ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Dracotopia : มหานครมังกรเพลิง

    ลำดับตอนที่ #4 : อุทยานแห่งทวยเทพ

    • อัปเดตล่าสุด 17 พ.ค. 47




        แสงดาวระยิบระยับบนท้องฟ้าสาดส่องลงมาจับหลังคาโดมใหญ่ของพระราชวังตะวันตกที่ตั้งอยู่ในนครนาเซียร์ทำให้เกิดประกายน้อยๆสะท้อนกับหลังคาโดมซึ่งเป็นสีเงินรับกับชื่อของสิ่งก่อสร้างอันโอ่โถงเช่นนี้เป็นที่ยิ่ง



        พระราชวังแห่งนี้มีสมญานามว่า อุทยานแห่งทวยเทพ



        มันถูกสร้างขึ้นมาเมื่อร้อยห้าสิบปีที่แล้วในรัชสมัยของกษัตริย์องค์ต้นๆของดราโคโทเปียเพื่อเป็นที่พำนักขององค์ราชาและเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลทางด้านศิลปศาสตร์ ประวัติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ดาราศาสตร์และความรู้แขนงต่างๆรวมไปถึงเรื่องของเวทมนตร์



        ตัววังถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนโดยลานหินอ่อนขนาดมหึมาอันเป็นที่ตั้งของน้ำพุขนาดใหญ่และรูปปั้นอันงามวิจิตร หอโดมใหญ่สีเงินตั้งอยู่ในสี่มุมของกำแพง รายล้อมไว้ด้วยอุทยานที่กินพื้นที่หลายสิบเอเคอร์ ช่างงดงามน่าทึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย หากมีคนจากชนเผ่าผู้วิเศษสักคนเดินผ่านมาทางหน้าซุ้มประตูรั้วซึ่งถูกสร้างขึ้นอย่างวิจิตรบรรจงแล้ว แม้จะเป็นเด็กชายตัวเล็กนิดเดียว แต่เพียงมีเลือดของชาวผู้วิเศษ เขาก็ย่อมบอกได้ทันทีว่า วังแห่งนี้มีกลิ่นอายของเวทมนตร์อยู่ทุกอณูเลยทีเดียว



        เมื่อมองออกไปนอกรั้วอันงดงามภายนอก ชายผู้หนึ่งกำลังขี่ม้าสีดำตัวใหญ่เข้ามาอย่างเร่งรีบพร้อมกับทหารในชุดเครื่องแบบสีแดงนับสิบราวกับมีแส้หวดตามหลัง ทั้งหมดเร่งม้าผ่านลานหินสีขาวนวลรับแสงจันทร์ไปสู่ประตูบานคู่เข้าสู่ตัววังชั้นใน



        ชายผู้นั้นเดินตรงดิ่งผ่านห้องโถซึ่งประดับประดาไว้ด้วยเชิงเทียนนับร้อยเข้าสู่โถงทางเดินขนาดใหญ่ที่ทอดตัวไปทางทิศตะวันตกของสวนแห่งทวยเทพ เขาคุ้นเคยกับเส้นทางนี้ดี และเขาก็มักจะพบกับคนที่เขาต้องการพบ ซึ่งกำลังคอยอยู่ที่นั่นอย่างใจเย็น เมื่อถึงสุดทาง ประตูไม้ขัดมันเงาวับสีน้ำตาลก็ยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้า คาลอร์ผลักประตูเข้าไป



        เขากำลังรออยู่



        เจ้าชายแห่งดราโคโทเปียนั่งอยู่อย่างสงบบนเก้าอี้นุ่มบุด้วยกำมะหยี่สีแดงตัวใหญ่อย่างสงบราวกับรู้ถึงการมาของขุนพลแห่งดราโคโทเปียอยู่ก่อน



    แล้ว ภายในห้องทำงานของอัมมาลาสมีแสงสลัวน้อยๆอันเกิดจากเตาผิงขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่ทางมุมหนึ่ง เจ้าชายวางมือทั้งสองข้างลงบนโต๊ะไม้สีน้ำตาลเข้มเบื้องหน้า ดวงฟ้าสีฟ้าอมเขียวจ้องมาที่คาลอร์อย่างคาดคั้นหากใบหน้างามสง่าก็เรียบสงบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น



        \"เจ้าทำไม่สำเร็จ\" เจ้าชายอัมมาลาสตรัสขึ้นในที่สุดด้วยท่าทีไม่สะทกสะท้านราวกับรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว



        \"ขอพระราชทานอภัย ฝ่าบาท\" คาลอร์มีท่าทีแปลกใจเล็กน้อยที่อัมมาลาสยังคงนิ่งเฉย \"ข้าพระองค์ได้พยายามแล้ว หากแต่เจ้าชายเออร์นิลได้หนีเข้าไปที่ป่ากรีนวู้ด พระองค์ผ่านทหารของสภาสูงไปได้\"



        \"เจ้าโง่พวกนั้นไม่มีวันพลาดโอกาสที่จะทำให้ข้าผิดหวัง!\" อัมมาลาสตรัสด้วยเสียงอันดังก้องพลางยกหัตถ์ข้างหนึ่งขึ้น เพียงชั่วสะบัดเสื้อคลุม ไฟจากเทียนบนเพดานก็ลุกพรึ่บขึ้นด้วยเวทมนตร์



        เจ้าชายแห่งดราโคโทเปียหลับเนตรทั้งสองข้างลง สีหน้าดูสงบราวกับพยายามที่จะทำสมาธิ \"อดาร์บิน\"



