คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : โน้ต ที่ 1
ไฟกางเล็บสะบัดอย่างแรงจนบาเรียที่ปีศาจกางเอาไว้หายไป ก่อนจะยกเท้าถีบประตูที่ล๊อกเอาไว้อย่างจังจนประตูหลุดออกมาทั้งบาน ไฟพุ่งเข้าไปที่ลมที่นอนหมดสติอยู่อย่างนั้น สองมือช้อนตัวของลมขึ้นมาอย่างทะนุถนอม
“พะ พี่ไฟ”
“อย่าพึ่งพูด” ชีพจรของลมเริ่มเต้นอ่อนแรงลงทุกที การเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นปีศาจจำเป็นต้องใช้พลังอย่างมาก แถมไอ้ปีศาจนั่นยังใช่พลังของลมในการเปลี่ยนไอให้กลายเป็นปีศาจอีกด้วย
“ทนไว้นะ”
ไฟก้มลงประกบริมฝีปากกับลมถ่ายเทพลังให้อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว ด้วยความกลัวที่คนตรงหน้าจะหมดลมหายใจจนไม่รู้สึกตัวเลยว่าพลังของตัวเองก็หดหายไปมากเช่นกัน ลิ้นร้อนสอดแทรงเพื่อบังคับให้อีกฝ่ายเปิดปากกว้าๆนั้นทำให้ลมดิ้นพล่าน
มากไปแล้ว !!
“พี่ไฟหยุด”ผมผลักพี่ไฟออกจนได้เห็นว่าใบหน้าของพี่ไฟนั้นซีดเซียวขนาดไหน เรี่ยวแรงผมกลับคืนมาเหมือนเดิมแถมรู้สึกมากยิ่งกว่าเดิมอย่างกะชาตร์แบตเต็ม
“ต้องไปช่วยไอ้ไอ”
“อืม”พี่ไฟยิ้มแต่พอทำท่าจะลุกก็ทรุดลงไปกับพื้นอีก
“พี่ !!”
“มะ ไม่เป็นไร”พี่ไฟปัดมือของผมออก พยายามฝืนตัวเองเพื่อซ่อนความอ่อนแอของตัวเอง
“ไปหาไอซะ”
“แล้วจะให้ผมทิ้งพี่ไว้นะหรอ ผมทำไม่ได้หรอกนะ!”ผมตะโกน สองมือก็ประคองหมาป่าแสนดื้อดึงเอาไว้
“ไม่งั้นมึงจะไปช่วยไอ้ไอไม่ทันนะ”ประโยคนั้นทำเอาผมต้องกัดริมฝีปากของตัวเองอย่างตัดสินใจ
“ผมจะไปช่วยไอ”พี่ไฟยิ้มให้ผมครั้งสุดท้ายก่อนที่จะปล่อยมือออกจากผม
...
“ผมคงเกลียดตัวเองถ้าทิ้งพี่เอาไว้มากกว่า!!”ผมกระชับมือของพี่ไฟที่ปล่อยมือจากผมไว้แน่น ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วผมอาจจะไม่สามารถช่วยใครได้เลยก็ตาม แต่ผมก็ขอคว้าสิ่งที่จริงอยู่เบื้องหน้าของผมไว้ก่อน คงไม่ผิดอะไรใช่ไหม?
“ลม...”
“พี่เป็นคนเดียวทำคอยตอกย้ำผมอยู่เสมอว่าผมเคยเป็นใคร”
ผมปาดน้ำตาที่เริ่มคลอหน่วยจนมองเห็นใบหน้าของพี่ไฟไม่ชัด
“ถ้าพี่ไม่อยู่กับผม ผมต้องร้องไห้แน่ๆ”ผมประคองคนตัวใหญ่ไปที่รถ พร้อมทั้งคิดวิธีจัดการปัญหาทั้งหมดด้วยสมองที่ยุ่งเหยิง มือของผมสั่นอย่างเห็นได้ชัดจนหยิบจับอะไรก็ผิดๆถูกๆไปเสียหมด
“ใจเย็นๆ”มือใหญ่ตบลงบนหัวของผมอย่างปลอบใจ ไอ้ร้อนจากผ่ามือช่วยให้ผมใจสงบได้เยอะ
“พี่ชาร์อยู่ไหน”
“บ้านของเรา”
‘บ้านของเรา’ ทำเอาผมรู้สึกใจชื้นขึ้นอีกเยอะ อย่างน้อยตอนนี้ผมก็สามารถรวบรวมสติให้กลับคืนมามากพอจะขับรถได้แล้ว
มันเป็นการขับรถที่นรกมากเมื่อผมผ่าไฟแดงทุกไฟแดงที่มี เหยียบตันเร่งเกิน120ในตัวเมืองตลอดเส้นทาง เรียกได้ว่าโบกมือทักทายยมบาลหลายรอบในหนึ่งวัน พอถึงจุดหมายปลายทางก็เหยียบเบรกกันหน้าทิ่มกันเลยทีเดียว
“พี่ชาร์ !!”
