คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ไม่สามารถพูดได้
ผมเคยบอกแล้วใช่ไหมครับว่าผมน่ะ ออกมาทำงานไม่ได้เรียนต่อ ผมเป็นเจ้าของร้านกาแฟเล็กๆในตัวเมืองครับแต่ด้วยจำนวนลูกค้าที่มากจนล้นร้านเลยทำให้ผมหัวปั่นไปหมด เพราะพี่ไฟคนเดียวเลย !!
“จะ จะตายแล้วคร้าบบ”
“อย่าบ่นน่าไอ้ไอ ทำๆไป”ผมพูดปลอบใจพนักงานในร้านมันเป็นเพื่อนผมเอง
“มึงก็พูดได้ดิ!มึงนั่งดูเฉยนี่ไอ้สัส”
“ลูกค้าเยอะเงินเดือนก็เยอะไงมึงท่องไว้ๆ”ผมหัวเราะอย่างเบิกบานใจบนความทุกข์ของเพื่อนรัก(?)
พี่ไฟนั่งเขียนงานอยู่ที่โต๊ะด้านในสุด โดยที่เจ้าตัวไม่รู้สึกตัวเลยว่าเป็นแม่เหล็กดึงดูดสาวๆมากขนาดไหน สาวๆเต็มร้านเท่ากับลูกค้าเต็มร้าน ^o^ บางทีผมน่าจะชวนให้พี่ไฟมานั่งเล่นที่นี่บ่อยๆ ฮ่าๆๆๆ
“พี่คะ คือว่าเพื่อนหนูชอบพี่ขอเบอร์หน่อยได้ไหมคะ”เด็กสาวหน้าตาน่ารักเดินไปขอเบอร์พี่ไฟหน้าซื่อ
พี่ไฟเหลือบตามองผมแวบหนึ่ง
ประเด็น
พี่ไฟให้เบอร์ไปน่ะสิ !!!
“กรี๊ด ขอบคุณค่ะ”
“ไอ้ไอ ชงกาแฟดำให้กูเร็วๆ”ผมยืนเท้าเอวตาก็จ้องไปยังโต๊ะของพี่ไฟ ไอ้ไอมองผมแบบงงก่อนจะลุกไปชงกาแฟให้ผมตามที่สั่ง ไม่นานกลิ่นกาแฟหอมกรุ่นก็ถึงเวลาเสิร์ฟ
“กูไปเอง” ผมคว้าแก้วกาแฟร้อนๆเดินลิ่วไปที่โต๊ะพี่ไฟ ก่อนจะกระแทกแก้วกาแฟลงบนโต๊ะจนมันกระเฉาะอออกมาเล็กน้อย
“กา-แฟ-ครับ” ผมฉีกยิ้มกว้าง
พี่ไฟเลิกคิ้วมองเล็กน้อยก่อนจะยกจิบ
“แคก แค่ก แค้ก แค่กกๆ” หึหึหึ
“ว้าย พี่ไฟของแพรเป็นอะไรไปคะ” ...นี่พวกมึงไปได้กันเมื่อไหร่!! ได้ข่าวว่าพึ่งเจอกันเมื่อกี้(แอบจิกตามองเจ้าหล่อนเล็กน้อย)
“กาแฟมันอร่อยเกินไปครับน้องแพร แคก..”
“ไหนขอน้องแพรชิมหน่อยได้ไหมคะ”
ผมตวัดสายตามองพี่ไฟ ถ้ามึงให้มันกินนะ รู้เรื่อง ! โกรธยันชาติหน้า
“อ้าว คุณพนักงานมายืนเกะกะอะไรตรงนี้ละคะ”
"ขอโทษครับ ผมเป็นเจ้าของร้านไม่ใช่พนักงาน"
เหอะ!
ผมเดินหนีไปหลังร้านทันที ชิ ! คิดว่าอยากยืนอยู่ตรงนั้นนักรึไง เคืองครับ เคือง...
“นี่หึงหรอ”เสียงของพี่ไฟดังมาจากทางด้านหลัง
“เปล่า”..แค่เคืองเฟร้ย !
