ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    God of Death

    ลำดับตอนที่ #3 : Death 3 : ความมืดอันน่าหลงใหล

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ค. 51


    ผมรู้สึกตัวอีกทีร่างของผมก็มาอยู่ที่ห้องของผมเสียแล้ว ผมรีบลุกขึ้นแล้วสำรวจบาดแผลต่างๆที่เกิดขึ้นตามร่างกายของผมในทันทีแม้ว่าเสื้อนักเรียนของผมจะถูกย้อมด้วยเสียแดงของเลือดและขาดจากรอยมี แต่ทว่าบาดแผลบนร่างกายของผมกลับไม่มีเลย ซึ่งมันทำให้ผมเชื่อว่านี่ต้องไม่ใช่ความฝันแน่นอน ผมค่อยๆนึกทบทวนในหลายๆสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมในวันนี้จนในที่สุดผมก็นึกได้แค่ว่า มีเสียงๆหนึ่งเรียกหาผมก่อนที่ผมจะหมดสติไป

     

    เจ้าคงจะมีอะไรหลายๆอย่างถามข้าเลยสินะ เสียงแหบพร่าดังขึ้นในโสตประสาทของผมอีกครั้ง

     

    อ๊ะ นายเป็นใคร แล้ว นายอยู่ที่ไหน ผมพูดออกมาในทันทีเมื่อได้ยินเสียงนั้นอีกครั้ง

     

    ข้าคือ เทพแห่งความตาย เรียกข้าสั้นๆ ว่า เดธ ก็ได้ ส่วนข้าอยู่ที่ไหนนะหรือ ข้าก็อยู่ในร่างกายของเจ้าไงละ เสียงๆนั้นดังขึ้นอีกในสมองของผม

     

    แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวของฉันกัน ผมถามกลับไปอีกครั้ง

     

    ก็เจ้าถูกฆาตกรโรคจิตฆ่าจนเลือดของเจ้าไหลอาบหลุมศพซึ่งมันทำให้ข้าที่ถูกผนึกอยู่สามารถออกมาได้ และข้าก็ได้อาศัยในร่างของเจ้าพร้อมๆกับฆ่าชายโรคจิตคนนั้นให้ตามที่เจ้าต้องการ

     

    ฆ่า นี่เจ้าใช้ร่างของข้าเป็นคนฆ่างั้นรึ ผมพูดออกมาอย่างตกใจ

     

    แน่นอน ข้าถามเจ้าแล้วนี่ ในเมื่อเจ้าต้องการพลังข้าก็มอบให้เจ้าเพื่อเป็นสิ่งตอบแทนที่ปลุกข้าขึ้นมา

     

    ผมแทบจะไม่อยากเชื่อเลยว่าเรื่องแบบนี้มันมีอยู่ในโลกด้วยปกติเรื่องแบบนี้มันหาอ่านได้ตามในนิยายไม่ก็หนังสือการ์ตูน แต่นี่มันอะไรกันมันกลับเกิดขึ้นจริงกับตัวผมโดยที่ผมไม่เคยเชื่อเรื่องแบบนี้เลยด้วยซ้ำ

    ไม่จริง นี่ผมต้องฝันไปอยู่แน่เลย ผมใช้มือตบหน้าของตัวเองอย่างแรง ทั้งๆที่ผมกำลังฝันอยู่แท้ทำไมผมถึงเจ็บละ หรือว่านี่มันจะไม่ใช่ความฝัน

     

    แล้วนายพาร่างของฉันมายังอาพาร์ทเมนต์นี้ได้ยังไงละ ผมถามอย่างสงสัย

     

    ข้าดูในความทรงจำของเจ้าเอานะ เสียงๆนั้นตอบผม

     

    เจ้าถามเรื่องของเจ้าจบแล้วใช่ไหม เสียงแหบที่แสบอันแสนน่ากลัวดังขึ้นขณะที่กำลังคิดต่างๆอยู่ในสมอง

     