ผมรีบจนแทบจะบินออกจากรถ
“อะไร??”อีกฝ่ายที่หัวฟูเหมือนพึ่งตื่นจากที่นอนตามไม่ทันว่าเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้น
“พี่ไฟกำลังแย่แล้วครับช่วยผมหน่อย”แล้วผมก็ลากพี่ชาร์ที่ยังไม่รู่เรื่องอะไรไปดูใจพี่ไฟในรถ ครั้นพี่ชาร์เห็นพี่ไฟครั้งแรกก็ตกตะลึงก่อนจะทำสีหน้าเคร่งเครียด
“พี่จะไม่ถามนะว่าเกิดอะไรแต่พี่คงต้องพาไฟมันไปรักษาตัวสักพัก”
“ครับฝากด้วยนะครับ”ผมยิ้มออกเมื่ออาการของพี่ไฟยังพอมีทางรักษาจริงๆดังที่คาด
“พี่ครับหายไวนะๆ”ผมก้มมองใบหน้าของพี่ไฟใกล้ๆ อีกฝ่ายก็ยกมือขึ้นสวมกอดผมแน่น
“พี่ไฟ...”
“อย่าทำอะไรเสี่ยงๆ”ผมทำได้แค่ยิ้มรับคำห้ามปรามนั้นแต่ไม่รับปาก
“อย่าห่วงผมนักเลยน่า”ผมผลักไหล่ของพี่ไฟเบาๆก่อนจะหันไปส่งยิ้มกับพี่ชาร์ที่ประจำที่นั่งคนขับเตรียมออกรถ
“ไปนะ”พี่ชาร์พูดขึ้น
“ครับ”
ถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะเดินๆไปเปลี่ยนเสื้อผ้า หยิบดาบประจำตัวออกมาเตรียมพร้อมรบทุกครั้งผมมักจะมีพี่ไฟตามติดไปด้วยเสมอ ผมหวังว่าพี่เค้าจะหายเร็วๆและกลับมาอยู่ข้างกายผมเหมือนเดิม
ทางด้านของชาร์ก็รีบร้อนจนลืมอะไรบางอย่างที่แสนสำคัญ จนกระทั่งไปได้แล้วครึ่งทางถึงนึกขึ้นมาได้จึงร้องอุทานเสียงดังซะจนไฟหันไปมองอย่างตกใจ
“เฮ้ย มึง !!”
“อะไรวะ”
“ชิบหายละกูลืมบอกลมไปเรื่องหนึ่ง”
“เรื่อง?”
“ไอ้กิตกลับมาอยู่บ้านแล้ว”
“!!!”
แกร๊ก
เสียงฝีเท้าของใครบ้างคนที่อยู่ในบ้านหลังนี้ทำให้ผมชะงัก ดาบเรียวถูกรูดออกมาจากฝักอย่างช้าๆเท้าเปลือเปล่าของผมค่อยๆเหยียบลงบนพื้นอย่างแผ่วเบา จนไปถึงประตูผมรู้สึกได้ถึงสิ่งมีชีวิตที่อยู่อีกฝั่งของประตู ผมไม่แน่ใจนักว่ามันคืออะไร แต่พลังทีผมรู้สึกได้นั่นไม่ใช่คนแน่นอน
โครม !!
ประตูถูกถีบออกจากทั้งสองฝั่งพร้อมๆกันพลังที่อัดแน่นทำให้บานประตูแตกออกกลายเป็นเศษเล็กๆกระจายว่อนไปทั่ว ดาบเงาวับของลมตวัดพาดคอของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วพอๆกับบนหน้าผากของลมถูกจ่อด้วยปืนสีดำสนิท
วิ้ง..