“พัดลม”
“อะไร”
“หันมาคุยกันดีๆ”
“ไปดูแลน้องแพรของพี่เถอะ”
ผมเดินกระแทกไหล่พี่ไฟออกไปนอกร้าน หงุดหงิด ๆ ทำไมผมถึงทำตัวเหมือนผู้หญิงอย่างนี้เนี้ย ผมเป็นผู้ชายนะ
ตั้งใจหัวใจของผมหายไป...
ทุกอย่างมันก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป... ผมเห็นสิ่งต่างๆที่ไม่ควรเห็นมากขึ้น ขี้หงุดหงิดและเครียดง่าย รู้สึกเกลียดคนทั้งโลก ทั้งๆที่ปกติผมไม่ใช่คนแบบนั้นเลยแท้ๆ แปลกจริง
“ไอ้ลม!!”
ผมหยุดตามเสียงเรียกซึ่งไม่ใช่เสียงใครที่ไหนเลยนอกจากเสียงพี่ไฟ
“มึงเป็นอะไรของมึง”
“ผมแค่หงุดหงิดตัวเอง !"และพี่ด้วย ส่วนใหญ่..
“มึงอย่าทำตัวงี่เง่าได้ไหม”
“พี่ไฟคะ”เสียงเรียกของน้องแพรอะไรนั่นดังมาไกลๆ เดรสสีแดงของเธอดึงดูดสายตาคนรอบข้างได้อย่างดี (ประมาณว่าอยู่ห่างสิบเมตรก็ยังเห็นว่าเห็นใคร) พอเธอวิ่งมาถึงก็ถลาเข้าเกาะแขนพี่ไฟปั๊บ
ผมชักจะรู้สึกว่าเกลียดพี่ไฟแล้วสิ...
“กลับไปกับน้องแพรนะคะ ส่งน้องแพรถึงห้องเลยนะ”พี่ไฟทำหน้าลำบากใจก่อนจะก้มลงไปกระซิบกระซาบกับเธอ ไม่รู้ว่าพูดอะไรแต่เธอคนนั้นยิ้มหน้าบานไม่หุบแล้วล่าถอยไปแต่โดยดี...ผมว่า ผมพอจะรู้แล้วละ
“เหอะๆ”
“เห็นป่ะไม่เห็นมีอะไรต้องซีเรียส”พี่ไฟยิ้มตาหยี “ป่ะกูจะส่งมึงกลับบ้านนี่ก็เย็นมากแล้ว”
ผมเดินตามแต่โดยดีถึงผมจะโกรธแต่ผมยังมีสมองคิดนะถ้าคุยตอนนี้ไม่รู้เรื่องแน่ๆ กลับบ้านไปนอนสงบจิตสงบใจดีกว่า
ระหว่างทางกลับบ้านมันเงียบจนน่ากลัวแต่พี่ไฟดูจะไม่รู้สึกถึงอารมณ์ที่ยังขุ่นมัวของผมเพราะพี่แกเล่นยิ้มตลอดทางกลับบ้าน หึ มีความสุขเหลือเกินนะ พอผมลงจากรถเดินเข้าบ้านผมก็พุ่งตัวอาบน้ำแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง ข้างๆผมยังมีพี่ไฟนอนเบียดอยู่ด้วยอีกคน
ผมนอนไม่หลับครับ ทำได้แค่หลับตาไว้เฉยๆและปรับลมหายใจให้สงบเรียบเท่านั้น แต่สิ่งที่ผมแปลกใจที่สุดก็คือพี่ไฟจะลุกออกไปไหนตอนดึกดื่นป่านี้กัน? พอแน่ใจแล้วว่าพี่ไฟออกไปแล้วพร้อมกับเสียงรถผมก็รีบวิ่งออกไปดูหน้าบ้าน
ผมพอจะรู้แล้วละว่าผู้หญิงคนนั้นกับพี่ไฟกระซิบกระซาบอะไรกัน...
