ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Bleach: Ulquiorra x Original] The Lullaby for my dream

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5: ภารกิจแรกของข้า...อาราวเน่สู้ตายค่ะ!!!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.09K
      61
      23 เม.ย. 52

     

    ...แปลก...

     

    ...แปลกจริงๆนั่นแหละ...

     

    ข้าขมวดคิ้วมองท่านอุลคิโอร่าด้วยความฉงน  ท่านยืนส่องกระจกนิ่ง  มือข้างหนึ่งรูดซิบดึงเสื้อลงจนเปิดเห็นช่องที่อยู่บริเวณเหนืออก  เขายืนนิ่งสายตาจับจ้องไปที่เงาสะท้อนของรูโหว่อยู่อย่างนั้นมาเกือบ 10 นาทีแล้ว

     

    ...โดนตบเมื่อตะกี้ ทำท่านสมองกระเทือนจนมีปัญหารึเปล่านะ?...

     

    เอ่อ...ท่านอุลคิโอร่าคะ  ข้ากลั้นใจถามออกไป

     

    ...นิ่งสนิท  ไม่มีอะไรเกิดขึ้น...

     

    ข้าถอนหายใจ  จากนั้นจึงเดินไปใกล้ๆ  แตะแขนเขาเบาๆ  เขาสะดุ้งเล็กน้อย  แล้วจึงหันมามองข้า

     

    อะไร?”

     

    ...เขาไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำจนกระทั่งข้าแตะตัวเขาได้  นี่มันผิดปกติแล้ว...

     

     

    แน่ใจนะคะ ว่าไม่เป็นอะไร  ข้าเห็นท่านยืนนิ่งแบบนี้มาพักใหญ่แล้วนะคะ...ข้าเงยหน้าจ้องตาเขานิ่ง  เอ่ยด้วยความเป็นห่วง

     

    หากท่านมีปัญหาอะไร  ให้ข้าช่วยแบ่งเบาก็ได้นะคะ  หากช่วยได้ข้ายินดีที่จะทำมันเต็มที่ค่ะ

     

    ...ข้าไม่เป็นไร  ก็แค่คิดอะไรบางอย่าง  เขาเอ่ยด้วยเสียงเรียบดังเช่นปกติ  แล้วจึงเดินเลี่ยงเข้าไปในห้องทำงานเขา  ข้ามองตามร่างเขาไปจนกระทั่งประตูห้องถูกปิดลง  แล้วจึงถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจ

     

    ...ไม่ว่าอย่างไร  ท่านก็ไม่เคยคิดจะเอ่ยขอความช่วยเหลือจากข้า หรือเล่าอะไรให้ข้าฟังเลยสินะ...

     

    ในเมื่อท่านอุลคิโอร่าเดินเข้าห้องไปนั่นก็แปลว่าเขาต้องการความเป็นส่วนตัว  ข้าจึงเดินกลับเข้าไปในห้องตัวเองบ้าง  ข้าทิ้งตัวลงนอนบนเตียง สายตามองผ่านหน้าต่างเล็กๆตรงริมผนัง

     

    ...ณ  ด้านนอกนั้น  กำลังมีการต่อสู้เกิดขึ้น...

     

    เหล่าอารันคาร์และเอสปาด้า...ทั้งที่บางคนก็อ่อนแอกว่าข้า พวกเขาก็ยังได้โอกาสทำหน้าที่ของตนเอง  ต่อสู้  เพื่อป้องกันสถานที่แห่งนี้

     

    ข้าเลื่อนสายตามายังเพดานสีขาวสะอาด  จิตใจเหม่อลอยครุ่นคิดกับตนเองอยู่ในใจ

     

    ...แล้วข้าล่ะ?  ตัวข้าทำอะไรที่สมกับเป็นอารันคาร์...เป็นฟรานเชี่ยนบ้างหรือยัง?...

     

    ข้ายิ้มเหยียดออกมาด้วยความสมเพชตนเอง

     

    ...สู้ก็ไม่ได้เรื่อง...เจ้านายมีปัญหาก็ไม่มีปัญญาจะช่วยทำอะไรได้...

     

    อาราวเน่...เจ้ามันช่างไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นอารันคาร์ที่ดีได้เลยจริงๆ

     

    ตึก...ตึก...!’

     

    เสียงใคร!?

