ตอนที่ 22 : ใจแค้น แสนรัก : ตอนที่ 7 --- 100%
ธิติอยู่คุยกับสองสามีภรรยาแห่งเมธตระกูลทวีกรุ๊ปอีกชั่วครู่ก่อนขอตัวกลับ หลังศจี เลขานุการส่วนตัวโทรเข้ามาแจ้งว่ามีเอกสารรอเซ็นอนุมัติด่วนอยู่ที่โรงแรม ชายหนุ่มจึงขับรถมุ่งหน้ากลับเดอะแกรนด์วรรักษ์พร้อมด้วยถุงขนมที่ศิชาให้ติดไม้ติดมือกลับไป
ลลิสาเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาที่ชี้บอกเวลาสิบหกนาฬิกาแล้วจึงรวบเก็บแฟ้มงานที่วางอยู่เกลื่อนโต๊ะให้เข้าที่ ก่อนหยิบกระเป๋าใบเล็กขึ้นมาสะพายแล้วเดินตรงไปที่ประตู วันนี้เธอมีนัดทานข้าวกับราเชนทร์ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เพื่อที่จะปรึกษาเรื่องการจัดแพคเกจเข้าพักในโรงแรม ซึ่งราเชนทร์มีความรู้ความชำนาญในด้านนี้พอสมควร เนื่องจากโรงแรมของเขาตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยว ทำให้ต้องคิดหาแพคเกจแปลกใหม่มาดึงดูดลูกค้าอยู่เสมอ ลลิสาจึงคิดว่าเขาน่าจะช่วยเธอได้ เพราะเป้าหมายหลักของเธอในปีนี้ นั่นคือการเพิ่มยอดการเข้าพักของบรรดาลูกค้าขาจรให้เพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้วห้าเปอร์เซ็นต์ ซึ่งตอนนี้มันยังกระเตื้องได้ไม่เท่าไหร่นัก และหากให้รอความช่วยเหลือพี่ชายแสนเก่งของเธออย่างธรรศที่ยุ่งแสนยุ่ง กำไรของโรงวราเรสซิเดนท์ปีนี้คงลดฮวบฮาบแน่ๆ
“คุณลลิสกลับแล้วหรือคะ” เสียงพิมพ์ลดาร้องทัก ในขณะที่ลลิสากำลังจะเดินผ่านโต๊ะทำงานของเธอ เรียกให้ผู้บริหารสาวที่กำลังก้าวเท้ายาวๆ หยุดชะงักหันไปมอง แล้วตอบรับสั้นๆ
“ค่ะ”
“แล้ว...กลับบ้านเลยหรือคะ” พิมพ์ลดาถามต่อด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น จนลลิสาต้องแอบกลอกตา ก่อนบอก
“ลลิสไม่รู้ว่าคุณพิมพ์ไปรับสินบนใครมาหรือเปล่า แต่ลลิสจะบอกให้คุณพิมพ์รู้ว่าคุณพิมพ์เป็นเลขาของลลิสนะคะ ไม่ใช่ของคุณธิติ”
“ปละ...เปล่านะคะ” คนเป็นเลขานุการปฏิเสธเสียงสั่น ใบหน้าเจื่อนเสียจับสังเกตได้ง่ายดาย ธิติติดสินบนเลขาฯ เธอแน่ๆ
“แล้วอีกอย่างคุณพิมพ์ไม่ต้องบอกตารางงานของลลิสกับเขาขนาดนั้นก็ได้นะคะ เผื่อลลิสจะได้มีเวลาเป็นส่วนตัวบ้าง”
“ค่ะ” พิมพ์ลดารับคำเสียงเบา เมื่อถูกลลิสาจับได้ว่าเธอแอบแปรพักตร์เป็นสายส่งข่าวให้ธิติ
“งั้นลลิสไปก่อนนะคะ”
“ค่า” ลลิสารีบก้าวออกมา จึงไม่ทันได้เห็นว่าคนเป็นเลขานุการทำหน้ายุ่งก่นว่าตัวเองซึ่งเห็นแก่ของกินที่ธิติขยันเอามาฝากจนยอมเป็นสายข่าวให้ผู้บริหารหนุ่มตามติดความเคลื่อนไหวของคู่หมั้นสาวทุกฝีก้าว แต่ถึงแม้ว่าจะถูกจับได้ แต่พิมพ์ลดาก็ไม่นึกเข็ด รีบยกหูโทรศัพท์โทรแจ้งธิติทันที ในขณะที่มือก็หยิบเมอแรงก์สีสวยเข้าปากอย่างติดใจ