ผมทำได้แค่หวังให้มันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด
“คิกๆๆ” เสียงหัวเราะที่ดังมาจากด้านบนทำเอาลมสะดุ้งเฮือก
“นั่นใคร!!”ลมพยายามมองหา แต่ติดตรงที่ว่ามันมืดเกินไปหน่อย
หมับ !!
เฮือกกก!!
ผมถูกบางสิ่งกอดรัดจากทางด้านหลัง ลมหายใจของมันเย็นเฉียบผิวเรียบลื่นสีซีด เล็บยาวแหลมที่จิกลงไปที่อกและลำคอเป็นสิ่งย้ำเตือนผมว่านั่น...ไม่ใช่คน และผมก็ไม่สามารถขยับหรือกรีดร้องได้
“ฉันจะพานายไปดูอะไรดีๆเอาไหม~” น้ำเสียงหยอกเย้า
“คะ คุณเป็นใคร”
“ฉันคือผู้หวังดีคนหนึ่ง คิกๆๆ”
ผมยังคงนิ่งเงียบ อยู่ๆก็บอกจะพาไปดูอะไรดีๆ เกิดมันพาผมไปดูนรกผมก็ตายสิครับ !!
“บอกสิ่งที่เจ้าปรารถนามาสิ”
“หมายความว่าไง”ผมยังคงตามเกมส์เจ้าปีศาจไม่ทัน
“โง่จริง ฉันก็หมายถึงสิ่งที่นายต้องการตอนนี้น่ะสิ”เจ้าปีศาจขยับมือออกจาคอผมทำให้หายใจได้สะดวกขึ้นนิดหน่อย
“แลกกับอะไร” ของอย่างนี้มันต้องไม่ทำกันฟรีสินะ เห็นหล่อๆแบบนี้ไม่โง่นะเว้ย
“รถเก่าๆของนายคันนั้นไง”ปีศาจสาวชี้ไปยังไอ้แก่คู่ใจของผมที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้เพราะซ่อมไม่ได้
“แค่บอกความปรารถนาของเจ้ามา อ่า..”เจ้าปีศาจส่งเสียงซี๊ดซาดอยู่ข้างๆหูผม
“ผม..”...อยากรู้ว่าพี่ไฟอยู่ที่ไหนแต่อีกใจก็เต็มไปด้วยความลังเล
“เพียงแค่กระซิบบอก”เจ้าปีศาจยังไม่ยอมแพ้ คำพูดของมันวนเวียนอยู่รอบๆหัวของผม
“ผมอยากรู้ว่าพี่ไฟไปไหน”
“จัดไป”
ป๊อก!
เสียงดีดนิ้วดังกังวานไปทั่วบริเวณ โลกค่อยๆบิดเบี้ยวไปช้าๆเหมือนครั้งก่อน..ที่ผมเผลอหลุดเข้าไปในโลกปีศาจแล้วพี่ไฟช่วยไปไว้ได้เกือบทันพอดี - -*
ผมกระพริบตามองช้าๆแล้วพิจารณาสิ่งรอบตัว ผมหยุดยืนอยู่หน้าห้องๆหนึ่งดูจากข้างนอกแล้วก็พอจะรู้ว่าผมอยู่ที่โรงแรมหรูที่ไหนสักแห่งใจกลางเมือง พรมนิ่มเท้าอย่างดี โคมไฟรยางค์เหนือหัว
เปิดมันสิ~
ราวกับเสียงกระซิบแห่งความปรารถนาจากส่วนลึกของจิตใจผลักดันให้ผมยกมือขึ้นบิดลูกบิดช้าๆ
แกร๊ก..
เบื้องหน้าของผมเป็นห้องขนาดใหญ่ข้างหน้าเป็นห้องรับแขกมีทีวีโดยมีกระจกสีใสกั้นเอาไว้ ข้างขวาของผมเป็นประตูที่เขียนป้ายไว้ว่า Bedroom ผมเมินหน้าหนีไปจากประตูห้องนอนก่อนจะเดินไปยังห้องรับแขกโทนสีแดงเลือดตัดกับสีขาว สายตาของผมเหลือบไปเห็นเสื้อโค้ดสีดำของพี่ไฟกองอยู่ที่โซฟาในสภาพยับยู่ยี่ พอๆกับเดรสสีแดงซึ่งผมจำมันได้ดีว่าเคยอยู่บนร่างของใคร
“ไม่จริง...”
