คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : KyliexK 06
“Ask me anything.”
“แดนนี่บอกอยากเจอเธอ"
“ฉันนึกว่าฉันพูดชัดเจนแล้วซะอีก" ฉันทำหน้าตาประหลาดใจและมองหน้าแพท ก่อนจะย้ำอีกครั้ง "ฉัน-ไม่-อยาก-เจอ-เขา"
“มันจะกลับนิวยอร์กอีกไม่กี่วันแล้ว"
“ถ้านายจะมาพูดเรื่องนี้ ฉันขอตัวกลับไปทำงาน"
“ทำไมเธอไม่ยอมเจอมัน" คำถามของแพททำให้เกิดรอยระหว่างคิ้วฉัน
นั่นสินะ ฉันเองก็ไม่เคยถามตัวเองว่าทำไม ฉันแค่ไม่อยากเจอเขา
“เธอบอกว่าเธอเดินหน้าต่อไปแล้ว ไม่ได้คิดอะไรกับมันแล้ว ทำไมถึงเจอหน้ากันไม่ได้"
“เขาให้นายมาถาม หรือนายถามเพราะอยากรู้เอง" แพทไม่ชอบเวลาคนอื่นๆ ตอบคำถามด้วยคำถาม และฉันจงใจทำแบบนั้นเพื่อกวนประสาทเขา
“ฉันอยากรู้" การที่เขาตอบมาแบบนั้นทำให้ฉันไปต่อไม่ถูก ฉันไม่คิดว่าแพทจะตอบอย่างตรงไปตรงมา
“ฉันมาคิดๆ แล้วก็ประหลาดใจ ตอนแรกฉันพยายามแทบตายเพื่อให้เธอสมัครงานนั้น แต่เธอไม่แม้แต่จะพิจารณามัน หลังจากที่แดนนี่กลับมา เธอพุ่งไปสมัครทันที มันน่าคิดมั้ยล่ะ"
“มันน่าคิด" ฉันตอบ "แต่มันไม่ใช่เรื่องที่นายต้องกังวล ไม่ว่ายังไงมันก็คือการตัดสินใจของฉัน"
“ฉันไม่ได้มาหาเรื่องอะไรไคลี่ ฉันแค่อยากรู้"
“ฉันไม่ชอบให้ใครมาคาดคั้น" ฉันเหลือบไปมองเอมี่ที่กำลังมองมาทางพวกเราด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น "ฉันต้องกลับไปทำงานแล้ว ไว้คุยกันทีหลังดีมั้ย"
“เธอจะยอมบอกฉันรึเปล่าว่าทำไมเธอถึงไม่ยอมเจอแดนนี่"
ฉันมองหน้าเขา พยายามจะส่งคำปฏิเสธทางสีหน้า แต่แพททึ่มเกินกว่าจะเข้าใจ
“มันคงไม่ใช่เพราะเธออยากจะไปหามันที่นิวยอร์กหรอกนะ" คำพูดของเขาฟังดูไม่สมเหตุสมผลเอาซะเลย ฉันอยากให้เขาได้ยินตัวเองจริงๆ จะได้รู้ว่าทำไมฉันถึงหงุดหงิดนัก
“ถ้าใช่หรือไม่ใช่ นายจะรู้ไปทำไมกัน" ฉันถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย "ถ้านายเป็นเพื่อนฉันจริงๆ นายแค่ช่วยเป็นกำลังใจให้ฉันเฉยๆ ไม่ได้หรือไง"
แพทกระอักกระอวน เขาเอามือล้วงเข้ากระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางที่เปลี่ยนไป และฉันก็เกิดนึกเสียใจในสิ่งที่ตัวเองพูดออกไป ฉันนี่มันโง่จริงๆ
