แฟนตาซี: ความอยู่ยงคงกระพันเริ่มต้นจากร่างกายศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าโดยกำเนิด(นิยายแปล)

ลำดับตอนที่ #4 : โชคลาภล้นเหลือ เมล็ดพันธุ์แห่งต้นไม้แห่งโลก

“ไปกันเถอะ ข้าจะพาเจ้าไปที่สำนักที่เจ้ากำลังฝึกฝนอยู่ เจ้าต้องอัพเกรดฐานฝึกฝนของเจ้าก่อน ไม่เช่นนั้น บุตรศักดิ์สิทธิ์คนอื่นอาจไม่ยอมรับ” บรรพบุรุษแห่งโปจุนกล่าวอย่างจริงจัง

“เข้าใจแล้ว ฉันจะทำงานหนักแน่นอน” ซู่ ชางเจิ้งประกบมือกล่าว

ปรมาจารย์โปจุนลูบเคราของเขาและมองดูซู่ชางเกอด้วยความพึงพอใจ เขาพอใจมาก เส้นทางนั้นหายาก และแม้จะมีความสำเร็จเช่นนี้ เขาก็ยังไม่หยิ่งผยองหรือหุนหันพลันแล่น

ปรมาจารย์โปจุนโบกมือและถนนสีทองก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าซู่ชางเกอ ซึ่งรูนนั้นแทรกซึมเข้าไปและนำไปสู่ส่วนลึกของดินแดนศักดิ์สิทธิ์โดยตรง

“ไปกันเถอะ ชางเกอ ฉันจะพาเธอไปดูสำนักที่เธอฝึกซ้อม”

เมื่อซู่ฉางเกอก้าวเข้ามาบนถนนสีทองแห่งนี้ มันก็เคลื่อนไหวเหมือนลิฟต์เลยทีเดียว!

ทิวทัศน์ใต้ฝ่าเท้าเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แสงอมตะดูเหนือจริง และเมฆและหมอกก็ค่อยๆ ก่อตัวขึ้น

ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ยังคงมีภูเขาศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งตั้งตระหง่านอยู่กลางอากาศ พร้อมด้วยเครนบินอยู่ท่ามกลางภูเขาเหล่านั้น ซึ่งดูราวกับเป็นดินแดนแห่งเทพนิยายอันแสนฝัน

“ดินแดนศักดิ์สิทธิ์กุ้ยหยวนของฉันมีเกาะลอยฟ้าทั้งหมด 182 เกาะ และยังมีหอคอยและพระราชวังอีกนับไม่ถ้วน”

"ยังมีดินแดนบรรพบุรุษในดินแดนศักดิ์สิทธิ์กุ้ยหยวนด้วย ซึ่งเป็นที่ที่พวกเราผู้เฒ่าผู้แก่ฝึกซ้อมกัน"

“ชางเกอ พระราชวังเต๋าที่ท่านฝึกฝนชื่อว่าวัดหยวน เป็นสถานที่ที่พลังจิตวิญญาณของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเราแข็งแกร่งที่สุด เมื่อฝึกฝนที่นั่น ท่านจะได้ผลลัพธ์สองเท่าด้วยความพยายามเพียงครึ่งเดียว ดูสิ สะดวกดี” ปรมาจารย์โปจุนชี้ไปในทิศทางหนึ่งและแนะนำถนน

ฉันเห็นแสงสว่างแห่งความศักดิ์สิทธิ์คงอยู่ที่นั่น กฎแห่งถนนแผ่ซ่านไปทั่ว เต็มไปด้วยความรู้สึกศักดิ์สิทธิ์

ในจำนวนนั้น มีวัดและหอคอยมากมาย คานแกะสลักและอาคารทาสี แสงอมตะและพลังจิตวิญญาณ ตั้งแต่สนามประลองศิลปะการต่อสู้ไปจนถึงศาลาชมวิว

