คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ทางลัด
ทางลัด
Kaem Talk
ก๊อก!ก๊อก!ก๊อก!
“เฮ้ย! ตื่นกันได้แล้วเว้ย”เสียงโวยวายของพี่ชายฉันดังจากหน้าห้องทะลุกำแพงและเข้ามาสู่โสตประสาทของฉัน
“......”ไร้เสียงสัญญาณตอบรับ กรุณาตะโกนและโวยวายใหม่อีกครั้ง
“ไอ้น้องบ้า พี่ชายสุดหล่ออุตส่าห์ถ่อสังขารมาเรียกแล้วนะเว้ย”นี่ต้องเป็นพี่ชายคนรองของฉันแน่ๆเลย หลงตัวเองชะมัด
“......”ไร้เสียงสัญญาณตอบรับอีกเช่นเคย กรุณาเปิดประตูและเข้ามากระชากออกจากเตียง -_-^
“ถ้าไม่ตื่นพี่จะให้ไอ้กริลล์เข้าไปปลุกพวกแก”แง่ง! พี่กริลล์งั้นเหรอ มันจะต้องเอาเข็มฉีดยามาแทงตูดพวกเราแน่เลยอ่ะ *-*
“ทำไมพูดงี้อ่ะพี่ พี่นั่นแหละเข้าไปปลุกแล้วเดี๋ยวผมจะส่งเข็มไปให้”พอดีว่าพี่ฉันเรียนหมอทั้งคู่นะ รวมทั้งฉันในอนาคตด้วย ^ ^
“อะไรวะแกนั่นแหละ เข้าไปปลุกน้องซะ”เริ่มทะเลาะกันแล้วไง เฮ้อเซ็งจิตจริงๆ
“พี่นั่นแหละเข้าไปดิ”แง่วกลายเป็นทะเลาะกันไปซะแล้ว ไม่ได้น้องสาวอย่างฉันต้องเข้าไปห้ามทัพ
“พอเลยทั้ง 2 คน พวกเราตื่นแล้ว กำลังจะอาบน้ำหลีกทางหน่อยได้มั้ย”ฉันเปิดประตูออกมายืนเก๊กขรึมอยู่หน้าห้อง เหอะๆๆๆพี่ฉันทำหน้าตลกชะมัด
“O.,o”วะฮะฮะฮะฮ่า ยิ่งทำยิ่งขำ ไม่ได้ทำให้พี่หล่อขึ้นเลยซักนิด ตกใจล่ะสิว่าทำไมพวกเราตื่นเร็ว ก็เสียงพี่นั่นแหละ รบกวนฝันอันแสนสุขของพวกเรา -_-^
“ไอ้กริลล์ เห็นมั้ยพี่บอกแล้วว่าน้องๆเค้าตื่นแล้ว จะมาปลุกทำไม”แหม ทีงี้ทำเป็นโดนลากมา พี่นั่นแหละลากพี่กริลล์มา
“ไหงพูดงี้อ่ะพี่กันต์ พี่เป็นคนลากผมมาปลุกนะเนี่ย”ฉันอยากจะรู้จริงๆว่าถ้าพี่ชายของฉันมันลืมมีดผ่าตัดไว้ในท้องของคนไข้มันจะโทษพยาบาลมั้ยเนี่ย -_-^
“@*&%#%$฿@#”และนั่นคือภาษาต่างดาวที่พี่ฉันพูดกัน หลังจากที่ฉันเอาหนังสือพิมพ์ม้วนแล้วยัดปากพี่ไป...
หลังจากที่พี่ฉันเอาหนังสือพิมพ์ออกจากปากได้แล้วพี่ก็เริ่มต้นบ่นต่อไปเรื่อยๆ คือว่าบ้านนี้มีแม่บ้านเป็นผู้ดูแลอยู่ 2-3 คน ฉันไม่ได้อยู่บ้านใหญ่เพราะว่ามันค่อนข้างจะไกลโรงเรียน บ้านของฉันเป็นบริษัทผลิตมือถือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และไม่ยากเลยที่ฉันจะหาบ้านจัดสรรอยู่ใกล้ๆโรงเรียนเพราะเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว บ้านนี้มีพี่ชายของฉันอยู่ด้วย 2 คน เนื่องจากไอ้พี่บ้านี่เป็นห่วง นี่คือข้ออ้างที่มันขอแม่มาอยู่กับฉัน แต่สาเหตุที่แท้จริงแล้วนั้น ......มันจะมาจีบเด็กนักเรียนแถวนี้ยังไงล่ะ บ้านที่ฉันอยู่เป็นบ้านจัดสรรที่ไม่ใหญ่มาก แต่ก็สามารถอยู่ได้เป็นสิบคน และวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก ฉันเลยต้องรีบตื่นแต่เช้าเพื่อแต่งตัวให้ดูดีที่สุดตั้งแต่หัวจรดเท้า ฉันจะต้องขึ้นไปประกาศกิจกรรมประจำเดือนที่หน้าเสาธง ไม่อยากจะบอกเลยนะว่าโรงเรียนของฉันน่ะ จะเป็นประเพณีไม่มีสาระซะส่วนใหญ่ ก็งี้แหละโรงเรียนเอกชนนี่นะ......
