เมอริตาเตน นางพญาสามพันปี

แนะนำตัวละครหลักของเรื่อง

พระนางเมอริตาเตน

ทรงเป็นพระมเหสีของฟาโรห์สเมนคาเร ฟาโรห์องค์ที่ 11 ในราชวงศ์ที่ 18 เป็นผู้นำในการต่อต้านเทพอาเตนของพระราชบิดา จนสุดท้ายถูกลงโทษประหารชีวิต และต้องทนทุกข์มานก่อนจะสิ้นพระชนม์และหลังสิ้นพระชนม์ ดวงพระวิญญาณไม่สามารถเดินทางไปยังดินแดนหลังความตายได้ เพราะถูกตัดพระหัตถ์ทิ้งก่อนจะนำไปทำเป็นมัมมี่ ทำให้มีพระวรกายไม่สมประกอบ  ทุกวันนี้ยังไม่มีผู้ใดค้นพบมัมมี่ของเจ้าหญิงผู้อาภัพพระองค์นี้ได้เลย

ฟาโรห์สเมนคาเร

กษัตริย์อียิปต์องค์ที่ 11 ของราชวงศ์ที่ 18 ซึ่งถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์เอาไว้ว่า ทรงเป็นฟาโรห์ที่ลึกลับที่สุด ไม่มีข้อมูลว่าพระองค์ทรงมีตัวตนจริงหรือไม่ แต่หลักฐานหลายอย่างทางด้านโบราณคดีกลับยืนยันว่าพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ขึ้นครองราชย์ก่อนฟาโรห์ตุตันคาเมน ซึ่งปัจจุบันนี้ยังไม่สามารถขุดพบหรือหลักฐานชี้ชัดของมัมมี่พระองค์ได้เลย ทรงหายสาปสูญไปอย่างไร้ร่องรอยและมีระยะเวลาการครองราชย์เพียงสั้นๆ แค่ปีกว่าๆ เท่านั้น ทุกวันนี้พระราชประวัติของพระองค์ยังเป็นประเด็นที่นักโบราณคดีต่างถกเถียงกันว่าแท้จริงแล้ว พระองค์ทรงมีตัวตนจริงหรือไม่หรือว่าฟาโรห์สเมนคาเรแท้ที่จริงแล้วก็คือพระนางเนเฟอร์ตีติ ซึ่งก็ได้หายสาปสูญไปอย่างไร้ร่องรอยในปี ที่ 12 ของการครองราชย์ฟาโรห์อาเคนาเตน ซึ่งพระนางได้หายไปหลังการหายสาปสูญของฟาโรห์สเมนคาเรประมาณ 3 ปี

ฟาโรห์อาเคนาเตน

กษัตริย์ลำดับที่ 10 ของราชวงศ์ที่ 18 เป็นพระราชบิดาของฟาโรห์สเมนคาเร และฟาโรห์ตุตันคาเมน เป็นฟาโรห์ผู้โด่งดังเป็นที่รู้จักกันดีในด้านศิลปะอาร์มานา พระองค์เป็นผู้ปฏิรูปศาสนาทรงยกเลิกเทพเจ้าของอียิปต์ที่มีอยู่กว่า 1000 พระองค์ ให้หันมานับถือเทพอาเตน เพียงองค์เดียว ทรงสร้างเมืองหลวงใหม่ชื่อว่า เทล แอล อาร์มานา ที่ตั้งอยู่กลางทะเลทรายอันแห้งแล้งและทรุกันดาร สุดท้ายเมืองหลวงอาร์มานา และเทพอาเตน รวมไปถึงศิลปะอาร์มานาในยุครัชสมัยของพระองค์ก็จบลงอย่างสิ้นเชิงเมื่อพระองค์เสด็จสวรรคต ในปีที่ 17 นั้นเอง

ท่านเคานท์ หลุยส์ ออร์มอนด์

ขุนนางผู้สูงศักดิ์จากอังกฤษ นักปรจิตวิทยา ได้เดินทางมายังอียิปต์เพื่อเยี่ยมเพื่อนเก่า และเขาได้รับของขวัญจากเพื่อนรักในฐานะที่ช่วยทำให้มีชีวิตรอดจากอาการป่วยที่ทรุดหนักจนกลับมาเป็นปกติ ในขณะเดียวกัน ท่านเคานท์เคยได้รับของกำนัลเป็นสิ่งของมีค่ามากมาย บางส่วนเป็นของโบราณมาจากทั่วทุกสารทิศ ท่านเคานท์มีของโบราณที่ได้มาโดยการให้และซื้อสะสมมากมาย จนมีคอลเลคชั่นส่วนตัว และหนึ่งในน้ันมีหีบงาช้างที่บรรจุกระดาษปาปิรัสโบราณ ซึ่งมีมนตราเพื่อปลดปล่อยวิญญาณบรรจุอยู่ในหีบไม้งาช้างนั้น โดยเขาไม่รู้ว่าในอนาคตเบื้องหน้าจะได้ใช้มัน เพื่อปลกปล่อยดวงพระวิญญาณของเจ้าหญิงอียิปต์ ซึ่งท่านเคานท์ได้มาแต่เพียงพระหัตถ์ข้างขวา หาใช่ร่างมัมมี่แต่อย่างใด

....................................................................................................................................................................

