คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : [บทที่ 1] สู้กับความทรงจำเก่า
แสงสว่างวาบที่ส่องเปลือกตาฉันทำให้ฉันพยายามที่จะลืมตาขึ้นมา แต่ก็หนักอึ้งชะมัด ราวกับคนป่วยที่นอนซึมอยู่บนเตียง
"องค์จักรพรรดินี!!!" เสียงใครบางคนตะโกนอยู่รอบข้างฉันซ้ายขวาเลย เสียงผู้หญิงที่มีเสียงสะอื้นด้วย... เท่าที่ฟังออกอ่ะนะ
"องค์จักรพรรดินีฟื้นแล้ว ขอบคุณพระเจ้า!!"
ไม่อ่ะ... จริง ๆ ต้องขอบคุณยมทูตที่ส่งฉันมาในร่างนี้ พระเจ้าน่ะมีหน้าที่พาวิญญาณไปสวรรค์ ไม่มีทางส่งกลับมามีชีวิตหรอกถ้าหากคน ๆ นั้นตายแล้วจริง ๆ
ฉันลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ ดวงตาฉันยังคงเบลออยู่ รู้สึกว่าร่างกายอ่อนล้าจนแทบขยับไม่ได้ ตรงข้ามกับวิญญาณของฉันที่ดีดเป็นม้า...
"เกิด... อะไรขึ้น..." ฉันถามออกไป ฉันมีแรงพูดออกมาแค่นั้น รู้สึกหงุดหงิดเหมือนกันนะที่ทำอะไรแทบไม่ได้
"พระองค์ ทรงได้ยินหม่อมฉันใช่หรือไม่เพคะ"
"อื้ม... ใครน่ะ..." เล่นบทสะลึมสะลือหลอกถามชื่อดีกว่า ตอนนี้ฉันอ่อนแอ คงไม่มีใครมองว่าผิดปกติหรอก
"ทรงมองเห็นหม่อมฉันหรือไม่เพคะ หม่อมฉันแรริตี้เองเพคะ" ผู้หญิงคนนี้พูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น และดูเหมือนจะพยายามกลั้นน้ำตาอย่างมาก
"ส่วนหม่อมฉันแอชลีย์เองเพคะ ทรงได้ยินหม่อมฉันหรือไม่" ส่วนผู้หญิงคนนี้นี่ร้องไห้เลยแฮะ ดูเหมือนจะดีใจมากที่ฉันตื่นขึ้นมา
ฉันเหรอ... ไม่สิ ไม่ใช่ ต้องบอกว่าพวกเธอดีใจที่จักรพรรดินีของพวกเธอนั้นฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ใช่ดีใจเพราะฉันฟื้นขึ้นมา
ฉันเริ่มมองเห็นชัดขึ้น และเห็นว่าผู้หญิงสองคนนี้นั่งคุกเข่าอยู่ข้างเตียงของฉันประกบซ้ายขวา น้ำตาอาบแก้ม...
จู่ ๆ ก็รู้สึกผิดแฮะ... พวกเธอไม่ได้รู้ว่าจักรพรรดินีของพวกเธอนั้นตายไปแล้ว ส่วนคนที่ฟื้นขึ้นมาน่ะ ไม่ใช่...
"องค์จักรพรรดินีเรย์ซาเรีย... กระหม่อมดีใจเป็นอย่างยิ่งที่พระองค์ฟื้นขึ้นมาพะย่ะค่ะ" เสียงของผู้ชายคนหนึ่งที่ยื่นอยู่ที่ปลายเท้าของฉัน แต่งตัวเหมือนหมอหรือบาทหลวงในนิยายพีเรียดตะวันตก
เรย์ซาเรีย... นั่นคือชื่อใหม่ของฉันสินะ ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องใช้ชีวิตนี้ให้ดีที่สุด ถึงแม้มันจะหมายถึงการหลอกลวงคนเหล่านี้ก็ตาม
"รู้สึกปวดท้องจัง... เกิดอะไรขึ้นกับ... ฉัน..." เสียงฉันเริ่มชัดขึ้น และฉันก็เริ่มรู้สึกว่าทำไมเสียงฉันมันฟังดูเพราะจัง...
เสียงที่เหมือนจะใสเหมือนหญิงสาวไร้เดียงสา ในขณะที่ก็มีความทุ้มลึกราวกับหญิงสาวลึกลับ และแฝงไปด้วยความหนักแน่นของ... จักรพรรดินี...