เสียงดาบคำรามอยากจะดื่มเลือดของอีกฝ่ายเต็มแก่ต่างคนต่างมองกันได้ไม่ค่อยชัดนักเพราะฝุ่นควันกระจายฟุ้ง แต่บางอย่างที่คุ้นเคยทำให้ทั้งสองฝ่ายยืนคุมเชิงกันอยู่ห่างๆ กระทั่งต่างคนต่างเริ่มมองเห็นกันและกันได้อย่างชัดเจน
“พี่กิต !”
“ลม?”
พี่ชายของผมเปลี่ยนไปมากจากที่ผมเห็นตอนแรกอย่างสิ้นเชิง ทั้งสูงขึ้น ดูเยือกเย็นมากขึ้น หล่อมากขึ้น เท่ห์สุดๆ
“เกิดอะไรขึ้นไอ้ชาร์ไปไหน”
“พาพี่ไฟไปรักษาน่ะครับ”
ลมค่อยๆเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้พี่ชายของตนฟัง แต่ด้วยพลังที่ต่างขั้วกันมากเกินไปทำให้ทั้งสองต้องเว้นระยะห่างกันมากพอสมควร ลมอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปกอดพี่ชายของตนสักทีถึงแม้ว่าจะต้องเจ็บตัวไปบ้างก็ตาม
“ผมเป็นห่วงพี่มากเลยรู้ไหม”กิตพยายามข่มพลังของตัวเองไว้กอดน้องชายของตัวเองตอบกลับ
“มึงนั่นแหละที่ชอบทำตัวให้คนอื่นเป็นห่วง”ว่าแล้วพี่กิตก็เขกหัวผม
“ง่ะ
“ไอ้ปีศาจนั่นชื่อซามานใช่ไหม”
“ครับ”ผมค้างคำสัญญากับมันไว้ข้อหนึ่งด้วย... เฮ้อ ถ้าพี่กิตรู้จะเกิดอะไรขึ้นเนี้ย
“ไปกัน ไปล่าปีศาจกัน”
= = ได้ข่าวว่าพี่เป็นผู้พิทักษ์แล้วผมเป็นนักล่านะ คำพูดมันสลับบทกันเห็นๆ
“อือ ไปกันพี่ผมจะควักหัวใจมันออกมาหั่นเป็นชิ้นๆเลย”
ผมลูบมือไปยังสัญลักษณ์รูปหมาป่าเพลิงที่แสดงถึงพันธะระหว่างผมกับพี่ไฟ ราวกับว่าเป็นตัวแทนของพี่ไฟที่จะทำให้ผมมีพลังมากขึ้น มากขึ้นไปอีก
ไฟก็รู้สึกได้ถึงความคิดของลมแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ส่งใจไปเท่านั้น
โครมมม !!
“เวรแล้วไงไอ้ไฟ”
ไฟหลุดออกจาภวังค์มองไปยังเบื้องหน้า กลุ่มพลังความมืดเข้มข้นคุ้นๆว่าเคยเจอพลังแบบนี้มาแล้วที่ไหนสักแห่ง
“ปีศาจประหลาดซามาน...”
“หึหึ พวกเจ้าข้าไปไหนไม่รอดหรอก”
ถอนหายใจยาวเหยียดก่อนจะเดินๆไปเปลี่ยนเสื้อผ้า หยิบดาบประจำตัวออกมาเตรียมพร้อมรบทุกครั้งผมมักจะมีพี่ไฟตามติดไปด้วยเสมอ ผมหวังว่าพี่เค้าจะหายเร็วๆและกลับมาอยู่ข้างกายผมเหมือนเดิม
ทางด้านของชาร์ก็รีบร้อนจนลืมอะไรบางอย่างที่แสนสำคัญ จนกระทั่งไปได้แล้วครึ่งทางถึงนึกขึ้นมาได้จึงร้องอุทานเสียงดังซะจนไฟหันไปมองอย่างตกใจ
“เฮ้ย มึง !!”
“อะไรวะ”
“ชิบหายละกูลืมบอกลมไปเรื่องหนึ่ง”
“เรื่อง?”