ตึง!ตึง!ตึง!
“เป็นสาวแล้วเดินให้มันเบาๆหน่อยไม่ได้รึไงวะ”อย่าว่าสิ น้องพี่เสียใจนะ แต่พอฉันลงมาทำไมเพื่อนฉันมันอยู่กันเต็มโต๊ะแล้วล่ะแสดงว่าฉันช้าที่สุดใช่มั้ยเนี่ย เออๆยอมรับก็ได้ ก็ผู้อ่านนั่นแหละให้ฉันโม้ซะยาวยืดเชียว
“อย่ามาบ่นหน่อยเลย ทีพี่เดินทีดังเหมือนช้างน้ำกลิ้งลงบันไดยังไม่มีใครว่าเลย”ก็เข้าใจอ่ะนะว่าน้ำหนักพี่ฉันมันเยอะ แต่ไม่อยากยอมรับอ่ะว่าตัวเองน้ำหนักเยอะเหมือนพี่
“-_-^ช้างน้ำกลิ้งลงบันได”สีหน้าแบบว่าไม่อยากยอมรับมากเลยอ่ะ ยังไงก็รับๆไปเถอะนะ
“เออ...ไอ้แก้มแกได้ตารางงานประจำเดือนยังอ่ะ”ไอ้ฟางถามฉัน ถามทำไมยะก็ต้องได้แล้วน่ะสิ
“ได้แล้ว-_-”ฉันพยายามแสดงออกทางสีหน้าให้ยัยนั่นรู้ว่า แกก็รู้อยู่แล้วว่าคำตอบจะเป็นอะไรมาถามฉันทำไม
“ฉันก็แค่อยากรู้น่า ไม่ต้องแสดงออกมากขนาดนั้นก็ได้”เหอะๆๆแกรู้ใช่มั้ย ดีแล้ว ฉันจะได้ไม่ต้องเสกของเข้าท้องแก โฮะๆๆๆ
“เออ...วันนี้มีนักร้องมาโรงเรียนเรานี่หว่า”ไอ้ไหมพูด เออแกทำให้ฉันคิดได้นะเนี่ย แถมครูยังบอกว่าวงนี้เรียนอยู่ที่โรงเรียนเราด้วยนี่หว่า ดีไปอย่างที่โรงเรียนของเรายามเยอะ ไม่งั้นแฟนคลับได้เข้ามาถล่มโรงเรียนแน่
“ก็ดี...พวกเราจะได้พัก”ฉันพูดไปงั้นแหละ เวลาพักแค่คาบบ่ายไม่พอสำหรับเด็กกำลังกินกำลังนอนอย่างฉันหรอก (เหรอออ กำลังแก่มากกว่าล่ะมั้ง : คนแต่ง)
“พักกับผีน่ะอ่ะดิ”ทำไมอีกล่ะอย่าบออกนะว่าพวกเราจะต้องแต่งหน้าทาปากแล้วขึ้นไปเสนอหน้าบนเวทีเพราะจะต้องเป็นพิธีกรน่ะ มันจะมากไปหน่อยมั้ง
“นี่แกไม่รู้เหรอ ว่าพวกเราจะต้องแต่งหน้าทำผมแล้วขึ้นไปเป็นพิธีกรบนเวทีน่ะ”อย่างที่คาดไว้ไม่มีผิด ฮือๆๆๆทำไมชีวิตมันเศร้าอย่างนี้นะ นานๆทีจะได้มีเวลาพักกับเค้าบ้างยังจะต้องมาทำงานอีก
“ที่โรงเรียนพวกแกมีนักร้องด้วยเหรอวะ”พี่ขา พี่จะถามไปหาพระอาทิตย์พระจันทร์อะไรล่ะคะ ทีพูดเรื่องนักร้องเนี่ยเสนอหน้าขึ้นมาเชียวนะ
“มีดิ-_-^^^”ฉันตอบ ไอ้พี่สองคนนี้หัวงูจะตาย อนาคอนด้ายังสังเวยพี่ฉันมาแล้ว มันก็เลยมาแก้แค้นโดยมาชูคออยู่บนหัวพี่ฉันนั่นเอง