    เอ่อ... อืม ผมตอบกลับไปเมื่อผมเป็นฝ่ายถูกเสียงลึกลับนั้นถาม

     

    ข้าขอพูดเรื่องของข้าบ้างละนะ เดธถามผมก่อนที่ผมจะตอบตกลงด้วยการพยักหน้า

     

    การที่ข้ามาอยู่ในร่างของเจ้านะบาดแผลของเจ้าที่เกิดขึ้นจะถูกรักษาด้วยพลังของข้า แต่มันมีข้อแลกเปลี่ยนนั่นก็คือ คนรอบๆข้างของเจ้าจะต้องถูกดูดพลังชีวิตเข้ามาเนื่องจากการมีอยู่ของข้า  เดธพูดซึ่งมันทำให้ผมตกใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

     

    หมายความว่า คนที่อยู่รอบๆข้างข้าจะต้องตายสิ ผมถามเดธกลับไป

     

    เจ้าเข้าใจได้ถูกต้อง และข้าเองก็ต้องอาศัยร่างของเจ้าในการฟื้นฟูพลังที่หายไปร่วม 2000 ปีของข้า ซึ่งวิธีที่ข้าจะได้พลังกลับมานั่นก็คือ การมอบความตายให้แก่สรรพสิ่งทั้งหลาย

     

    แบบนี้ก็หมายถึงข้าจะต้องฆ่าคนทุกๆวันงั้นเหรอ ผมถามกลับไปพร้อมๆกับเหงื่อที่เริ่มผุดออกตามร่างกายของผม

     

    ไม่จำเป็นต้องเป็นคนอย่างเดียวหรอก จะเป็น เทพ หรือ วิญญาณก็ได้ ขอให้เป็นสิ่งที่อยู่ในโลกแห่งมนุษย์ข้าก็สามารถที่จะดึงเอาพลังของพวกมันมาได้

     

    งั้นข้าก็สามารถฆ่าพวกสัตว์เล็กๆ อย่าง มด หรือ แมลง ต่างๆได้สินะ ผมถามเพื่อที่จะได้มีความหวังขึ้น

     

    เสียใจด้วยเรื่องนั้นเจ้าไม่อาจทำได้ เนื่องจากพลังในตัวของพวกนี้เป็นพลังที่ต่ำต้อยเกินไป พลังของสัตว์ไม่อาจที่จะสามารถเพิ่มพลังให้แก่ข้าได้

     

    แล้วเจ้าต้องการพลังไปทำอะไรกัน ผมถามเดธอย่างตรงประเด็น

     

      ถามได้ดีนี่เจ้าหนูน้อย ข้าต้องการพลังเพื่อที่จะก่อสงครามอีกครั้งไงละ สงครามระหว่าง โลกปีศาจ กับ โลกแห่งสวรรค์ที่พวกเจ้าอยากไปกันนักหนา

     

    ประวัติศาสตร์ที่พวกเจ้าได้ฟังมานะมันต่างกับเรื่องจริงที่พวกข้าเคยเผชิญมาโดยสิ้นเชิงเลยละ ตัวแทนแห่งแสงสว่างมันไม่อาจที่จะทำอะไรพวกเราได้

     

    เดธเริ่มเล่าถึงประวัติศาสตร์ในสมัยที่เขาได้สู้กับเหล่าเทพให้ผมฟังซึ่งผมสามารถที่จับใจความได้ว่า เดธนั้นเป็นลูกชายของหญิงสาวนางหนึ่งที่ถูกเทพแห่งสวรรค์ตนหนึ่งทำนางจนท้องและจากนั้นเทพตนนั้นก็ได้ทิ้งนานไปโดยที่ไม่มีการดูแลแม้แต่น้อย ซึ่งมันฟังออกจะเหลือเชื่อสำหรับผมแต่เมื่อเดธได้กล่าวว่าแต่ก่อนเทพกับมนุษย์ไม่ได้มีอะไรต่างกันมากนักเพียงแต่ทว่าเทพมีพลังแห่งแสงสว่างอยู่ในตัวเท่านั้นซึ่งมันทำให้ผมพอที่จะเชื่อขึ้นมานิดหน่อย แม่ของเดธเล่าให้ฟังว่าพวกเทพนั้นชอบทำตัวเหมือนกับว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่ทั้งๆที่สมัยนั้นพวกเขาก็ไม่ต่างกับมนุษย์ธรรมดา

