ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TWO? Part II Magical Faculty of Metropolitan University

    ลำดับตอนที่ #3 : Episode1 Act3 : พี่ใหม่…น้องใหม่…แฟมอาถรรพณ์

    • อัปเดตล่าสุด 28 พ.ค. 47


    7:00am Palais en Ciel



    แสงแดดอ่อนยามเช้าต้นฤดูฝนสาดส่องผ่านประตูระเบียงแบบเปิดได้สองบาน ทวารสีขาวฉลุลวดลายเถาองุ่นตามขอบกระจกนั้น ได้เปิดอ้าไว้ตลอดคืนเพื่อรับลมทะเลจากทิศใต้อันเย็นชื่น ผ้าม่านลูกไม้โปร่งสีขาวซึ่งถูกรวบไว้ด้วยเชือกหางม้าเนียนลื่นพริ้วแผ่วตามกระแสลมรวยริน สายลมสบายจากมหาสมุทรพัดไกลไปถึงเตียงสำริดคิงไซส์สี่เสาซึ่งตั้งขนานระเบียงหินอ่อนอีกมุมห้อง มุ้งคลุมเตียงชนิดเดียวกับม่านซึ่งไม่เคยถูกปลดใช้เลย ปล่อยชายล้อสายลมอันบางเบาระริกไหว



    ร่างเล็กบางบนที่นอนขนห่านพลิกตัวตะแคงเข้าหาผนัง เส้นผมสีทองสว่างดั่งแสงจันทร์วันเพ็ญรุ่ยร่ายปรกแก้มและริมฝีปากบาง บางส่วนเปียกชื้นด้วยน้ำลายไหลหยดจากปากเล็กที่แย้มเผยอ นัยน์ตาสีฟ้าใสดั่งนภาทะเลทรายซ่อนตัวภายใต้แพขนตาดกหนาสีเดียวกับเส้นผม บ่งบอกสติที่หลับไหลในห้วงนิทราลึกเร้นจนไม่อาจสดับเสียงผู้มาเยือน

        

    \"คุณหนูคะ ตื่นเถิดค่ะ\"    

    ผู้บังอาจบุกรุกห้องส่วนตัวเอื้อมมือสีแทนไปแตะไหล่ผู้เป็นนายอย่างแผ่วเบา สัมผัสอันแทบจะไร้แรงกดทับทำให้หญิงสาวเพียงสะบัดหลังมือใส่หน้าผู้บังอาจปลุกจากนิทราอันแสนสุข และพลิกตัวกลับไปนอนกอดหมอนข้างต่อ



    \"คุณหนูคะ วันนี้ต้องไปมหาวิทยาลัยนะคะ\"    

    พี่เลี้ยงประจำตัวคุณหนูแห่งปาเลย์อองเซิล…ปราสาทนภาอันงดงาม ยิ้มอย่างเอ็นดูโดยไม่สนใจรอยนิ้วทั้งห้าบนใบหน้าซีกขวา ก่อนเลิกผ้าแพรสีเลือดนกซึ่งห่มคลุมร่างบางอย่างไม่เรียบร้อย มาพับเก็บไว้ที่ปลายเตียง จากนั้นจึงอุ้มเจ้านายไปแช่ลงในอ่างน้ำเย็นจัดด้วยลอยก้อนน้ำแข็งขณะผลส้มโอไว้นับสิบ

        

    ห้านาทีต่อมา…



    \"เย็นโว้ย!\"    

    ลาลูน ออง เซิล…ธิดาคนเดียวและทายาทอย่างเป็นทางการของตระกูลลืมตาโพลงเมื่อลมหายใจสุดท้ายขาดห้วงและน้ำไหลเข้าหลอดลม ความเย็นเยียบดุจมหาสมุทรแอนตาร์กติกกลางฤดูหนาวนั้น ทำให้หญิงสาววัยสิบเก้าปีต้องสบถออกมา ก่อนจะถลันร่างออกจากอ่างในสภาพตัวสั่นงันงก และเสยผมสีทองเปียกลู่ พลางส่งสายตามุ่งร้ายไปยังพี่เลี้ยงที่เพิ่งมาดูแลไม่ถึงเดือนดี



