คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Part : 2 Vanish
เข็มปลายแหลมถูกหยิบขึ้นจากกล่องไม้สีเข้ม คนตัวเล็กกัดฟันแน่นทันทีเพื่อข่มความรู้สึกเจ็บ ขณะที่ปลายเข็มมุดหายเข้าไปในผิวเนื้อช่วงต้นแขนที่มีรอยแผลฉกรรจ์ หยาดน้ำตาที่ยังคลออยู่ในดวงตาคู่สวย คล้ายจะไหลออกมาแต่เค้าก็ยังคงกลั้นมันเอาไว้
“อดทนหน่อยนะขอรับ”ร่างสูงที่ลงมือฝังฝีเข็มอย่างเบามือที่สุดเอ่ยขึ้น ก่อนที่เข็มปลายแหลมจะมุดหายเข้าไปยังรอยแผลอีกครั้ง
ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากร่างบาง มีเพียงเสียงลมหายใจหนักๆดังขึ้นเป็นจังหวะ ไร้ซึ่งเสียงบทสนทนาใดๆ มีเพียงความเงียบที่เข้ามาปกคลุมเท่านั้น
พลันภาพเหตุการณ์ต่างๆก็วิ่งวนเข้ามาในสมองอย่างรวดเร็วจนไม่ทันได้ตั้งตัว
ภาพชายหนุ่มในชุดสูทตัวยาวสีดำสนิทสไตล์แบบฉบับอังกฤษเก่า เรือนผมสีดำขลับซึ่งเข้ากับชุดสูทนั่น ดวงตาสีเพลิงที่ทอแสงเป็นประกาย มันไม่ได้ดูน่ากลัวเลยซักนิด แต่กลับดูอบอุ่นจนน่าแปลกใจ
“ไม่ว่าที่ไหนกระผมก็อยู่ข้างนายน้อยเสมอ......” เสียงนุ่มที่ฟังดูคุ้นหูเสียเหลือเกิน มันแผ่วเบาแต่ทว่าดังก้องในโสตประสาท รอยยิ้มที่ดูเหมือนเย็นชาแต่ยังคงแฝงความอบอุ่น บรรยากาศโดยรอบที่คุ้นตา เหมือนเคยเห็นมันที่ไหนมาก่อน
..
เฮือก!!!
ร่างบางที่นอนอยู่กับฟูกสีขาวสะอาด สะดุ้งตื่นจากความฝันซึ่งมันยังคงติดตาและชัดเจน แสงจากโคมไฟไม้ยังคงให้ความสว่างทำให้ภายในห้องไม่มืดนัก
“ฝันร้ายหรือขอรับ”ร่างสูงในชุดยูคาตะสีดำที่ยังคงนั่งอยู่ข้างๆไม่ได้ไปไหน
“ผม...หลับไปเมื่อไหร่”
“หลังจากเย็บแผลเสร็จน่ะขอรับ อาจจะเป็นเพราะพิษไข้ ถึงทำให้อ่อนเพลีย พักเถอะขอรับ ไม่นานก็จะหายดี”พ่อบ้านหนุ่มใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆค่อยๆเช็ดใบหน้าและลำคอของผู้เป็นนายที่บัดนี้เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ
“เซ-บาส-เตียน”เสียงแผ่วเบาของร่างบางดังขึ้น
‘นายเหมือนคนๆนั้นมากจริงๆ ทั้งรูปร่างหน้าตา แม้แต่น้ำเสียงการพูดจา ตกลงเค้าคือคนๆเดียวกันกับนายรึเปล่า’
“หืม...นายน้อยมีอะไรหรือขอรับ”พ่อบ้านหนุ่มถามขึ้น
ดวงตาสีเพลิงสบเข้ากับนัยน์ตาสีฟ้าสวยโดยตั้งใจ คล้ายกับจะค้นหาอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในใจของคนตรงหน้า
“อืม...ไม่มีอะไรแล้วล่ะ นาย...ไปพักเถอะ มีอะไรผมจะเรียกเอง”และแล้วจิเอลก็ยังคงปล่อยให้คำถามทั้งหมดจมลงในห้วงความคิด
ไม่อยากเอ่ยถาม ถึงแม้จะต้องการคำตอบนั่นมากแค่ไหนก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกกับความฝันแบบนี้ ตลอดสามปีมาแล้วที่มันเกิดขึ้นบ่อยๆ ไหนจะเหตุการณ์บ้านไฟไหม้ กับพ่อแม่ที่ถูกฆาตกรรมอย่างโหดร้าย วนเวียนสลับสับเปลี่ยนเข้ามาในสมอง