ผมตัดสินใจวิ่งกลับไปยืนอยู่หน้าประตูห้องนอนอีกครั้ง แล้วตัดสินใจเปิดมันโดยที่ในอกรู้สึกโหวงๆหน่วงๆ
ภาพที่เห็นไม่ค่อยต่างจากที่ผมจินตนาการเท่าไหร่นัก...
คนสองคน...
ร่ายกายเปลือยเปล่า...
กำลังทำกิจกรรมบางอย่างร่วมกัน...
โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีบุคคลที่สามยืนมองอยู่...
“ขอพรสิ~” เสียงกระซิบของปีศาจดังขึ้นอีกครั้ง
“คราวนี้ต้องแลกกับอะไร”ผมกัดฟันพูด สายตายังไม่สามารถละออกไปจาภาพตรงหน้าได้
“ฉันขอ...เสื้อโค้ดกับเดรสสีแดงตรงห้องรับแขกนั่นละกัน”บางทีความคิดของปีศาจก็ยากเกินกว่าที่เราจะสามารถเข้าใจได้
“ได้ เอาเสื้อตัวนั้นไปแลกกับการที่ทำให้สองคนนั้นเห็นผม”
“หึหึ”
ผมยังคงยืนอยู่ที่เดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือพี่ไฟหันมามองผมแทนที่จะเป็นผู้หญิงบนเตียงนั่นแทน
“ลม..”
“...ว่าไงครับ”ผมยิ้มกว้างแบบที่ไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต
“กะ กรี๊ดด แกเป็นใครเข้ามาได้ยังไง”เธอพยายามชักผ้าห่มผืนใหญ่มาคลุมตัว
แต่ผมไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว ผมทำได้แค่เดินออกมา...พร้อมกับปาดน้ำตาเงียบๆเท่านั้น
“ฮะๆๆ เรื่องแม่งมันจะดราม่าไปนะ ฮึก ..น้ำตาเหี้ยนี่ก็ไหลอยู่ได้กูมองทางไม่เห็นเนี้ย”
“ยังเหลือพรอีกหนึ่งข้อ..”
“กูไม่องไม่เอามันแล้วพร กูเจ็บจะตายอยู่แล้ว”ผมปัดปีศาจออกไปห่างๆ
“แน่ใจ?”
“เอ่อ”
“ชิ เกือบแล้วเชียว”ไอ้ปีศาจบ่นงึมงำอะไรบ้างอย่างก่อนจะหายไปจริงๆ
ผมไม่รู้ว่าผมเดินออกมาไกลขนาดไหน แต่รู้ตัวอีกทีเท้าของผมมันก็เจ็บระบมไปหมดแถมอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ด้วย
“โอ๊ย โง่ยกกำลังสองเลยกูนิ”ผมนั่งแปะกับพื้นอย่างหมดแรงสำรวจแผลที่เท้าตัวเองเงียบๆ
เงาบางอย่างบดบังแสงไฟนีออนของเสาไฟฟ้าข้างถนนทอดมาทางผม ผมละสายตาเงยหน้าขึ้นไปมอง แวบแรกในใจผมคิดว่าเป็นพี่ไฟตามมาง้อผม
แต่...มันก็ไม่ใช่
“อ้าว นี่มันพี่คนนั้น”
ซวย รู้ไหมครับว่าผมเจอใคร...
นานไปละเฉลยคือ น้องอัศวินที่มันเคยจะปล้ำผมก็ ไอ้เด็กเปรตปีหนึ่งนั่นไง !!