“ไอ้กิตกลับมาอยู่บ้านแล้ว”
“!!!”
แกร๊ก
เสียงฝีเท้าของใครบ้างคนที่อยู่ในบ้านหลังนี้ทำให้ผมชะงัก ดาบเรียวถูกรูดออกมาจากฝักอย่างช้าๆเท้าเปลือเปล่าของผมค่อยๆเหยียบลงบนพื้นอย่างแผ่วเบา จนไปถึงประตูผมรู้สึกได้ถึงสิ่งมีชีวิตที่อยู่อีกฝั่งของประตู ผมไม่แน่ใจนักว่ามันคืออะไร แต่พลังทีผมรู้สึกได้นั่นไม่ใช่คนแน่นอน
โครม !!
ประตูถูกถีบออกจากทั้งสองฝั่งพร้อมๆกันพลังที่อัดแน่นทำให้บานประตูแตกออกกลายเป็นเศษเล็กๆกระจายว่อนไปทั่ว ดาบเงาวับของลมตวัดพาดคอของอีกฝ่ายอย่างรวดเร็วพอๆกับบนหน้าผากของลมถูกจ่อด้วยปืนสีดำสนิท
วิ้ง..
เสียงดาบคำรามอยากจะดื่มเลือดของอีกฝ่ายเต็มแก่ต่างคนต่างมองกันได้ไม่ค่อยชัดนักเพราะฝุ่นควันกระจายฟุ้ง แต่บางอย่างที่คุ้นเคยทำให้ทั้งสองฝ่ายยืนคุมเชิงกันอยู่ห่างๆ กระทั่งต่างคนต่างเริ่มมองเห็นกันและกันได้อย่างชัดเจน
“พี่กิต !”
“ลม?”
พี่ชายของผมเปลี่ยนไปมากจากที่ผมเห็นตอนแรกอย่างสิ้นเชิง ทั้งสูงขึ้น ดูเยือกเย็นมากขึ้น หล่อมากขึ้น เท่ห์สุดๆ
“เกิดอะไรขึ้นไอ้ชาร์ไปไหน”
“พาพี่ไฟไปรักษาน่ะครับ”
ลมค่อยๆเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้พี่ชายของตนฟัง แต่ด้วยพลังที่ต่างขั้วกันมากเกินไปทำให้ทั้งสองต้องเว้นระยะห่างกันมากพอสมควร ลมอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปกอดพี่ชายของตนสักทีถึงแม้ว่าจะต้องเจ็บตัวไปบ้างก็ตาม
“ผมเป็นห่วงพี่มากเลยรู้ไหม”กิตพยายามข่มพลังของตัวเองไว้กอดน้องชายของตัวเองตอบกลับ
“มึงนั่นแหละที่ชอบทำตัวให้คนอื่นเป็นห่วง”ว่าแล้วพี่กิตก็เขกหัวผม
“ง่ะ
“ไอ้ปีศาจนั่นชื่อซามานใช่ไหม”
“ครับ”ผมค้างคำสัญญากับมันไว้ข้อหนึ่งด้วย... เฮ้อ ถ้าพี่กิตรู้จะเกิดอะไรขึ้นเนี้ย
“ไปกัน ไปล่าปีศาจกัน”
= = ได้ข่าวว่าพี่เป็นผู้พิทักษ์แล้วผมเป็นนักล่านะ คำพูดมันสลับบทกันเห็นๆ
“อือ ไปกันพี่ผมจะควักหัวใจมันออกมาหั่นเป็นชิ้นๆเลย”
ผมลูบมือไปยังสัญลักษณ์รูปหมาป่าเพลิงที่แสดงถึงพันธะระหว่างผมกับพี่ไฟ ราวกับว่าเป็นตัวแทนของพี่ไฟที่จะทำให้ผมมีพลังมากขึ้น มากขึ้นไปอีก
ไฟก็รู้สึกได้ถึงความคิดของลมแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ส่งใจไปเท่านั้น
โครมมม !!
“เวรแล้วไงไอ้ไฟ”ชาร์พึมพำ
ไฟหลุดออกจาภวังค์มองไปยังเบื้องหน้า กลุ่มพลังความมืดเข้มข้นคุ้นๆว่าเคยเจอพลังแบบนี้มาแล้วที่ไหนสักแห่ง
“ปีศาจประหลาดซามาน...”