หลังจากที่พาซูชางเกอทัวร์แล้ว ปรมาจารย์โปจุนบอกให้เขาฝึกฝนหนักๆ แล้วจากไป

วัดกุ้ยหยวนมีพื้นที่กว้างใหญ่ไม่มีการตกแต่งใดๆ และดูหดหู่เล็กน้อย

หายใจออกให้หมดระบบอีกครั้ง

“ใช้แพ็คเกจของขวัญสำหรับผู้เริ่มต้น”

ขณะที่คำพูดของซู่ชางเก๋อหลุดออกไป หีบสมบัติอันงดงามก็ปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า พร้อมกับเปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์หลากสีสัน

เมื่อ "คลิก" หีบสมบัติเปิดออกอย่างช้าๆ แสงศักดิ์สิทธิ์ในนั้นก็พร่างพราย

[เจ้าภาพโชคดีมาก ขอแสดงความยินดีกับการได้รับเมล็ดพันธุ์ต้นไม้โลก ดาบเทพ เจตนาดาบสังหารเทพ และเกราะนางฟ้า ]

“เต็มไปด้วยโชคใช่ไหม?” ซู่ชางเกอคาดเดาว่ามันน่าจะเป็นรางวัลแบบสุ่ม เช่น ลอตเตอรี

เมื่อมองดูทั้งสี่สิ่งนี้แล้ว เขาก็มีความสุขมาก แต่ละสิ่งก็มีข้อดีของตัวเอง!

“ดึงดาบเทพออกมา”

ซู่ชางเก๋อพึมพำด้วยเสียงต่ำ คลื่นเล็กๆ ปรากฏขึ้นในความว่างเปล่าตรงหน้าเขา และดาบยาวก็ทะลุผ่านอากาศและปรากฏอยู่ตรงหน้าดวงตาของเขา

เมื่อมีเสียงดาบอันคมชัด ดาบทั้งเล่มก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา ดาบทั้งเล่มมีความยาวประมาณสองฟุต

คมดาบนั้นแวววาวราวกับกระจก และแสงเย็นๆ ก็สาดส่องไปที่ปลายดาบ เพียงแค่มองดูก็ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวแล้ว

ด้ามดาบแกะสลักจากไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ทราบชนิดและมีคำว่า “พระเจ้า” สลักอยู่ ซึ่งดูเหมือนจะมีความหมายถึงการปกครองโลก

[ดาบแห่งสวรรค์: ดาบพลังของนักรบที่สืบทอดมาจากดาบแห่งสวรรค์ สามารถใช้พลังของดาบแห่งสวรรค์เพื่อตัดผ่านความเท็จทั้งหมดในโลกได้ นับเป็นดาบที่คมที่สุดในโลก]

“ดาบแห่งสวรรค์? ดาบสวรรค์เป็นสาขาหนึ่งของเคนโด้! ดาบเล่มนี้มีภูมิหลังอันกว้างใหญ่!”

ซู่ชางเกอถือดาบยาวและเดินไปหาหินวัชระในสนามฝึกศิลปะการต่อสู้ เขาต้องการทดสอบว่าดาบนั้นคมแค่ไหน

หวด!

ดาบเล่มหนึ่งฟันออกไปอย่างเฉียงๆ

หินวัชระถูกตัดขาดทันทีโดยเอวที่ขี้เกียจ และแม้แต่วงป้องกันในสนามประลองศิลปะการต่อสู้ก็ยังได้รับผลกระทบจากดาบนี้ ทำให้แตกออก

“ฮึ...” ซู่ชางเก้หายใจไม่ออก กองกำลังป้องกันนี้เป็นชายผู้แข็งแกร่งที่สามารถต้านทานอาณาจักรมาร์ควิสได้ ถึงแม้ว่ามันจะถูกทำลายได้อย่างง่ายดายก็ตาม!

“ดาบเล่มนี้ไม่ง่ายเลยจริงๆ!”

"หากฉันอัพเกรดฐานฝึกฝนในอนาคต ฉันกลัวว่าดาบฟันจะน่ากลัวมาก!"

“วาดของดีขนาดนี้ โชคของฉันจะหมดไปมั้ย?”

ซู่ ชางเก้ พึมพำ

จากนั้นเขาก็ดูแถบระบบต่อไป

"สกัดเจตนาดาบสังหารพระเจ้า!"

