ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นางมารร้ายงั้นหรอ (Markbam)

    ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่ 4 ผู้มีพระคุณ

    • อัปเดตล่าสุด 20 ก.พ. 65


     

    ตอนที่ 4 ผู้มีพระคุณ

     

     

     

    ณ  โรงเตี๊ยมต้าเฉียง

     

    เสียงเจี๊ยวจ้าวดังภายในโรงเตี๊ยมต้าเฉียงทำให้เห็นว่ามีผู้คนมากมายที่เข้ามาใช้บริการ การสนทนาต่างๆของผู้คนต่างแย่งกันพูดไปมาอย่างไม่หยุดหย่อน เว้นเสียแต่โต๊ะของหรงไจ้ที่ต่างคนต่างนิ่งไม่มีใครอยากที่จะเอ่ยเสียงออกมา หญิงสาวในวัยสิบเจ็ดปีก็เอาแต่นั่งก้มหน้าก้มตาอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อยเมื่อมีสายตาคาดโทษของพี่ชายที่ส่งมาให้ตนเอง

     

    “  ……..   ”

     

    “ ท่านพี่เจ้าคะ….  ”

     

    หรงไจ้ที่เห็นว่าบรรยากาศมันเริ่มไม่ดีต่างคนต่างไม่เอ่ยสิ่งใดออกมาถึงในใจนางไม่อยากจะเอ่ยแต่เรื่องนี้นางผิดเต็มๆอึกอักอยู่พักใหญ่ก่อนจะรวบรวมความกล้าเปล่งเสียงออกมาแต่ไร้เสียงตอบรับจากพี่ชาย

     

    “ ท่านพี่เจ้าคะ… น้องผิดไปแล้วเจ้าค่ะ   ”

     

    จากที่รวบรวมความฮึดกล้าเมื่อซักครู่มันกลับหายไปดั่งสายลมพัดเมื่อคนเป็นพี่อย่างอี้เอินไร้เสียงตอบรับจนนางต้องงัดเหตุผลต่างๆนาๆออกมาหวังว่าความผิดของนางจะบางเบาลงไปบ้าง

     

    “  ท่านพี่ดูสิเจ้าคะ น้องไม่ได้เป็นอะไรเสียหน่อย    ”

     

    “ ……… ”

     

    “ ท่านพี่อย่าเงียบเช่นนี้สิเจ้าคะ น้องสำนึกผิดแล้วเจ้าค่ะ T-T  ”

     

    “ พี่บอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรือหรงไจ้ หากจะไปที่ใดต้องเอานางกำนัลและทหารไปด้วย หากเกิดอะไรขึ้นพี่จะไปบอกเสด็จพ่อเสด็จแม่อย่างไร ไยไม่เชื่อฟังพี่  ” 

     

    ร่างสูงโปร่งของอี้เอินตวัดสายตานิ่งส่งมาทางหรงไจ้อย่างตำหนิ ทำเอานางกำนัลและทหารที่ติดตามมาถึงกับขนลุกขนพองไปตามๆกัน ถึงแม้เจ้าชายอี้เอินจะมีหน้าตาที่งดงามดุจดั่งมังกรมีดวงตาคมเฉี่ยวดุงเหยี่ยว ปากกระจับสวยได้รูป ผิวที่โดดเด่นอย่างสีน้ำผึ้ง ไหนจะรูปร่างที่สูงโปร่งไหล่กว้างได้รูปน่าเอียงซบนั่นอีก รวมๆแล้วเจ้าชายอี้เอินแห่งอาณาจักรต้วน นั้นมีเสน่ห์ไม่น้อย ทั่งความสามารถยังเป็นที่เลื่องลือไปทั่วอาณาจักร ต่างเป็นบุรุษในฝันของเหล่าสตรีรวมไปถึงเจ้าหญิงต่างอาณาจักรที่หมายจะครอบครองหัวใจของอี้เอิน

     

    “  ระหว่างที่น้องเดินชมตลาด ผู้คนมากมายต่างเดินขวักไขว่กันจนน้อง… พลัดหลงกับพวกเขาเจ้าค่ะ  ”