“เหรอ!!! งั้นวันนี้พี่จะไปดูพวกแกเป็นพิธีกรนะน่าสนใจดี”งูเริ่มพ่นพิษแล้ว เดี๋ยวต้องรีดเอาไปทำเซรุมซะหน่อยแล้ว
“แต่นักร้องผู้ชายนะพี่”แง่ว เป็นอันว่าพี่ฉันแห้วไป กะจะไปจีบนักร้องสาวๆล่ะสิ ฝันไปเถอะ
“-_-งั้นพี่ไม่ไปแล้ว พอดีนึกได้น่ะ ว่าติดนัดคนไข้ไว้”พี่คนโตฉันเริ่มออกอาการ แหม เรื่องข้ออ้าง (โกหก)เนี่ยถนัดกันจังเลย
“เออใช่...พี่ก็ติดเรียนบ่ายเหมือนกันงั้นพี่ไปนะ”จากนั้นพี่ทั้งสองของฉันก็กระซวกขนมปังและนมเข้าปากไปอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งวิ่งไปขับ Jazz และ BMW ออกไปจากบ้านทันที ทิ้งให้น้องสาว 4 คนต้องเดินไปโรงเรียนเองด้วยขาเพียง 2 ข้าง(ขาคุณทวดเธอมี 4 ข้างรึไง)
จากที่พี่ขับรถออกไปจากบ้านได้ไม่นานพวกเราก็เริ่มออกเดินไปโรงเรียน ด้วยระยะทางจากบ้านจัดสรรถึงโรงเรียนมันไม่ไกลมากนักหรอก เราก็เลยใช้เวลาในการเดินเท้าไปโรงเรียนไม่นานมากนัก แต่ปรากฏว่าเมื่อพวกเรามาถึงโรงเรียน....
กรี๊ดดดด!!ว้ายยยยย!!กรี๊ดดดดด!!
หลังจากที่ได้ยินเสียงพวกไหนก็ไม่รู้มายืนร้องกรี๊ดกร๊าดอยู่หน้าโรงเรียนเหมือนชะนีเรียก...(เซ็นเซอร์อย่างแรง) แล้ว ก็เริ่มจะได้ยินภาษามนุษย์และเห็นป้ายเรืองแสงที่เขียนอะไรบางอย่างอยู่....
“พี่แคมป์ของฉ้านนนนน!!!!”-_-
“พี่ซิงค์สุดหล่อ!!!!”-_-^
“พี่แฟ้มสุดเท่ห์ กรี๊ดดดดด!!!!”-_-^^
“พี่ฮาร์พ กรี๊ดๆๆๆๆ”-_-^^^ยัยพวกนี้จะมายืนตากแดดกันอีกนานมั้ย
“สมาร์ทบอยด์ กรี๊ดๆ”แก้วหูฉันจะแตกเป็นเสี่ยงๆอยู่แล้ว อย่ามาหาเหยื่อแถวนี้ได้มั้ย ฉันรู้นะ พอใครแก้วหูแตก พวกเธอก็จะจับกินใช่มั้ยล่ะ หึๆ ฉันไม่ยอมให้พวกเธอจับกินหรอกกกกกก....
หลังจากที่พวกเราฝ่าฝูงไฮยีน่า ชะนีหรือปอบมาได้ ก็กลับเข้ามาสู่โลกปกติ ฉันอยากจะรู้จริงๆมันเกี่ยวกับนักร้องที่จะมีคอนเสิร์ต(เล็กๆ)ในหอประชุมวันนี้มั้ยเนี่ย ทำไมวันที่ไอ้พวกนั้นไม่ร้องเพลงถึงไม่วุ่นวายอย่างนี้ล่ะ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นเนี่ยยยยยย.....