“เธอก็รู้ว่าฉันรู้สึกยังไง"
ใช่ ฉันรู้
“ฉันรู้ว่านายหวังดีในฐานะเพื่อน" ฉันเล่นบทใสซื่อ
“ไคลี่ มัน...” แพทคงจะได้พูดต่อ ถ้าไม่ติดว่ามีลูกค้าเดินมาที่เคาท์เตอร์แล้ว ฉันหันไปสบตาเคที่กำลังมองสลับระหว่างฉันกับแพทเหมือนกัน
ถ้าแพทไม่ได้อยู่ตรงนี้ ฉันคงจะส่งเอมี่ไปรับออเดอร์จากเขาแทนแล้ว เพราะฉันเองก็รำคาญเขาเหมือนกัน แต่ฉันรำคาญแพทมากกว่า
“ฉันต้องทำงานแล้ว ขอตัวนะ" ฉันบอกแพทและรีบเดินไปตรงหน้าเคาท์เตอร์
“ผมไม่ได้มาขัดจังหวะอะไรหรอกนะ"
“จะรับอะไรดีคะ" ฉันฉีกยิ้ม ไม่คิดจะตอบคำถามเขา มีคนอยากรู้เรื่องของฉันมากเกินไปแล้ว
“อเมริกาโน่ร้อน แก้วเล็ก"
ฉันกำลังจะกดเมนูนั้นลงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่ก็เปลี่ยนใจ ฉันสบตาเคและถามย้ำอีกครั้ง
“จะรับอะไรดีคะ"
“เอ่อ...อเมริกาโน่ร้อน แก้วเล็ก" เขาเลิกคิ้วและย้ำคำสั่งอีกครั้ง เหมือนว่าฉันคงไม่ได้ยินมันในรอบแรก
“สั่งอะไรที่เธอจะดื่มจนหมดแก้วเถอะ กาแฟพวกนี้ไม่ใช่ถูกๆ นะ"
“ผมดื่มนะ" เขาเถียง ความเป็นเด็กอายุสิบเจ็ดปรากฏในน้ำเสียงทันที ฉันควรจะปล่อยผ่าน และให้เครื่องดื่มที่เขาต้องการไปซะ แม้ว่าเขาจะเอามันไปตั้งประดับโต๊ะก็ตาม
“ฉันให้โอกาสสั่งอีกครั้ง"
“อเมริกาโน่ร้อน แก้วเล็ก" คำตอบของเขาเริ่มทำให้ฉันหงุดหงิด
“ถ้าเธอยอมสั่งเครื่องดื่มที่ตัวเองชอบจริงๆ ฉันจะยอมตอบคำถามเธอหนึ่งข้อ" เคพยายามซ่อนความตื่นเต้นไว้ แต่เขาซ่อนมันไม่มิดหรอก
“ไม่มีอะไรอยากถาม" เขาตอบนิ่งๆ
ฉันพยักหน้าและทวนออเดอร์ตามที่เขาต้องการ "อเมริกาโน่ร้อน แก้วเล็กนะคะ"
“เดี๋ยวๆ" เคร้องห้าม เขาคว้าข้อมือฉันไว้ก่อนที่ฉันจะกดอะไรลงไปในคอมพิวเตอร์ "คำถาม...อะไรก็ได้งั้นหรอ"
“ใช่" ฉันตอบและแกะมือเขาออก
“ก็ได้" เคกลอกตาเหมือนว่าคำขอของฉันเป็นเรื่องหนักหนามาก
“ตกลงว่าจะรับอะไรดีคะ"
“กาแฟอะไรที่ไม่ค่อยขม"
“เธอไม่ชอบดื่มกาแฟ จะดื่มกาแฟไปทำไม" ฉันถอนหายใจ
“ไม่ใช่ไม่ชอบสักหน่อย" เขาโกหก "มันแค่...”
“ฉันรู้นะเวลาเธอโกหก และถ้าเธอโกหก ข้อเสนอเป็นอันยกเลิก"
เคกลอกตาอีกครั้ง "ก็ได้ๆ" เขาลากเสียงเนือยๆ "ช็อคโกแล๊ตเย็น...ปั่น"
“วิปครีมด้วยมั้ยคะ"
“ไม่เอา"
“...”