ฮึม!

ลมหายใจอันลึกลับและใหญ่โตพุ่งเข้ามาในจิตใจของเขา และเขาก็เหมือนกับดาบศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังแทงทะลุโลกในขณะนี้

เนื่องมาจากระบบ เจตนาดาบสังหารพระเจ้าจึงได้เกิดขึ้นในร่างกายของเขาแล้วในขณะนี้

[เจตนาดาบสังหารเทพ: มีข่าวลือว่าในสงครามโบราณ นักดาบผู้ชำนาญการได้พิสูจน์หนทางด้วยดาบ กลายเป็นจักรพรรดิอมตะแห่งวิชาดาบ และมีชื่อเสียงในด้านเจตนาดาบที่เขาได้เรียนรู้มาตลอดชีวิตและใช้เวลาหลายปีเพื่อทำความเข้าใจ]

ดาบหลิงเทียนตั้งใจที่จะฟันเทพเจ้าและเทพเจ้าทั้งหมดในโลก! 】

“สงครามโบราณ? การสังหารเทพเจ้าของโลก? มีเจตนาดาบที่น่ากลัวมาก แล้วจะมีอะไรในยุคก่อนประวัติศาสตร์หรือเปล่า? เช่น ดอกบัวทองระดับสิบวินาทีคืออะไร?”

ซู่ชางเกอหัวเราะเบาๆ ถ้ามีสมบัติจริงๆ ในอนาคต มันคงไม่บินหนีไปเฉยๆ หรอกใช่ไหม

“อีกอย่าง ยังมีดาบหยินหยางด้วย” ซู่ชางเกอดูอีเมล์ของระบบและคลิกเพื่อรับมัน

“สกัดเจตนาดาบหยินหยาง”

สายแสงสองสายพุ่งเข้าไปในร่างกายของเขา สายหนึ่งเป็นสีแดงและอีกสายเป็นสีน้ำเงิน คล้ายกับหยินและหยางที่หมุนอยู่

“อีกอย่าง ยังมีดาบหยินหยางด้วย” ซู่ชางเกอดูอีเมล์ของระบบและคลิกเพื่อรับมัน

[ เจตนาของดาบหยินหยาง: จากหยินเป็นหยาง แปลงร่างได้ทุกเมื่อ น้ำแข็งนิรันดร์ วันอันเจิดจ้า ความคิดเดียวของหยินและหยาง พลังดาบคือที่สุด ]

“พลังดาบและเจตนาดาบยังมีดาบอยู่ คุณจะซ่อมดาบให้ฉันเหรอ?”

ซู่ชางเก้ไม่ได้คิดมากเกินไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยรวมเข้ากับรูปร่างของเขาเอง มันช่างน่ากลัวอย่างยิ่ง

“ฉันไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับผู้ฝึกฝนดาบที่มีร่างกายศักดิ์สิทธิ์เต๋าโดยกำเนิดเลยตั้งแต่สมัยโบราณ ฉันเชื่อว่าด้วยพรสวรรค์และร่างกายของฉันเอง ฉันจะเป็นผู้ฝึกฝนดาบอันดับหนึ่งในยุคสมัยต่อๆ ไป!”

เขาได้จินตนาการถึงอนาคตไว้แล้ว นิมิตของร่างกายศักดิ์สิทธิ์ได้ปรากฏสู่สวรรค์ทั้งเก้า เจตนาของดาบสังหารพระเจ้าได้ข้ามท้องฟ้า พูดคุยและหัวเราะ ทุกสิ่งทุกอย่างถูกลบล้างไป!