"พระองค์ถูกลอบวางยาพิษพะย่ะค่ะ แต่กระหม่อมได้ทำการใช้เวทย์มนตร์ล้างพิษให้พระองค์ได้ส่วนหนึ่ง กระหม่อมคาดว่าส่วนที่เหลือจะจางไปเอง และพระองค์จะกลับมาดีขึ้นพะย่ะค่ะ"
เวทย์มนตร์... โลกนี้มีเวทย์มนตร์ด้วยเหรอ น่าสนใจดีนี่... จะว่าไปก็ไม่น่าแปลกตั้งแต่ที่เจอยมทูตแล้วล่ะ ดูเหมือนทุกอย่างจะเริ่มเหมือนกับนิยายแฟนตาซีเข้าไปเรื่อย ๆ
"อื้ม... ขอบใจท่านมาก... ฉันจะดีขึ้น..." ฉันพูดขอบคุณด้วยรอยยิ้มจาง ๆ และน้ำเสียงอ่อนโยน พยายามทำให้เชื่อว่าฉันหมายความตามนั้นจริง ๆ
"เช่นนั้นกระหม่อมขอตัวไปแจ้งให้องค์จักรพรรดิซิโอนาลานทราบก่อนนะพะย่ะค่ะ หากมีอะไรผิดปกติได้โปรดเรียกกระหม่อมเถิด" หมอหลวงโค้งคำนับและเดินออกไปจากห้อง
จักรพรรดิซิโอนาลาน... น่าจะสามีฉันนะ เพราะฉันเป็นจักรพรรดินีนี่นา จะว่าไปก็แปลกที่ภรรยาตัวเองนอนป่วยจนเกือบตาย (ตายไปแล้วด้วย) อยู่ในห้องนอนแต่ตัวสามีเองไม่มาอยู่ดูใจ
ฉันพยายามลุกขึ้นนั่งโดยมีแอชลีย์และแรริตี้ช่วยพยุง ทั้งสองคนดูเหมือนจะดูแลฉันเป็นอย่างดีและอยู่ข้างฉันตลอดเวลา เรียกว่าเป็นนางกำนัลรึเปล่านะ
"หม่อมฉันกลัวว่าพระองค์จะไม่กลับมาแล้วเพคะ..." แรริตี้สะอื้นอีกแล้ว
"หม่อมฉันด้วยเพคะ ในตอนที่หมอหลวงบอกว่าพระองค์ถูกวางยาพิษด้วยพิษที่ร้ายแรงที่สุดในจักรวรรดิ หม่อมฉันรู้สึกเหมือนโลกของหม่อมฉันแทบจะพังทลายเลยล่ะเพคะ" แอชลีย์พูดพลางจับมือของฉันไปแนบกับแก้มตัวเอง หล่อนน่ารักนะแต่พูดเวอร์ไปหน่อย
"อย่างไรตอนนี้ฉันก็กลับมาแล้วล่ะค่ะ..." ฉันพูดเสียงอ่อนพร้อมกับยิ้มจาง ๆ ยังรู้สึกแสบท้องอยู่ คงเป็นเพราะพิษที่รับเข้าไป
ถึงจะรู้สึกผิดที่ต้องมาสวมร่างคนที่พวกเธอรัก แต่ตอนนี้ฉันอยากให้พวกเธอเชื่อ... เชื่อว่าฉันจะเป็นเรย์ซาเรียที่พวกเธอเคยรัก และรักต่อไปโดยมีฉัน โรส เป็นเรย์ซาเรียอีกคนต่อจากนี้ไป
"ฉันอยากอาบน้ำ..." ฉันพูดขึ้นมาพร้อมหัวเราะเบา ๆ พยายามเปลี่ยนบรรยากาศ
แต่จริง ๆ ก็อยากอาบน้ำจริง ๆ แหละ ความรู้สึกที่เลือดท่วมตัวจากที่ยิงตัวตายและตกจากดาดฟ้าของตึก 20 ชั้นยังคงหลอกหลอนฉันอยู่
"เช่นนั้นหม่อมฉันขอตัวไปเตรียมห้องอาบน้ำสักครู่นะเพคะ" แรริตี้พูดด้วยรอยยิ้ม หล่อนเช็ดน้ำตาและเดินไปในห้องอีกห้องหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนจะเป็นห้องน้ำ
ดูเหมือนการเปลี่ยนบรรยากาศของฉันจะได้ผลแฮะ แอชลีย์เองก็ดูจะหยุดร้องไห้แล้วและยิ้มให้ฉันอย่างน่ารักเลยล่ะ
จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาเมื่อมองเข้าไปในดวงตาของแอชลีย์ และภาพต่าง ๆ ก็ผุดขึ้นมาในหัวของฉัน... เหมือนกับว่ามันเป็นความทรงจำ ความทรงจำของเรย์ซาเรียคนเก่า... ความทรงจำที่เกี่ยวกับแอชลีย์...
