คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : หัวขโมยกลางตลาด
"ถูกๆจ้า ผลไม้ถูกๆนะจ๊ะ เชิญมาเลือกชมเลือกซื้อกันก่อนได้เลยจ้า" เสียงแม่ค้าในตลาดดังขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ของวันใหม่ในตลาดของเมืองเซซิเลีย เมืองแห่งการค้าขายและเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของแดนมนุษย์ รอบตัวเมืองและในตัวเมืองต่างประกอบด้วยบ้านเรือนและร้านค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านขายอาวุธ ร้านขายอาหาร ร้านขายอุปกรณ์เวทมนต์ ร้านขายของแปลกๆ และร้านอื่นๆอีกมากมาย และที่นี่ยังเป็นแหล่งรวบรวมข้าวของจากทุกสารทิศตั้งแต่เหนือจรดใต้มาขายในราคาที่ถูกที่สุดแต่คุณภาพดีที่สุด ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ผู้คนส่วนใหญ่นิจะมาเมืองนี้กัน
"เชิญจ้าๆ" แม่ค้าคนหนึ่งทักขึ้นเมื่อมีลูกค้าคนหนึ่งเดินเข้ามาที่แผงขายของของตน "จะรับอะไรดีจ๊ะ" แม่ค้าถามพร้อมมอบรอยยิ้มให้
"ไอ้นี่ลูกละเท่าไหร่" คำถามออกจากปากของลูกค้าที่คาดว่าจะเป็นเด็กหนุ่มเนื่องจากเสียงที่ฟังเหมือนยังอายุไม่เกินสิบห้าและรูปร่างที่ยังดูบอบบาง เพียงแต่ใส่ฮู้ดคลุมหัวจนมองเห็นหน้าไม่ชัดก็เท่านั้น
"เจ็ดเมซานจ๊ะ" แม่ค้าตอบ เด็กหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่จะหยิบผลไม้ที่มีผิวขรุขระสีฟ้าอ่อนขนาดเหมาะมือมาลูกหนึ่ง
"อืม...ถูกดี...แต่ไม่มีตังค์" เด็กหนุ่มพึมพำ "อะไรนะจ๊ะ เมื่อกี้น้าฟังไม่ถนัด" แม่ค้าถามเมื่อเห็นเด็กหนุ่มพึมพำคนเดียว
"เปล่าครับ...ขอบคุณนะครับ ผมลาล่ะ" พูดจบ เด็กหนุ่มก็วิ่งออกไปทันทีโดยในมือยังคงถือผลไม้ลูกนั้นไว้อยู่
" ว๊าย! หยุดนะ ขโมยจ้าขโมย ใครก็ได้ช่วยจับที!" แม่ค้ารีบตะโกนขอความช่วยเหลือก่อนจะวิ่งตามเด็กหนุ่มไป
ร่างของเด็กหนุ่มหัวขโมยยังคงวิ่งฝ่าฝูงชน (ที่ราวกับมดแตกรัง) ไปเรื่อยๆอย่างรวดเร็วและเชี่ยวชาญ จนกระทั่ง...
"โอ๊ย" เสียงร้องดังขึ้นเมื่อร่างของเด็กหนุ่มหัวขโมยชนเข้ากับร่างของเด็กหนุ่มอีกคนที่หลบไม่ทันเข้าอย่างพอดิบพอดีส่งผลให้ทั้งสองร่างล้มไปกองกับพื้นด้วยกันทั้งคู่
"นั่นไง เจ้าหัวขโมย!" เสียงแม่ค้าคนเดิมตะโกนขึ้นมาจากทางด้านหลัง ร่างของเด็กหนุ่มหัวขโมยรีบลุกขึ้นก่อนจะวิ่งหนีไปโดยไม่สนร่างของคนที่ชนเลยสักนิด
"หยุดน้า" เสียงของเหล่าผู้คนที่หมายจะจับตัวหัวขโมยหนุ่มดังขึ้นอย่างแซ็งแซ่ ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นล้วนแต่ช่วยกันรุมจับเด็กหนุ่มอย่างเต็มที่ ถ้าบอกว่าเป็นการตะลุมบอลก็คงไม่ผิดนัก
"ขอตัวก่อนละกันนะครับ พวกลุงๆป้าๆทั้งหลาย" เด็กหนุ่มตะโกนเสียงดังหลังจากที่รอดจากการตะลุมบอลนั้นมาได้ก่อนที่จะวิ่งหนีต่อโดยทิ้งเหล่าคนที่นอนกองกัน (ล้มเลยทับกัน) อยู่บนพื้นด้านหลัง
เด็กหนุ่มผมสีเงินมองตามเด็กหนุ่มหัวขโมยไปจนลับสายตาแล้วจึงยันตนเองให้ลุกขึ้นยืนช้าๆพร้อมกับปัดเส้นผมที่หล่นมาปรกหน้าออกแล้วจึงก้าวเดินไปยังจุดหมายของตน...ริมแม่น้ำ
......................................................................