    \"ท่านยูโธเปียบอกว่าถ้าปลุกแบบธรรมดาไม่ตื่นต้องใช้วิธีนี้ค่ะ\"

    เรนิ…ปีศาจจิ้งจอกสองหางผู้เคยรับใช้หญิงสาวตั้งแต่อดีตกาลก่อนผู้เป็นนายจะต้องเกิดใหม่ยิ้มอย่างซื่อบริสุทธิ์ จนนัยน์ตาสีฟ้าดั่งนภายามฤดูร้อนตอนเที่ยงวันอ่อนแสงแห่งโทสะลง และถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย



    \"ฉันตื่นแล้ว แต่งตัวเสร็จจะลงไป\"    

    กล่าวจบก็ส่งสายตาบอกใบ้ให้ออกไปจากห้องน้ำได้แล้ว เมื่อพี่เลี้ยงผู้ภักดีหับประตูห้องน้ำเรียบร้อย หญิงสาวก็จัดการธุระส่วนตัวอย่างเร่งรีบ และออกมาในสภาพหยดน้ำยังเกาะพราวตามผิวกาย

        

    \"ยังไม่ลงไปอีกเหรอ?\"    

    ขมวดคิ้วเมื่อยังเห็นร่างของพี่เลี้ยงในรูปลักษณ์สาวงาม



    สาวสวยร่างสูงโปร่ง รวบผมสีน้ำตาลยาวสลวยถึงบั้นท้ายไว้หลวมๆ สวมเสื้อแขนยาวสีขาวบางจนมองเห็นทรวดทรงลางๆ ปล่อยชายยาวถึงสะโพกกับกางเกงยีนส์ขนาดพอดีตัว ดูอย่างไรแบบไหนก็ไม่เหมือนสาวใช้ประจำคฤหาสน์สักนิด ยิ้มแจ่มใสโดยไม่ใส่ใจประโยคไล่ครั้งที่สองของนายสาว พลางดุนหลังร่างเล็กไปนั่งหน้าโต๊ะเครื่องแป้งและลงมือแปรงผมอย่างนุ่มนวล



    \"วันนี้คุณหนูต้องแต่งตัวเรียบร้อยนะคะ ข้าน้อยเตรียมชุดไว้หลังฉากกั้นแล้วค่ะ\"    

    สาวใช้อมนุษย์ลากร่างนายหญิงไปยังฉากกั้นสำหรับแต่งตัวซึ่งอยู่ข้างตู้เสื้อผ้าแบบบิลด์-อินที่ยาวจนสุดขอบจากโต๊ะเครื่องแป้งไปยังหน้าต่างระเบียง



    \"ทำไมต้องพิถีพิถันขนาดนี้ด้วย แค่ไปมหาวิทยาลัยนะ\"    

    ทายาทตระกูลเก่าแก่กว่าร้อยปีประท้วงหลังจากยอมเป็นตุ๊กตาให้พี่เลี้ยงสาวสองร้อยปีแต่งองค์ทรงเครื่อง



    \"เพราะวันนี้มีแขกรออยู่ข้างล่างค่ะ\"    

    เรนิทำสีหน้าแช่มชื่นเบิกบานขณะจูงมือร่างบางลงบันไดมายังห้องโถงใหญ่ซึ่งใช้รับรองแขกด้วยการให้นั่งๆนอนๆกับพื้น เพราะไม่เคยมีนโยบายเชิญคนแปลกหน้ามายังคฤหาสน์ จึงไม่จำเป็นต้องมีชุดรักแขก และแขกซึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิท้าวคางบนเบาะนั่งพิงเสาขนาดชายฉกรรจ์สามคนโอบก็คือ…



    \"มิคาเอล!\"

    ลาลูนร้องอุทานอย่างตกตะลึง หญิงสาวไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มรุ่นพี่ในคณะจะมาเยือนถึงบ้าน หลังเสร็จสิ้นการประลองยุทธ์เมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมา ทั้งสองก็ไม่เคยพบหน้ากันอีกเลย และยิ่งไปกว่านั้น เจ้าของบ้านคนนี้ไม่เคยเอ่ยปากเชิญชายหนุ่มที่เพิ่งจะญาติดีกันไม่นานมาคอยถึงห้องโถงของคฤหาสน์สักครั้ง



