ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จักรพรรดินีคนนี้มาพร้อมกับจิตสังหาร [แฟนตาซี &​ ต่างโลก]​

    ลำดับตอนที่ #2 : [บทที่ 1] สู้กับความทรงจำเก่า

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ย. 66


    แสงสว่างวาบที่ส่องเปลือกตาฉันทำให้ฉันพยายามที่จะลืมตาขึ้นมา แต่ก็หนักอึ้งชะมัด ราวกับคนป่วยที่นอนซึมอยู่บนเตียง

    "องค์จักรพรรดินี!!!"  เสียงใครบางคนตะโกนอยู่รอบข้างฉันซ้ายขวาเลย เสียงผู้หญิงที่มีเสียงสะอื้นด้วย... เท่าที่ฟังออกอ่ะนะ

    "องค์จักรพรรดินีฟื้นแล้ว ขอบคุณพระเจ้า!!" 

    ไม่อ่ะ... จริง ๆ ต้องขอบคุณยมทูตที่ส่งฉันมาในร่างนี้ พระเจ้าน่ะมีหน้าที่พาวิญญาณไปสวรรค์ ไม่มีทางส่งกลับมามีชีวิตหรอกถ้าหากคน ๆ นั้นตายแล้วจริง ๆ

    ฉันลืมตาขึ้นมาอย่างช้า ๆ ดวงตาฉันยังคงเบลออยู่ รู้สึกว่าร่างกายอ่อนล้าจนแทบขยับไม่ได้ ตรงข้ามกับวิญญาณของฉันที่ดีดเป็นม้า... 

    "เกิด... อะไรขึ้น..."  ฉันถามออกไป ฉันมีแรงพูดออกมาแค่นั้น รู้สึกหงุดหงิดเหมือนกันนะที่ทำอะไรแทบไม่ได้

    "พระองค์ ทรงได้ยินหม่อมฉันใช่หรือไม่เพคะ"

    "อื้ม... ใครน่ะ..."  เล่นบทสะลึมสะลือหลอกถามชื่อดีกว่า ตอนนี้ฉันอ่อนแอ คงไม่มีใครมองว่าผิดปกติหรอก

    "ทรงมองเห็นหม่อมฉันหรือไม่เพคะ หม่อมฉันแรริตี้เองเพคะ"  ผู้หญิงคนนี้พูดด้วยน้ำเสียงสะอื้น และดูเหมือนจะพยายามกลั้นน้ำตาอย่างมาก

    "ส่วนหม่อมฉันแอชลีย์เองเพคะ ทรงได้ยินหม่อมฉันหรือไม่"  ส่วนผู้หญิงคนนี้นี่ร้องไห้เลยแฮะ ดูเหมือนจะดีใจมากที่ฉันตื่นขึ้นมา

    ฉันเหรอ... ไม่สิ ไม่ใช่ ต้องบอกว่าพวกเธอดีใจที่จักรพรรดินีของพวกเธอนั้นฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ใช่ดีใจเพราะฉันฟื้นขึ้นมา

    ฉันเริ่มมองเห็นชัดขึ้น และเห็นว่าผู้หญิงสองคนนี้นั่งคุกเข่าอยู่ข้างเตียงของฉันประกบซ้ายขวา น้ำตาอาบแก้ม...

    จู่ ๆ ก็รู้สึกผิดแฮะ... พวกเธอไม่ได้รู้ว่าจักรพรรดินีของพวกเธอนั้นตายไปแล้ว ส่วนคนที่ฟื้นขึ้นมาน่ะ ไม่ใช่...

    "องค์จักรพรรดินีเรย์ซาเรีย... กระหม่อมดีใจเป็นอย่างยิ่งที่พระองค์ฟื้นขึ้นมาพะย่ะค่ะ"  เสียงของผู้ชายคนหนึ่งที่ยื่นอยู่ที่ปลายเท้าของฉัน แต่งตัวเหมือนหมอหรือบาทหลวงในนิยายพีเรียดตะวันตก

    เรย์ซาเรีย... นั่นคือชื่อใหม่ของฉันสินะ ไม่ว่ายังไงฉันก็ต้องใช้ชีวิตนี้ให้ดีที่สุด ถึงแม้มันจะหมายถึงการหลอกลวงคนเหล่านี้ก็ตาม

    "รู้สึกปวดท้องจัง... เกิดอะไรขึ้นกับ... ฉัน..."  เสียงฉันเริ่มชัดขึ้น และฉันก็เริ่มรู้สึกว่าทำไมเสียงฉันมันฟังดูเพราะจัง... 

    เสียงที่เหมือนจะใสเหมือนหญิงสาวไร้เดียงสา ในขณะที่ก็มีความทุ้มลึกราวกับหญิงสาวลึกลับ และแฝงไปด้วยความหนักแน่นของ... จักรพรรดินี...

