ตอนที่ 12 : ใจแค้น แสนรัก : ตอนที่ 4 --- 70%
“ยายอาย! นี่ถ้าแกไม่หยุดพูดเรื่องแบบนี้ ฉันจะไม่คุยกับแกแล้วนะ”
“มันเป็นเรื่องธรรมดาของผู้หญิงโสดอายุยี่สิบแปดอย่างพวกเรานะยะที่จะจินตนาการถึงหุ่นของหนุ่มๆ ฉันรู้ว่าแกก็คิด”
“ไม่!” ลลิสาข่มเสียงพูด ขณะที่ใบหน้าร้อนผะผ่าวไปหมด “ฉันไม่ได้คิด”
“จ้าๆ ไม่คิดก็ไม่คิด” เนตรกมลบอกเคล้าเสียงหัวเราะ ไม่ได้มีทีท่าว่าจะเชื่อคำพูดของลลิสาสักนิด
“บางทีฉันว่าฉันควรทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างเรานะ ว่าฉันควรคบแกเป็นเพื่อนต่อไหม”
“ลลิส!” เนตรกมลแสร้งเรียกชื่อเธอเสียงเข้ม “นี่เพื่อนไง นี่เพื่อนเอง เราเป็นเพื่อนกัน ไม่ควรโกรธกันนะจ๊ะ”
“แต่ก็ไม่มีใครบัญญัติว่าเป็นเพื่อนกันแล้วห้ามเลิกคบกันนี่”
“ย่ะ จะเลิกคบก็เลิกคบไปเลย” ดีไซเนอร์สาวกระแทกเสียงใส่อย่างไม่จริงจังนัก ก่อนบอก “งั้นฉันขอให้แกเดินลงไปแล้วเจอคุณไปป์นั่งรออยู่ด้านล่างละกัน ชิ!”
“เอ๊ะ ยายอายนี่!” ลลิสาแหว เตรียมจะวีนใส่เต็มที่ แต่ก็ไม่ทันปลายสายที่กดวางสายไปเสียก่อน และเมื่อเธอกดโทรกลับ อีกฝ่ายก็ปิดเครื่องหนีจนไม่สามารถติดต่อได้แล้ว และป่านนี้เนตรกมลคงระเบิดหัวเราะลั่นไปแล้วแน่ๆ ที่แกล้งเธอให้หัวเสียได้แต่เช้าแบบนี้
บางทีเธอก็งงเหมือนกันว่ามาคบกับเพื่อนที่มีนิสัยแตกต่างกันสุดขั้วอย่างเนตรกมลได้อย่างไร แต่อย่างน้อยการได้คุยบ้าๆ บอๆ กับเพื่อนในเช้านี้ก็ทำให้เธอลืมเลือนเรื่องของธิติไปได้บ้าง
ลลิสาผุดลุกขึ้น เดินไปหยิบกระเป๋าใบเล็กแต่ราคาแสนแพงขึ้นมาสะพาย ก่อนหย่อนโทรศัพท์มือถือใส่ลงไปในนั้น พร้อมกับคว้าแฟ้มเอกสารที่วางอยู่ขึ้นมากอด แล้วเดินออกจากห้องนอน เป็นจังหวะเดียวกับที่สาวใช้วัยสิบห้าปีวิ่งตึกๆ ขึ้นบันไดสวนมา
“จะไปไหนหรือส้ม หน้าตาตื่นเชียว” หญิงสาวร้องถาม มองเด็กสาวที่ยืนหอบนิดๆ อยู่ตรงหน้าอย่างเอ็นดู
“ก็มาตามคุณลลิสน่ะสิคะ”
“หือ มาตามฉัน มาตามทำไม” ลลิสาเลิกคิ้วสวยที่ถูกทาด้วยสีน้ำตาลเข้มสูงเป็นเชิงถามอย่างแปลกใจ
“คุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายให้มาตามค่ะ มีแขกมารอพบคุณลลิส”
“มาพบฉัน” หญิงสาวจิ้มนิ้วกับอกตัวเอง พลางพลิกนาฬิกาข้อมือที่ชี้บอกเวลาหกนาฬิกาครึ่งขึ้นดู แล้วร้องถามอย่างแปลกใจ “ตอนนี้เนี่ยนะ”
“ค่ะ กำลังนั่งรออยู่ในห้องรับแขก”
“ใครกัน ส้มเห็นหรือเปล่า” ลลิสาเอ่ยถามพลางเดินลงบันไดไปพร้อมๆ กับเด็กสาว
“ผู้ชายค่ะ ตัวสูงๆ หล่อๆ ยังกับนายแบบเลยค่ะ หน้าตานี่ใสกิ๊งเลย”
“คุณราเชนทร์เหรอ” หญิงสาวเดาสุ่ม ขณะที่เด็กส้มส่ายหน้าดิกปฏิเสธ
“ไม่ใช่ค่ะ ถ้าเป็นคุณคุณราเชนทร์ ส้มก็ต้องจำได้สิคะ แต่นี่หล่อกว่าคุณราเชนทร์มากค่ะ ยังกับดาราเกาหลี”
“หืม หล่อขนาดนั้นเชียว” ลลิสาร้องถามอย่างไม่อยากเชื่อ มองสีหน้าเพ้อฝันของคนตรงหน้าที่พยักหน้ารับหงึกหงักอย่างนึกขัน พลางใช้สมองประมวลหา ว่าคู่ค้าของเธอคนใดบ้างมีภาพลักษณ์ตามที่สาวใช้บอก แต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก เพราะส่วนใหญ่คู่ค้าของอัครวราจะเป็นชาวยุโรปเสียส่วนใหญ่ เป็นชาวเอเชียเพียงส่วนน้อยเท่านั้น และแทบจะไม่มีชาวเกาหลีเลย
“ใช่ค่า หล่อมากจริงๆ ค่ะ”
“เขามาคนเดียวเหรอ” ลลิสาถามพลางเดินตรงไปยังห้องรับแขก โดยมีเด็กส้มเดินตามมาติดๆ
“เปล่าค่ะ มากับคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชาย เหมือนจะเป็นคุณพ่อคุณแม่นะคะ”
“งั้นเหรอ” ลลิสาทำเสียงรับรู้ รู้สึกเหมือนหัวใจหล่นวูบตกลงไปกองที่ปลายเท้าทันทีที่ได้ยินคำบอกเล่าของเด็กสาว พลันคำพูดกึ่งขู่ของธิติก็แล่นวาบเข้ามาในความคิด จนต้องเร่งฝีเท้าตรงไปยังห้องรับแขกเพื่อพิสูจน์ข้อสันนิษฐานภายในใจ พลางภาวนาไม่ให้มันเป็นอย่างที่เธอคิด แต่แล้วภาพที่เห็นก็ทำเอาเธอเกือบช็อก ร่างสูงใหญ่ของธิติในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว สวมทับด้วยกางเกงสแลคสีดำกำลังนั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ พร้อมด้วยพ่อและแม่ของเขา ตระกูลวรรักษ์ธิกุล นี่มันอะไรกัน!
ตึง!