สวัสดีนักอ่านที่น่ารักของไรท์เตอร์

ก่อนอื่นไรท์เตอร์ ต้องขออภัยที่ไม่ได้เข้ามาอัพนิยายเลย พอดีย้ายกลับไปอยู่บ้านนอก ที่จังหวัดเชียงใหม่อันเป็นบ้านเกิดของไรท์เตอร์แต่ดั้งแต่เดิม จึงวุ่นวายในการเก็บของและจัดของพร้อมทำความสะอาดบ้านใหม่เพิ่งจะลงตัวได้ไม่นานและกำลังเขียนนิยายแนวอียิปต์และแนวรักหลายเรื่อง เขียนได้เกินครึ่งจะเอามาลงให้อ่านกันเหมือนเดิมคะ และเรื่องที่แทรกคิวเขียนกระทั่งไรท์เตอร์เขียนจบและกำลังรีไรท์คำผิด

นั้นก็คือ พระหัตถ์ เจ้าหญิงเมอริตาเตน ไรท์เตอร์ได้แรงบันดาลใจมาจากเพื่อนที่เป็นนักโบราณคดี ซึ่งเรียนปริญญาเอกอยู่ที่ไคโร กำลังออกภาคสนามอยู่ที่อียิปต์ เพื่อนของไรท์ไปออกสำรวจที่เมืองอาร์มานาแล้วไปได้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ลึกลับและซับซ้อนมาก ในสมัยของฟาโรห์อาเคนาเตนที่เรารู้จักกันดี และหนึ่งในเรื่องลึกลับของฟาโรห์พระองค์นี้ คือเรื่องของพระราชธิดาองค์โต ที่มีพระนามว่า เมอริตาเตน หรืออ่านว่า มาคาเตเตน เพื่อนๆ คงจะได้ยินมาบ้างเรื่องพระหัตถ์อาถรรพ์ของเจ้าหญิงอียิปต์ ซึ่งไรท์เตอร์ก็เคยได้อ่านมาเหมือนกัน 

แต่บังเอิญเพื่อนของไรท์เตอร์ไปได้ข้อมูลมาเพิ่มเติมและสนับสนุนจนเชื่อได้ว่า เจ้าหญิงพระองค์นี้ ถูกฟาโรห์อาเคนาเตน สั่งประหารเพราะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของการต่อต้านเทพเจ้าอาเตนโดยมีพระสวามีฟาโรห์สเมนคาเร เป็นผู้นำการต่อต้าน และข้อสันนิษฐานที่ว่า ฟาโรห์สเมนคาเรกับพระนางเนเฟอร์ตีติคือคนเดียวกัน กำลังจะตกประเด็นไป เพราะการค้นพบล่าสุดมีการบันทึกเอาไว้ว่า ผู้นำในที่ลับซึ่งทำการต่อต้านเทพอาเตน คือฟาโรห์สเมนคาเร นั้นก็หมายความว่าฟาโรห์พระองค์นี้มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์เจ้าค่ะ ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยไรท์เตอร์ก็นำมาสร้างจินตนาการต่อมาเอง ความยาวไม่มาก 100 กว่าหน้านิดๆ อ่านกำลังพอดี เขียนยาวเวิ้นเว่อเดี๋ยวออกทะเล แหะๆๆ 

นิยายเรื่องนี้มีบางฉาก บางตอนและชื่อตัวละคร บางส่วนมาจากข้อมูลประวัติศาสตร์ เจตนาเพื่อให้เกิดความสมจริงแต่มิได้มีเจตนาอื่นแอบแฝงแต่อย่างใด และเป็นการสร้างจินตนาการขึ้นมาเท่านั้น ไม่ได้บิดเบือนข้อมูลประวัติศาสตร์แม้แต่น้อย เรื่องนี้จะอัพโหลดขึ้นเป็นอีบุ๊คประมาณสัปดาห์หน้า กำลังตรวจทานคำผิดอยู่ ส่วนการทำรูปเล่มคงต้องรอดูว่าจะมีนักอ่านต้องการหรือไม่ ถ้าต้องการรูปเล่ม 10 เล่มไรท์เตอร์ก็พิมพ์!!!! 