“อ้าวเท้าพี่เจ็บนี่”มันก้มลงมาดึงเท้าผมขึ้นไปดูเล่นเอาผมหงายหลังเอามือยันพื้นกันหน้าแหกแทบไม่ทัน
“เหี้ย หน้ากูเกือบจูบพื้นแล้วเห็นไหมเนี้ย”ผมโวย
“อ๊ะ ทำไมตาพี่ช้ำๆละ มาๆผมจะพาไปรักษาเอง”
“ไม่ไปโว้ย”
“มาๆเดี๋ยวผมอุ้มพี่เอง”
“มึงฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรอ!”
“เอ่อ พี่หอผมมันอยู่ไกลทนหน่อยนะพี่” ทนเชี่ยอะไรครับกูไม่ได้จะตายครับ
นี่มึงไม่ฟังกูเลยนี่หว่าไอ้เชี่ย !$#%#!@$#^%$
แล้วผมจะทำอะไรได้นอกจากนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถมันละครับ?
“เฮ้ย พี่เงียบไมอ่ะพูดอะไรหน่อยดิ”
“ผมเกลียดพี่...”ผมพูดหน้าตาย
“อะไรนะ”ไอ้คนขับรถทำหน้างง
“ผมบอกว่าผมเกลียดพี่ไง จะไปไหนก็ไป ไปให้พ้นๆหน้าผมเดี๋ยวนี้” ไอ้น้องอัศวินอึ้ง..ผมก็อึ้งไม่แพ้กัน ที่พูดอะไรแบบนั้นออกไป
“พี่พูดกับผมรึเปล่า”
“เปล่ากูพูดกับตัวเองมึงทนๆฟังกูไปเหอะ”
“ครับๆ”พอดีเลยครับรถมันติดไปแดงพอดีผมก็พล่ามเลย
“ทำไมพี่ต้อง*** แล้ว***กับผมด้วยพี่มัน***ผมก็โง่เนอะ”
“แล้วไอ้***นี่มันคืออะไรอ่ะพี่”มันทำหน้าจริงจังใส่ผม
“อย่าถามกูของขึ้น!!”
“ครับๆ”
“แล้วอี*** หาคนอื่นไม่ได้แล้วหรอวะทำไมต้อง*** หญิง***ชาย***มาเจอกัน กันกุละ***”
“แล้วยังไอ้ปีศาจบ้านั่นอีก เอาอะไรไม่เอาทำไมต้องเอาอีแก่กูด้วยวะ แม่งเป็นปีศาจโรคจิตแหงๆเอาเสื้อที่ใส่แล้วอีกด้วย”
“ปีศาจ?”
“กูบอกให้ฟังกูอย่างเดียวไง - -+ “
“ครับๆ = =”
“กูก็ใจง่ายอุตสาห์ยอมๆนึกว่ารักจริง โหยไอ้***”
“กูเหนื่อย” ผมหอบน้อยๆหลังจากที่พลามมาหมดไส้หมดพุง
“พักๆพี่ ผมหูชาหมดแล้วเนี้ย”ไอ้น้องอัศวินทำท่าแคะขี้หู
“เอ่อ ขอบใจละกันที่ทนฟังกูพล่าม”
“ขอเป็นหอมแก้มหรือจุ๊บที่ปากเบาๆสักทีหายเหนื่อยเลยพี่”
“พ่อมึงสิ มากไปละๆ”ผมชกแขนมันเบาๆ พลามมาซะเยอะพอมองนอกกระจกอีกทีก็มาถึงหอพักของมันซะแล้ว ผมโดนมันลากขึ้นห้องของมันแต่ดีกว่าคราวแล้วหน่อยก็ตรงที่มันไม่ลุกมาปล้ำผมอ่ะนะ
“พี่ทะเลาะกับแฟนหรอ”
“อืม”
“ใช่พี่ไฟป่ะ”ยังจะถาม...
“อืม”
“ทะเลาะกันเรื่องอะไรอ่ะ”
เห็นแก่ที่มึงฟังกูพล่ามตั้งนานกูจะบอกให้ละกัน “มือที่สาม”
“ห๊ะ..เรื่องพี่เป็นชู้กับผมน่ะหรอ”
ผลั๊วะ !!