    \"มีเรื่องต้องคุยด้วยก่อนไปถึงมหาวิทยาลัย\"    

    มิคาเอล เลนัน…ลูกชายตามสายเลือดคนเดียวของนายธนาคารใหญ่อันดับหนึ่งในโลกพูดเสียงเรียบโดยปราศจากอารมณ์ เว้นแต่ความพึงพอใจในดวงตาสีม่วงสด เมื่อสำรวจร่างเจ้าบ้านในชุดกระโปรงพลีตยาวพอดีเข่าสีดำสนิท คลุมทับด้วยโค้ทยาวบางสีเดียวกันซึ่งเป็นเครื่องแบบของมหาวิทยาลัยที่บังคับให้นักเรียนทุกคนสวมสูท โค้ท หรือเสื้อกาวน์ที่ปักอักษรย่อ \"MU\" ซ้อนทับกันด้วยด้ายสีทองตรงอกขวา เวลาเข้าเรียนหรือทำกิจกรรม

        

    \"มีอะไรไปคุยกันบนรถเถิดค่ะ\"    

    จิ้งจอกสาวที่เพิ่งเจอกันในงานประลองยุทธ์เมื่อเดือนก่อนโบกมือลานายสาวอย่างเริงร่า ขณะหญิงสาวโดนชายหนุ่มกึ่งลากกึ่งจูงไปยังรถสปอร์ตสีน้ำเงิน



    \"ทำไมต้องมารับฉันด้วย ขับรถไปเองได้นะ\"    

    เมื่อกลายเป็นตุ๊กตาหน้ารถของดาวคณะหนุ่มได้ไม่ถึงหนึ่งนาที หญิงสาวก็ทนบรรยากาศน่าอึดอัดนี้ไม่ได้จึงรีบเข้าประเด็นของฝ่ายตรงข้าม



    \"เป็นแฟนกันเถอะ\"

    สั้น เรียบง่าย ได้ใจความ...

    แต่หญิงสาวต้องตีความอีกเกือบสามนาทีกว่าจะกระจ่างแจ้ง และความเข้าใจแน่ชัดนั้นก็ทำให้เผลอทุบเบาะนั่งจนยุบก่อนจะอดใจไม่ไหวตบกบาลอีกฝ่าย อาการนั้นคงอยู่อีกสิบนาทีจึงถอนหายใจยืดยาว

        

    \"ฉันไม่มีทางเลือกใช่ไหม\"

    สาวผมสั้นระเรี่ยไหล่ลาดกลมกลึงจ้องร่างงามดั่งรูปสลักเทพบุตรด้วยสายตาเยือกเย็นอย่างผิดวิสัย เพราะตระหนักแน่แก่ใจว่า ไม่ว่าจะตอบรับหรือไม่ สายตาคนทั้งวิทยาเขตเมโทรโพลิแทน ก็ตราหน้าตนเป็นนางมารร้ายที่ฉกชิงหัวใจดาวมหาวิทยาลัยไปตั้งแต่ปลายเทอมสองของภาคการศึกษาที่แล้ว    



    มิคาเอลคลี่ยิ้มด้วยริมฝีปากชุ่มฉ่ำน่าสัมผัสนั้นครั้งหนึ่ง ก่อนพยักหน้ารับ และเอ่ยประเด็นต่อไป

    \"มีอีกเรื่องที่อยากให้รู้ไว้\"



    เมื่อมองจากด้านข้างแล้ว ใบหน้านั้นก็ดูงดงามราวเทพยดาเสกสรร นัยน์ตาสีดอกไอริสซึ่งจับจ้องท้องถนน สลับกับกระจกข้างรถเป็นครั้งคราว ช่างลงตัวกับลาดลู่โค้งงอนของสันจมูก และริมฝีปากช่างจำนรรจายิ่งนัก