    "พระองค์ถูกลอบวางยาพิษพะย่ะค่ะ แต่กระหม่อมได้ทำการใช้เวทย์มนตร์ล้างพิษให้พระองค์ได้ส่วนหนึ่ง กระหม่อมคาดว่าส่วนที่เหลือจะจางไปเอง และพระองค์จะกลับมาดีขึ้นพะย่ะค่ะ" 

    เวทย์มนตร์... โลกนี้มีเวทย์มนตร์ด้วยเหรอ น่าสนใจดีนี่... จะว่าไปก็ไม่น่าแปลกตั้งแต่ที่เจอยมทูตแล้วล่ะ ดูเหมือนทุกอย่างจะเริ่มเหมือนกับนิยายแฟนตาซีเข้าไปเรื่อย ๆ

    "อื้ม... ขอบใจท่านมาก... ฉันจะดีขึ้น..."  ฉันพูดขอบคุณด้วยรอยยิ้มจาง ๆ และน้ำเสียงอ่อนโยน พยายามทำให้เชื่อว่าฉันหมายความตามนั้นจริง ๆ

    "เช่นนั้นกระหม่อมขอตัวไปแจ้งให้องค์จักรพรรดิซิโอนาลานทราบก่อนนะพะย่ะค่ะ หากมีอะไรผิดปกติได้โปรดเรียกกระหม่อมเถิด"  หมอหลวงโค้งคำนับและเดินออกไปจากห้อง

    จักรพรรดิซิโอนาลาน... น่าจะสามีฉันนะ เพราะฉันเป็นจักรพรรดินีนี่นา จะว่าไปก็แปลกที่ภรรยาตัวเองนอนป่วยจนเกือบตาย (ตายไปแล้วด้วย) อยู่ในห้องนอนแต่ตัวสามีเองไม่มาอยู่ดูใจ

    ฉันพยายามลุกขึ้นนั่งโดยมีแอชลีย์และแรริตี้ช่วยพยุง ทั้งสองคนดูเหมือนจะดูแลฉันเป็นอย่างดีและอยู่ข้างฉันตลอดเวลา เรียกว่าเป็นนางกำนัลรึเปล่านะ

    "หม่อมฉันกลัวว่าพระองค์จะไม่กลับมาแล้วเพคะ..."  แรริตี้สะอื้นอีกแล้ว

    "หม่อมฉันด้วยเพคะ ในตอนที่หมอหลวงบอกว่าพระองค์ถูกวางยาพิษด้วยพิษที่ร้ายแรงที่สุดในจักรวรรดิ หม่อมฉันรู้สึกเหมือนโลกของหม่อมฉันแทบจะพังทลายเลยล่ะเพคะ"  แอชลีย์พูดพลางจับมือของฉันไปแนบกับแก้มตัวเอง หล่อนน่ารักนะแต่พูดเวอร์ไปหน่อย

    "อย่างไรตอนนี้ฉันก็กลับมาแล้วล่ะค่ะ..."  ฉันพูดเสียงอ่อนพร้อมกับยิ้มจาง ๆ ยังรู้สึกแสบท้องอยู่ คงเป็นเพราะพิษที่รับเข้าไป

    ถึงจะรู้สึกผิดที่ต้องมาสวมร่างคนที่พวกเธอรัก แต่ตอนนี้ฉันอยากให้พวกเธอเชื่อ... เชื่อว่าฉันจะเป็นเรย์ซาเรียที่พวกเธอเคยรัก และรักต่อไปโดยมีฉัน โรส เป็นเรย์ซาเรียอีกคนต่อจากนี้ไป

    "ฉันอยากอาบน้ำ..."  ฉันพูดขึ้นมาพร้อมหัวเราะเบา ๆ พยายามเปลี่ยนบรรยากาศ

    แต่จริง ๆ ก็อยากอาบน้ำจริง ๆ แหละ ความรู้สึกที่เลือดท่วมตัวจากที่ยิงตัวตายและตกจากดาดฟ้าของตึก 20 ชั้นยังคงหลอกหลอนฉันอยู่

    "เช่นนั้นหม่อมฉันขอตัวไปเตรียมห้องอาบน้ำสักครู่นะเพคะ"  แรริตี้พูดด้วยรอยยิ้ม หล่อนเช็ดน้ำตาและเดินไปในห้องอีกห้องหนึ่ง ซึ่งดูเหมือนจะเป็นห้องน้ำ

    ดูเหมือนการเปลี่ยนบรรยากาศของฉันจะได้ผลแฮะ แอชลีย์เองก็ดูจะหยุดร้องไห้แล้วและยิ้มให้ฉันอย่างน่ารักเลยล่ะ

    จู่ ๆ ฉันก็รู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นมาเมื่อมองเข้าไปในดวงตาของแอชลีย์ และภาพต่าง ๆ ก็ผุดขึ้นมาในหัวของฉัน... เหมือนกับว่ามันเป็นความทรงจำ ความทรงจำของเรย์ซาเรียคนเก่า... ความทรงจำที่เกี่ยวกับแอชลีย์...