“หึหึ พวกเจ้าหนีข้าไปไหนไม่รอดหรอก”
ทางด้านของลมกับกิตที่ข้ามมิติไปยังโลกปีศาจเพื่อไปหาคนที่จะสามารถตอบคำถามทุกอย่างได้ นั่นคือหัวหน้าสูงสุดของผู้พิทักษ์ ผู้ที่เก่าแก่พอๆกับการกำเนิดโลกปีศาจ กิตหลังจากที่กลายเป็นพวกผู้พิทักษ์ก็ได้รู้จักกับหัวหน้าที่ว่านั้นเป็นอย่างดี เพราะพลังของกิต อันตรายเกินกว่าจะให้ผู้พิทักษ์คนอื่นมาเสี่ยงชีวิต
“น่าแปลกที่นักล่ากล้ามาเหยียบแดนปีศาจ”น้ำเสียงหยิ่งยโสรับกับใบหน้าเชิดรั้นอย่างคนหัวแข็งของหัวหน้าผู้พิทักษ์
“ว่าแต่มีเรื่องอะไรละ”
“ท่านเกรย์ ปีศาจซามานก่อเรื่องที่โลกมนุษย์แถมทำผิดกฎขั้นร้ายแรงหลายข้อ ท่านพอมีวิธีจัดการมันไหม”พี่กิตเปิดประเด็น
“ซามมาน? ก็พอมีนะแต่เจ้านั่นไม่ได้อาละวาทมานานแล้ว”เกรย์หรือหัวหน้าผู้พิทักษ์เสกหนังสือเล่นใหญ่ขึ้นมากลางอากาศก่อนจะค่อยๆพลิกไล่อ่านทีละหน้าอย่างเบามือ
“พอจะรู้ไหมว่าไปหามันได้ที่ไหน”ผมถามบ้าง
“เจ้านั่นนะ... อยู่ที่ทิศใต้สุดของแดนปีศาจแห่งนี้ แต่ขอเตือนไว้อย่างนะ”
“?”
“พวกเจ้าไม่มีวันสู้ชนะมันหรอก”
คำพูดบั่นทอนกำลังใจมาก ขอบคุณ = =!!
ผมกับพี่กิตใช้เวทผ่ามิติเป็นการย่นระยะทางซึ่งช่วยได้มาก แต่มีปัญหาเพียงอย่างเดียวคือ ไม่รู้ว่าใต้สุกของทิศใต้มันอยู่ตรงไหนแล้ว ไอ้ปีศาจบ้านั่นมันอยู่ไหนน่ะสิ
‘หลับตาของเจ้า ใช้จิตแผ่ขยายออกไป’ผีสาวกระซิบบอก
โห ผมเกือบจะลืมไปแล้วนะว่ายังมีเธออยู่กับผมอีกคน
‘หลับตาสิ’
ผมค่อยๆหลับตาลงตามที่เธอบอก เงี่ยงหูฟังเสียงทุกสรรพสิ่งรอบตัว
‘แผ่พลังของเธอออกไป เหมืทอนคลื่นน้ำระลอกแล้วระลอกเล่า’
ผมทำตามที่ผีสาวบอก พลังของผมถูกแผ่ออกไปไกลจากหนึ่งเมตรๆเป็นสิเมตรเป็นหนึ่งกิโลโดยที่มีตัวผมเป็นจุดศูนย์กลางของพลัง แผ่ออกไปไม่มีที่สิ้นสุด อีกนิดเดียว... ผมเจอ บางอย่าง
“เจอแล้วหรอ?”พี่กิตเขย่าผมเบาๆเมื่อเห็นผมหยุดชะงักการปล่อยพลัง
“พี่กิต..ผมเจอพี่ไฟกับพี่ชาร์อยู่กับซามาน”
“รออะไรละ รีบไปเถอะ!”
ผมประมวลแผนในสมองแต่คิดแล้วคิดอีกแผนก็คือการบุกเข้าไปซึ่งๆหน้า ผมวิ่งนำพี่กิตเลี้ยวลัดเลาะไปตามทางเพื่อมุ่งไปยังจุดหมายที่สัมผัสได้
ปึก!