     

    ข้าดึงตัวขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งอยู่ภายนอก  รีบเปิดประตูแล้ววิ่งออกไปดูอย่างรวดเร็ว  ที่ด้านหน้าทางเข้า  มีร่างของอารันคาร์รับใช้ตนหนึ่งวิ่งมา...ท่าทางร้อนรน  


    ทันทีที่เห็นข้า  เขาก็ตะโกนขึ้นมาทันที

     

    ท่านอุลคิโอร่าอยู่ไหน!?  แม่หญิงมนุษย์คนนั้นแย่แล้ว!”  ยังไม่ทันที่ข้าจะหันหลังวิ่งไปแจ้งข่าว  ข้าก็รับรู้ได้ว่าเขาคนนั้นเคลื่อนที่มาอยู่ด้านหลังข้าอย่างรวดเร็ว...ชนิดที่ข้าไม่รู้สึกตัว  ไมทันได้ขยับกายเลยแม้แตนิด!

     

    เกิดอะไรขึ้น?”  ท่านอุลคิโอร่าถามเสียงเรียบเช่นเคย  หากแต่ข้ากลับรู้สึกถึงความกังวลในน้ำเสียงนั้น

     

    ข้าได้รับมอบหมายให้นำเสื้อผ้าไปมอบให้นางเพิ่ม  แต่เมื่อข้าเข้าไปข้าเห็นนางคนนั้นมีเลือดออกเต็มไปหมดเลยครับ  พอข้าจะเข้าไปดูใกล้ๆ นางไล่ข้าออกมา

     

    ข้าจะไปพบนางเดี๋ยวนี้  ไม่รอให้พูดจบเขาก็เดินไปอย่างรวดเร็ว  ข้าเตรียมจะก้าวเท้าตาม...

     

    ไม่ต้อง...เจ้ารออยู่ที่นี่  อาราวเน่ แล้วร่างเขาก็หายไปจากสายตาข้า  เบื้องหน้าเหลือเพียงอารันคาร์ที่มาแจ้งข่าวที่กำลังวิ่งจากไป

     

    นั่น...เป็นคำสั่ง...

     

    เขาไม่หันมามองข้าตอนพูดประโยคนั้นด้วยซ้ำ...เขารีบที่จะไปหาเธอคนนั้น    

     

    ข้าค่อยๆหันหลังเดินกลับเขาไปนั่งรอในวังด้วยความปวดร้าวลึกๆในหัวใจ


    /////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

    ข้านั่งรอเขาด้วยใจที่ร้อนรน  สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับมนุษย์คนนั้น...ข้ากลัวว่าหากนางเป็นอะไรไป ท่านอุลคิโอร่าอาจจะเดือดร้อน

     

    รีบๆกลับมาสิคะท่านอุลคิโอร่า  ข้าอยากถามท่านว่าเกิดอะไรขึ้น

     

    อาราวเน่!”  ท่านอุลคิโอร่าปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าข้าในเสี้ยววินาที  ทำเอาข้าร้องออกมาด้วยความตกใจ หงายหลังตกเก้าอี้ไป

     

    ข้าไม่ทันคาดฝันว่าเขาจะกลับมาทันใจแบบนี้!

     

    อูย...มีอะไรหรือคะ?”  ข้าเอ่ยออกมา พลางเอามือลูบก้นตัวเองป้อยๆ...เจ็บชะมัด

     

    มากับข้าเดี๋ยวนี้  เขาพูดเสียงเรียบทว่าค่อนข้างดังกว่าปกติ  เขาฉวยมือข้าข้างหนึ่ง  ฉุดข้าให้ลุกขึ้นพรวด แล้วลากข้าไปทันทีโดยไม่ปล่อยให้ข้าตั้งสติได้ด้วยซ้ำ

     

    ดะ..เดี๋ยว! เกิดอะไรขึ้นคะท่านอุลคิโอร่า?”  ข้าละล่ำละลักถามด้วยความงุนงง ขณะโดนลากไปตามทางอย่ารวดเร็ว

     

    เดี๋ยวเจ้าก็รู้เองเขาตอบสั้นๆ  แล้วก็ดึงแขนข้าให้ตามไปเรื่อยๆ  เดินเร็วจนข้าเกือบจะตามไม่ทัน 

     