“ขอโทษค่ะ” ลลิสาละล่ำลั่กบอกยามแฟ้มงานที่ถืออยู่หล่นกระทบพื้นเสียงดังด้วยเพราะตกใจ ไม่คิดว่าธิติจะมาที่นี่ตามที่ขู่จริงๆ
“ไปป์ไปช่วยพี่เขาเก็บของหน่อยสิลูก”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ลลิสาปฏิเสธยามที่คุณวิยะดาหันไปเอ่ยบอกกับคนเป็นลูกชาย เธอจึงรีบก้มลงเก็บเอกสารที่หล่นกระจายเกลื่อนพื้นอย่างรวดเร็ว ด้วยเพราะไม่อยากได้รับความช่วยเหลือจากธิติ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ให้ความร่วมมือกับเธอสักเท่าไรนักถึงได้ผุดลุกขึ้นยืนแล้วเดินตรงดิ่งมาหาเธอแบบนั้น
“คุณมาที่นี่ทำไม” หญิงสาวเค้นเสียงถามลอดไรฟันอย่างไม่พอใจ ทันทีที่ร่างสูงทรุดนั่งยองๆ ลงตรงหน้าพร้อมกับยื่นมือออกมาช่วยเก็บเอกสารด้วยมาดชายหนุ่มแสนดี
“ก็คุณไม่ไปตามที่นัด” เสียงห้าวเอ่ยตอบเรียบเรื่อย พลางช่วยรวบเก็บเอกสารที่ลลิสาจับค้างไว้ไปถือเองเสียหมด
“เรื่องเล็กๆ แค่นั้นคงไม่ใช่เหตุผลหลักที่ทำให้คุณต้องพาพ่อแม่คุณมาถึงที่นี่หรอกนะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองคู่สนทนาด้วยดวงตาวาววับอย่างเอาเรื่อง “คุณคิดจะทำอะไรของคุณกันแน่”
ธิติหยิบเอกสารทั้งหมดรวมทั้งแฟ้มไปถือไว้ แล้วเงยหน้าขึ้นมองคนขี้กังวลที่ถลึงตากลมๆ ขู่ใส่อย่างไม่คิดจะกลัวสักนิด กลับรู้สึกท้าทายเสียจนอยากปราบพยศคนตรงหน้าให้อยู่หมัด ด้วยจูบหนักๆ ที่ปากอวบอิ่มนั่นสักทีสองที
“นี่! คุณมองอะไรของคุณ” ลลิสาแหว เมื่อธิติไม่ตอบและเอาแต่มองหน้าเธอด้วยประกายตาวิบวับ และนั่นทำให้เขารู้สึกตัว ก่อนยักไหล่เบาๆ แล้วตอบ
“ผมแค่มาทำอะไรๆ ให้มันถูกต้อง”
“ฉันหวังว่าเรื่องอะไรๆ ของคุณจะไม่เกี่ยวกับฉันนะ”
“บังเอิญว่าเกี่ยว” ธิติตอบด้วยน้ำเสียงยียวน แต่ไม่มีวี่แววล้อเล่น เขาเหลือบตาขึ้นมองเธอแล้วตรึงอีกฝ่ายไว้นิ่งๆ ก่อนตอบ “เพราะผมพาพ่อกับแม่มาสู่ขอคุณ”
-------------------------------------
มาแล้วจ้าาา มาแล้วค่ะ
สำหรับการอัพวันนี้ เพื่อขอโทษนักอ่านที่ทำให้ต้องรอนะคะ
ลานีนนึกว่านัดหลังปีใหม่ เพิ่งนึกได้ว่าตัวเองลงวันที่ไว้ เลยอาจทำให้รีดบางท่านต้องรอ
และต้องขอโทษมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ไรท์ไม่ได้นัดเพื่อให้นักอ่านกดเข้ามาเพื่อติดอันดับนะคะ
ฮือออออ ลานีนแค่ลืมเฉยๆ ดังนั้นการอัปครั้งต่อไปขอไม่นัดวันนะคะ
แต่จะพยายามปั่นงานให้ได้มากที่สุด แล้วจะมาอัปต่อแน่นอนค่ะ
ลานีนไม่เคยเทอยู่แล้ววว อาจจะเร็วบ้างช้าบ้าง แฮ่ๆ
ซึ่งช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา อยู่ในสภาวะตันค่ะ สต็อกเลยไม่ตามเป้า ดังนั้นจึงขอเวลาอีกสักนิดค่ะ
ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ จะรีบกลับมาจ้า
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ในเมื่อเมียผิดนัดพี่ไปป์เลยพาผู้ใหญ่มาสู่ขอซะเลย
แต่ลลิส จัดให้หนักไปจ้า