“เอา" เขาพยักหน้า และก้มหน้าหลบตาฉันเหมือนเด็กๆ ฉันรับเงินมาจากเขา พยายามซ่อนรอยยิ้มของตัวเอง เพราะกลัวว่าเขาจะเข้าใจความหมายของมันผิด ฉันแค่คิดว่าเขาน่ารักดีเท่านั้นเอง
มีแต่เด็กเท่านั้นล่ะที่พยายามปกปิดว่าตัวเองชอบช็อคโกแล๊ตด้วยการบอกว่าตัวเองชอบดื่มกาแฟ
เอมี่เดินเข้ามาพอดี ฉันเลยบอกให้เธอทำเครื่องดื่มนั้นให้ ส่วนฉันก็เดินไปหยิบน้ำแร่มาเติมใส่ในตู้ พอเดินออกมาจากหลังร้านก็เจอทั้งเคและแพทที่ยังยืนอยู่แถวๆ เคาท์เตอร์ เครอเครื่องดื่มของเขา ส่วนแพท...รอฉัน
“เรายังคุยกันไม่จบ"
“อันที่จริงแล้วฉันรับปากเขาไว้ว่าจะช่วยเขา" ฉันโกหกและมองไปทางเคที่ยืนเท้าคางรอเครื่องดื่มอยู่ เขาประหลาดใจ แต่ไม่กระโตกกระตาก
“ช่วย?” แพททวนคำและมองไปทางเค
“การบ้าน" เคตอบ "เศรษฐศาสตร์"
“เธอรู้จักเขาเหรอ"
“ลูกค้าประจำ" ฉันพูดความจริง "ถามเอมี่ก็ได้"
“ช่างเถอะ" แพทพ่นลมหายใจ "ฉันจะโทรหาเธอทีหลัง"
ไม่ต้องโทรมาหรอก
ฉันพูดแบบนั้นออกไปไม่ได้ เลยทำได้แค่พยักหน้า แพทเดินออกจากร้านไปด้วยท่าทีไม่สบอารมณ์ เหมือนกับตอนที่เขาเดินเข้ามา คนที่ควรจะไม่สบอารมณ์น่าจะเป็นฉันมากกว่า เขาไม่ใช่คนที่ถูกทำให้อึดอัดสักหน่อย
“เพื่อนคนนั้นน่ะ" เคพูดขึ้น ฉันหันไปสบตาเขา และเลิกคิ้วใส่ "เขาชอบเธอนะ"
“ฉันรู้" ฉันพยักหน้า
เอมี่นำเครื่องดื่มมาวางให้ เคบอกขอบคุณห้วนๆ และอ้อยอิ่งหยิบกระดาษทิชชู่นานกว่าที่ควร เอมี่คงจะเดินวนเวียนอยู่แถวนี้ต่อถ้าเธอไม่ได้เลิกสนใจเขาแล้ว หลังจากพยายามทำให้เขาสนใจมาหลายครั้งไม่เป็นผล เธอก็เลิกคิดไปเองน่ะ
“ผมถามอะไรได้ใช่มั้ย" ฉันยืนรออยู่แล้ว จากท่าทางเขาก็รู้ว่าเขาจะต้องถามอะไรแน่ๆ ฉันพยักหน้า เดินมาหยุดยืนตรงหน้าฉัน ในมือกุมแก้วเครื่องดื่มไว้อย่างกับมันเป็นถ้วยทองคำ ท่าทางเขาดูประหม่ามากจนทำให้ฉันเริ่มหวาดระแวงกับคำถาม
“เธอรู้ใช่มั้ยว่าฉันคิดยังไงกับเธอ"
ไม่น่ากลัวเท่าที่คิดแฮะ
“รู้" ฉันตอบยิ้มๆ มันอดไม่ได้จริงๆ นี่นา
“แล้วเธอคิดยังไง"
“นั่นมันอีกคำถามไม่ใช่หรอ"
ความคิดเห็น