    ฉันหายปวดหัว... และฉันก็ได้รู้ว่าจริง ๆ แล้ว แอชลีย์เป็นน้องสาวบุญธรรมของเรย์ซาเรีย และในภาพความทรงจำดูเหมือนทั้งสองคนจะสนิทกันตั้งแต่เด็กและรักกันมาก ๆ ด้วย

    โธ่... แบบนี้ก็ยิ่งรู้สึกผิดน่ะสิ ฉันจะเป็นพี่สาวให้แอชลีย์ได้จริง ๆ เหรอ ฉันไม่รู้เลย... ตอนนี้ฉันทำได้แค่มอบรอยยิ้มที่อบอุ่นและคุ้นเคยให้กับแอชลีย์เท่านั้น

    "เตรียมห้องอาบน้ำเสร็จแล้วเพคะ องค์จักรพรรดินี"  แรริตี้เดินกลับเข้ามาหลังจากผ่านไปประมาณ 10 นาที

    ฉันปวดหัวจี๊ดอีกแล้ว... คราวนี้ภาพความทรงจำนั้นเกี่ยวกับแรริตี้... หล่อนเป็นเพื่อนสนิทของเรย์ซาเรียนี่เอง ดูเหมือนจะสนิทกันมากและรักกันมากด้วย...

    ตอนนี้ฉันไม่แปลกใจแล้วล่ะว่าทำไมตอนที่ฟื้นขึ้นมา สองคนนี้ถึงร้องห่มร้องไห้ขนาดนั้น เพราะเรย์ซาเรียเป็นคนที่พวกเธอรักมาก ๆ นี่เอง

    ทั้งสองสาวช่วยพยุงฉันเข้าไปในห้องอาบน้ำและพาฉันนั่งแช่ในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่... นี่มันสะดวกสบายมาก ๆ ถ้าไม่ติดว่าสภาพตอนนี้เกือบตายฉันคงวิ่งเล่นไปรอบ ๆ แล้วล่ะ

    "ดีขึ้นมากเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ"  ฉันพูดพร้อมกับรอยยิ้มในขณะที่ทั้งสองคนช่วยกันขัดถูร่างกายให้ฉัน รู้สึกสบายและผ่อนคลายมาก ๆ เลยล่ะ

    "หม่อมฉันก็ดีใจที่พระองค์ดีขึ้นเพคะ"  แอชลีย์พูดด้วยรอยยิ้มน่ารักของเธอ

    ตอนนี้ความทรงจำต่าง ๆ ยังคงไหลเข้ามาในหัวฉันเรื่อย ๆ ฉันเลือกที่จะเก็บอาการปวดหัวไว้ไม่ให้พวกเธอรู้ ยังไงมันก็ไม่ได้ปวดหนักมาก

    หลังจากที่แช่น้ำอย่างสบายกายและใจ ฉันรู้สึกว่าร่างกายกระปรี้กระเปร่าขึ้นเยอะ ฉันลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำและทั้งสองสาวก็เข้ามาแต่งตัวให้ฉัน

    เอาจริง ๆ ฉันรู้สึกหงุดหงิดและรำคาญนิดหน่อยที่ต้องให้นางกำนัลทำให้แทบทุกอย่างแบบนี้ แต่ก็นะ... วิถีชีวิตของโลกนี้มันเป็นแบบนี้นี่ คนที่ต้องปรับตัวคือตัวฉันเอง

    "ชุดนี้เป็นอย่างไรบ้างเพคะ องค์จักรพรรดินี"  แอชลีย์ลากกระจกบานใหญ่มาให้ฉันส่อง กระจกบานใหญ่แบบใหญ่มาก ส่องได้ทั้งห้อง

    ฉันได้เห็นหน้าตาและร่างกายนี้ครั้งแรก... เส้นผมสีขาวราวหิมะและน้ำแข็ง ดวงตาสีฟ้าเข้มเหมือนมหาสมุทร... เธอสวย... สวยมาก... เรย์ซาเรียนั้นงดงามมาก...