    สัมผัสของเขาที่เกาะอยู่ที่ข้อมือข้า...ถึงแม้มันจะเย็นเฉียบ  แต่กลับทำให้ใจข้าอบอุ่นอย่างประหลาด จนต้องแอบลอบยิ้มออกมาน้อยๆ

     

    /////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

     

     

    ทันทีที่พวกเราเดินมาถึงห้องของหญิงสาวคนนั้น  ท่านอุลคิโอร่าก็เปิดประตูแล้วดึงข้าให้เดินขึ้นนำหน้าท่านเข้าไปในห้องทันที  ข้าหันไปมองหน้าเขาอย่างงงๆในขณะที่ก้าวเท้าเข้าไปในห้องช้าๆ  ข้าเห็นสายตาเขาจับจ้องไปยังร่างเล็กที่ยืนอยู่ด้านใน

     

    ข้าพา ผุ้หญิงมาให้ตามที่เจ้าต้องการแล้ว...ทีนี้บอกมาสักทีว่าเป็นอะไร

     

    ประโยคที่เขาเอ่ยฟังดูประหลาดๆ  จนข้าเลิกคิ้วขึ้น  แล้วหันไปมองเจ้าของห้องช้าๆ

     

    ดวงหน้าเธอฉายแววกังวลชัดเจน  เหงื่อผุดพรายขึ้นเต็มหน้านวล  เธอหลบตานายข้า  อ้ำอึ้งไม่พูดอะไรออกมา  มือทั้งสองข้างประสานบีบเข้าหากันแน่น...ข้ามองไล่ลงไปตามร่างกายนาง...

     

    ...ที่กระโปรงมีรอยเลือดเลอะยาวเป็นทางลงมา และมีเลือดบางส่วนเปรอะอยู่เต็มผ้าปูเตียง...

     

    ข้าหลุดหัวเราะคิก

     

    โธ่เอ๊ย!...ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง

     

    ข้าหันหลังกลับไปหานายข้า ดวงตาเป็นประกาย

     

    ท่านอุลคิโอร่าคะ  ขอข้าคุยกับนางตามลำพังได้ไหมคะ  เรื่องนี้ไม่สะดวกที่จะคุยต่อหน้าผุ้ชายสักเท่าไหร่

     

    พอเห็นเขาลังเล  ข้าก็ถือวิสาสะเดินเข้าไปดันตัวเขาหันหลัง  แล้วดันออกจากห้องทันที  พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ซ่อนแววขำขันไว้ไม่มิด

    ท่านอุลคิโอร่ายอมเดินออกไปตามที่โดนข้าผลักแต่โดยดี  แต่ก็ไม่วายส่งสายตาเย็นๆมาให้  สำหรับคนที่เห็นท่าทางเขาจนชินอย่างข้า  ...มันแปลได้ประมาณว่า กล้ามาก...ที่มีผลักเขาแบบนี้

     

    รับประกันค่ะ  ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง  และข้าก็จะช่วยเหลือเธอสุดความสามารถค่ะ  พูดกับเขาจบ แล้วข้าก็ปิดประตูทันที  

     

    ตอนนี้ในห้องเหลือเพียงข้ากับนาง  ข้าเดินเข้าไปหานางใกล้ๆด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าเพื่อลดความตึงเครียดระหว่างเรา

     

    วันนั้นของเดือนสินะคะ

     

    โอริฮิเมะ  เงยหน้าขึ้นมองข้า  ผงกหัวเล็กน้อยเป็นการตอบรับ

     

    ค่ะ

     

    เมื่อเห็นข้าที่ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร  ท่าทางเธอดูผ่อนคลายลง  เธอยกมือเกาหัวแกรกๆ พลางโค้งให้ข้า

     

    ขอโทษที่ทำให้ห้องเลอะเทอะนะคะ  พอดีตอนออกมาจากโลกลืมคิดถึงเรื่องนี้ไป เลยไม่ได้พกมาด้วย...ไม่ทราบว่าคุณพอจะมีผ้าอนามัยให้ชั้นใช้มั้ยคะ 

     

    ข้าชะงัก...เอาแล้วไงล่ะ  ปัญหาบังเกิดจนได้

     

    เอ่อ...เกรงว่าจะไม่มีน่ะสิ  เพราะอารันคาร์อย่างพวกข้าไม่มีประจำเดือนค่ะ  ข้าตอบไปตามความจริง  ดวงหน้าของโอริฮิเมะฉายแววหนักใจ

     

    ยังไงไว้เดี๋ยวข้าจะลองไปถามท่านอุลคิโอร่าให้ช่วยหาวิธีแก้ปัญหาให้ละกันค่ะ  ข้าเห็นสีหน้านางดูเบาใจขึ้น  เธอยิ้มแป้นให้ข้า

     

    ขอบคุณค่ะ คุณ...