    อีกทั้งเส้นผมสีเดียวกับรวงข้าวยามท้องแก่ก็ทิ้งตัวอย่างมีน้ำหนัก และพลิ้วไหวตามกระแสลมแรงจากช่องแอร์ สร้างความเอิบอิ่มในจิตใจผู้พบเห็นทุกคนที่ไม่ใช่ลาลูน ออง เซิล ผู้นี้ เพราะหญิงสาวเคยพานพบอีกโฉมหน้าหนึ่งของแฟนหนุ่มตั้งแต่ห้านาทีที่แล้ว…โฉมหน้าของปีศาจร้ายผมสีฟ้าเข้ม ใบหน้าซึ่งเยือกเย็นแต่งดงามดั่งรูปสลักน้ำแข็ง และหัวใจอำมหิตที่สูบฉีดเลือดอันเย็นชาไปทั่วร่างกาย

        

    คำบอกเล่าขณะสาวผมทองจ้องมองใบหน้าอีกฝ่ายราวกับประเมินราคาวัตถุล้ำค่านั้น เกี่ยวกับการที่ผู้พูดจำใจเป็นพี่แฟมให้กับผู้ฟังตลอดปีนี้ และไม่ต้องอธิบายให้มากความ หญิงสาวซึ่งได้พี่แฟมมาอีกคนอย่างไม่คาดคิดก็เข้าใจดีว่าเพราะเหตุใด เพียงแต่นึกไม่ถึงเท่านั้นว่านักเรียนสอบเข้าปีสองคนนี้จะมีพี่แฟมเป็นนักเรียนเทียบโอนหน่วยกิตเข้ามาเมื่อเทอมแรกของสามปีก่อน เนื่องจากนักเรียนเทียบโอนจะไม่ผ่านการรับน้อง ไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมการทรมานเด็กใหม่ด้วยวาจา และไม่มีแฟมเลยจนจบการศึกษานั่นเอง…



    8:00am คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเมโทรโพลิแทน



    หญิงสาวและชายหนุ่มต่างชั้นปีเดินเคียงคู่เข้ามายังโถงใต้คณะ พวกปีสองส่งเสียงฮือฮาเล็กน้อยเมื่อสังเกตเห็นมือฝ่ายชายเกาะเกี่ยวแนบแน่นกับฝ่ายหญิง และสาวๆบางคนก็แทบกรี๊ดสลบเมื่อเห็นดาวมหาวิทยาลัยก้มลงกระซิบที่ใบหูเพื่อนร่วมเอกก่อนเดินจากไป



    \"นี่ลาลูน!\"    

    เพื่อนสาวคนสนิทที่กล้าไต่ถามเรื่องราวต่างๆ โดยไม่กลัวต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้ม เอาศอกกระทุ้งสีข้างสาวผมทองอย่างหยอกเอิน

    \"ที่เขาว่าปิดเทอมนี้เธอไปฮันนีมูนสองต่อสองกับมิคาเอลเป็นความจริงสินะ?\"



    \"จริงอะไร…กันล่ะ\"    

    ก่อนที่จะโวยวายตามนิสัย เจ้าของฉายา \"เจ้าแม่ECON\" ก็ทอดเสียงลงพร้อมเลือดฝาดแล่นริ้วทั่วใบหน้า ทำให้ทุกคนแถวนั้นพยักหน้าอย่างพร้อมเพรียง เป็นทำนองรู้กันว่าทั้งสองร่วมโลงเดียวกันไปแล้ว



    \"แล้วรุ่นพี่มิคาเอลไปไหนล่ะ?\"    

    เพื่อนสาวคนเดิมกระเซ้าถามอีกครั้ง



    \"ไปพาน้องแฟมของฉันมา\"    

    คำตอบสั้นๆของหญิงสาวสามารถสร้างความเงียบสงัดดั่งป่าช้าคืนวันพระได้ทั่วห้องโถง และคนพูดก็ไม่แปลกใจสักนิดเดียวเมื่อเห็นสีหน้าขนพองสยองเกล้าของเพื่อนร่วมชั้นปี เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าคนในแฟมแม่ตัวแสบฉิบหายวายวอดมาสามรุ่นแล้ว



