ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จักรพรรดินีคนนี้มาพร้อมกับจิตสังหาร [แฟนตาซี &​ ต่างโลก]​

    ลำดับตอนที่ #1 : [อารัมภบท] การตาย... และโอกาสในการมีชีวิต...

    • อัปเดตล่าสุด 29 ก.ย. 66


    ให้ตายสิ... 

    ถามว่าหมายถึงอะไรเหรอ?? ก็หมายถึงฉันที่กำลังวิ่งหนีกองกำลังตำรวจและทหารที่กำลังวิ่งไล่จับฉันอยู่ไงล่ะ!! 

    ถามว่าตามจับทำไม?? ก็นะ... ฉันเป็นมือสังหารที่มีค่าหัวมากกว่า 100 ล้านบาท... แต่ว่าปกติฉันไม่เคยพลาดหรอกนะ

    ถ้าไม่ใช้เพราะเขา... คนที่ฉันรัก... เป็นตำรวจปลอมตัวมาเพื่อทำให้ฉันตายใจและยอมสารภาพให้เขาฟัง... ก็เลยมาจบที่วิ่งหนีอยู่นี่ไง

    จะว่าไปไอ้ตึกบ้านี่มันมีกี่ชั้น ฉันวิ่งขึ้นบันไดมาโดยไม่รู้เลยว่าผ่านไปกี่ชั้น สัณชาตญาณการเอาตัวรอดของฉันมันไม่ยอมให้ฉันเหนื่อยและยอมโดนจับ มันบังคับให้ฉันวิ่งหนี

    ... เพราะถึงถูกจับได้ ฉันก็ต้องตายเพราะโดนประหารอยู่ดี... 

    "ไอ้บ้าเอ๊ย... ดาดฟ้าเหรอ!!"  ฉันสบถออกมาพร้อมกับเบิกตากว้างเมื่อวิ่งออกมาจากประตูดาดฟ้า

    โครตซวย วันนี้เป็นวันซวยของฉัน วันซวยที่หมายถึงว่าฉันต้องทิ้งชีวิตตัวเองไป ให้ตายสิ ทางเลือกฉันมีแต่ตายกับตายหรือนี่

    "โรส!!!"  เสียงที่คุ้นเคยสุด ๆ คุณตำรวจที่ปลอมเป็นคนรักของฉันตะโกนเรียกมาจากด้านหลัง  "ได้โปรด... มอบตัวเถอะ เราช่วยกันหาทางออกได้"

    "หุบปาก ไอ้คนทรยศ"  ฉันพูดด้วยความหงุดหงิด แต่ก็รู้สึกว่าเสียงของตัวเองสั่นราวกับจะร้องไห้

    "ผมขอโทษ... แต่ผมอยากให้คุณมอบตัว... ผมอยากให้คุณได้ใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาทั่วไป ผมอยากให้เราได้รักกันแบบที่ไม่มีมลทินอะไรมารั้งเราไว้"

    ดูเขาพูดสิ โรแมนติกซะไม่มี... เกือบจะเชื่อแล้วนะเนี่ย

    "ไม่หรอกที่รัก... คุณรู้อยู่แก่ใจว่ายังไงฉันก็โดนประหาร อย่ามาพูดเลยว่าเรารักกัน เพราะคุณไม่เคยรักฉันเลย"  ฉันพูดเสียงสั่น คงเป็นเพราะรู้สึกเจ็บใจที่โดนหลอกแถมโดนไล่ต้อนจนจนมุม

    "ผมรักคุณ... ได้โปรดเถอะ โรส"  เขาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้

    แหม... เขาคิดว่าฉันจะหลงกลเขาอีกครั้งด้วยคำว่ารักงั้นสิ... น่าขำนะที่คนที่ใส่หน้ากากใส่ฉันมาตลอดมาร้องไห้ให้ฉันตอนนี้ น้ำตานั่นออกมาจากหน้ากากอันไหนล่ะ

    ฉันเดินถอยหลังออกมาเมื่อเห็นกองกำลังตำรวจด้านหลังของเขา ถอยมาเรื่อย ๆ และพบว่าไม่มีที่ให้ถอยแล้ว

    ฉันเหลือบมองลงไปด้านล่าง... โอ้มายก็อด... นี่ฉันวิ่งขึ้นบันไดตึก 20 ชั้นมาบนดาดฟ้า ฉันเอาแรงวิ่งมาจากไหน

    "โรส ระวัง! คุณจะฆ่าตัวตายเหรอ"  เขาพูดอีกครั้งพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ฉัน ทำท่าทางเตรียมชาร์จ

    ฆ่าตัวตาย... ฉันไม่ได้อยากตาย แต่ก็ไม่อยากโดนจับ ทุกทางมีค่าเท่ากัน และถ้าฉันต้องเลือก... 