“ขอรับ”ร่างสูงรับคำสั่ง แล้วเดินหันหลังจากห้องนอนของมาสเตอร์ไป ดวงตาคู่สวยเผลอมองพ่อบ้านคนสนิทที่กำลังเดินจากไป ก่อนจะหลับตาลงเพื่อข่มความรู้สึกเจ็บจากรอยแผล
ร่างสูงออกมานั่งรับลมที่ระเบียงไม้ในสวนญี่ปุ่นหลังบ้าน สายลมหนาวยังคงพัดเอื่อยๆ ก่อนที่ภาพในวันวานที่ผ่านมานานแสนนานจะย้อนเข้ามาให้ได้ขบคิด
‘นายน้อยก็ยังเหมือนเดิม ยังเป็นคนเดิมที่ดูไม่เปลี่ยนแปลง สมกับการรอคอยที่จะได้พบกัน พันธะสัญญาที่ไม่มีวันลบล้าง ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปอีกสักกี่ร้อยปี
ไม่ว่านายน้อยจะไปอยู่ที่ใด กระผมก็จะขอตามท่านไปทุกที่ จะขอปกป้องดูแลตลอดไปความไร้เดียงสา ร่างบอบบางที่น่าทะนุถนอม’ ความคิดต่างๆพาให้รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อร้าย ก่อนที่รุ่งอรุณแห่งวันใหม่จะเข้ามาเยือนในไม่ช้า
ยามเช้าที่อากาศสดใสในฤดูใบไม้ร่วง กับอากาศที่เริ่มเย็นเพราะใกล้จะเข้าสู่ฤดูหนาวเต็มที พ่อบ้านหนุ่มกำลังเตรียมชาร้อนกับอาหารเช้าสำหรับคนป่วยอยู่ด้านในครัว สิ่งที่ตระเตรียมล้วนแต่เป็นของชอบมาสเตอร์ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นใบชาชาที่สั่งตรงมาจากอังกฤษ กับอาหารเช้าที่ต้องใช้เวลาพิถีพิถันในการทำ ไม่นานนักอาหารที่บรรจงจัดใส่จานก็เสร็จเรียบร้อยพร้อมเสิร์ฟ
“นายน้อยขอรับ”เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นเป็นการขออนุญาตที่จะเข้าไปด้านในห้องนอน
แต่ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ เป็นสิ่งที่แปลกกว่าทุกวัน........
ก่อนที่พ่อบ้านหนุ่มจะตัดสินใจเปิดประตูเลื่อนที่คล้ายฉากกั้นออก มีเพียงฟูกสีขาวที่ว่างเปล่า ไร้วี่แววร่างบางที่ควรจะนอนหลับอยู่เพราะพิษไข้ แต่กลับไม่มีแม้แต่เงาผู้เป็นนาย ขาที่ก้าวเดินอย่างรวดเร็วโดยอัตโนมัติเพื่อออกตามหามาสเตอร์ตัวน้อย
“ยังเจ็บอยู่แท้ๆ ไปไหนของเค้านะ”พ่อบ้านหนุ่มออกตามหาคนหน้าหวานจนทั่วบ้านหลังใหญ่ หาทุกห้อง รวมไปถึงระเบียงไม้หรือสวนหลังบ้านก็ไม่มี
“จะออกไปไหนน่าจะบอกก่อน”
จนขายาวๆก้าวมาหยุดตรงหน้าประตูบ้าน จึงได้เห็นแผ่นกระดาษสีขาวที่ถูกพับไว้ให้คล้ายกับซองจดหมายแนบอยู่ที่ข้างประตูไม้สีเข้ม พ่อบ้านหนุ่มไม่รั้งรอที่จะเปิดมันอ่านเพราะหวังว่าจะเป็นข้อความจากมาสเตอร์ตัวน้อย
“ถึงผู้ติดตาม คุโรดะ อากีระ ตอนนี้เราพร้อมจะฆ่าไอ้เด็กนี่ทิ้งทุกเมื่อ จงนำหนังสือมอบอำนาจของบริษัทแฟนท่อม มาแลกกับตัวมัน ชักช้าทางเราจะไม่รับประกันความปลอดภัย อาจจะได้เพียงร่างที่ไร้ลมหายใจของนายแกกลับไปดูเป็นขวัญตา มาตามที่อยู่นี่ มาคนเดียวห้ามแจ้งให้ใครรู้ ไม่งั้นเราจะเชือดมันทิ้งทันที”
“บ้านร้างละแวกวัดเซนโซจิ ในย่านอาซากุสะ เวลาห้าโมงเย็นของวันนี้”นี่เป็นข้อความสุดท้ายจากในจดหมาย ก่อนที่พ่อบ้านหนุ่มจะขยำมันทิ้งจนแทบจะแหลกเป็นจุล ดวงตาสีเพลิงที่ดูเยียบเย็น แต่แฝงไปด้วยความโกรธแค้น