เขามองดูรายการถัดไปอีกครั้ง

“ดึงเกราะนางฟ้าออกมา”

ร่างเงาของเกราะค่อยๆ ควบแน่นในความว่างเปล่า จากนั้นเปลี่ยนเป็นลำแสงและจมลงไปในร่างของซู่ชางเกอ

เขาเริ่มรู้สึกว่าตนเองมีความอ่อนไหวต่อการรับรู้ของพลังจิตวิญญาณมากขึ้น

[เกราะนางฟ้า: รวบรวมพลังชี่จิตวิญญาณแห่งสวรรค์และโลก แปลงร่างเป็นชี่อมตะเพื่อปกป้องร่างกาย และสามารถต้านทานการโจมตีเต็มรูปแบบของนักบุญลอร์ดได้]

ซู่ชางเกอพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ เกราะนางฟ้าไม่ได้ทำให้เขารู้สึกหนักเลย ด้วยการป้องกันที่แข็งแกร่งเช่นนี้ เขาไม่กลัวการโจมตีใดๆ เลย!

“อันสุดท้ายคือเมล็ดพันธุ์ต้นไม้โลก” ซู่ชางเกอมองไปที่แถบระบบ ต้นไม้โลก มันฟังดูเหมือนการดำรงอยู่ที่ไม่มีใครเทียบได้!

“สกัดเมล็ดพันธุ์ต้นไม้โลก”

ขณะที่คำพูดหลุดออกไป แสงศักดิ์สิทธิ์หลากสีก็ปรากฏขึ้นจากตันเถียนของซู่ชางเกอ และรัศมีที่เขาแผ่ออกมาก็เติมเต็มศักดิ์สิทธิ์ ราวกับว่าความโกลาหลเพิ่งเปิดออก

ขณะที่จิตสำนึกของเขาค่อยๆ เข้าสู่แสงศักดิ์สิทธิ์หลากสีสัน ดวงตาของเขาก็เปิดขึ้นทันที

สิ่งที่ปรากฏให้เห็นคือผืนฟ้าและโลกอันกว้างใหญ่

มีดอกตูมงอกขึ้นในศูนย์กลางของสวรรค์และโลก ดูเหมือนเป็นเจ้านายของสวรรค์และโลก เหมือนกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างเกิดมาเพราะมัน

แม้ว่ามันจะดูเหมือนดอกตูมแต่ก็มีโลกรองที่ยังไม่โตเต็มวัยอยู่บนนั้น

เป็นไปได้ว่าหากต้นไม้โลกนี้เติบโตขึ้น กิ่งก้านและใบที่นับไม่ถ้วนจะกลายมาเป็นโลก และต้นไม้โลกจะเป็นต้นกำเนิดของทุกสิ่งในโลก

“ข้าพเจ้าเห็นแล้วว่าเมล็ดพันธุ์ของต้นไม้โลก ต้นไม้แห่งสวรรค์และโลกในตำนาน สามารถพัฒนาไปสู่ทุกเส้นทางในโลกได้

ใบไม้หนึ่งใบคือโลกหนึ่งใบ และกิ่งหนึ่งก็สามารถเป็นทงเทียนได้

ฉันต้องเพิ่มพลังธาตุทั้งห้าให้เพียงพอเพื่อให้มันเติบโต

หากมันเติบโตสำเร็จ ฉันก็จะสามารถควบคุมสามพันโลกได้ พลังเพียงหนึ่งเดียวก็สามารถทะลวงผ่านสวรรค์และหมื่นโลกได้!”

ความคิดของซู่ชางเกอเคลื่อนไหวเล็กน้อย และเขาโยนดาบแห่งสวรรค์เข้าไปในเมล็ดพันธุ์ของต้นไม้โลก

ส่วนพลังของสิ่งที่เรียกว่าธาตุทั้งห้านั้น เขาตั้งใจจะค้นหามันในภายหลัง

ในตอนนี้ เขาเพียงแค่ใช้เมล็ดพันธุ์ต้นไม้โลกเป็นพื้นที่จัดเก็บ และพื้นที่สวรรค์และโลกอันกว้างใหญ่นั้นสามารถรองรับสิ่งมีชีวิตได้นับร้อยล้านตัว

【ติ๊ง! พบภารกิจใหม่ ตัวเลือกที่ 1: ข้าแข็งแกร่งมาก ข้ารู้ และออกเดินทางทันทีเพื่อปราบปรามบุตรของพระเจ้าคนอื่นๆ และสร้างชื่อเสียงให้กับบุตรของพระเจ้า รางวัล: ลัทธิเต๋าสังสารวัฏเก้าสวรรค์

