คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : KyliexK 01
บทนำ
'ขืนเป็นแบบนี้จะตามพี่ชายเราทันเหรอ'
'นี่นายพยายามแล้วเหรอ ล้อกันเล่นรึเปล่า'
'เธอพลาดอีกแล้วนะเค'
'ถ้าไม่จริงจัง ก็ออกไปจากการแข่งขันเถอะ'
'เค ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่เก่งแบบพี่ชายเราน่ะ'
'ต้องทำให้ได้ดีมากกว่านี้'
'ต้องฝึกมากกว่านี้'
ต้องดีมากกว่านี้...
“กาแฟแก้วเก่ามีปัญหางั้นหรอคะ"
“ฮะ" ผมสบตาเธอและกระพริบตาถี่ๆ รู้สึกเหมือนเป็นไอ้งั่งที่พูดจาไม่รู้เรื่อง อีกฝ่ายมองหน้าผมกลับ ผมเห็นความสงสัยในแววตาเธอ และก็ไม่แปลกใจ ผมเดินมาสั่งกาแฟแก้วใหม่แต่ดันคิดเรื่องอื่นจนเหม่อลอยใส่อีกฝ่าย
“กาแฟแก้วที่แล้วมีปัญหาเหรอคะ" เธอถามซ้ำ ท่าทางเหมือนรำคาญนิดๆ "คุณมาสั่งแก้วใหม่อีกแล้ว ทั้งๆ ที่แก้วเก่ายังไม่หมดเลย"
“อ้อ...” ผมหันไปมองแก้วกาแฟตัวเองที่วางอยู่บนโต๊ะ ผมนี่มันโง่จริงๆ อย่างน้อยควรจะทำลายหลักฐานหน่อยสิ "น้ำแข็งมันละลายแล้ว ก็เลย...”
“ถ้าอย่างนั้นรอบนี้สั่งเป็นร้อนแทนดีมั้ย" เธอเสนอ และผมก็ได้แต่พยักหน้า
ผมไม่ใช่คนพูดเก่ง อันที่จริงแล้วผมไม่ชอบพูดด้วยซ้ำ ตลอดชีวิตที่ผ่านมาผมถูกทำให้เชื่อว่าคำพูดไม่มีความสำคัญถ้าปราศจากการกระทำที่น่าเชื่อถือ ยังไงก็ตาม สิบเจ็ดปีที่ผ่านมาในชีวิตผมไม่เคยมีปัญหาเรื่องการสื่อสารความรู้สึกของตัวเอง ผมชวนผู้หญิงที่ผมชอบไปเดต ผมส่งข้อความหาเธอ หรือพูดถ้อยคำที่พวกเธออยากฟัง แต่ไม่ใช่กับคนนี้
เธอทวนรายการเครื่องดื่มและรับเงินไปจากมือ กาแฟที่ผมสั่งไม่ใช่อะไรที่ผมชอบดื่มด้วยซ้ำ ผมไม่ดื่มกาแฟดำ ผมอยากจะสั่งช็อคโกแล๊ตเย็นอะไรแบบนั้นมากกว่า แต่นั่นมันไม่เท่เลย และผมอยากให้เธอมองว่าผมเท่
ผมเดินไปยืนรอเครื่องดื่ม ขณะที่ก็ยังแอบหันไปมองเธอเป็นระยะๆ ผมไม่รู้หรอกว่าเธอชื่ออะไร ผมไม่รู้ว่าเธออายุเท่าไหร่ เรียนที่ไหน หรือทำงานแล้ว เราเจอกันที่คาเฟ่แห่งนี้ ผมมักจะโดดซ้อม (หรือโดดเรียน) มานั่งที่นี่บ่อยๆ เพราะมันเงียบ ไม่จ๊อกแจ๊กจอแจเหมือนร้านกาแฟดังๆ ผมมาที่นี่บ่อยมาก แต่เธอไม่เคยจำผมได้เลย ทุกครั้งที่เราเจอกันรู้สึกเหมือนเป็นครั้งแรกทุกครั้ง
โต๊ะที่ผมเลือกนั่งเป็นโต๊ะตัวเดิม ตัวที่อยู่ใกล้เคาท์เตอร์มากที่สุด ผมสามารถมองเห็นเธอได้เกือบตลอดเวลาโดยที่ไม่ดูจงใจมากไปนัก...หรืออย่างน้อยผมก็คิดว่าผมทำได้อย่างแนบเนียนนะ
เรื่องนี้เป็นความลับ ผมไม่บอกใครเลยเกี่ยวกับคาเฟ่ และผู้หญิงคนนี้ เธอคือความลับที่ผมไม่พร้อมจะแบ่งปันกับใคร ไม่ว่าจะกับครอบครัว พี่ชาย หรือแม้แต่เพื่อนที่สนิท ถ้าคนอื่นๆ ได้ยินเรื่องเธอคงจะคิดว่าผมแอบชอบเธอเพราะหน้าตา...ซึ่งผมก็ไม่ปฏิเสธหรอกนะ เธอเป็นผู้หญิงสวยจริงๆ เหมือนกับนางเอกเท่ๆ ที่หลุดออกมาจากการ์ตูน ผมสีดำ ตาสีดำ ตัวสูง ท่าทางเย็นชา ทุกๆ อย่างเกี่ยวกับผู้หญิงคนนี้ดูไม่เป็นมิตรเอาซะเลย แต่ยังไงก็ตาม...ผมก็ยังหยุดมองเธอไม่ได้สักที
น่าสมเพช...