        \"อดาร์บินงั้นรึ\" คาลอร์ทวนคำ \"เขาเป็นถึงหัวหน้าใหญ่ของสภาสูง ไม่น่าที่จะ--\"



        \"เจ้านึกว่าเซ็นทอร์ตัวนั้นจงรักภักดีต่อข้ารึ!\" อัมมาลาสว่ากลับ \"ข้าอ่านความคิดของมันออกตลอดเวลา! ดีที่ตำแหน่งนั้นไม่มีสิทธิ์ในการออกเสียงในสภาสูง พวกโง่นั่นก็แค่ตัวแทนโง่เง่าจากชนเผ่าต่างๆที่เลือกมาหักหลังพวกพ้องตัวเองนั่นละ\"



        \"แต่--\"



        \"อย่าเพิ่งพูดอะไร\" อัมมาลาสกล่าวอย่างใจเย็น แล้วจึงดีดนิ้ว ถ้วยชาสองถ้วยมีชาหอมอบอวลส่งกลิ่นน้อยๆโชยมาก็ลอยมาจากโต๊ะเล็กริมผนัง \"ดื่มชาก่อนสิ แล้วเราค่อยว่ากัน\"



        เมื่อน้ำชาอุ่นๆไหลผ่านริมฝีปากเข้าสู่ลำคอ ขุนพลแห่งดราโคโทเปียก็รู้สึกได้ทันทีถึงความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เขาพยายามทรงตัวขึ้นอย่างไร้เรี่ยวแรงพลางกุมลำคอของตัวเองเอาไว้แน่น อัมมาลาสจ้องดูสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าอย่างพึงพอใจ เขายิ้มน้อยๆแล้วจึงส่งชาอีกถ้วยให้



        \"ดื่มสิ นี่เป็นยาแก้--\"



        ก่อนที่เจ้าชายจะพูดจบ คาลอร์คว้าถ้วยชาไปดื่มทันทีด้วยไม่สนใจถึงความร้อนของมันราวกับคนที่พเนจรในทะเลทรายมานานแล้วมาเจอแหล่งน้ำเข้า สักพักหนึ่ง ความเจ็บปวดก็หายไปสิ้น ขุนพลแห่งดราโคโทเปียรู้ดีว่าห้ามถามอะไรต่อ แม้แต่สาเหตุถึงการกระทำเช่นนั้นของอัมมาลาส



        \"ทีนี้\" อัมมาลาสตรัสอย่างเรียบง่ายพลางเปิดลิ้นชักข้างตัวออก แล้วจึงหยิบห่อกระดาษเล็กๆส่งให้คาลอร์ \"ไปที่เกาะที่พำนักของชนเผ่าผู้วิเศษ เออร์นิลจะอยู่ที่นั่นพร้อมกับอาร์ธอน บุตรชายของปราชญ์ฟาเอลอนนั่นละ พรุ่งนี้ข้าจะปล่อยข่าวลือว่าเอเทลและฟาเอลอนได้สิ้นชีพไปแล้ว\" เจ้าชายตรัสอย่างอารมณ์ดี



        \"พนันได้ว่าอาร์ธอนต้องรีบร้อนกลับมานาเซียร์เป็นแน่\" คาลอร์ยิ้ม แผนการณ์ของอัมมาลาสนั้นชาญฉลาดเสมอ แผนการณ์ง่ายๆ แต่ใช้ได้ผลชะงัด



        \"ยาห่อนี้ ก็คือยาแบบเดียวกับที่เจ้าเพิ่งกินไปก่อนหน้านี้\" อัมมาลาสว่า \"หากไม่ได้ยาแก้ภายในครึ่งชั่วโมง มีผลลัพธ์เดียวคือ เจ้าจะตายอย่างเจ็บปวดและทรมานที่สุด ข้าคงไม่ต้องบอกเจ้าหรอกนะว่าต้องเอามันไปใช้ทำอะไร\"



        คาลอร์พยักหน้า



        \"ดีมาก\" เจ้าชายยิ้ม \"อย่าได้เผลอดื่มเข้าไปอีกล่ะ ยาแก้มีอยู่ที่อุทยานแห่งทวยเทพเท่านั้น\"



        \"ข้าจะปลิดชีพเจ้าชายเออร์นิลให้ได้\" คาลอร์พูด



        \"อย่าดีแต่พูดก็แล้วกัน\" อัมมาลาสกล่าวอย่างนิ่งสงบ \"ไปได้แล้ว ข้าคงจะไม่ให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งที่สอง เออร์นิลไม่ตายก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้เจ้าเอาแหวนมังกรมาให้ได้ เท่านั้นก็พอ\"



        ขุนพลแห่งดราโคโทเปียโค้งคำนับ แล้วจึงก้าวกลับออกไปที่ประตูใหญ่บานคู่อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะออกไปโดยไม่เหลียวหลังกลับมา



        ปล่อยผู้ที่อยู่เบื้องหลังให้จมอยู่ในแผนการณ์อันลึกซึ้งแต่เพียงผู้เดียว

    ______________________________________________________________________________________________________

    เอิ้กสส์ รู้สึกเหมือนแต่งเซ่นท่านหมีเลยนะเนี่ย คริๆๆๆๆๆ^^ เปล่าหรอกค่ะ ความจริงคนเขียนก็อยากแตกบทอัมมาลาสเดี่ยวๆมานานแร้ว ก็เลยสั้นไปนิดนึงนะค้าา^^\"    

        
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×