     

    จนในที่สุดเมื่อความคิดแบบนี้เพิ่มมากยิ่งขึ้นพวกเขาก็ตีตัวออกห่างจากโลกมนุษย์ และละทิ้งบุตรที่พวกเขาเคยให้กำเนิดไว้ยังโลกมนุษย์โดยที่ให้ข้ออ้างว่าพวกนั้นเป็นสายเลือดมนุษย์ไม่ใช่สายเลือดแห่งเทพอย่างแท้จริงเหมือนดังเช่นพวกเขา พวกของเดธหรือเหล่าเทวดาตัวน้อยที่ถูกทอดทิ้งต่างรอคอยว่าสักวันประตูของโลกแห่งเทพจะเปิดออกเพื่อที่จะรับพวกเขาขึ้นไป

     

    แต่รอแล้วรอเล่าก็ไม่ได้มีสิ่งที่พวกเขาหวังไว้เกิดขึ้น จากความรักกลายเป็นความเคียดแค้นเดธและพวกๆต่างก็มีความรู้สึกเดียวกัน จึงได้ก่อตัวกันจากปีกสีขาวนวลที่เคยแสดงถึงความบริสุทธิ์ได้ถูกความมืดในจิตใจย้อมจนกลายเป็นสีดำสนิท มงกุฎที่ที่ถูกทำจากใบไม้และดอกไม้ได้ร่วงโรยลง พวกเดธได้ศึกษาและดึงเอาพลังแห่งเทพที่มีอยู่ในตัวเองออกมาใช้อย่างคุ้มค่าที่สุด และสุดท้ายพวกเขาก็ขนานนามตัวเองว่าปีศาจ เดธเป็นคนต้นคิดที่จะบุกสู่สวรรค์เบื้องบนที่ทอดทิ้งพวกเขา

     

    แต่ดูเหมือนว่าสวรรค์จะแพร่พรายเรื่องนี้เช่นกันพวกเขาจึงได้ส่งเทวฑูตตนหนึ่งลงมาแต่นั้นกลับกลายเป็นฉนวนให้เกิดสงครามขึ้นเมื่อเทวทูตตนนั้นถูกพรรคพวกของเดธจับได้ และแน่นอนเทวฑูตตนั้นถูกสังหารอย่างโหดเหี้ยมโดยการแยกชิ้นส่วนแล้วส่งกลับคืนไปยังสวรรค์ เหล่าเทวดาต่างทนไม่ไหวในการกระทำ พวกเขาบุกลงมายังโลกมนุษย์ซึ่งตอนนั้นโลกปีศาจยังไม่แยกออกจากโลกของมนุษย์การปะทะกันเกิดขึ้นและแผ่ขยายวงกว้างไปทั่ว เหล่าเทพมากมายถูกเดธฆ่าตายจนในที่สุดเขาก็ได้รับฉายาว่า เทพแห่งความตาย

     

    เหล่ามนุษย์ที่ไม่รู้เรื่องต่างล้มตายลงยังพื้นแผ่นดินของเขาเช่นเดียวกับเหล่าปีศาจและเหล่าเทพ พวกเทพอ้างว่าตัวเองเป็นตัวแทนของความถูกต้องและสังหารเหล่าปีศาจอย่างโหดเหี้ยมไม่ต่างจากที่พวกเดธทำเลยแม้แต่น้อย ซึ่งมันทำให้เหล่าปีศาจยิ่งโกรธแค้นหนักขึ้นมากกว่าเดิม ในเมื่อพวกเทพคิดว่าตนเองเป็นแบบนั้นเหล่าปีศาจก็คิดว่าตัวเองคือตัวแทนแห่งความชั่วร้ายและพวกเขาก็สังหารเทพด้วยความโหดร้ายยิ่งกว่าเก่า