ลลิสามาถึงห้างสรรพสินค้าซึ่งเป็นสถานที่นัดหมายในตอนเกือบหกโมงเย็น ก่อนเดินตรงดิ่งไปยังร้านอาหารอิตาเลี่ยนร้านดังที่มีราเชนทร์นั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“ทางนี้ครับคุณลลิส” เสียงเข้มร้องเรียก ทันทีที่ลลิสาก้าวเข้าไปภายในตัวร้าน หญิงสาวจึงส่งยิ้มไปให้ แล้วรีบเดินตรงเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
“คุณเชนมานานหรือยังคะนี่” หญิงสาวร้องถามอย่างเกรงใจ ในขณะที่ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน แล้วเดินอ้อมมาเลื่อนเก้าอี้ให้เธอด้วยท่าทีสุภาพ ลลิสาจึงพึมพำขอบคุณตอนที่ทรุดนั่งลง
“ผมเองก็เพิ่งมาถึงน่ะครับ ไม่ได้รอนานอะไร”
“เกรงใจแย่เลยค่ะที่ทำให้ต้องรอ ทั้งที่ลลิสเป็นคนนัดแท้ๆ” หญิงสาวบอกอย่างเป็นกังวล ขณะที่คู่สนทนาระบายยิ้มเอ็นดู
“ไม่เป็นไรหรอกครับ อย่าคิดมากสิ”
“ต้องขอโทษด้วยอีกครั้งนะคะ”
“ครับ” ราเชนทร์ยิ้มรับอย่างไม่ถือสา พยายามทำให้อีกฝ่ายคลายกังวล
“คุณลลิสจะดื่มอะไรก่อนดีครับ เดี๋ยวผมสั่งให้” ราเชนทร์เอ่ยถามพลางเลื่อนเมนูเล่มใหญ่ไปตรงหน้าหญิงสาวที่รีบเอ่ยสั่งก่อนที่จะเปิดเมนูดูเสียอีก
“ลลิสขอแค่น้ำเปล่าก่อนละกันค่ะ ตอนนี้กระหายน้ำมากเลย”
“แล้วจะรับอาหารเลยไหมครับ” ชายหนุ่มร้องถาม ขณะที่หญิงสาวพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“สั่งอาหารเลยก็ได้ค่ะ ทานไปคุยไป”
“งั้นผมขอเสนอ..นะครับ ที่นี่ทำอร่อย”
“ได้ค่ะ ลลิสเอาแบบคุณเชนเลย” ลลิสาบอกอย่างไม่เรื่องมาก ราเชนทร์จึงหันไปจัดการยกมือเรียกบริกรให้เข้ามารับเมนู ชายหนุ่มสั่ง สองที่ ไวน์แดงสำหรับตัวเองและน้ำเปล่าสำหรับลลิสา
“ช่วงนี้เป็นไงบ้างครับ งานยุ่งไหม” ชายหนุ่มชวนคุย ขณะนั่งรออาหาร พลางหลุบมองแหวนเพชรน้ำงามบนนิ้วของหญิงสาวซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามด้วยความรู้สึกหวิวไหวในอก เขาแอบชอบเธอมาตั้งนานแล้ว จู่ๆ ธิติก็มาปาดหน้าเค้กแย่งเธอไปเสียอย่างนั้น
“ก็ดีค่ะ เรื่อยๆ” ลลิสาตอบกว้างๆ พร้อมกับยิ้มบางๆ ประกอบคำพูด แล้วเสมองไปรอบๆ ตัว เมื่อรู้สึกว่าราเชนทร์จดจ้องเธอเกินไป
“ก็ดีในที่นี่หมายถึงเรื่องแหวนบนนิ้วด้วยหรือเปล่าครับ” ผู้บริหารหนุ่มเลิกคิ้วมองปฏิกิริยาของคนตรงหน้าอย่างจับสังเกต ทันเห็นดวงตาสวยไหววูบไปนิด เขาจึงมีแรงฮึดขึ้นมา
“ลลิสขอไม่พูดถึงเรื่องนี้นะคะ”
“ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ ถ้าคำถามของผมทำให้คุณลลิสไม่สบายใจ” ชายหนุ่มกล่าวอย่างลุแก่โทษที่คำถามของตัวเองสร้างความขุ่นข้องหมองใจให้หญิงสาว
“ไม่เป็นไรค่ะ ลลิสแค่ไม่อยากพูดเรื่องส่วนตัว อยากคุยแค่เรื่องงานมากกว่า”