สำหรับเรื่องดั่งทรายเพรียกหา ไรท์เตอร์ก็กำลังเขียนควบคู่ไปกับ ดาริกา ยอดรักเทพบุตรมาร พอเขียนเสร็จอาจจะเปลี่ยนชื่อ เพราะบังเอิญเห็นชื่อไปซ้ำกับนิยายของนักเขียนท่านอื่นเดี๋ยวไรท์เตอร์จะงานเข้าโดยไม่รู้ตัว ส่วนดั่งทรายเพรียกหา ซึ่งเป็นนิยายแนวอียิปต์เหมือนกันแต่เขียนยังไม่จบ สาเหตุเพราะ พล็อตเจ้าหญิงเมอริตาเตน มาก่อนวิ่งปรู๊ดเลยเจ้าค่ะ เลยเขียนจบเร็ว  ฝากติดตามนิยายเรื่องใหม่ของไรท์เตอร์ด้วยนะคะ 

                                                                               รักคนอ่านมากมาย

                                                          BY:เกรซ/มณี/มณีภัสสร

นิยายเรื่องนี้จัดทำเป็นอีบุ๊คแล้วนะคะ นักอ่านที่น่ารักท่านใดเข้ามาอ่านหลังจากที่ลงจนจบแล้ว ติดตามอ่านได้ในแบบ E-BOOK โลดจ้า ราคาเบาๆ สบายกระเป๋าเน้อ หรือจะอ่านในรูปแบบเปิดขายแพ๊คเกจในเด็กดีก็ได้จร้า สามารถเลือกได้ตามความถนัดของแต่ละท่านได้เลยเน้อ

เมอริตาเตน นางพญาสามพันปี เกรซ www.mebmarket.com และนี่คือเรื่องราวของพระนางเมอริตาเตน  ผู้ต้องคำสาปจากฟาโรห์อาเมนโฮเทปที่ 4 หรือที่รู้จักกันในพระนามอาเคนาเตน แห่งจักรวรรดิอียิปต์ ในราชวงศ์ที่ 18 ยุคทองซึ่งนักโบราณคดีทั่วโลกต่างเรียกยุคนี้ว่า ยุคจักรวรรดิใหม่ซึ่งเป็นยุคทองที่อียิปต์รุ่งเรืองและมั่งคั่ง นับจกราชวงศ์ที่ 18 จนถึงราชวงศ์ที่ 20 พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่กล้าลุกขึ้นมาปฏิรูปศาสนาให้ประชาชนหันมานับถือเทพเจ้าเพียงองค์เดียว นั้นก็คือเทพอาเตน ทรงรวบอำนาจแบบเบ็ดเสร็จชนิดเผด็จการให้อยู่กับพระองค์เพียงผู้เดียวเท่านั้น เจตนาเพื่อล้มล้างอำนาจของนักบวชจากคาร์นัคที่นับวันมีอำนาจล้นเหลือที่กษัตริย์มิอาจต้านทานหรือต่อรองได้ในบางกรณี ทุกสิ่งต้องผ่านพระองค์เท่านั้น จึงทรงเป็นนักบวชซึ่งเป็นสังฆราชไปพร้อมๆ กัน จนพระองค์ถูกมองว่าเป็นฟาโรห์นอกรีต ผู้คนในยุคสมัยนั้นล้วนแล้วแต่เคียดแค้นและชิงชังกษัตริย์ของตนอย่างยิ่งยวด เป็นที่น่าเสียดายว่าแนวคิดของพระองค์ดังกล่าวไม่เป็นที่ยอมรับของนักบวชและประชาชนชาวอียิปต์ แต่ในยุคปัจจุบันวงการโบราณคดีต่างนับถือความคิดอันล้ำหน้าของพระองค์ที่กล้าเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ระดับมหากาฬเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีเรื่องอันลึกลับและเต็มไปด้วยปริศนาอันมากมายได้เกิดขึ้นในรัชสมัยของพระองค์ที่เต็มไปด้วยเงื่อนงำ ไม่ว่าจะเป็นราชินีโฉมงาม พระนางเนเฟอร์ตีติ ซึ่งถูกยกย่องว่าทรงเป็นราชินีที่งดงามมากที่สุดในโลกของยุคโบราณในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความเร้นลับแอบแฝงและเงื่อนงำที่ซับซ้อน ชวนให้น่าปวดหัวและต้องขบคิดแตกประเด็นไปต่างๆ นานาเลยทีเดียว  และหนึ่งในเรื่องราวที่ถูกปกปิดอย่างลึกลับให้สูญหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์นอกเหนือจาก ปริศนาการหายสาปสูญของฟาโรห์สเมนคาเร ซึ่งเป็นฟาโรห์ที่ลึกลับที่สุดในราชวงศ์ที่ 18 นั้นก็คือ         พระบัญชาอันโหดร้ายที่ทำให้พระราชธิดาองค์โต พระนามว่าเมอริตาเตน หรือมาเคราเตน มเหสีผู้เป็นที่รักของฟาโรห์ สเมนคาเร ต้องพบกับจุดจบและได้รับความทุกข์ทรมานทั้งก่อนตายและหลังความตายอย่างที่ไม่เคยมีผู้ใดคาดคิด“มันผู้ใดบังอาจลบหลู่ข้า มันผู้นั้นจะต้องถึงกาลวิบัติทุกคน!”