     

    ผมเองก็ไม่อยากเชื่อเลยว่าถ้าผมมามองในมุมมองของเหล่าปีศาจแล้วผมเองก็ชักอยากจะเข้าร่วมสู่หนทางแห่งความมืดนี้ด้วยเช่นกัน เดธยังเล่าอีกว่าก่อนที่สงครามจะสงบลงพวกของเดธถูกกลลวงของฝ่ายเทพว่าเขายอมแพ้แล้วเตรียมที่จะสงบศึกโดยการเจรจากันและจะรับเหล่าปีศาจขึ้นไปบนสวรรค์ เหล่าปีศาจต่างเชื่อว่าเหล่าเทพที่บริสุทธิ์นั้นไม่โกหกพวกเขาจึงทำให้พวกเขายอมตกลงที่จะเจรจา แต่แล้วพวกเขาก็ถูกหลอกเมื่อพวกเขาไปยังสถานที่ที่นัดหมาย พวกเหล่าเทพต่างวางกับดักเอาไว้ทำให้เหล่าปีศาจล้มตายลงเป็นจำนวนมาก

     

    เดธพยามที่จะฝ่าวงล้อมออกมาซึ่งเขาเองก็สามารถที่จะกำราบเทพหลายๆองค์ลงได้ด้วยการโจมตีเพียงไม่กี่ครั้ง ความตายของเดธถูกหยิบยื่นให้เทพหลายต่อหลายองค์จนในที่สุดเหล่าเทพก็ต้องใช้วิธีสุดท้ายนั่นก็คือการรุมนั่นเอง เหล่าเทพนับสิบต่างใช้คาถาผนึกร่างของเดธเอาไว้เนื่องจากพลังของพวกเขานั้นไม่เพียงพอที่จะกำราบเดธลงได้แม้แต่คนเดียว เหล่าเทพต่างเรียกการกระทำนี้ว่าเป็นการรวมตัวเพื่อความถูกต้อง แต่กลับประณามเหล่าปีศาจเมื่อทำพฤติกรรมนี้ ทั้งๆที่มันก็เป็นสิ่งเดียวกัน เดธถูกผนึกลงในศิลาสีดำสนิทพร้อมๆกับการแยกโลกปีศาจออกจากโลกมนุษย์ โลกมนุษย์ถูกบูรณะขึ้นอีกครั้งโดยเหล่ามนุษย์ที่ยังเหลือรอดหลังสงครามผ่านพ้นไป

     

    เดธได้แต่เฝ้ามองโลกที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาภายใต้ผนึกของศิลาหิน เหล่าเทพต่างทิ้งโลกมนุษย์ออกไปโดยสิ้นเชิงเช่นเดียวกับเหล่าปีศาจที่เมื่อขาดผู้นำพวกเขาก็ไม่คิดที่จะต่อต้านเหล่าเทพ ตำนานต่างๆถูกบิดเบือนเพื่อให้มนุษย์ทุกคนเชื่อในตัวเทพ และ พระเจ้า เรื่องที่ว่าเหล่าเทพเคยทอดทิ้งโลกมนุษย์ไม่ถูกบันทึกในประวัติศาตร์แต่สิ่งที่ถูกบันทึกไว้กลับเป็นเพียงสงครามที่เทพสามารถเอาชนะเหล่าปีศาจโดยถ้อยคำที่ถูกบันทึกไว้คือ

     

    เหล่าเทวทูตจากสรวงสวรรค์ได้ลงมาทำลายความอยุติธรรม โดยการปราบปีศาจร้ายที่ก่อกรรมทำชั่วเอาไว้

     

    แค่นี้เจ้าเองก็คงจะเข้าใจสินะว่าทำไมตัวข้าถึงเคียดแค้น เหล่าเทพยิ่งนัก เดธพูดกับผม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×