“ได้เลยครับ” ราเชนทร์ยิ้มรับ ก่อนเบี่ยงตัวหลบนิด เพื่อให้พนักงานที่เดินเข้ามาเสิร์ฟอาหารจัดวางทุกอย่างลงบนโต๊ะได้อย่างสะดวก ก่อนสองหนุ่มสาวจะเริ่มมื้ออาหารพร้อมกับคุยเรื่องงานไปด้วยอย่างออกรส
“ส่วนใหญ่ในช่วงไฮซีซั่น คุณเชนจัดแพคเกจดึงดูดนักท่องเที่ยวแบบไหนหรือคะ”
“ก็แพคเกจลดราคาห้องพักทั่วไปนะครับ แต่ของผมจะง่ายหน่อยตรงที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว จึงสามารถพ่วงแพคเกจนำเที่ยวเข้าไปได้ บางครั้งก็เพิ่มบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลแบบไม่บวกเพิ่มเป็นการเรียกลูกค้าอะไรประมาณนี้นะครับ”
“ดีจังเลยนะคะ แบบนี้ยอดเข้าพักที่โรงแรมของคุณเชนคงเยอะมากๆ แน่เลย”
“ถ้าช่วงไฮซีซั่นส่วนใหญ่ก็จะเต็มหมดครับ” ราเชนทร์บอกยิ้มๆ ไม่เชิงโอ้อวด
“ลลิสอยากให้ห้องพักเต็มบ้างจัง มีคำแนะนำไหมคะ” หญิงสาวบอกแล้วรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ เพราะเป้าหมายนัดของเธอในครั้งนี้คือการฟังเทคนิคการทำธุรกิจจากเขา
“ลองจัดเทศกาลอาหารนานาชาติหรือยังครับ”
“ลองแล้วค่ะ แต่ยอดก็ไม่เพิ่มเท่าไหร่” ลลิสาบอกอย่างกังวลใจ
“แล้วแพคเกจสะสมแต้มแล้วเข้าพักฟรีล่ะครับ”
“ลองแล้วค่ะ แต่ก็เหมือนเดิมเลย” หญิงสาวบอกเสียงอ่อนอย่างจนใจ ขณะที่ราเชนทร์ก็หลุดยิ้มอ่อน แล้วทำท่าครุ่นคิด ก่อนบอก
“เดี๋ยวยังไงผมจะช่วยคิดแพคเกจอีกทีนะครับ”
“ขอบคุณนะคะ” ลลิสาบอกแล้วส่งยิ้มบางๆ ไปให้เขา ก่อนก้มตัก...เข้าปาก แล้วก็แทบสำลัก เมื่อได้ยินเสียงทุ้มๆ คุ้นเคยดังอยู่เหนือศีรษะ
“อร่อยไหม” หญิงสาวหันขวับไปมองแล้วก็แทบแยกเขี้ยวใส่แขกไม่ได้รับเชิญที่ชอบโผล่มาตอนเธออยู่กับราเชนทร์ ซึ่งเธอยังไม่ได้ขอโทษเขาอย่างเป็นทางการสำหรับเรื่องในวันนั้นเลย ธิติก็โผล่มาอีกแล้ว
“มาทานข้าวหรือครับ นั่งด้วยกันก็ได้” ราเชนทร์เอ่ยขึ้น เมื่อสองหนุ่มสาวเอาแต่มองจ้องกันไปมา
“โต๊ะเรามีแค่สองที่นั่ง ให้เขาไปนั่งที่อื่นเถอะค่ะ” ลลิสาบอกแล้วขึงตาไล่คู่หมั้นหนุ่มที่เริ่มจะหัวร้อนขึ้นมาทุกขณะ ตอนแรกเขาคิดว่าตัวเองโกรธมากแล้วที่เห็นลลิสาอยู่กับราเชนทร์ โดยไม่คิดจะเหลียวแลคำเตือนของเขาเลย แต่มาตอนนี้เขาคิดว่าตัวเองโกรธที่หญิงสาวออกปากไล่เสียมากกว่า
“ไหนบอกว่างานยุ่งทั้งอาทิตย์ แล้วทำไมถึงมีเวลามานั่งเฟิล์ตกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่คู่หมั้นตัวเองแบบนี้หล่ะ” ธิติกระซิบถามเสียงเขียวอย่างไม่พอใจ ดวงตาคมที่จดจ้องร่างบางคล้ายมีดวงไฟลุกวูบวาบอยู่ในนั้น แบบที่ลลิสาสัมผัสได้ แต่ก็ทำเพิกเฉยต่อมันอย่างไม่เกรงกลัว
“นี่มันเรื่องส่วนตัวนะ”
“ลุกขึ้นแล้วไปกับผม ก่อนที่ผมจะโมโหมากไปกว่านี้นะลลิสา”