พ่อบ้านหนุ่มไม่ได้ทำอะไรโดยวู่วาม หากแต่ว่าใช้ความใจเย็นแก้ไขปัญหา ตามแบบฉบับเซบาสเตียน พ่อบ้านซาตานคนนี้
ดาบคาทานะสามชาคุ ที่วางตั้งตระหง่านอยู่บนหลังตู้ไม้ เป็นดาบที่จับกระชับมือที่สุดก็ว่าได้ อีกทั้งคาทานะยังเป็นดาบที่มีสองคม นิยมใช้ในหมู่ซามูไรในยุคเอโดะเป็นอย่างมาก ด้ามจับสีดำที่เข้ากันได้ดีกับยูคาตะที่ผู้ครอบครองมันสวมใส่ กับประกายสีเงินที่สะท้อนแสงวิววับ ตัดกับดวงตาสีเพลิงที่ทอเป็นประกาย
“มาอยู่ญี่ปุ่นทั้งที ก็ต้องใช้อาวุธให้เข้ากับที่นี่สินะขอรับ”ร่างสูงเก็บดาบเล่มยาวเข้าฝักตามเดิม ก่อนจะออกเดินทางไปยังย่านอาซากุสะเพื่อไปรอดูความเคลื่อนไหวของผู้ที่พาตัวมาสเตอร์ไป
ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที เซบาสเตียนก็ถึงยังที่หมาย เซนโซจิวัดใหญ่ที่มีชื่อเสียง เจดีย์สีแดงสดที่ตั้งอยู่ในวัดเปล่งประกายรัศมีแข่งกับดวงอาทิตย์ นอกจากนี้เราก็รอ....รอเวลาให้พวกมันออกมา เรื่องทุกอย่างก็จะจบ
พันธะสัญญาที่มี จะไม่ใช่แค่การทำเพื่อสุนทรียศาสตร์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากจะต้องปกป้องผู้ถือสัญญาให้ถึงที่สุด จะต้องไม่ให้ผิดพลาดเหมือนครั้งที่แล้วอีก คราวนี้จะไม่ยอมเสียนายน้อยผู้เป็นที่รักอีกแน่ การรอคอยที่จะได้พบกันตลอดหลายร้อยปี ทั้งหมดที่อดทนรอมา จะไม่สูญเปล่า.......
ดวงตาสีเพลิงทอประกายแวววาว จับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของผู้ที่เดินเข้ามาในชุดซามูไรประยุกต์กับลูกน้องบริวารอีกราวสิบคน และร่างบางที่เค้าคุ้นหน้าคร่าตาเป็นอย่างดี ถูกจับมัดมือมัดเท้าไว้อย่างแน่นหนาไม่ให้หนีไปไหนได้
“เล่นแบบนี้หรือ หมาหมู่ที่หาเรื่องมาตายหมู่ชัดๆ”ดวงตาสีเพลิงที่จับจ้องเหล่าผู้มีอิทธิพลเดินเข้ามาในบริเวณที่นัดไว้
“หึหึ แล้วจะได้รู้รสชาติว่าความตายมันจะเจ็บปวดซักแค่ไหน”เสียงหัวเราะในลำคออันเย็นยะเยือกดังออกมาจากร่างสูงที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่บนต้นไม้ใหญ่
.............................................
..............................
.........................................
......................................................
เอ้าตอน 2 เปิดตำนานรักยากูซ่าหน้าหวานมาแล้วค่า คราวนี้หนูจิเอลโดนจับตัวไป คงคอนเซ็ปเดิม แต่นี่เพราะไม่สบายหรอกนะ
ไม่งั้นอย่าหวังจะได้แตะต้องตัวจิเอล คราวนี้ถึงทีเซบาสจังจะไปตามของรักคืนแล้ว หุหุ จะยอมให้ใครเอาสุดที่รักไปง่ายๆได้ไงเนอะ ครั้งหน้ารับรองว่าใครที่ถามหาเซบาสเตียนฉบับ หล่อ เลว ร้าย รัก ล่ะก็ 555+ ได้อ่านแน่ค่ะ^^ ขอบคุณสำหรับคอมเม้นและผู้ที่ติดตามฟิคของไรท์เตอร์นะคะ โค้งงามๆให้หนึ่งที
ความคิดเห็น