“แน่ใจนะว่านี่คือโรงเรียน ไม่ใช่อิมแพค”เหอะๆๆๆฉันชักจะไม่แน่ใจแล้วเหมือนกัน เป้ฉันเกือบหลุดแน่ะ กว่าจะผ่านฝูงไฮยีน่าเข้ามาได้เกือบขาดอากาศหายใจตายแล้ว
“ฉันแน่ใจนะว่ามันไม่ใช่อิมแพค แต่ไม่แน่ใจว่ามันคือสวนสัตว์รึเปล่า”เธอคิดเหมือนฉันใช่มั้ยบี เธอคงว่าพวกนั้นอยู่ในใจเหมือนฉันใช่มั้ยล่ะ
“ฉันว่ารีบเอากระเป๋าไปเก็บแล้วเอาจักรยานขี่ไปหอประชุมดีกว่า”หมายเหตุ : ที่ต้องขี่จักรยานเป็นเพราะโรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนเอกชนที่มีเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่เลยทีเดียว ดังนั้นถ้าจะให้พวกเราเดินไปคาดว่าคงจะขาลากเป็นแน่***จบ***
“เอางี้ ใครที่ไปถึงหอประชุมคนสุดท้ายเลี้ยงกินข้าวกลางวัน ที่ 1 2 3”ฉันเสนอข้อตกลง เพราะฉันไม่ได้ไปหอประชุมนานมากแล้ว แต่ละคนก็จำทางไม่ค่อยได้จะจำได้ก็มีแต่ทางลัดของแต่ละคนเท่านั้น ทางใหญ่ไม่ไปกันหรอก ชอบไปทางที่มันต้องลัดตึกเยอะๆ สนุกดี
“ไปทางลัดใครทางลัดมันนะเว้ย ห้ามตามกัน”ไอ้ไหมตะโกนออกมา แน่นอนทางลัดฉันสั้นที่สุดอยู่แล้ว
“โอเช!!!”ทุกคนรับปากพร้อมกัน และเตรียมตัวที่จะออกเดินทาง(จะไปบุกป่าที่ไหนหะป้า : คนแต่ง)
“1....2.....”ฉันให้สัญญาณและแน่นอนว่าเพื่อนของฉันมันย่อมไม่ฟังฉันพูดจบอยู่แล้ว ทำให้.....
ฟิ้ววววววว.....
เพื่อนทั้ง 3 คนของฉันปั่นจักรยานออกไปไกลแล้ว ก็ถึงตาฉันที่จะต้องไปตามทางลัดของตัวเองเพราะทางนี้ ไม่มีใครรู้นอกจากฉันกับลุงยาม ฉันเริ่มปั่นจักรยานเข้าซอกตึกทันที ซึ่งมันก็ใหญ่พอที่จะให้รถยนต์วิ่งผ่านได้เลยล่ะ ดีไปอย่างนะที่แม้ว่าจะเป็นซอกเล็กซอกน้อยของโรงเรียนจะมีต้นไม้เต็มริมทางไปหมดซึ่งบางที มันก็ทำให้ดูวังเวงไปเหมือนกัน ทางนี้ไม่ค่อยมีใครผ่านหรอกยกเว้นพวกที่ทำธุระเกี่ยวกับหอประชุมบ่อยๆอย่างพวกประธานนักเรียนอย่างฉันไง ^ ^ เอ๊ะ....มีคนรู้เส้นทางนี้ด้วยเหรอเนี่ย เดินมาคนเดียว ไม่กลัว(ขาลาก)รึไง แต่ไม่เป็นไรหรอกเค้าเป็นผู้ชาย ช่างมัน....
เอี๊ยดดดดดดด!!!
“เฮ้ย!!!”โหย...เกือบชนต้นไม้ไปแล้วมั้ยล่ะ ดีนะที่ฉันเบรกทันดูคนอื่นเพลินไปหน่อย
“เป็นอะไรมากมั้ย”เสียงผู้ชาย คงจะเป็นคนที่เดินชมนกชมไม้อยู่เมื่อกี้แหละมั้ง สบายจังเลยนะนายน่ะ
“เอ่อ....”ไม่มีตารึไงวะ ถ้าเป็นอะไรมากฉันก็ลงไปชักดิ้นชักงออยู่ที่พื้นแล้ว ฉันยังไม่อยากด่าคนตอนนี้นะ ยิ่งอยากพักอยู่ เดี๋ยวต่อยแก้มบวมเลย (ไหงเปลี่ยนอารมณ์เร็วอย่างนี้อ่ะ)
“นี่เธอน่ะ เป็นอะไรมากมั้ย”ยังจะถามอีก เดี๋ยวไม่ทันไอ้พวกนั้นยิ่งขี่จักรยานเร็วๆอยู่
ฟิ้วววววว.....
กึก!!!
“จะรีบไปไหนล่ะครับ ไม่ตอบผมซักคำเลยนะ”ขนาดฉันขี่ออกไปแล้วยังจับทันอีกนะ
“ปล่อยท้ายรถฉันเดี๋ยวนี้!!”ฉันพยายามตะคอกใส่หน้าไอ้บ้านั่น เอาแต่ก้มหน้าคิดว่าตัวเองเท่ห์นักรึไง
“ไม่ปล่อย คุยกับผมก่อนสิ”ไอ้นั่นยังตื้ออยู่ เฮ้อฉันคงต้องลงจากรถไปจัดการแล้วล่ะมั้งเนี่ย แต่พอฉันก้าวลงจากรถ.....