     

    “ เฮ้อ ไยต้องทำให้พี่เป็นห่วงด้วยหรงเอ๋อร์   ”

     

    “  งื้อออ ท่านพี่หายโกรธน้องแล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ   ”

    หรงไจ้เอ่ยน้ำเสียงออดอ้อนอย่างน่าเอ็นดู นางเบาใจลงเมื่อผู้เป็นพี่กลับมาใช้สรรพนามเรียกนางจากหรงไจ้เป็นหรงเอ๋อร์เช่นเดิมก่อนริมฝีปากแดงพอดียกยิ้มกว้างออกมา

     

    “  ไหนลองเล่าให้พี่ฟังซิ ไยถึงโดนฉุดตะกล้าได้   ”

     

    สิ้นเสียงของอี้เอินหรงไจ้ก็รีบเล่าตั้งแต่เดินออกไปจากโรงเตี๊ยมพร้อมกับพวกที่ติดตามนางไปเสียงหวานพูดเจี๊ยวจ้าวไปมาอย่างเด็กเก็บกดไหนจะทำท่าประกอบนั่นอีกทำเอามุมปากของอี้เอินยกยิ้มออกมาอย่างเอ็นดู นางเล่าจนมาถึงผู้มีพระคุณที่ช่วยนางไว้ด้วยสีหน้าเทิดทูลอย่างเห็นได้ชัดทำเอาหางคิ้วอี้เอินกระตุกเลยทีเดียว ในใจพลางคิดว่าบุรุษผู้นั้นมีจุดประสงค์อะไร หรือจริงๆแล้วอาจจะเป็นแผนของผู้มีพระคุณตนนั้น

     

    “  ผู้มีพระคุณอย่างนั้นหรือ   ”

     

    “  เจ้าค่ะ ผู้มีพระคุณของน้องเอง เขาชั่ง…..    ” หรงไจ้ยกยิ้มก่อนจะเอ่ยต่อ“  งดงามมากเลยเจ้าค่ะ   ”

     

    “ งดงามงั้นหรือ…  ” เขาคิ้วกระตุกทันทีไหนจะสีหน้าของน้องสาวที่ยิ้มแย้มออกมาเมื่อพูดถึงบุรุษผู้นั้น

     

    “  เจ้าค่ะ งดงาม  ”

     

    “ เขาผู้นั้นมีนามว่าอะไรหรือ…   ” เขากัดกรามแน่นแล้วถามออกไป

     

    “ ผู้มีพระคุณของน้องมีนามว่า ปันปัน เจ้าค่ะ   ”

     

    เขาพยักตอบหรงไจ้ ตอนนี้เขารู้สึกไม่ชอบปันปันผู้นีี้หลือเกิน ไหนจะคำว่าผู้มีพระคุณของน้องอีก รู้จักกันได้ไม่นานกลับทำให้น้องสาวสุดรักสุดหวงของเขาต่างพร่ำบอกว่า ผู้มีพระคุณชั่งงดงามซ้ำไปซ้ำมา หากเขาเจอปันปันผู้นี้เขาจะรีบสอบสวนทันที เขาไม่ชอบท่าทีเทิดทูลของน้องสาวที่มอบให้บุรุษแปลกหน้า!

     

     

     

     

     

    ณ จวนพ่อหมอฉี่ เกยหลง

     

    “ พ่อหมอ …. ” เจียเอ๋อร์เอ่ยด้วยน้ำเสียงกระวนกระวาย

     

    “ ไม่สามารถแก้มันได้ ทำได้เพียงช่วยประคับประคอง และช่วยบรรเทาให้เบาลงได้เท่านั้น ” พ่อหมอตอบเจียเอ๋อร์ อย่างจนใจ

     

    “ พ่อหมอ…. มันไม่มีทางแก้ได้เลยหรือ ” เจียเอ๋อร์กำมือแน่น 

    พ่อหมอส่ายหน้าไปมา 

     