    "ฆ่าตัวตาย... ก็น่าสนใจดีนะ ที่รักว่ามั๊ย"  ฉันพูดพร้อมกับยิ้มหวานให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย

    ฉันยกปืนฉันขึ้นมาจ่อที่ใต้กรามด้านขวา เท้าของฉันอยู่หมิ่นเหม่กับขอบตึก หรือก็คือ ฉันยิงตัวตายและตกลงไปด้านล่างของตึก 20 ชั้น... 

    .

    .

    .

    ทุกอย่างมืดสนิท ฉันมองไม่เห็นอะไรเลย มองเห็นแค่ร่างกายของฉันเองที่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดจากการยิงและตกลงด้านล่างจนร่างกายแหลกสลาย

    "ที่นี่ที่ไหนเนี่ย..."  ฉันพูดอยู่คนเดียวในสถานที่ที่มืดมิดนี้ มันว่างเปล่าแต่น่ากลัวอย่างประหลาด

    ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแต่ละก้าวที่ฉันก้าวไปข้างหน้า ฉันจะเจอกับอะไร หรือจะตกลงไปข้างล่างรึเปล่า เพราะที่นี่มันมืดมิดสนิท

    ฉันก้าวต่อไปโดยไม่รู้จุดหมาย น่าแปลกที่ฉันไม่รู้สึกเจ็บเลยทั้ง ๆ ที่เลือดและบาดแผลเต็มตัว แต่เลือดก็ไม่ได้แห้งนะ มันก็ยังคงไหลออกมา

    "เจ้า... มนุษย์ผู้บาปหนา..."  เสียงทุ้มลึกของใครก็ไม่รู้ที่จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวต่อหน้าฉัน

    "ว้าย! อะไรเนี่ย!"

    ฉันตกใจ... แหงล่ะ จู่ ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นมาไม่มีปี่มีขลุ่ย แถมในที่มืด ๆ แบบนี้ คน ๆ นี้ก็ยังใส่ชุดคลุมสีดำอีก... เป็นยมทูตรึไง

    "นายเป็นยมทูตเหรอ"  ฉันเอียงคอถาม ฉันไม่กลัวเลยแม้แต่น้อย ถึงจะเสียดายอยู่บ้างที่ต้องตาย

    "ถูกแล้ว... ข้าคือยมทูตผู้ดูแลเจ้า"  เสียงทุ้มลึกนั่นตอบอย่างเย็นเฉียบ

    "ดูแล?? หมายความว่าไง พาฉันไปลงกระทะทองแดง หรือว่าพาไปปีนต้นงิ้วล่ะ"

    ปากดีสุด ๆ ไปเลยตัวฉันเอง พูดกับยมทูตได้อย่างกวนส้นเท้ามาก ๆ

    "เปล่า... การตายของเจ้าไม่ปกติ..." 

    "ห้ะ... ไม่ปกติ??"

    "การตายของเจ้านั้นคาบเกี่ยวกับการตายของใครอีกคนหนึ่ง..." 

    "ขอคำอธิบายแบบสั้น ๆ ง่าย ๆ ได้ใจความ"

    "เกิดการทับกันของช่วงเวลาของเจ้ากับคน ๆ นั้น และก่อให้เกิดโอกาสในการมีชีวิต..." 

    "โอ้โหสั้นมาก (ประชด) ฉันเข้าใจมากเลยมั้งคุณยมทูต"

    "เจ้าอยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือไม่..."

    ... ห้ะ แต่ฉันตายแล้ว หรือว่าโอกาสในการมีชีวิตนั่นจะเป็นของฉัน??

    "แน่นอนสิ ฉันไม่ได้อยากตายอยู่แล้ว แค่ เอ่อ... ใช้ชีวิตผิดไปนิดหน่อย"

    "ข้าจะมอบโอกาสในการมีชีวิตอีกครั้งแก่เจ้า ทว่าเจ้าจะกลายเป็นอีกคนแทน..."

    "หมายความว่าไง?? กลายเป็นอีกคนแทน... สวมร่างเหรอ??" 

    "เจ้าฉลาดกว่าที่ข้าคิดนะ เจ้ามนุษย์ผู้ใช้ชีวิตผิดพลาด..."

    "เอ่อ... ขอโทษนะ นั่นชมหรือด่า แต่ยังไงก็เถอะ สวมร่างงั้นเหรอ ร่างใคร??"

    "ชม... อย่างที่ข้าบอกเจ้าไปก่อนหน้านี้ การตายของเจ้าคาบเกี่ยวกับกับใครอีกคนหนึ่ง นางตายพร้อมกันกับเจ้า..."

