จันทร์...ขี้คร้าน - จันทร์...ขี้คร้าน นิยาย จันทร์...ขี้คร้าน : Dek-D.com - Writer

    จันทร์...ขี้คร้าน

    ผู้เข้าชมรวม

    113

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    113

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 ก.ค. 65 / 11:14 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    จันทร์..  ขี้คร้าน

    จริงๆ  แล้ว หากคนชนบท คนในเมือง หรือไม่ว่าใครๆ จะอยู่ที่ใดก็ตาม  รู้จักใช้ชีวิตตามปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.๙  ที่ได้ทรงแนะนำ ด้านเศรษฐกิจพอเพียง ผมคิดว่าทุกคนก็สามารถอยู่ได้อย่างมีความสุขโดยไม่ทุกข์ ไม่เดือดร้อน จากที่ผมได้สัมผัส กับชาวบ้าน  เห็นได้อย่างชัดว่าจะมีคนส่วนน้อย ที่จะอยู่อย่างพอเพียง ส่วนใหญ่มีรายได้น้อย แต่มักจะใช้จ่ายมากจนเกินตัว

    แจ่มจันทร์   หญิงม่ายลูกติด สติปัญญา ขาดๆ เกินๆ  เคยเข้าเรียนในโรงเรียนใกล้บ้าน แต่ต้องลาออกเพียงได้เรียนประถมปีที่ 2 เท่านั้น  เธอเป็นลูกคนที่สองของลุงเล็ก–ป้าแดง จากจำนวน 5 คน   ขณะที่เธอมีอายุ 20 ปีเศษๆ  ได้ถูกเพื่อนๆ ในหมู่บ้าน ชักชวนให้ไปทำงานเป็นพนักงานบริการ (เสิร์ฟ) ที่จังหวัด ชลบุรี   เธอไปทำงานกว่า 5 ปี   นานๆ ครั้ง จึงจะกลับมาเยี่ยมพ่อแม่ เมื่อกลับบ้านครั้งล่าสุด ก็มีลูกสาวติดมาด้วยหนึ่งคน

    พ่อแม่ของแจ่มจันทร์ อดีต เป็นคนมีฐานะและเป็นเจ้าของตลาด บ้านห้วยขาม ตระกูลของลุงเล็กมีญาติมาก พี่สาวคนโตของแจ่มจันทร์ เสียชีวิต ก่อนที่ลุงเล็กและป้าแดง จะลาโลก    หลังจากที่พ่อ แม่ และพี่สาวคนโตเสียไป  แจ่มจันทร์ จึงถือเป็นพี่คนโตสุดของครอบครัว ทรัพย์สมบัติ ที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ ที่ตกทอด โดยเฉพาะที่ดินกว่า 20 ไร่  ได้ถูกน้องคนเล็กสุดขายจนเกือบหมด   คนที่สาม ที่เป็นผู้ชาย แม้จะอาศัยอยู่บ้านของพ่อแม่บ้าง เป็นครั้งคราว ก็ดำรงชีพได้อย่างไม่เดือดร้อนนัก เขามักจะเข้าป่าหานก หาหนู หาปู ปลา หน่อไม้  ของป่าอื่นๆ มาขาย ที่ตลาดของตน ที่เป็นเจ้าของร่วมกันกับพี่น้อง

    ช่วงที่แจ่มจันทร์ ..กลับมาบ้าน ครั้งนี้ พ่อแม่ของเธอได้จากลับไปทั้งสองคน  ในเวลาไม่ห่างกันมากนัก   จันทร์.... ต้องเลี้ยงลูก ที่ไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิด..ให้มี  การเป็นสาวเสิร์ฟของเธอ...แน่นอนว่า ต้องอยู่ในแวดล้อมของชายนักเที่ยว  นักดื่ม ซึ่งแน่นอนว่า.. ต้องสุ่มเสี่ยงที่เธอจะต้องเจอกับชาย ที่มองสตรีเพศ คือเครื่องเล่น ดังนั้นเธอ..... ย่อมหนีไม่พ้นเป็นนางบำเรอเพื่อสนองความใคร่ ของชายโฉด ...ชั่วครั้งชั่วคราว