    เริ่มตั้งแต่ปู่แฟมที่หญิงสาวไม่เคยพบหน้า เพราะรุ่นพี่ชายปีสี่คนนั้นโดนประหาร ข้อหาสังหารโหดหญิงสาวถึงยี่สิบสามคนที่ไม่ยอมรับรัก หรือยอมรับรักแต่ขอเลิก ไม่มีใครรู้ถึงความวิปริตของรุ่นพี่คนนี้เลย จนญาติของเหยื่อรายสุดท้ายไปหาคนนั่งทางใน และสืบสาวตามคำบอกจนไขคดีได้ในที่สุด



    อาถรรพณ์ที่สองคือพ่อแฟมของลาลูนซึ่งโดนฆ่าหั่นศพเป็นสิบเจ็ดส่วนด้วยฝีมือแฟนสาว เพราะไปทำเขาท้องและบังคับให้ทำแท้ง หลังจากฝ่ายหญิงคลอดเด็กชายหน้าตาน่ารักออกมาก็ฆ่าตัวตายตามคนรักไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะหญิงสาวอยู่ในช่วงสอบมิดเทอมครั้งแรก จึงมีโอกาสเพียงไปร่วมพิธีเผาของทั้งสองเท่านั้น



    และอาถรรพณ์ครั้งล่าสุดก็เกิดกับพี่แฟมที่คุณหนูหมัดหนักรักมากนั่นเอง เมื่อเจริญรอยตามปู่แฟมก่อคดีฆาตกรรมหมู่เหล่าทรชนที่ฉุดคนรักไปฆ่าข่มขืน แม้จะเป็นการสังหารโหดเผาทั้งเป็นที่สะเทือนขวัญพอกัน แต่จากการวิเคราะห์ของจิตแพทย์แล้ว รุ่นพี่คนสุดท้ายที่เหลืออยู่ในแฟมจึงยังใช้ชีวิตอยู่ต่อไปในโรงพยาบาลจิตบำบัดสำหรับผู้ต้องหา ทุกครั้งที่หญิงสาวไปเยี่ยมเยียนก็จะพบรุ่นพี่ชายต้อนรับด้วยอัธยาศัยอันดี และแนะนำอากาศว่างเปล่าว่าเป็นคนรักทุกครั้งไป…



    ขณะที่เพื่อนร่วมคณะค่อยๆถอยห่างสาวผมทองด้วยความรู้สึกชนิดหนึ่ง เมื่อนึกถึงประวัติศาสตร์เลือดในแฟมเพื่อนคนนี้อยู่นั้น ดาวคณะเจ้าของฉายา \"เทพบุตรแห่ง[MU]\" ก็จูงมือสาวน้อยคนหนึ่งเข้ามา...         



    ดวงหน้าเยาว์วัยและร่างเล็กบางทำให้ไม่น่าเชื่อว่าจบมัธยมปลายแล้ว เส้นผมสีชมพูหยิกหยักศกปล่อยยาวสยายเต็มแผ่นหลัง ดวงตาสีเดียวกันทอประกายมืดมนราวกับมีเงาแห่งความตายติดตามทุกฝีก้าว เมื่อเด็กสาวก้าวมายืนต่อหน้าเจ้าของแฟมอาถรรพณ์ที่ทุกคนหวั่นเกรง คนรอบข้างก็ถอยห่างออกไปอีกไกลลิบ ด้วยเกิดความรู้สึกเย็บวาบจากไขสันหลังจรดหนังศีรษะ จากกลิ่นไอไม่ปกติสำหรับมนุษย์ธรรมดาที่แผ่ออกจากร่างน้องแฟมคนล่าสุดของลาลูน แต่รุ่นพี่ปีสองมือใหม่ยังคงยิ้มต้อนรับอย่างอบอุ่นพร้อมยื่นมือทักทาย



    \"ลาลูน ออง เซิล จ้ะ ต่อไปนี้ฉันจะเป็นพี่เธอตลอดไปนะ\"