    "นาง... นางเป็นใครล่ะนั่น"

    "เจ้าจะขัดข้าทุกประโยคเลยรึไง"

    "ก็นายพูดช้าอ่ะ ฉันสงสัยนี่ คนสงสัยก็ต้องถามสิ จะให้... อุ๊บ..."

    จู่ ๆ ฉันโดนอะไรบางอย่างปิดปากไว้ ดูเหมือนยมทูตจะเริ่มรำคาญฉัน... แต่ฉันรู้สึกสะใจแปลก ๆ ที่ฉันเพิ่งกวนประสาทยมทูตได้

    "คนอย่างเจ้าสมควรโดนเย็บปากเสียจริง... แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่ดีในชีวิตใหม่ของเจ้า..."  คุณยมทูตนั้นถอนหายใจออกมาและพูดต่อ น่าแปลกที่ฉันคิดว่ามันตลก สงสัยฉันคงบาปหนาจริงๆ

    "นางเป็นจักรพรรดินีแห่งอาณาจักรเทอราซินเทีย นางถูกปลงพระชนม์ด้วยการวางยาพิษ... วิญญาณของนางเดินไปยังเส้นทางแห่งความตายอันเป็นนิรันดร์แล้ว เหลือแต่เจ้าที่ดื้อดึงที่จะมีชีวิตรอดและเดินเตร็ดเตร่อยู่ที่นี่..."

    ทำไมยิ่งฟังแล้วยิ่งงงล่ะเนี่ย แล้วการดิ้นรนที่จะมีชีวิตรอดมันผิดตรงไหน มันเป็นสัณชาตญาณการเอาตัวรอดของสิ่งมีชีวิตนะ

    "กับสิ่งมีชีวิตที่พรากชีวิตของคนอื่นไปเช่นเจ้ารู้จักถึงคำว่าการดิ้นรนเอาชีวิตรอดด้วยงั้นหรือ"

    ห้ะ... เดี๋ยวนะ ได้ยินความคิดฉันด้วยเหรอ คุณยมทูตนี่ร้ายกาจชะมัด

    "เจ้านี่บาปหนาเสียจริง..."

    ขอโทษได้มั๊ยล่ะ...

    "ช่างเถอะ... เจ้าจะได้สวมร่างของนาง หากเจ้าต้องการที่จะมีชีวิตต่อจริง ๆ"

    แน่นอนสิ ฉันเพิ่งบอกไปนี่... แล้วชีวิตนั้นเป็นยังไงบ้างอ่ะ

    "นี่เจ้าใช้ความคิดคุยกับข้ารึ แค่ปิดปากเจ้าคงไม่พองั้นสินะ" 

    ก็บอกเองไม่ใช่เรอะว่าได้ยินความคิดฉันน่ะ ฉันก็ต้องคุยสิ ฉันผิดอะไรล่ะ

    "เฮ้อ... แค่ใช้ชีวิตให้คุ้มที่สุดตามที่เจ้าต้องการ นี่เป็นโอกาสที่ข้าให้เจ้า" 

    "แค่นั้น ไม่มีอะไรแอบแฝงใช่มะ ไม่ได้หลอกใช้ฉันอยู่ใช่ป่ะ"  ในที่สุดฉันก็พูดได้ ไม่รู้ว่าคุณยมทูตปล่อยฉันหรือเพราะจิตของฉันแรงกล้าจนหลุดออกมาได้

    "เจ้า... มีจิตวิญญาณและจิตสังหารที่แรงกล้า... เจ้าใช้ประโยชน์จากมันได้..."

    "จิตสังหาร?? ผลพวงจากการเป็นมือสังหารของฉันเหรอ แต่ตอนนี้มันมีประโยชน์ด้วยงั้นเหรอ ยังไงฉันก็ตายแล้ว..."

    "หึ ๆ ... แล้วเจ้าจะได้รู้..."  คุณยมทูตหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์ แต่ไม่มีความน่ากลัวแฝงเลย

    "แล้ว... ฉันต้องทำยังไงล่ะ หรือนายจะส่งฉันไปเหรอ"  ฉันยักไหล่และเอียงคอมองเขา ฉันไม่รู้หรอกว่าชีวิตใหม่ของฉันจะเป็นยังไง แต่ฉันยังไม่อยากตาย

    จู่ ๆ คุณยมทูตก็วางมือที่ไหล่ของฉัน มือที่เย็นเฉียบราวกับติดลบเป็นสิบ ๆ องศา แล้วเขาก็ผลักฉันล้มลง ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดสนิทอีกครั้ง

    "ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี่... ที่ช่องว่างแห่งความตาย... กลับมาหากเจ้าตายแล้ว..."  นั่นคือเสียงสุดท้ายที่ฉันได้ยิน... 

    .

    .

    .

    [จบอารัมภบท การตาย... และโอกาสในการมีชีวิต]

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×