     

    อาราวเน่ค่ะ  อาราวเน่  ออทัมนาลิส

     

    ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ  ชั้น อิโนะอุเอะ  โอริฮิเมะค่ะ  เธอแนะนำตัวเองให้ข้ารู้จัก  ดูเหมือนเธอจะไว้ใจข้าแล้ว  เพราะท่าทางเธอร่าเริงขึ้นมาก  พอเห็นข้าจะเปิดประตูออกไป  เธอก็ถามข้าขึ้นมา

     

    คุณอาราวเน่  เป็นอะไรกับเขาเหรอคะ  ดวงหน้าเธอดูไร้เดียงสามากยามพูดคุยกับข้า

     

    ข้าเข้าใจดีว่า เขา คนที่เธอว่าน่ะ  หมายถึงใคร

     

    เรียก อาราวเน่ เฉยๆก็ได้ค่ะ  และข้าเป็นฟรานเชี่ยนของท่านอุลคิโอร่าค่ะ

     

    เอ๋!!”   ข้าที่หันหลังอยู่ไม่เห็นหน้านาง  แต่เดาจากน้ำเสียง...ท่าทางจะตกใจน่าดู

     

    ท่านอุลคิโอร่ายืนรออยู่หน้าประตู  พอข้าอธิบายให้เขาฟังเรื่องอาการของนางและของที่จำเป็นต้องใช้  ข้าเห็นสีหน้าเขาฉายแววแปลกใจระคนหนักใจในเรื่อง ผู้หญิงๆที่เพิ่งได้รับรู้  เขาสั่งให้อารันคาร์แถวนั้นไปถามแผนกต่างๆว่ามีของที่ต้องการไหม  แต่สักพักพวกนั้นก็ส่ายหน้าเดินกลับมา  ลงท้ายท่านอุลคิโอร่าก็ต้องไปถามพวกท่านไอเซ็น  และกลับมาพร้อมกับคำตอบที่ว่า ให้ไปซื้อที่โลกมนุษย์เอาละกัน

     

    ทีนี้ปัญหาก็คือ...โอริฮิเมะ  ไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไป  ก็แหงล่ะ  ขืนให้เธอไปที่โลก มีโอกาสสูงจะตายที่เธอจะโดนชิงตัวกลับไป  ส่วนท่านอุลคิโอร่า...ท่านก็เป็นถึงเอสปาด้า  แถมเป็นผู้ชายจะให้ไปเดินซื้อหาซื้อของแบบนี้ก็กระไรอยู่...แถมตอนนี้ที่วังก็มีศึกด้วย ยิ่งไม่ควรให้ท่านออกไปโดยเด็ดขาด  ส่วนจะให้อารันคาร์ระดับล่างๆไป...ก็กลัวจะไปเป็นเป้าให้พวกยมทูตเชือดเล่น  เพราะพวกนี้ลำพังแค่การควบคุมเพสควิส(พลังวิญญาณที่ใช้ในการระบุตำแหน่งและค้นหา)ยังคุมไม่ค่อยได้กันเลย

     

    ...ดังนั้น  แจ๊กพอตเลยมาลงที่...ข้า!

     

    ท่านอุลคิโอร่ามองข้าอย่างไม่ค่อยจะไว้ใจสักเท่าไหร่  เขาจ้องหน้าข้านิ่งราวกับกำลังคิดหนักจนข้าทำอะไรไม่ถูก นอกจากจะจ้องหน้าเขาด้วยสีหน้าบ่งบอกว่าลุ้นกับคำที่เขาจะพูดออกมาเต็มที่...สุดท้ายก็ดูเหมือนจะไม่มีทางเลือก ท่านอุลคิโอร่าหลับตา...ถอนหายใจเบาๆทีหนึ่ง แล้วจึงเอ่ยออกมา

     

    ในบรรดาพวกที่ว่างอยู่ตอนนี้  ข้าไว้ใจเจ้าที่สุดอาราวเน่...

