ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Prince[ss] Yakuza - (Sebastian X Ciel)

    ลำดับตอนที่ #2 : Part : 2 Vanish

    • อัปเดตล่าสุด 10 พ.ค. 52






                        เข็มปลายแหลมถูกหยิบขึ้นจากกล่องไม้สีเข้ม   คนตัวเล็กกัดฟันแน่นทันทีเพื่อข่มความรู้สึกเจ็บ    ขณะที่ปลายเข็มมุดหายเข้าไปในผิวเนื้อช่วงต้นแขนที่มีรอยแผลฉกรรจ์  หยาดน้ำตาที่ยังคลออยู่ในดวงตาคู่สวย  คล้ายจะไหลออกมาแต่เค้าก็ยังคงกลั้นมันเอาไว้ 

     


    อดทนหน่อยนะขอรับร่างสูงที่ลงมือฝังฝีเข็มอย่างเบามือที่สุดเอ่ยขึ้น  ก่อนที่เข็มปลายแหลมจะมุดหายเข้าไปยังรอยแผลอีกครั้ง 

     


    ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากร่างบาง  มีเพียงเสียงลมหายใจหนักๆดังขึ้นเป็นจังหวะ   ไร้ซึ่งเสียงบทสนทนาใดๆ  มีเพียงความเงียบที่เข้ามาปกคลุมเท่านั้น   

     



         พลันภาพเหตุการณ์ต่างๆก็วิ่งวนเข้ามาในสมองอย่างรวดเร็วจนไม่ทันได้ตั้งตัว   

    ภาพชายหนุ่มในชุดสูทตัวยาวสีดำสนิทสไตล์แบบฉบับอังกฤษเก่า  เรือนผมสีดำขลับซึ่งเข้ากับชุดสูทนั่น   ดวงตาสีเพลิงที่ทอแสงเป็นประกาย  มันไม่ได้ดูน่ากลัวเลยซักนิด  แต่กลับดูอบอุ่นจนน่าแปลกใจ 

     


    ไม่ว่าที่ไหนกระผมก็อยู่ข้างนายน้อยเสมอ......เสียงนุ่มที่ฟังดูคุ้นหูเสียเหลือเกิน  มันแผ่วเบาแต่ทว่าดังก้องในโสตประสาท   รอยยิ้มที่ดูเหมือนเย็นชาแต่ยังคงแฝงความอบอุ่น    บรรยากาศโดยรอบที่คุ้นตา  เหมือนเคยเห็นมันที่ไหนมาก่อน

     

    ………………………………………..

     


    เฮือก
    !!!  

     


             ร่างบางที่นอนอยู่กับฟูกสีขาวสะอาด  สะดุ้งตื่นจากความฝันซึ่งมันยังคงติดตาและชัดเจน    
    แสงจากโคมไฟไม้ยังคงให้ความสว่างทำให้ภายในห้องไม่มืดนัก  

     


    ฝันร้ายหรือขอรับร่างสูงในชุดยูคาตะสีดำที่ยังคงนั่งอยู่ข้างๆไม่ได้ไปไหน

     


    ผม...หลับไปเมื่อไหร่

     


    หลังจากเย็บแผลเสร็จน่ะขอรับ  อาจจะเป็นเพราะพิษไข้ ถึงทำให้อ่อนเพลีย  พักเถอะขอรับ  ไม่นานก็จะหายดีพ่อบ้านหนุ่มใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆค่อยๆเช็ดใบหน้าและลำคอของผู้เป็นนายที่บัดนี้เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ

     


    เซ-บาส-เตียนเสียงแผ่วเบาของร่างบางดังขึ้น

     


    นายเหมือนคนๆนั้นมากจริงๆ  ทั้งรูปร่างหน้าตา  แม้แต่น้ำเสียงการพูดจา  ตกลงเค้าคือคนๆเดียวกันกับนายรึเปล่า

     


    หืม...นายน้อยมีอะไรหรือขอรับพ่อบ้านหนุ่มถามขึ้น

     


    ดวงตาสีเพลิงสบเข้ากับนัยน์ตาสีฟ้าสวยโดยตั้งใจ  คล้ายกับจะค้นหาอะไรบางอย่างที่ซ่อนอยู่ในใจของคนตรงหน้า
        

     


    “อืม...ไม่มีอะไรแล้วล่ะ  นาย...ไปพักเถอะ มีอะไรผมจะเรียกเองและแล้วจิเอลก็ยังคงปล่อยให้คำถามทั้งหมดจมลงในห้วงความคิด   


       ไม่อยากเอ่ยถาม  ถึงแม้จะต้องการคำตอบนั่นมากแค่ไหนก็ตาม  นี่ไม่ใช่ครั้งแรกกับความฝันแบบนี้  ตลอดสามปีมาแล้วที่มันเกิดขึ้นบ่อยๆ  ไหนจะเหตุการณ์บ้านไฟไหม้  กับพ่อแม่ที่ถูกฆาตกรรมอย่างโหดร้าย  วนเวียนสลับสับเปลี่ยนเข้ามาในสมอง