    \"ฮิคารุ เมตาลเลียม ค่ะ ขอบคุณที่ต้อนรับ แต่ไม่ต้องเทคแคร์หนูมากก็ได้ค่ะ ไม่เช่นนั้นพี่จะอายุสั้นเปล่าๆ\"    

    คำพูดสุภาพเรียบร้อยแต่ตัดรอนของน้องปีหนึ่งผู้มืดมน สร้างอาณาเขตอันน่าสะพรึงให้ทุกคนก้าวถอยหลังออกไปอีก บางคนถึงกับจับมือกันแน่นเมื่อจ้องมองการทักทายของสมาชิกแฟมอาถรรพณ์ มีเพียงรุ่นพี่ปีห้าคนนี้เท่านั้นที่ยังคงยิ้มอยู่เคียงข้างน้องแฟมของตนเองเช่นกัน  



    \"แนะนำตัวอีกทีแล้วกัน พี่ชื่อ มิคาเอล เลนัน เป็นพี่แฟมอีกคนของเรานะ\"

    เจ้าของฉายาเจ้าชายECON และเทพบุตรแห่ง[MU] เอื้อมแขนไปเกาะกุมมือของสองสาวไว้ด้วยกัน เป็นสัญลักษณ์แห่งครอบครัวที่จะผูกพันกันตลอดไปตราบที่ยังใช้ชีวิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งนี้



    \"พี่ก็จะเป็นพี่ของเธอตลอดไปเช่นกันจ้ะ ไม่ต้องห่วงว่าพี่จะอายุสั้นง่ายๆหรอกนะ ขนาดรถพ่วงยังต้องหลบพี่เลย\"    

    สาวแสบที่สร้างชื่อเสียงด้านทะเลาะวิวาทตั้งแต่อยู่ปีหนึ่งยิ้มแย้ม แต่ผองเพื่อนต่างหน้าซีดเผือดยิ่งกว่าเห็นน้องแฟมคนใหม่ของคุณเธอเสียอีก โดยเฉพาะคนที่เคยหลงผิดติดรถแม่ตัวแสบด้วยแล้ว จะยิ่งเข้าใจความนัยของผู้พูดได้เป็นอย่างดี



    เมื่อการทักทายแบบมืดมนชวนขวัญผวาจบสิ้น สองพี่แฟมหน้าใหม่ก็พาน้องแฟมคนล่าสุดไปรวมกลุ่มกับรุ่นน้องคนอื่นๆเพื่อรับการว้ากครั้งแรกจากบรรดาว้ากเกอร์



    การว้ากนี้เป็นธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาตั้งแต่สร้างมหาวิทยาลัยปิดนี้เมื่อหกสิบปีที่แล้ว...

    ชื่ออย่างเป็นทางการคือ \"โซตัส\" (SOTUS)



    รายละเอียดก็แค่น้องปีหนึ่งทุกคนต้องทนนั่งเครียดจากคำพูดเจ็บปวดของรุ่นพี่โรคจิตบ้าง รุ่นพี่ชอบแสดงบทร้ายบ้าง ยาวติดต่อกันครั้งละสามชั่วโมงตอนเช้า บางครั้งอาจมีการเรียกเหงื่อจากรุ่นน้องบ้างเล็กน้อย แต่ก็มีหน่วยปฐมพยาบาลเตรียมพร้อม ประเพณีนี้กำหนดให้เสร็จสิ้นภายในหนึ่งเดือนก่อนภาคเรียนแรกเปิดเสมอมา หากนักศึกษาคนไหนไม่เข้าร่วม เมื่อเปิดเทอมวันแรกจะได้รับการเรียกขานว่า \"สัมภเวสี\" คือการคว่ำบาตรไม่คบค้าสมาคม โดนไล่ออกจากแฟม อีกทั้งคนอื่นที่เข้าร่วมกิจกรรมก็จะไม่ข้องเกี่ยวด้วย เพราะถือว่าไม่ได้ตกระกำลำบากมาด้วยกัน แต่เมื่อคุณสัมภเวสีขึ้นปีสอง จะสามารถจัดพิธีขอขมาต่อรุ่นพี่ และมีแฟมเหมือนคนอื่นๆได้….



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×