ฉันหายปวดหัว... และฉันก็ได้รู้ว่าจริง ๆ แล้ว แอชลีย์เป็นน้องสาวบุญธรรมของเรย์ซาเรีย และในภาพความทรงจำดูเหมือนทั้งสองคนจะสนิทกันตั้งแต่เด็กและรักกันมาก ๆ ด้วย
โธ่... แบบนี้ก็ยิ่งรู้สึกผิดน่ะสิ ฉันจะเป็นพี่สาวให้แอชลีย์ได้จริง ๆ เหรอ ฉันไม่รู้เลย... ตอนนี้ฉันทำได้แค่มอบรอยยิ้มที่อบอุ่นและคุ้นเคยให้กับแอชลีย์เท่านั้น
"เตรียมห้องอาบน้ำเสร็จแล้วเพคะ องค์จักรพรรดินี" แรริตี้เดินกลับเข้ามาหลังจากผ่านไปประมาณ 10 นาที
ฉันปวดหัวจี๊ดอีกแล้ว... คราวนี้ภาพความทรงจำนั้นเกี่ยวกับแรริตี้... หล่อนเป็นเพื่อนสนิทของเรย์ซาเรียนี่เอง ดูเหมือนจะสนิทกันมากและรักกันมากด้วย...
ตอนนี้ฉันไม่แปลกใจแล้วล่ะว่าทำไมตอนที่ฟื้นขึ้นมา สองคนนี้ถึงร้องห่มร้องไห้ขนาดนั้น เพราะเรย์ซาเรียเป็นคนที่พวกเธอรักมาก ๆ นี่เอง
ทั้งสองสาวช่วยพยุงฉันเข้าไปในห้องอาบน้ำและพาฉันนั่งแช่ในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่... นี่มันสะดวกสบายมาก ๆ ถ้าไม่ติดว่าสภาพตอนนี้เกือบตายฉันคงวิ่งเล่นไปรอบ ๆ แล้วล่ะ
"ดีขึ้นมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ" ฉันพูดพร้อมกับรอยยิ้มในขณะที่ทั้งสองคนช่วยกันขัดถูร่างกายให้ฉัน รู้สึกสบายและผ่อนคลายมาก ๆ เลยล่ะ
"หม่อมฉันก็ดีใจที่พระองค์ดีขึ้นเพคะ" แอชลีย์พูดด้วยรอยยิ้มน่ารักของเธอ
ตอนนี้ความทรงจำต่าง ๆ ยังคงไหลเข้ามาในหัวฉันเรื่อย ๆ ฉันเลือกที่จะเก็บอาการปวดหัวไว้ไม่ให้พวกเธอรู้ ยังไงมันก็ไม่ได้ปวดหนักมาก
หลังจากที่แช่น้ำอย่างสบายกายและใจ ฉันรู้สึกว่าร่างกายกระปรี้กระเปร่าขึ้นเยอะ ฉันลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำและทั้งสองสาวก็เข้ามาแต่งตัวให้ฉัน
เอาจริง ๆ ฉันรู้สึกหงุดหงิดและรำคาญนิดหน่อยที่ต้องให้นางกำนัลทำให้แทบทุกอย่างแบบนี้ แต่ก็นะ... วิถีชีวิตของโลกนี้มันเป็นแบบนี้นี่ คนที่ต้องปรับตัวคือตัวฉันเอง
"ชุดนี้เป็นอย่างไรบ้างเพคะ องค์จักรพรรดินี" แอชลีย์ลากกระจกบานใหญ่มาให้ฉันส่อง กระจกบานใหญ่แบบใหญ่มาก ส่องได้ทั้งห้อง
ฉันได้เห็นหน้าตาและร่างกายนี้ครั้งแรก... เส้นผมสีขาวราวหิมะและน้ำแข็ง ดวงตาสีฟ้าเข้มเหมือนมหาสมุทร... เธอสวย... สวยมาก... เรย์ซาเรียนั้นงดงามมาก...