     

     

    ขอรับร่างสูงรับคำสั่ง   แล้วเดินหันหลังจากห้องนอนของมาสเตอร์ไป   ดวงตาคู่สวยเผลอมองพ่อบ้านคนสนิทที่กำลังเดินจากไป   ก่อนจะหลับตาลงเพื่อข่มความรู้สึกเจ็บจากรอยแผล

     

          
             ร่างสูงออกมานั่งรับลมที่ระเบียงไม้ในสวนญี่ปุ่นหลังบ้าน   สายลมหนาวยังคงพัดเอื่อยๆ   ก่อนที่ภาพในวันวานที่ผ่านมานานแสนนานจะย้อนเข้ามาให้ได้ขบคิด

     

     

    นายน้อยก็ยังเหมือนเดิม   ยังเป็นคนเดิมที่ดูไม่เปลี่ยนแปลง  สมกับการรอคอยที่จะได้พบกัน   พันธะสัญญาที่ไม่มีวันลบล้าง  ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปอีกสักกี่ร้อยปี     

    ไม่ว่านายน้อยจะไปอยู่ที่ใด  กระผมก็จะขอตามท่านไปทุกที่ จะขอปกป้องดูแลตลอดไปความไร้เดียงสา  ร่างบอบบางที่น่าทะนุถนอม ความคิดต่างๆพาให้รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อร้าย   ก่อนที่รุ่งอรุณแห่งวันใหม่จะเข้ามาเยือนในไม่ช้า  

     

                 

              ยามเช้าที่อากาศสดใสในฤดูใบไม้ร่วง  กับอากาศที่เริ่มเย็นเพราะใกล้จะเข้าสู่ฤดูหนาวเต็มที     พ่อบ้านหนุ่มกำลังเตรียมชาร้อนกับอาหารเช้าสำหรับคนป่วยอยู่ด้านในครัว   สิ่งที่ตระเตรียมล้วนแต่เป็นของชอบมาสเตอร์ทั้งนั้น  ไม่ว่าจะเป็นใบชาชาที่สั่งตรงมาจากอังกฤษ  กับอาหารเช้าที่ต้องใช้เวลาพิถีพิถันในการทำ   ไม่นานนักอาหารที่บรรจงจัดใส่จานก็เสร็จเรียบร้อยพร้อมเสิร์ฟ 

     


    นายน้อยขอรับเสียงนุ่มเอ่ยขึ้นเป็นการขออนุญาตที่จะเข้าไปด้านในห้องนอน 

    แต่ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ   เป็นสิ่งที่แปลกกว่าทุกวัน........ 

     

        

          ก่อนที่พ่อบ้านหนุ่มจะตัดสินใจเปิดประตูเลื่อนที่คล้ายฉากกั้นออก   มีเพียงฟูกสีขาวที่ว่างเปล่า  ไร้วี่แววร่างบางที่ควรจะนอนหลับอยู่เพราะพิษไข้   แต่กลับไม่มีแม้แต่เงาผู้เป็นนาย  ขาที่ก้าวเดินอย่างรวดเร็วโดยอัตโนมัติเพื่อออกตามหามาสเตอร์ตัวน้อย

     

     

    “ยังเจ็บอยู่แท้ๆ  ไปไหนของเค้านะพ่อบ้านหนุ่มออกตามหาคนหน้าหวานจนทั่วบ้านหลังใหญ่    หาทุกห้อง  รวมไปถึงระเบียงไม้หรือสวนหลังบ้านก็ไม่มี 

     


    จะออกไปไหนน่าจะบอกก่อน

     


         จนขายาวๆก้าวมาหยุดตรงหน้าประตูบ้าน    จึงได้เห็นแผ่นกระดาษสีขาวที่ถูกพับไว้ให้คล้ายกับซองจดหมายแนบอยู่ที่ข้างประตูไม้สีเข้ม  พ่อบ้านหนุ่มไม่รั้งรอที่จะเปิดมันอ่านเพราะหวังว่าจะเป็นข้อความจากมาสเตอร์ตัวน้อย

     

     

    ถึงผู้ติดตาม  คุโรดะ อากีระ  ตอนนี้เราพร้อมจะฆ่าไอ้เด็กนี่ทิ้งทุกเมื่อ  จงนำหนังสือมอบอำนาจของบริษัทแฟนท่อม  มาแลกกับตัวมัน   ชักช้าทางเราจะไม่รับประกันความปลอดภัย  อาจจะได้เพียงร่างที่ไร้ลมหายใจของนายแกกลับไปดูเป็นขวัญตา มาตามที่อยู่นี่  มาคนเดียวห้ามแจ้งให้ใครรู้  ไม่งั้นเราจะเชือดมันทิ้งทันที