    ทันใดนั้นอาการปวดหัวของฉันก็รุนแรงขึ้นอย่างฉับพลันเมื่อมองเข้าไปในตาของตัวเองผ่านกระจก ฉันล้มลงกับพื้นและกุมหัวตัวเอง คร่ำครวญออกมาอย่างเจ็บปวด

    "องค์จักรพรรดินี!!! โปรดทำใจดีดีไว้นะเพคะ"  แรริตี้พูดขึ้นมาเสียงดังพร้อมกับเข้ามาประคองฉัน

    "ได้โปรดอย่าเป็นอะไรไปอีกนะเพคะ ได้โปรด..."  แอชลีย์พูดเสียงสั่นและเข้ามาประคองฉันเช่นกัน

    พวกเธอพาฉันกลับมานั่งบนเตียงเหมือนเดิม ฉันปวดหัวมากจนรู้สึกเหมือนหัวจะระเบิด ความทรงจำมากมายผุดเข้ามาในหัวของฉัน ไม่ใช่แค่ที่เกี่ยวกับใครคนหนึ่ง แต่เป็นความทรงจำทั้งหมดที่เรย์ซาเรียมีทั้งชีวิตก่อนที่จะตาย!!

    ฉันพูดอะไรไม่ออก แทบไม่ได้ยินเสียงที่แอชลีย์กับแรริตี้พูดด้วยซ้ำ ความทรงจำมันถาโถมเข้ามาในหัวจนฉันไม่ได้ยินหรือเห็นอะไรรอบข้างเลย

    ความเจ็บปวดเพียงชั่วครู่ แต่ยาวนานเหมือนเป็นชาติ ในที่สุดฉันก็เริ่มหายปวดหัว พร้อมกับความทรงจำที่เต็มหัวของฉันเลยล่ะ ตอนนี้รู้ทุกอย่างที่เคยเป็นมาเกี่ยวกับเรย์ซาเรียอย่างหมดจด

    "ฉัน... ฉันดีขึ้นแล้วค่ะ พิษคงยังไม่หมดฤทธิ์ดี..."  ฉันพูดโกหกด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้าอีกครั้ง จะให้บอกได้ไงว่าไฝว้กับความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมอยู่น่ะ

    "ฮู่ว... หม่อมฉันคิดว่าพระองค์จะทรุดตัวอีกเพคะ"  ทั้งสองสาวถอนหายใจพร้อมกันเลย ก่อนที่จะยิ้มให้ฉันอย่างอบอุ่น

    หวังว่าความทรงจำพวกนี้จะช่วยให้ฉันใช้ชีวิตเป็นเรย์ซาเรียได้ดีขึ้นนะ

    นอกจากนี้... ฉันมีความรู้สึกอีกอย่างหนึ่ง เหมือนมีบางอย่างกำลังไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือด น่าจะเป็นกระแสเวทย์มนตร์...

    ถ้าตามที่คุณยมทูตบอก... ฉันมีจิตที่แรงกล้า ทั้งจิตวิญญาณ และจิตสังหาร... เขาบอกว่ามันจะเป็นประโยชน์กับตัวฉันเอง นั่นมันหมายถึงว่าฉันสามารถใช้เวทย์มนตร์ได้รึเปล่า...

    ... ช่างมัน เดี๋ยวค่อยคิด ตอนนี้เอาชีวิตให้รอดวันนี้ก่อน รู้สึกว่าอะไรก็ไม่รู้ถาโถมเหลือเกิน ยังดีที่ยังมีคนคอยดูแล อย่างน้อยก็ในฐานะจักรพรรดินีแหละ

    ก๊อก ๆ เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น แรริตี้เดินไปเปิดประตูและคุยกับคนด้านนอก ดูเหมือนว่าถ้าจะทำอะไรต้องทำผ่านนางกำนัลเกือบหมดเลยแฮะ... นี่คือสิ่งที่น่าหงุดหงิดที่สุดสำหรับฉันเลย

    "องค์จักรพรรดินีเพคะ... องค์จักรพรรดิต้องการเข้าพบพระองค์..."  แรริตี้พูด สีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไร

    ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ จักรพรรดิมันเป็นยังไงทำไมถึงทำหน้าไม่อยากรับแขกขนาดนั้น... หรือว่ามีอะไรอย่างอื่นอีก... น่าสงสัยซะแล้วสิ...

    "ให้เขาเข้ามาเถอะค่ะ"  ฉันพูดพร้อมกับยิ้มจาง ๆ

    จริง ๆ ก็อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะดูเหมือนในความทรงจำ... ทั้งเรย์ซาเรียและจักรพรรดิซิโอนาลานดูเหมือนจะไม่ได้เต็มใจที่จะแต่งงานกันด้วยนี่นะ แต่งงานทางการเมือง...

    จักรพรรดิซิโอนาลานเดินเข้ามาในห้อง ทั้งแรริตี้และแอชลีย์ดูเหมือนจะประกบอยู่ข้างฉันไม่ห่างเลย

    "จักรพรรดินี... เราดีใจมากที่เธอฟื้นกลับมา..."

    .

    .

    .

    [จบบทที่ 1 สู้กับความทรงจำเก่า]

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×