“พี่กิตหมอบ !”ผมคว้าพี่กิตหลบกับดักธนูที่พึ่งจะสังเกตเห็นแต่เมื่อผมหมอบอยู่กับพื้นผมก็ได้สังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่ดูแปลกและไม่เข้ากันอย่างสุดๆ
ถ้าผมจำไม่ผิดมันคือรถมอเตอไซต์ไอ้แก่ของผมที่ถูกปีศาจขอไปเป็ฯการแลกเปลี่ยน มันถูกดัดแปลงชิ้นส่วนจนกลายเป็นป้ายบอกทางเขียนว่า ปราสาท ซามานเนอร์ แล้วก็มีลูกศรชี้ให้ตรงไป
“นั่น ไอ้แก่แกไม่ใช่หรอไอ้ลม”
“เอ่อ ใช่มั้ง”
“แล้วมันมาอยู่ที่นี่ได้ไง”พี่กิตหันมามองผมอย่างแปลกใจ
“ผมเคยทำข้อแลกเปลี่ยนกับซามานมากก่อนน่ะ”
“ฮะ!!”
แล้วความจริงของผมที่ไม่คิดจะบอกพี่กิตก็ได้เปิดเผยในที่สุด นอกจากจะโดนตบกะโหลกไปหลายทีแล้วยังโดนบ่นอีกชุดใหญ่อีกด้วย ผมเชื่อว่าคุณไม่อยากฟังคำบ่นของพี่ชายผมเท่าไหร่นักหรอก
“หลังจากงานนี้จบมึงต้องโดนกูอบรมสั่งสนใหม่สักรอบ”
หะ...แค่นี้ยังไม่พออีกหรอ...
“เอ่อ น่าไปช่วยพี่ไฟกับพี่ชาร์ แล้วก็ไอ้ไอก่อน”
ผมค่อยๆเดินอย่างระมัดระวังมากขึ้นพี่กิตก็เช่นกัน เห็นเฮียแกบ่นว่าอยากจะเผาป่านี้ทิ้งให้หมด อันที่จริงผมก็อยากจะเผาเหมือนกัน แต่ก็ต้องห้ามไว้ก่อนไม่งั้นศัตรูที่เราจะบุกไปหาคงได้รู้ตัวกันก่อนพอดี หรือไม่ก็บางทีเจ้าปีศาจนั่นอาจจะรู้ตัวอยู่แล้วก็ได้
“เอ้ย นั่นมัน”เดินมาได้สักระยะพี่กิตก็เริ่มสังเกตเห็นความประหลาด
ชุดเดรสสีเดงสดและสูทสีดำถูกนำไปปักเป็นธงโบกสะบัดอยู่หน้าประตูของปราสาท นั่นมัน...ชุดเดรสของแพรกับสูทของพี่ไฟนี่หน่า.... นั่นทำให้ผมนึกไปถึงวันเก่าๆ ความทรงจำนั้นมันยังชัดเจนเหมือนพึ่งเกิดเมื่อวานจริงๆ
“โอ๊ะๆ มีแขกมาเยือนหรือนี่”เสียงแหบกึ่งหญิงกึ่งชายของซามานมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทำให้ผู้ที่เคยได้ยินเพียงครั้งเดียวก็สามารถจำได้แม่น
“เอาเพื่อนกูคืนมา แฟนกูด้วยเพื่อนแฟนกูด้วย”ผมตะโกนบอกเพราะเจ้าปีศาจนั่นลอยอยู่เหนือหัวของพวกผม
“แหมๆ พูดอะไรกัน ข้าไม่เห็นเข้าใจเลย”เจ้าปีศาจแสยะยิ้ม
“ตอนนี้ข้ามีเพียงแค่ปีศาจรับใช้สามตัวเท่านั้นแหละ”
ป๊อก!
เสียงดีดนิ้วของซามานเรียกบางอย่างออกมาจากประตูปราสาท มันคือ พี่ไฟ พี่ชาร์และไอ้ไอนั่นเอง
นี่มันพล็อตการ์ตูนในอนิเมะนี่หว่า !! แล้วผมก็เล่นบทเป็นอัศวินขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยเจ้าหญิง(?)
“เรามาบรรเลงบทเพลงเลือดกันสักหน่อยจะเป็นไร”
ความคิดเห็น