    ถ้าจะพูดไป ...แจ่มจันทร์ เป็นสาวที่ค่อนข้างขี้เหร่  อ้วนม่อต้อ ..ผมคิดว่า ใครเห็นจันทร์ ช่วงอุ้มท้องใหม่ๆ คงจะอดสงสารเธอไม่ได้อย่างแน่นอน  ..ช่วงที่จันทร์ นำลูกที่ไม่มีพ่อกลับมาบ้าน เธอต้องเลี้ยงดูแลลูกตามลำพัง   หลายครั้งที่ผม ไปจับจ่ายซื้อของที่ตลาด และเห็นเธอที่เฝ้าประคบประหงมลูกสาวตามลำพัง ก็นึกสมเพช และสงสาร อย่างจับใจ

    กรรมอะไร ของ จันทร์ มันนะ..... ขนาดมันอัปลักษณ์ เช่นนี้ มันยังมีคนลวง เอามันเป็นเมียชั่วคราว และยังทิ้งภาระให้มันต้องรับเลี้ยงดูลูกอีก”  ผมคิด

    ............................................................

    แม้เธอไม่ได้เป็นญาติ..   แต่...ในฐานะที่เป็นเพื่อนร่วมชุมชน  และเคยเห็นเธอมาตั้งแต่ยังเล็ก ก็อดจะห่วงใยเด็กน้อย (ลูกของแจ่มจันทร์) ที่ไร้บิดา  และมีแม่ที่ไม่ค่อยจะมีสติครบถ้วนเต็มร้อย

    “จันทร์... เป็นไง... เลี้ยงลูก”  ผมสอบถาม (เรียกชื่อของเธอสั้นๆ)

    “เลี้ยงไม่ยากหรอก  ค่ะ.. อาจารย์” จันทร์ ตอบ

    “อายุได้ กี่เดือนแล้ว”

    “9  เดือนแล้วค่ะ อาจารย์”

    “เร็วจัง... นะ”

    “นอกจากนม  แล้วอาหารอย่างอื่น...ทำไง”

    “บดกล้วยบ้าง ทำไข่ตุ๋นบ้าง  ค่ะ”

    “ใครแนะนำ เหรอ”

    “สถานี อนามัย ค่ะ”

    “ดีแล้ว   ล่ะ”

    “วางโครงการ  การเลี้ยงลูกอย่างไร..  เหรอ”

    “จะเลี้ยงให้ดีที่สุดค่ะ  โตขึ้นหากลูก อยากจะเรียนหนังสือ  ในระดับสูงๆ หนู ก็จะเก็บหอมรอมริบ เก็บเงินทุนไว้ให้เขาได้เรียน”

    “ดีจังเลย...  ขอตัวกลับก่อนล่ะ”

    ...................................................................................

    แรกๆ  ที่จันทร์ กลับจากชลบุรี...มา   ผมรู้สึกเห็นใจ ในชะตากรรมที่เธอได้รับ จากบุรุษขี้หลี  นักล่าพรหมจรรย์  ...เด็กหญิงตัวน้อยไร้พ่อ  ที่ได้รับการเลี้ยงดูจากแม่เป็นอย่างดี  ยิ่งทำให้ผมรู้สึกชื่นชมเธอ ซึ่งทำหน้าที่ดีกว่าเคยได้ยินข่าวจากผู้มีฐานะดี...แล้วนำลูกไปทิ้งตามที่ต่างๆ เสียอีก

    จันทร์.. ต้องเลี้ยงตนและลูก อาชีพที่จะทำก็ไม่มี  .. รายได้จากการเก็บค่าเช่าที่ขายของ น้องสาวก็ยึดเอาไปใช้คนเดียว  เธอเคยบ่นให้ผมฟัง เมื่อเจอกัน

    “ช่างเถอะ.. เราหารายได้ อย่างอื่นมาเสริมสิ ตลาดของเราเอง  ลองทำขนมมาขายดูบ้าง” ผมแนะนำ

    “ค่ะ. หนูจะลองฝึกทำ”

    จันทร์ ลองฝึกทำขนม และลองนำมาจำหน่ายในตลาดของเธอเอง ซึ่ง ก็พอจะขายได้บ้าง   งานเสริมอื่นๆ ที่จันทร์ ต้องทำเพื่อตนและลูก คือ เข้าไปในป่า หาเก็บพืชผักมาขาย ผมเคยสั่งให้จันทร์ นำหน่อไม้ มะระขี้นก  กระชาย มาขาย แรกๆ ดูจะขายไม่แพง แต่ระยะหลัง ดูจะแพงขึ้น  แต่ก็จำต้องซื้อไว้ เพื่อให้เธอมีรายได้ มันอาจเป็นนิสัย ของผมก็ได้ ที่ไม่ชอบเห็นคน เอารัดเอาเปรียบกันและกัน  หลังๆ  จึงไม่ค่อยได้สั่งให้เธอเอามาขายให้

