากหลายหน้าแปะติดไว้โดดเด่นทั่วทั้งโรงแรม ซึ่งถือว่าการทำโฆษณาเพื่อเรียกความสนใจจากลูกค้าของเดอะแกรนด์วรรักษ์ผ่านฉลุยเลยทีเดียว
ผู้บริหารสาวแห่งอัครวราเรสซิเดนซ์เดินตามคนอื่นๆ ออกจากลิฟต์เมื่อถึงที่หมาย แล้วเดินตรงไปยังห้องอาหาร โดยสิ่งแรกที่ลลิสาเห็นในห้องคือความละลานตาของไลน์อาหารมากมายที่วางเรียงรายเต็มไปหมด พอๆ กับบรรดาลูกค้าหลากหลายวัยที่นั่งจับจองเก้าอี้กันจนเต็ม ซึ่งภาพนั้นทำให้หญิงสาวนึกสนใจในกลยุทธ์ที่ธิตินำมาใช้ในการดึงดูดลูกค้าเสียแล้ว
ห้องอาหารที่เดอะแกรนด์วรรักษ์เลือกจัดงานบุฟเฟ่ต์ซูชิมีขนาดกว้างขวาง ตกแต่งและประดับดาด้วยธงชาติญี่ปุ่น ธงปลาคาร์ฟและต้นซากุระสีชมพูสวย ซึ่งจัดเป็นซุ้มไว้สำหรับให้บรรดาลูกค้าได้ถ่ายรูป โดยมีภาพตึกสูงเสียดฟ้าเป็นพื้นหลัง ส่วนตรงกลางของห้องอาหาร เป็นเคาน์เตอร์ขนาดยาวใช้สำหรับจัดวางซูชิหลากหลายหน้าที่ทำจากฝีมือเชฟชาวญี่ปุ่นซึ่งยืนสาธิตการทำซูชิให้เห็นกันจะๆ แบบชิ้นต่อชิ้น และมีเก้าอี้สำหรับนั่งจัดวางอยู่ทั่วทั้งห้องอาหาร โดยส่วนใหญ่ถูกจับจองจนเต็มแล้ว
ลลิสาออกเดินทอดน่องไปแต่ละซุ้มอย่างไม่รีบร้อน มองสำรวจซูชิหน้าตาน่าทานอย่างสนใจอกสนใจ ก่อนหยุดอยู่ที่ซุ้มซูชิหน้าปลาคินเมได เมื่อสะดุดตากับการแล่เนื้อปลาด้วยมีดคมกริบของเชฟร่างสูง ในชุดยูนิฟอร์มสีขาวดูน่าสนใจ
“หนูเอาชิ้นนี้ค่ะ”
“ไฮ้” ลลิสาหันมองตามมือของเชฟที่หยิบซูชิคำโตโปะด้วยเนื้อปลาสีสวยชิ้นใหญ่วางลงบนถาดไม้ของเด็กสาวในชุดนักเรียนมอปลายที่ฉีกยิ้มกว้างตาเป็นประกายอย่างแปลกใจ
“น้องมาทานคนเดียวหรือคะ” หญิงสาวหันไปถามอย่างสนใจ ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้ารับคำ
“ค่ะ หนูมาคนเดียว”
“แล้วนี่ทานอะไรบ้างจ๊ะ เยอะแยะเชียว” ลลิสาชวนคุย พร้อมกับมองซูชิในถาดของเด็กสาวที่มีจำนวนถึงหกชิ้นอย่างห่วงใยจำนวนเงินในกระเป๋าที่อีกฝ่ายต้องควักจ่าย
“นี่ข้าวปั้นไข่หวาน หนูชอบกินซูชิ เลยเก็บเงินมากินค่ะ” เด็กสาวอธิบายอย่างใจดี
“เก่งจัง แล้วทั้งถาดนี่กี่บาทจ้ะ” ลลิสาลอบถามเพราะรู้ว่าราคาอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ตามโรงแรมห้าดาวมักมีราคาสูง ซึ่งโรงแรมของธิติก็คงไม่ต่างกัน
“นี่ฟุโตะมากิ ทามาโงะ เทะมากิ แล้วก็ชิ้นนี้นิงิริซูชิหน้าปลาคินเมไดค่ะ หนูชอบกินซูชิ เลยเก็บเงินมากินค่ะ” เด็กสาวอธิบายอย่างยินดี เห็นได้จากแววตาเป้นประกายแวววาวนั่น
“เก่งจัง แล้วทั้งถาดนี่กี่บาทจ้ะ” ลลิสาลอบถามเพราะรู้ว่าราคาอาหารแบบบุฟเฟ่ต์ตามโรงแรมห้าดาวมักมีราคาสูง ซึ่งโรงแรมของธิติก็คงไม่ต่างกัน
“ชิ้นละสามสิบเก้าบาทค่ะ หกชิ้นก็สองร้อยสามสิบสี่บาทค่ะ”
“หืม” ลลิสาเลิกคิ้วสูงอย่างประหลาดใจกับราคาซูชิที่ดูไม่แพงเหมือนที่เธอคาดไว้ ด้วยเพราะวัตถุดิบคุณภาพดีที่เชฟแต่ละคนใช้ไม่น่าจะสามารถตั้งราคานี้ได้เลย
--------------------------------------
มาอัพแล้วนะคะ เนื้อหาที่อัพยังไม่ผ่านการรีไรท์หรือตรวจคำผิดนะคะ
อาจจะมีตกหล่นบ้าง อย่าลืมกดให้กำลังใจลานีนด้วยนะคะ ^^
ฝากผลงานเรื่องอื่นๆ ด้วยนะคะ ^^
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ลลิสจทำไงนะเมื่อจะต้องพี่ไปป์
คิดถึงนะคะ
ลลิสมาแล้ววว
มาบ่อยๆนะไรท์คิดถึง