ผมตบกะโหลกมันไปทีหนึ่ง “ไม่ใช่กูแต่เป็นมันโวย”
“ห๊ะ พี่ไฟมีชู้”
“เอ่อ มันมีชู้”ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพูดต่อ
“ที่กูพล่ามมาทั้งหมดเนี้ยด่ามันทั้งนั้นเลย”
“เฮ้ยไหงงั้นอ่ะพี่ แล้วไมพี่ไม่ไปด่าเค้าอ่ะ”มาด่าผมทำไมวะเนี้ยหล่องง?
“เรื่องบางเรื่องน่ะ..มันไม่สามารถพูดออกมาได้ ณ จุดจุดนั้น”ผมทำหน้าจริงจังสุดชีวิตให้ไอ้น้องอัศวิน
“แต่พี่ก็พูดออกมาแล้วนี่”
“มันพึ่งมาคิดได้ตอนเดินออกมาแล้วน่ะ”
“...”
“โห ถ้าพี่คบกับผมตั้งแต่แรกจะไม่มีเรื่องอะไรแบบนี้เลยนะเนี้ย *-*”
“หรอ !!!”หน้าอย่างมึงนี่เสือผู้หญิงตัวพ่อชัดๆ อมวัดมาพูดกูก็ไม่เชื่อ = =
“อ้าวผมรักใครรักจริงน้า”ยังมีหน้ามาทำเสียงออดอ้อน ให้ตายสิครับผู้ชายแบบนี้น่ะรับมือยากชะมัด
“ลองดูสักครั้งไม่เสียหายนะคร้าบ~”
“พี่ไฟน่ะ ฆ่าคนได้เลยนะเว้ย”กลัวว่าน้องอัศวินจะตายไม่รู้ตัว ไม่รู้ตัวซะแล้วว่าเล่นกับอะไรไอ้น้อง
“โหพี่อย่าดูถูกผมได้ป่ะ?”
“ไม่... กูคิดผิดแล้วกูควรจะกลับไป”ขืนพี่แกฆ่าโหดไอ้เด็กนี่จริงๆขึ้นมาผมคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต
“เฮ้ย พี่ยังจะกลับไปคบกับผู้ชาย*** แบบนี้อยู่หรอ”
“กูไม่โง่ครับน้องอัศวิน”
“อ้าวงั้นพี่จะกลับไปทำไม”
“เอ้าไอ้นี่ กูก็ต้องกลับไปคุยให้รู้เรื่องสิวะ”
“ถ้าเกิดพี่ไฟคุยไม่รูเรื่องขึ้นมาอ่ะ” เอ่อ..จริงด้วย
“เอาเป็นว่ากูไม่หนีปัญหาแล้วกัน”
“โห แมนมาก”ไอ้อัศวินปรบมือให้ผม กูแมนมานานแล้วโว้ย !
“เอาเหอะตามใจพี่แล้วกัน คืนนี้ยังไงก็นอนที่นี่ก่อนพรุ่งนี้เช้าเดี๋ยวผมไปส่งที่บ้าน”
“อืมๆ ขอบใจนะ”โชคดีที่รูมเมตมันออกไปเที่ยวต่างจังหวัดครับมันเลยอยู่คนเดียว เตียงที่เหลือเลยเป็นของผม
“พี่ที่ผมพูดน่ะ ผมพูดจริงนะ”
“พี่หลับแล้วหรอ?”
ผมนิ่งคิดไปสักพักก่อนจะค่อยพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยมั่นใจ
“ถ้าคนมันจะรักกัน ต่อให้ไปสุดขอบฟ้าก็จะหากันเจอเองแหละ”
ผมเงียบไปสักพักรอมันพูดตอบแต่มันก็ไม่ได้พูดอะไรผมเลยพูดต่อ
“มึงโตแล้วมึงคิดเองได้ใช่ไหม...” ผมหันไปมองหน้ามัน
“อ้าวไอ้สัสนี่หลับทิ้งกูอีก” = =
“เฮ้อ.. ฝันดีละกันไอ้เด็กบ้า”
ความคิดเห็น