เสียงเหล่าปักษาและสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติส่งเสียงกู่ร้องอย่างเริงร่าแสดงถึงสภาพอากาศที่จัดได้ว่ากำลังสบายๆ...ท้องฟ้าสีคราม...ลมเย็นๆพัดแผ่วๆ...เสียงน้ำในแม่น้ำไหลเป็นจังหวะดุจเสียงบรรเลงชั้นยอด...มีเมฆบังแสงอาทิตย์...ช่างเป็นวันที่น่าอภิรมณ์ในการนอนกลางวันเสียนี่กระไร...และก็มีคนที่คิดเช่นนั้นอยู่เหมือนกัน...
เด็กหนุ่มนั่งหลบแสงแดดที่ลอดผ่านปุยเมฆมาเล็กน้อยในเงาของร่มไม้ นัยน์ตาสีทองที่ถูกซ่อนอยู่ภายใต้เรือนผมสีเงินที่หล่นมาปรกหน้าดูน่ารำคาญนั้นเหม่อมองไปในสายน้ำที่เย็นฉ่ำโดยที่เจ้าของไม่คิดจะปัดมันออกอีกเพราะปัดเท่าไหร่มันก็เป็นเหมือนเดิมอยู่ดี ใบหน้าหวานดูเรียบเฉยไร้อารมณ์ใดๆ
"...เอ่อ...เมื่อกี้...เจ็บรึเปล่า?" เสียงหนึ่งดังขึ้นจากบนกิ่งไม้ของต้นที่เด็กหนุ่มนั่งอยู่ เด็กหนุ่มผมสีเงินเงยหน้าขึ้นไปมองทางต้นเสียงด้วยสีหน้าที่ยังคงเดิมก็พบกับบุคคลหนึ่งนั่งอยู่ข้างบนนั้น เด็กหนุ่มผมสีเงินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะส่ายหน้าปฏิเสธไป
"อืม...เหรอ...แต่ยังไงข้าก็ขอโทษเจ้าด้วยละกันนะ พอดีว่าข้ารีบไปหน่อยเลยไม่ทันได้ดูทางน่ะ" เด็กหนุ่มผมสีเงินพยักหน้ารับก่อนที่จะเบือนสายตาไปมองสายน้ำเหมือนเดิม หัวขโมยหนุ่มเอียงคออย่างฉงนเล็กน้อยก่อนที่จะกระโดดลงมาจากกิ่งไม้มายืนข้างๆเด็กหนุ่มผมสีเงิน
"ข้าขอนั่งนะ" หัวขโมยหนุ่มเอ่ยขึ้นเป็นเชิงถาม ซึ่งเด็กหนุ่มผู้ถูกถามก็ยังคงทำกิจกรรมของตัวเองต่อไปโดยไม่สนใจคำถามนั้น...หัวขโมยหนุ่มมองร่างของเด็กหนุ่มผมสีเงินก่อนจะยักไหล่แล้วทิ้งตัวลงนั่งโดยถือว่าความเงียบนั้นคือคำตอบ
"เจ้าชื่ออะไรเหรอ?" หัวขโมยหนุ่มยังคงพยายามชวนคุยต่อไปโดยที่ไม่สนว่าอีกฝ่ายจะตอบหรือไม่ก็ตาม เด็กหนุ่มผมสีเงินเบือนสายตามามองอีกครั้งด้วยแววตาแปลกใจเล็กน้อยแต่สีหน้าก็ยังคงเดิม
"ซาคัส อคิลลัส" เด็กหนุ่มผมสีเงินตอบสั้นๆซึ่งหัวขโมยหนุ่มก็รีบพยักหน้ารับทันทีเพราะตั้งแต่ที่พวกเขาชนกันที่ตลาดมาจนถึงตอนนี้เด็กหนุ่มผมสีเงินพูดแค่หกพยางค์ (รวมที่ร้อง "โอ๊ย" ด้วยนะ) เท่านั้นเอง