“นี่เธอไม่รู้จักฉันจริงๆเหรอ”จะรู้จักได้ไงล่ะ นายยังไม่เงยหน้าเลย ถ้ายังก้มอยู่อย่างนี้ฉันจอให้กระดูกคอนายล็อค
“ไม่รู้จักเว้ย...ปล่อยเซ่ ฉันจะต้องรีบไปหอประชุม”ฉันจะต้องรีบไปเอาของฟรี!! เข้าใจม้ายยยยย
“ตอนนี้คอนเสิร์ตของวง Smart Boy ยังเตรียมการกันอยู่เลยนะครับ ไม่ต้องรีบหรอก”แล้วหมอนั่นก็เงยหน้าขึ้นมาจนได้ กลัวกระดูกคกล็อคล่ะสิท่า แต่ก็หล่อเหมือนกันแฮะ ผมสีน้ำตาลเข้มยาวระต้นคอ จมูกโด่งอย่างกับชาวต่างชาติ ปากรูปกระจับ คางสวยได้รูป ตาคมอย่างกับเหยี่ยว ผิวสีขาวอย่างกับว่าไม่เคยผ่านแดดมาเลย นี่นายเป็นนายแบบรึไงนะ.......
“ฉันไม่สนใจหรอกวงนั้นน่ะ”ฉันพูดเรื่องจริงนะ ฉันแค่ไม่อยากอดของฟรี ปล่อยฉันไปเถอะนะ ToT
“แล้วเธอจะรีบไปทำไมล่ะ ถ้าไม่สนใจ”ไอ้หมอนั่นเริ่มเดินเข้ามาใกล้ฉันเรื่อยๆ คนอย่างฉันก็ต้อง...ถอยสิคะ
“นายเป็นใครน่ะ เกี่ยวอะไรกับวงคาสโนว่านั่น” Smart Boy สมองด้อย เออเข้ากันได้ดีแฮะ
“หะ....วงคาสโนว่า ก็ไม่แปลกนี่พวกนั่นหล่อจะตาย”เอ๊ะนายเป็นใครกันนะ
“หล่อนรกล่ะสิไม่ว่า”นรกส่งมาให้ชิงหัวใจวิญญาณของลัทธิคลั่งผู้ชาย
“O_o หล่อนรกงั้นเหรอ!!!”เออดิ แล้วทำไมต้องทำเสียงดุด้วยล่ะ
“เออดิ ฉันไปล่ะ หวังว่าเราคงไม่ได้เจอกันอีก”และแล้วฉันก็วิ่งไปคร่อมจักรยานได้ภายในเวลา 15 วินาที ในขณะที่ไอ้บ้านั่นยังยืนหงุดหงิดอยู่กับคำว่าหล่อนรกอยู่
ในที่สุดก็มาถึงหอประชุมซักที....แต่มาถึงเป็นคนสุดท้ายน่ะสิ ToT นี่ฉันต้องเป็นคนเลี้ยงข้าวยัยพวกนี้เหรอ เสียตังค์อีกแล้วววว....
“เตรียมเลี้ยงข้าวพวกเราไว้ได้เลย ไอ้แก้ม!!!”ทำไมต้องพูดพร้อมกันล่ะ ดี!!!งั้นวันนี้ฉันจะแอบหนีพวกแกกลับบ้านก่อน
“อ่อ...อย่าลืมนะจ้ะ ว่าเราอยู่บ้านเดียวกันหนียังไงก็ไม่พ้นหรอก”เออใช่....ฉันลืมไปสนิท งั้นฉันก็หนีไม่พ้นน่ะสิ
“ค่า~ YoY”ฮือๆๆๆๆน้ำตาไหลพราก เสียชื่อท่วมหัว ไม่ยอมเสียตังค์ให้ใคร คตินี้คงใช้ไม่ได้แล้วล่ะ (YoY)
กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญค่า
ช่วยเม้นติชมด้วยนะคะ จะได้เอากลับไปแก้ไข
ขอบคุณค่ะ
กำลังแต่งต่อค่ะ......
คาดว่าจะลงตอนต่อไปประมาณ 15 พ.ค. 51 นี่แหละค่ะ
ขอให้คนที่เม้นหน้าตาดีวันดีคืนเลยเอ้า
ความคิดเห็น