ตัวเลือกที่ 2: ฝึกฝนต่อไปและปรับปรุงฐานการฝึกฝน รางวัล: รวบรวมอาย์เรย์ท้องฟ้า 】

ซู่ชางเกออดไม่ได้ที่จะมีเส้นสีดำ แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาในปัจจุบันจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แต่ตัวเลือกที่หนึ่งก็ไม่จำเป็น

“ยังคงปฏิบัติต่อไป”

[โฮสต์ได้ดำเนินการเลือกเรียบร้อยแล้ว และรางวัลก็มาถึงแล้ว ]

ซู่ฉางเกอมองไปที่หน้าระบบอีกครั้ง

[รูปแบบจูหลิงเทียนโดม รูปแบบการฝึกฝนในยุคอมตะ ตามพลังชี่จิตวิญญาณของสวรรค์และโลกสำหรับใช้เอง ยิ่งพรสวรรค์ของผู้ฝึกฝนสูงเท่าไร พลังชี่จิตวิญญาณที่รวบรวมได้ก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น]

“ดีนะที่ฉันง่วงมากแล้วเลยส่งหมอนมาให้!”

“ใช้แถบแสงท้องฟ้ารวบรวมวิญญาณ”

ล้มลงด้วยคำพูดของเขา

โดยใช้ร่างกายเป็นศูนย์กลาง รูนก็ปรากฏขึ้นในพื้นที่โดยรอบ และแสงศักดิ์สิทธิ์ก็ไหลออกมา ส่งกลิ่นอายแห่งเต๋าอันคลุมเครือ

ในขณะนี้ พลังจิตวิญญาณในวัด กุ้ยหยวน ทั้งหมดดูเหมือนว่าจะได้รับการเรียกออกมา และพุ่งเข้าหากูซ่างเกออย่างบ้าคลั่ง

พลังจิตวิญญาณเปลี่ยนเป็นแสงสว่างและคงอยู่รอบตัวเขา ทำให้เขาแตกต่างจากเทพเจ้าจากสวรรค์ทั้งเก้า

ถ้าใครเห็นคงตกใจเหมือนเดวาเลยทีเดียว

บนท้องฟ้าเหนือวิหาร กุ้ยหยวน ดูเหมือนว่าลมและเมฆในสวรรค์ทั้งเก้ากำลังถูกปลุกปั่นโดย ฉี จิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่นี้ และลมและเมฆก็หมุนอย่างรวดเร็วเหมือนน้ำวน

ภาพที่น่าสะพรึงกลัวนี้ยังดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากมายอีกด้วย

“บุตรของพระเจ้ากำลังฝึกฝนอยู่ใช่หรือไม่? พลังจิตวิญญาณที่น่ากลัวเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน!”

“ข้าคิดว่ามันควรจะเป็นแบบนั้น ตอนนี้ในวัดกุ้ยหยวนมีเซินจื่ออยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น และต้องไม่มีใครอีกแล้วนอกจากเขา”

“บุตรของพระเจ้ามีร่างกายศักดิ์สิทธิ์ตามแบบฉบับเต๋าซึ่งไม่เหมือนใครในทุกยุคทุกสมัย วิสัยทัศน์ดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่เป็นเพียงการปฏิบัติธรรมดาๆ และการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นนั้นเกินจริงเกินไป!”

ศิษย์จำนวนมากของดินแดนศักดิ์สิทธิ์ กุ้ยหยวน อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเรื่องนี้

พลังจิตวิญญาณในวัดอุดมสมบูรณ์มากจนสามารถกลายเป็นสาระสำคัญได้!

ในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ การจะพึ่งพาพรสวรรค์ของเขาให้ไปได้ไกลก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริง

ในขณะนี้ เขาได้บูรณาการเข้ากับสภาพการฝึกฝนโดยสมบูรณ์แล้ว และเขาไม่ตระหนักถึงการสนทนาของโลกภายนอกเลย