    ความน่าสงสารของเธอ..เริ่มลดน้อยถอยลง   เพราะ ..ความขยัน ของจันทร์ ที่เคยมี เคยทำ  มันลดลง  เธอกลายเป็นจันทร์ คนละคน  ที่ผมเคยรู้จัก เริ่มจาก..สังเกตว่าเวลาที่วัดใกล้เคียงจัดงานบุญ  ที่มีซุ้มแจกอาหาร (โรงทาน) เธอมักจะไปเอาอาหารที่เขาแจกในโรงทาน มาตุน ไว้มากมาย (เกินกำลังจะกินหมด)  ซึ่งมันไม่ถึงมือผู้อื่นบ้าง

    “จันทร์จะกินหมดเหรอ เอามามากมาย  ทำอย่างนี้ คนอื่นเขาก็ไม่ได้กินสิ”

    “หนูเอามาฝากหลาน คนอื่นๆ ด้วย  ค่ะ”

    “เอาแต่พอกิน  ดีกว่า นะ“ ผมเสนอแนะเธอ

    งานวัดดอน บ้านสำเร็จ  วัดปงทะ บ้านลู ที่เธอทราบข่าวว่า จะมีโรงทาน จันทร์ ไม่เคยพลาด ที่จะไปเอาอาหาร มากินที่บ้าน แต่ละครั้งที่หอบหิ้วมา มันดูเกินกำลังที่จะบริโภค  งานศพเพื่อนบ้าน  งานศพพ่อ งานศพของน้าของผม ที่เพิ่งผ่านมา จันทร์ มาตักใส่ถุงหิ้ว ไม่อายสายตาใครๆ

    “อีจันทร์...นี่ ไม่เคยช่วยงาน  ใครเลย  มางานศพบ้านไหนๆ  ก็เอาแต่กิน ..กินที่นี่ยังไม่พอ  ยังตักเอาไปกินที่บ้านอีก” ชาวบ้านนินทา

    น้องสาวของ..จันทร์  ที่ว่านิสัยแย่ ชอบเล่นการพนัน.. หากพูดถึงความมีน้ำใจ  ผมดูว่า เธอยังมีน้ำใจกว่าพี่สาว (จันทร์) เสียอีก  ลูกสาวของจันทร์ในวันนี้มีอายุได้ 10 ขวบแล้ว ชะตากรรมจะเป็นอย่างไร ไม่อาจอาจเดาได้  จริงๆ แล้ว..  จันทร์ ก็เป็นคนประหยัด ทราบว่าเธอก็พอมีเงินจะปล่อยให้แม่ค้ากู้เงิน

    “อีจันทร์ มันโดนโกง  เพราะมันกินดอกแพง” ชาวบ้านพูดให้ได้ยิน

    “สมน้ำหน้า  ขี้..งกนัก” อีกคนพูดเสริม

    จันทร์วันนี้ กับ จันทร์ในอดีต  ..เกือบจะเป็นคนละคน ..บทที่ผมไม่ชอบใคร ผมจะไม่อยากคุย และไม่อยากมองหน้าด้วย  ...วันนี้ผมสงสาร ลูกสาวของจันทร์ ที่มีแม่ที่ไม่รักดี ดังแต่ก่อน  ผมกลัวกรรมจะตกแก่เด็ก  ยิ่งเธอมีปมด้อยซึ่งไม่มีพ่อ... แม่ของตัวกลับมาทำร้าย ซ้ำเติมให้เธอด้อยค่าในความเป็นคน ไปอีก..

    จริงๆ หากจันทร์  ขยัน รู้จักอดออม  รู้จกพึ่งพาตนเอง แน่นอนว่า.. ใครๆ ก็จะรัก และอิจฉาในความสุขของเธอ มากกว่า ที่จะเห็นจันทร์  เป็นคนเกียจคร้าน   ละโมบ เห็นแก่ตัว  และแล้งน้ำใจ  แต่กลับมีความสุข บนกองทุกข์ผู้อื่นๆ....

    “อีจันทร์ มาแล้ว  เก็บข้าวของเร็ว...” เสียงชาวบ้าน บอกต่อกันในโรงครัว และมันสะพัดทุกแห่งที่เห็น จันทร์ ...เดินเข้าไปในงานแห่งนั้น

        มันช่างน่าอาย  หากลูกสาวเธอได้ยิน . ..ว่าแม่มีพฤติกรรม.. ที่น่ารังเกียจ

    (๒ มกราคม  ๒๕๖๕)

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×