    “ ต แต่พ่อหมอขอรับ ถ้าหาดีๆอาจจะมีหนทางซักทางสิขอรับ ข้าเชื่อว่ามันยังมีทางแก้ไขได้ ได้โปรดพ่อหมอ เสียเท่าไหร่ข้าก็ยอม… ”

     

    “ ใจเย็นเถิดคุณชาย คำทำนายของข้ามันไม่แน่ไม่นอน อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่คำสาป… มันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ คำสาปที่เกิดจากผู้สูงส่งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เราทำได้แค่ประคับประคองให้มันเกิดขึ้นช้าที่สุด … ” พ่อหมอตอบอย่างจนใจแล้วหันไปมองเจียเอ๋อ ที่ตอนนี้นั่งก้มหน้านิ่งพร้อมกับเสียงสั่นๆ

     

    “ ถ้าสาปได้ก็ต้องแก้ได้สิขอรับ ถ้าเราไปขอให้ผู้สูงส่งผู้นั้นทำลายคำสาปนั้น… ”

     

    “ น้องเจ้าโดนคำสาประหว่างที่มารดาเจ้าตั้งครรภ์เขาไม่ใช่หรือ เจ้าเป็นอมนุษย์ย่อมมีอายุที่ยืนนานกว่ามนุษย์ ถ้านับอายุของน้องเจ้าในโลกปีศาจ น้องเจ้าก็มีอายุหลายร้อยปี ” พ่อหมออธิบาย

     

    “ ….. ”

     

    “ แล้วเจ้าคิดว่ามนุษย์ผู้นั้นจะยังอยู่นานขนาดนี้เลยหรือ มนุษย์อยู่ได้ไม่ถึงร้อยปีข้อนี้คุณชายย่อมรู้ดี ในระหว่างนี้คุณชายก็คอยระวังอย่าให้คุณชายรองออกไปนอกม่านอาคมหรือหากให้ดีควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ตระกูลที่สาปคุณชายรองเข้าใกล้มากเกินไป….   ” ทายาทที่มีปานแดงรูปเกล็ดหิมะ พ่อหมอกลืนคำพูดเข้าไป หากบอกคุณชายผู้นี้ไปเกรงว่าจะมีมหัสตภัยที่เกิดขึ้นเร็วๆนี้เป็นแน่

     

    “ ข้า…เข้าใจแล้วละขอรับ ” 

     

    “ นี่คือตำราของบรรพบุรุษการโดนสาปทั้งของมนุษย์และอมนุษย์ที่คุณชายควรรู้ การหลีกเลี่ยง และบรรเทา..  ”

     

    “ ขอบคุณพ่อหมอขอรับ ข้ารบกวนท่านมามากแล้ว ” เจียเอ๋อร์โค้งตัวเล็กน้อยก่อนจะเดินออกไปจากจวนพ่อหมอ 

     

    “ สวรรค์ทรงลิขิตมาเช่นนี้ ไม่มีผู้ใดเปลี่ยนแปลงได้…. ” พ่อหมอพูดออกมาอย่างจนใจพรางส่ายหัวไปมา

     

     

    ความจริงเจียเอ๋อร์ไม่ได้ไปประชุมกับคณะทูตตามที่บอกกับปันปันก่อนหน้า แต่เขามาพบกับพ่อหมอที่ทำนายชะตาของปันปัน ก่อนปันปันจะเกิดเขากับครอบครัวได้อพยพจากการกวาดล้างปีศาจของพวกมนุษย์ครานั้น แต่อย่างไรเขาไม่มีจะให้มันเกิดกับน้องเขาเป็นอันขาด เมื่อใดที่เขาเจอทายาทของผู้สูงส่ง เขาจะควักหัวใจมันมาให้กับปันเอ๋อร์ด้วยมือของเขาเอง

     

     

     

     

    ณ  จวนตระกูลหวัง

     

    “  เฮ้อ อะไรวะเนี่ย หรงไจ้ ยองแจ หรงไจ้ ยองแจ หรงแจ โว้ยยยย    ”

     