"ข้าชื่อ เรนีส การ์ดิอาร์ค ยินดีที่ได้รู้จักนะ" หัวขโมยหนุ่มพูดขึ้นพร้อมกับถึงฮู้ดที่คลุมหน้าออก เผยให้เห็นเส้นผมสีทองที่ตัดสั้นดูกระเซิงๆนิดหน่อย นัยน์ตาสีม่วงอะเมทิสต์มีแววร่าเริงแจ่มใส ผิวขาวออกกร้านแดดนิดๆ โครงหน้าเรียวได้รูป ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์นิดๆแต่ดูไว้ใจได้ (มั้ง) ดูโดยรวมแล้วก็เป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ที่จัดได้ว่าดีรวมทั้งหน้าตาและรูปร่างก็ถือว่าโอเค...ถ้าดัดนิสัยสักหน่อยคงมีสาวๆจีบตรึมนั่นแหละ
"เอ่อ..ข้าขอถามสักอย่างได้มั้ย?" เรนีสเปรยขึ้นซึ่งซาคัสก็พยักหน้าเล็กน้อย เรนีสไล่สายตามองซาคัสตั้งแต่หัวจรดเท้า
"เจ้า...เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเหรอ?" เรนีสถามขึ้นเสียงแผ่วเพราะรู้ว่าการถามแบบนี้...มันเสียมารยาทมากถึงมากที่สุดเพราะปกติดูแค่หน้าตาก็รู้แล้ว...แต่อาจจะยกเว้นเด็กหนุ่มผมสีเงินตรงหน้านี้สักคนล่ะ
"ผู้ชาย" เรนีสกระพริบตาปริบๆ ก่อนจะไล่สายตามองอีกรอบจนผู้ถูกมองชักจะเริ่มรำคาญขึ้นมาเล็กน้อย
"อะไร?" ซาคัสถามขึ้นเรียบๆพร้อมกับมุ่ยคิ้วเล็กน้อย เรนีสยิ้มแหยๆเหมือนกับว่าไม่เชื่อ...ใครจะเชื่อได้ลงคอล่ะ ก็เด็กหนุ่ม (?) ตรงหน้าออกจะ...เอ่อ..."สวย"...ขนาดเนี้ย...เสียงก็ออกหวานๆ โครงหน้าสวยได้รูป ร่างบางดูอ้อนแอ้นเหมือนผู้หญิง ผิวขาวเนียนดุจน้ำนม ริมฝีปากสีชมพูบางสวยได้รูป นัยน์ตาสีทองดูเรียบเฉยแต่มีเสน่ห์ เส้นผมสีเงินถูกปล่อยยาวประบ่าสะท้อนกับแสงของดวงอาทิตย์ยามเย็นได้อย่างเหมาะเจาะ...ไม่ว่าดูยังไงบุคคลตรงหน้าก็เหมือนผู้หญิงไม่ผิดเพี้ยน
"ปะ...เปล่า" เรนีสตอบพร้อมกับปั้นยิ้มเต็มที่ ซาคัสมองด้วยสายตาเคลือบแคลงแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรออกไปก่อนที่จะหันหน้าไปมองน้ำในแม่น้ำต่อ ความเงียบเริ่มครอบคลุมพื้นที่ระหว่างเด็กหนุ่มทั้งสองจนชักเริ่มเครียดพิกลๆ
"อะ...เอ่อ" เรนีสพูดขึ้นทำลายความเงียบ ซึ่งซาคัสก็หันมามอง
"เจ้า...รู้จักโรงเรียน The King of Warrior บ้างรึเปล่า?" เรนีสถามขึ้นพร้อมกับมองซาคัส ซึ่งเด็กหนุ่มผู้ถูกถามก็มองตอบก่อนที่จะพยักหน้ารับ
"จริงเหรอ?" เรนีสถามขึ้นอีกครั้งก่อนที่จะมีประกายความหวังแล่นอยู่ในแววตา ซาคัสมองเด็กหนุ่มผมสีทองอย่างงงๆแต่ก็พยักหน้ายืนยัน