     

    ถามลักษณะของนั่นจากนาง และสถานที่ที่เก็บเจ้านั่นไว้ซะ  ข้าจะหาพิกัดตำแหน่งแล้วส่งเจ้าไป

     

    หัวใจข้าแทบจะกระโดดออกมาจากอกด้วยความดีใจ ระคนตื่นเต้น  ข้าฉีกยิ้มกว้างให้ท่านอุลคิโอร่า  พลางรีบวิ่งเข้าไปถามข้อมูลที่จำเป็นจากโอริฮิเมะ  แล้ววิ่งกลับออกมาทันที

     

    ในที่สุด...ในที่สุดท่านอุลคิโอร่าก็ให้มอบหมายงานให้ข้าทำ  เขาให้โอกาสข้าช่วยเขาทำงาน!!!

     

    ดูเหมือนอาการดีใจของข้าจะมากเกินไปหน่อย  จนท่านอุลคิโอร่าต้องเอ่ยย้ำความจริงออกมา

     

    ข้าให้เจ้าไปทำงาน  ไม่ใช่ไปเที่ยวเล่น  เลิกดีใจจนออกนอกหน้าได้แล้ว...

     

    เอ่อ...ขอโทษค่ะ  ข้ายืนนิ่ง จ๋อยไปเลย

     

    รีบไป แล้วรีบกลับให้เร็วที่สุด  ระหว่างที่ไปที่โลกมนุษย์นั่นพยายามปกปิดพลังของตนเองอย่าให้เล็ดลอดออกมาได้  ห้ามใช้เพสควิสโดยเด็ดขาด  แล้วก็ระวังตัวให้มากล่ะ  เพราะตอนนี้ที่โลกมนุษย์เต็มไปด้วยเหล่ายมทูตระดับสูงจากโซล โซไซตี้  มันไม่ใช่สถานที่ปลอดภัยสำหรับอารันคาร์  โดยเฉพาะกับเจ้าที่ไปคนเดียว

     

    ใช่...ข้าต้องไปคนเดียว เพราะเมื่อท่านอุลคิโอร่าวิเคราะห์แล้วว่า พวกอารันคาร์ระดับสูง ดังเช่นเอสปาด้า ต้องอยู่ระวังพวกผู้บุกรุกที่นี่  ส่วนจะเอาพวกระดับล่างไปด้วยก็คงจะไปเป็นตัวถ่วงซะมากกว่า...ถึงข้าจะไม่เก่งการต่อสู้  แต่เรื่องการควบคุมพลังเนี่ยข้าก็เข้าขั้นยอดเยี่ยมอยู่หรอก...ดังนั้นไปคนเดียวแล้วพยายามควบคุมพลังไม่ให้ตรวจจับได้จะเป็นการดีซะกว่า

     

    ข้าจดข้อมูลรายละเอียดทั้งหมดทั้งชื่อสถานที่  จุดสังเกต  ลักษณะสินค้าจากโอริฮิเมะใส่กระดาษใบเล็กๆพกติดตัว  เมื่อเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว  ท่านอุลคิโอร่าจึงเปิดประตูทางเข้าโลกมนุษย์ให้  ข้าสูดหายใจลึกๆเรียกความมั่นใจ แล้วก้าวเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว  ก่อนที่ประตูจะปิดลงมาสนิทจนเหลือทิ้งไว้แต่ความมืดมิด  ท่านอุลคิโอร่พูดทิ้งท้ายอีกครั้ง

     

    รีบไปหาของมาให้เร็วที่สุด แล้วรีบกลับ...ระวังตัวเองไว้ให้มากๆ...



    คำพูดเหล่านั้นคล้ายกับว่าท่านยังคงเป็นห่วงข้าอยู่บ้าง จนใจข้าแอบอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอบอุ่น  และชุ่มฉ่ำ  ราวกับได้น้ำมาหล่อเลี้ยงดวงใจที่แห้งผากมานานแสนนาน

     

    ทราบแล้วค่ะ ข้าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง  ข้าเอ่ยออกมาด้วยความมั่นใจ

     

    ...ภารกิจนี้  ข้าจะต้องทำให้สำเร็จให้ได้...เพื่อความภาคภูมิใจของข้า...และที่สำคัญที่สุด  เพื่อให้สมกับความไว้ใจที่ท่านอุลคิโอร่ามีให้แก่ข้า...

     

    งานนี้  จะต้องไม่มีคำว่าล้มเหลว!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×