ทันใดนั้นอาการปวดหัวของฉันก็รุนแรงขึ้นอย่างฉับพลันเมื่อมองเข้าไปในตาของตัวเองผ่านกระจก ฉันล้มลงกับพื้นและกุมหัวตัวเอง คร่ำครวญออกมาอย่างเจ็บปวด
"องค์จักรพรรดินี!!! โปรดทำใจดีดีไว้นะเพคะ" แรริตี้พูดขึ้นมาเสียงดังพร้อมกับเข้ามาประคองฉัน
"ได้โปรดอย่าเป็นอะไรไปอีกนะเพคะ ได้โปรด..." แอชลีย์พูดเสียงสั่นและเข้ามาประคองฉันเช่นกัน
พวกเธอพาฉันกลับมานั่งบนเตียงเหมือนเดิม ฉันปวดหัวมากจนรู้สึกเหมือนหัวจะระเบิด ความทรงจำมากมายผุดเข้ามาในหัวของฉัน ไม่ใช่แค่ที่เกี่ยวกับใครคนหนึ่ง แต่เป็นความทรงจำทั้งหมดที่เรย์ซาเรียมีทั้งชีวิตก่อนที่จะตาย!!
ฉันพูดอะไรไม่ออก แทบไม่ได้ยินเสียงที่แอชลีย์กับแรริตี้พูดด้วยซ้ำ ความทรงจำมันถาโถมเข้ามาในหัวจนฉันไม่ได้ยินหรือเห็นอะไรรอบข้างเลย
ความเจ็บปวดเพียงชั่วครู่ แต่ยาวนานเหมือนเป็นชาติ ในที่สุดฉันก็เริ่มหายปวดหัว พร้อมกับความทรงจำที่เต็มหัวของฉันเลยล่ะ ตอนนี้รู้ทุกอย่างที่เคยเป็นมาเกี่ยวกับเรย์ซาเรียอย่างหมดจด
"ฉัน... ฉันดีขึ้นแล้วค่ะ พิษคงยังไม่หมดฤทธิ์ดี..." ฉันพูดโกหกด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้าอีกครั้ง จะให้บอกได้ไงว่าไฝว้กับความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมอยู่น่ะ
"ฮู่ว... หม่อมฉันคิดว่าพระองค์จะทรุดตัวอีกเพคะ" ทั้งสองสาวถอนหายใจพร้อมกันเลย ก่อนที่จะยิ้มให้ฉันอย่างอบอุ่น
หวังว่าความทรงจำพวกนี้จะช่วยให้ฉันใช้ชีวิตเป็นเรย์ซาเรียได้ดีขึ้นนะ
นอกจากนี้... ฉันมีความรู้สึกอีกอย่างหนึ่ง เหมือนมีบางอย่างกำลังไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือด น่าจะเป็นกระแสเวทย์มนตร์...
ถ้าตามที่คุณยมทูตบอก... ฉันมีจิตที่แรงกล้า ทั้งจิตวิญญาณ และจิตสังหาร... เขาบอกว่ามันจะเป็นประโยชน์กับตัวฉันเอง นั่นมันหมายถึงว่าฉันสามารถใช้เวทย์มนตร์ได้รึเปล่า...
... ช่างมัน เดี๋ยวค่อยคิด ตอนนี้เอาชีวิตให้รอดวันนี้ก่อน รู้สึกว่าอะไรก็ไม่รู้ถาโถมเหลือเกิน ยังดีที่ยังมีคนคอยดูแล อย่างน้อยก็ในฐานะจักรพรรดินีแหละ
ก๊อก ๆ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น แรริตี้เดินไปเปิดประตูและคุยกับคนด้านนอก ดูเหมือนว่าถ้าจะทำอะไรต้องทำผ่านนางกำนัลเกือบหมดเลยแฮะ... นี่คือสิ่งที่น่าหงุดหงิดที่สุดสำหรับฉันเลย
"องค์จักรพรรดินีเพคะ... องค์จักรพรรดิต้องการเข้าพบพระองค์..." แรริตี้พูด สีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไร
ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ จักรพรรดิมันเป็นยังไงทำไมถึงทำหน้าไม่อยากรับแขกขนาดนั้น... หรือว่ามีอะไรอย่างอื่นอีก... น่าสงสัยซะแล้วสิ...
"ให้เขาเข้ามาเถอะค่ะ" ฉันพูดพร้อมกับยิ้มจาง ๆ
จริง ๆ ก็อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะดูเหมือนในความทรงจำ... ทั้งเรย์ซาเรียและจักรพรรดิซิโอนาลานดูเหมือนจะไม่ได้เต็มใจที่จะแต่งงานกันด้วยนี่นะ แต่งงานทางการเมือง...
จักรพรรดิซิโอนาลานเดินเข้ามาในห้อง ทั้งแรริตี้และแอชลีย์ดูเหมือนจะประกบอยู่ข้างฉันไม่ห่างเลย
"จักรพรรดินี... เราดีใจมากที่เธอฟื้นกลับมา..."
.
.
.
[จบบทที่ 1 สู้กับความทรงจำเก่า]
ความคิดเห็น