    แบมแบมนอนดิ้นไปมาที่เตียงอย่างุงงงหลังจากที่ทำภารกิจแรกสำเร็จไปแล้วเขาก็รีบวาร์ปเข้าบ้านทันที รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า เสร็จสิ้น แต่มันกลับไม่ได้ทำให้เขาเบาใจได้เลย อยู่ๆมีหญิงสาวที่อยู่ในเนื้อเรื่องที่เขาพึ่งช่วยไปมีหน้าคล้าย ไม่สิ เหมือนยองแจเพื่อนสนิทของเขาอย่างกับฝาแฝด หรือร่างโคลนนิ่ง แต่เป็นเวอร์ชั้นผู้หญิง ทำให้อึ้งไปไม่น้อย ทำไมในเรื่องนี้ถึงมีหน้าตาที่เหมือนกันกับโลกที่เขาอยู่ถึงสองคน นิทานของคุณยายเริ่มไม่น่าไว้ใจ มันจะเป็นไปได้ยังไงตัวละครที่ไม่มีจริงในนิทานจะมีหน้าตาเหมือนคนที่เขารู้จัก 

     

    “ ยิ่งคิดยิ่งปวดหัวชะมัด ”

     

    ร่างบางสมส่วนถอนหายใจยาวก่อนจะเผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า ลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะเดียวกันสื่อถึงว่าคนตัวเล็กได้เข้าสู่ห้วงนิทราไปเป็นที่เรียบร้อย

     

     

     

    ในค่ำคืนที่แสนจะเงียบสงบ ทุกอย่างต่างเคลื่อนไหวด้วยแรงของลม ลมพลัดไปมาได้รับความเย็น ผู้คนต่างหลับไหลกันเสมือนลมได้กล่อมพวกเขาให้หลับ หากแต่ไม่เป็นอย่างนั้นกับคนตัวเล็กอย่างแบมแบม ตอนนี้มีเหงื่อพุดขึ้นตามใบหน้าหวานและพุดออกตามแขนขาเรียวราวกับเห็ดที่งอกขึ้น เวลาที่ผ่านไปไม่นานคนตัวเล็กก็ส่งเสียงออกมาอย่างทรมานพรางยกมือเรียวขึ้นมากุมที่หน้าอกข้างซ้ายตรงหัวใจ 

     

    “ อึก  ”

     

    คนตัวเล็กส่งเสียงอึกอักด้วยความเจ็บปวดใบหน้าหวานที่เคยขาวอมชมพูกลับซีดลงจนน่ากลัว พรางดิ้นไปมาอย่างทรมานเหมือนมีเข็มพันเล่มแทงมาที่ลำตัว เหมือนมีบางอย่างบีบคั้นหัวใจคนตัวเล็กเจ็บจนหายใจไม่ออก ราวกลับมันกำลังจะสลายหายไป เจ็บจนหางตากลมโตมีน้ำตาเม็ดใหญ่ไหลออกมาอย่างเจ็บปวด 

     

    “  เจ็บ..อึก  ”

     

    คนตัวเล็กสะอื้นออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ แต่เจ็บปวดได้ไม่นานก็เหมือนมีบางสิ่งบางอย่างกระซิบคนตัวเล็กแต่คนตัวเล็กกลับจับใจความไม่ได้เพราะตอนนี้เหมือนจะยังหลับไหลไม่ได้สติ เพียงแต่ตอบสนองความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามาเท่านั้น ก่อนจะรู้สึกถึงความนุ่มและเย็นยะเยือกที่แตะเข้าที่หน้าผากมน ความเจ็บปวดที่เคยก่อเกิดขึ้นก็ค่อยๆจางหายไปราวกลับมันไม่เคยเกิดขึ้น สัมผัสที่อบอุ่นได้ปาดเอาน้ำตาแห่งความเจ็บปวดทรมานออกไป จนทำให้คนตัวเล็กนิ่งสงบลง

     

    ‘  หลับให้สบายเถิด อย่าได้ทรมาน   ข้าจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้าเอง หวัง ปันปัน  ’

     

     

     

     

    Enjoyyyy nakaaaaa

    รอแก้คำผิด

    _________________________________

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×