    บ้านร้างละแวกวัดเซนโซจิ ในย่านอาซากุสะ  เวลาห้าโมงเย็นของวันนี้นี่เป็นข้อความสุดท้ายจากในจดหมาย  ก่อนที่พ่อบ้านหนุ่มจะขยำมันทิ้งจนแทบจะแหลกเป็นจุล   ดวงตาสีเพลิงที่ดูเยียบเย็น  แต่แฝงไปด้วยความโกรธแค้น  

     



        พ่อบ้านหนุ่มไม่ได้ทำอะไรโดยวู่วาม  หากแต่ว่าใช้ความใจเย็นแก้ไขปัญหา  ตามแบบฉบับเซบาสเตียน  พ่อบ้านซาตานคนนี้

    ดาบคาทานะสามชาคุ ที่วางตั้งตระหง่านอยู่บนหลังตู้ไม้  เป็นดาบที่จับกระชับมือที่สุดก็ว่าได้  อีกทั้งคาทานะยังเป็นดาบที่มีสองคม   นิยมใช้ในหมู่ซามูไรในยุคเอโดะเป็นอย่างมาก   ด้ามจับสีดำที่เข้ากันได้ดีกับยูคาตะที่ผู้ครอบครองมันสวมใส่   กับประกายสีเงินที่สะท้อนแสงวิววับ   ตัดกับดวงตาสีเพลิงที่ทอเป็นประกาย

     



    มาอยู่ญี่ปุ่นทั้งที  ก็ต้องใช้อาวุธให้เข้ากับที่นี่สินะขอรับร่างสูงเก็บดาบเล่มยาวเข้าฝักตามเดิม   ก่อนจะออกเดินทางไปยังย่านอาซากุสะเพื่อไปรอดูความเคลื่อนไหวของผู้ที่พาตัวมาสเตอร์ไป

     

     



          ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที  เซบาสเตียนก็ถึงยังที่หมาย   เซนโซจิวัดใหญ่ที่มีชื่อเสียง          
    เจดีย์สีแดงสดที่ตั้งอยู่ในวัดเปล่งประกายรัศมีแข่งกับดวงอาทิตย์   นอกจากนี้เราก็รอ....รอเวลาให้พวกมันออกมา  เรื่องทุกอย่างก็จะจบ 

     

     

         
          พันธะสัญญาที่มี  จะไม่ใช่แค่การทำเพื่อสุนทรียศาสตร์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น     หากจะต้องปกป้องผู้ถือสัญญาให้ถึงที่สุด   จะต้องไม่ให้ผิดพลาดเหมือนครั้งที่แล้วอีก  คราวนี้จะไม่ยอมเสียนายน้อยผู้เป็นที่รักอีกแน่   การรอคอยที่จะได้พบกันตลอดหลายร้อยปี     ทั้งหมดที่อดทนรอมา  จะไม่สูญเปล่า.......

     

     

    ดวงตาสีเพลิงทอประกายแวววาว   จับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของผู้ที่เดินเข้ามาในชุดซามูไรประยุกต์กับลูกน้องบริวารอีกราวสิบคน  และร่างบางที่เค้าคุ้นหน้าคร่าตาเป็นอย่างดี  ถูกจับมัดมือมัดเท้าไว้อย่างแน่นหนาไม่ให้หนีไปไหนได้

     


    เล่นแบบนี้หรือ  หมาหมู่ที่หาเรื่องมาตายหมู่ชัดๆดวงตาสีเพลิงที่จับจ้องเหล่าผู้มีอิทธิพลเดินเข้ามาในบริเวณที่นัดไว้

     


    หึหึ  แล้วจะได้รู้รสชาติว่าความตายมันจะเจ็บปวดซักแค่ไหนเสียงหัวเราะในลำคออันเย็นยะเยือกดังออกมาจากร่างสูงที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่บนต้นไม้ใหญ่

                    


                             .............................................

    ..............................
    .........................................
    ......................................................
        เอ้าตอน 2  เปิดตำนานรักยากูซ่าหน้าหวานมาแล้วค่า  คราวนี้หนูจิเอลโดนจับตัวไป  คงคอนเซ็ปเดิม  แต่นี่เพราะไม่สบายหรอกนะ  
    ไม่งั้นอย่าหวังจะได้แตะต้องตัวจิเอล   คราวนี้ถึงทีเซบาสจังจะไปตามของรักคืนแล้ว  หุหุ  จะยอมให้ใครเอาสุดที่รักไปง่ายๆได้ไงเนอะ   ครั้งหน้ารับรองว่าใครที่ถามหาเซบาสเตียนฉบับ หล่อ เลว ร้าย รัก ล่ะก็  555+  ได้อ่านแน่ค่ะ^^  ขอบคุณสำหรับคอมเม้นและผู้ที่ติดตามฟิคของไรท์เตอร์นะคะ    โค้งงามๆให้หนึ่งที
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×