"ข้า...ก็จะไปสอบที่นั่นเหมือนกัน..." ซาคัสพูดขึ้น เรนีสฉีกยิ้มกว้างก่อนที่จะถามต่ออย่างกระตือรือร้น
"งั้นเหรอ...อืม...งั้น...เจ้ากับข้าก็เป็นคู่แข่งกันสินะ" เรนีสพูดขึ้นพร้อมกับทำท่าเหมือนใช้ความคิดอยู่ซึ่งเด็กหนุ่มผมสีเงินก็มองเด็กหนุ่มผมสีทองด้วยสายตาเรียบเฉยแต่มีประกายความสงสัยอยู่ไม่น้อยในดวงตาสีอำพันนั่น
"นี่ซาคัส...ข้าขอไปสอบคู่กับเจ้าได้รึเปล่า?" เรนีสถามขึ้นพร้อมกับสายตาที่จริงจัง ซาคัสเองก็จ้องตอบก่อนที่จะพยักหน้ารับช้าๆเป็นผลทำให้เรนีสเผลอตัวไปกอดร่างเด็กหนุ่มผมสีเงินด้วยความดีใจสุดชีวิตอย่างลืมตัว
"ขอบคุณนะ!!!" เรนีสพูดด้วยเสียงร่าเริงพร้อมกับรอยยิ้มที่จริงใจและแปลความหมายได้ว่าขอบคุณอย่างล้นเหลือ ซึ่งเด็กหนุ่มผู้ถูกกอดนั้นก็ได้แต่นิ่งค้างด้วยความตกใจเช่นกัน
...โครก... เสียงหนึ่งดังขึ้นขัดจังหวะความดีใจของเรนีส เรนีสคลายอ้อมกอดพลางมองที่ท้องของตนเองพร้อมรอยยิ้มแห้งๆ ก่อนที่จะเหลือบตาไปมองเด็กหนุ่มอีกคนที่ยังช็อคไม่หาย
"ซาคัส...เอ่อ...เมื่อกี้...ข้าขอโทษนะ" เรนีสพูดเสียงอ่อยพลางก้มหัวเป็นเชิงขอโทษ
"มะ...ไม่เป็นไร" ซาคัสตอบทั้งๆที่ร่างกายยังคงนิ่ง (ช็อคไม่หาย) แต่สติเริ่มกลับมาบางส่วนแล้วก่อนที่จะหลับตาลงแล้วส่ายหัวเป็นเชิงเรียกสติให้กลับมาทั้งหมด
เรนีสอมยิ้มกับท่าทางของเด็กหนุ่มผมสีเงินผู้เฉยชาคนนี้แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรเสียงที่เตือนความจำของเขาก็กลับมาอีกครั้ง
...โครก...
ซาคัสมองไปยังต้นเสียงประหลาดนั้นก่อนที่จะเลิกคิ้วขึ้นก็พบเรนีสที่กำลังเกาแก้มแก้เขินอยู่ เรนีสเองก็เสหน้ามองไปทางอื่นเหมือนกับว่าเสียงนั้นไม่ได้มาจากตนเช่นกัน
"แหะๆ...ลืมกินข้าว..." เรนีสพึมพำเบาๆก่อนที่จะกึ่งชันเข่ากึ่งคลานเข้าไปหาซาคัสด้วยท่าทีที่ต่างจากเดิม...คราวนี้ออกแนวอายๆ
"อะไร?" ซาคัสถาม เรนีสเงยหน้าสบตากับซาคัสก่อนที่จะเอื้อมมือไปกุมมือซาคัสแน่น นัยน์ตาสีม่วงมีแววออดอ้อน+ขอร้องอย่างเต็มที่
"คือ...ซาคัส..." เรนีสเปรยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นๆเหมือนจะตายมิตายแหล่อยู่ตรงนั้นก่อนที่จะก้มหน้าเหมือนทำใจเรื่องอะไรสักอย่าง
"เลี้ยงข้าวหน่อยสิ!!!"
ความคิดเห็น