“อย่ามาวางอำนาจกับฉันต่อหน้าใครต่อใครแบบนี้ได้ไหม” หญิงสาวเค้นเสียงตอบ ไม่พอใจที่ธิติแสดงอำนาจใส่ต่อหน้าแขกของตัวเอง ถ้าเธอยอมไปกับเขา ก็เท่ากับว่าเธอกลัวเขาน่ะสิ เรื่องอะไรที่เธอจะยอมหงอใส่เขาที่อายุน้อยกว่าเกือบสามปีด้วย
“งั้นผมจะพูดอีกครั้ง กลับกับผม เดี๋ยวผมไปส่ง”
“ขอบคุณ” ลลิสาหันไปยิ้มหวานใส่เขาอย่างจงใจกวนประสาท “แต่ฉันเอารถมา กลับเองได้และคงไม่รบกวนคุณ”
“ลลิส”
“ถ้าคุณเสร็จธุระแล้วก็เชิญได้เลยนะ ฉันกับคุณเชนจะได้ทานอาหารต่อ” หญิงสาวบอกแล้วหันกลับมาสนใจจานอาหารตรงหน้า ทำเอาคนถูกเมินอย่างธิติขบกรามแน่น แต่ก็เพียงครู่เดียว ก่อนซ่อนความโกรธเกรี้ยวไว้ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉย
“ผมจะยอมให้คุณแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นนะ” ร่างสูงบอกแกมขู่ ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว โดยมีสายตาของลลิสาที่เงยหน้าขึ้นแล้วมองตามแผ่นหลังกว้างของอีกฝ่ายไปจนลับตา
“ทำไมคุณลลิสไปพูดกับเขาแบบนั้นล่ะครับ ไม่กลัวเขาโกรธเหรอ”
“ช่างเขาสิคะ” ลลิสาตอบเสียงสะบัด แต่ความรู้สึกภายในใจดันค้านคำพูดของตัวเองด้วยการกระตุกอย่างแรงเสียจนเจ็บ เขาน่าจะโกรธเธอไปแล้ว
“ดูเหมือนคุณลลิสจะไม่ชอบเขาเท่าไรเลย แล้วทำไมถึงหมั้นกันละครับ” ราเชนทร์ร้องถามอย่างอยากรู้อยากเห็น ขณะที่หญิงสาวทำสีหน้าลำบากใจ ก่อนบอก
“ลลิสขอไม่ตอบนะคะ” เธอย้ำกับคนตรงหน้าอีกรอบ ซึ่งเขาก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ หญิงสาวจึงหันไปคว้าแก้วน้ำเปล่าขึ้นมาจิบ เป็นการตัดจบมื้ออาหารที่กินเข้าไปเพียงไม่กี่คำ ด้วยเพราะความรู้สึกตื้อๆ ในอกที่ตีตื้นขึ้นมา จนปากกร่อยเสียดื้อๆ ธิติคงต้องโกรธเธอแล้วแน่ๆ
---------------------------------------------
ความพยศนี้ของลลิสา ทำคุณไปป์ถึงกับหัวร้อนนนนนน
เรื่องนี้ดราม่ากรุบกริบ หวานๆ ฟินๆ นะคะ ^^
อ่านแล้วชอบ อ่านแล้วใช่ อย่าลืม คอมเมนต์ โหวต ส่งกำลังใจให้ลานีนด้วยนะคะ ^^
* ส่วนปลายปีนี้ มีแพลนว่าจะเขียนเรื่องพี่แบงค์ บารมี หนึ่งในวิศวกรเมธตระกูลทวี เลยคิดเล่นๆ ว่าอยากตั้งชื่อเซตนี้ว่า วิศวะลาดกระบัง เลยทีเดียวเชียว 555 (เพราะหนุ่มๆ ของลานีนจบจากลาดกระบังค่ะ อิอิ) ยังไงฝากผลงานเรื่องอื่นของลานีนด้วยนะคะ ^^
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พี่ไปป์โกรธแล้วนะลลิส ... งานเข้าแล้ว
รอเล่มนะคะไรท์
อ่านแล้วได้แต่คิดในใจว่า แบบนี้คงลูกหัวปีท้ายปีแหงเลย ????????????????
ผู้หญิงเนี้ยนะ แต่นายไปป์ก็ใช้อำนาจสั่งการเกิ้น เลยดูเหมือนไม่ให้เกียรติ เหมือนคนอยู่เหนือกว่า
ชอบรอต่อนะคะ