ผมบ่นตัวเองและจิบอเมริกาโน่ร้อน ผมเกือบจะสำลักออกมา ขมจะตายชัก คนอื่นๆ ดื่มมันเข้าไปได้ยังไงกัน นาฬิกาบอกเวลาหกโมงสี่สิบแล้ว อีกไม่นานเธอก็จะเลิกงาน เธอทำงานพิเศษที่นี่ทุกๆ วันจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่บ่ายสามถึงหนึ่งทุ่ม บางทีเธอก็ทำงานยาวไปถึงสี่ทุ่ม ผู้หญิงอย่างเธอไม่ควรจะเดินกลับบ้านคนเดียวตอนดึกๆ แบบนั้น
โทรศัพท์มือถือผมที่วางอยู่กับโต๊ะดังขึ้นมา ผมก้มหน้าลงมองและพบว่ามันคือข้อความจากหนึ่งในคนที่ผมเหม็นขี้หน้ามากที่สุด
'แกหายไปไหนวะ – จีนส์'
ผมมองข้อความอย่างเย็นชา ไม่ได้คิดจะตอบ มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของไอ้บ้านั่นอยู่แล้ว
'โดดซ้อมเหรอ ฉันจะฟ้องคนอื่นแน่ - จีนส์'
ผมไม่ได้เกลียดจีนส์หรอกน่ะ แต่หมอนี่น่ารำคาญ...และก็น่ารำคาญ...และก็น่ารำคาญ บางทีผมอาจจะเกลียดมันแบบไม่รู้ตัวก็ได้ ผมคว่ำหน้าจอโทรศัพท์ลงและเงยหน้าไปมองหาเธออีกครั้ง แต่เธอหายไปแล้ว หายไปจากเคาท์เตอร์เนี่ยนะ เมื่อกี๊ยังอยู่เลยแท้ๆ ผมลุกขึ้นยืนและชะเง้อหน้ามองหา แต่มองเห็นแต่คนอื่น เธอหายไปแล้วจริงๆ มันเป็นไปได้ยังไง...
“มองหาอะไรอยู่เหรอ" ผมสะดุ้งและหันไปมองเจ้าของเสียง ซึ่งผมจำได้ดีว่าเป็นเสียงของเธอ เธอมายืนข้างๆ โต๊ะและกำลังมองหน้าผมนิ่งๆ
“ป...เปล่า" ผมโกหกและรีบนั่งลง
“ฉันอดสังเกตไม่ได้ว่าคุณกำลังมีปัญหากับกาแฟถ้วยนั้น" เธอบอกและวางถุงคุกกี้ชิ้นใหญ่หนึ่งชิ้นลงบนโต๊ะ "ถ้าดื่มอเมริกาโน่พร้อมกับกินคุกกี้นี่จะช่วยให้รสชาติดีขึ้น" นี่มันน่าขายหน้าชะมัด ผมคงดูไม่เท่อีกต่อไปแล้วในสายตาเธอ
"ทานให้อร่อย" เธอไม่ได้ยิ้ม แต่เสียงนั่นฟังดูเป็นมิตร ผมพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองเธอจากไปโดยไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกจากปากเลย ผมคิดว่าตัวเองเป็นคนพิเศษอยู่ได้แค่เสี้ยววินาทีก่อนจะได้ยินเสียงเธอถามโต๊ะข้างๆ
“คุกกี้มั้ยคะ"
หัวใจผมดิ่งลงกับพื้นทันทีตอนที่เห็นว่าเธอยื่นคุกกี้แบบเดียวกันให้กับโต๊ะถัดไป เธอคุยอะไรต่อกับผู้หญิงบนโต๊ะนั้น ส่วนผมก็เอามือตบหน้าผากตัวเองเบาๆ เป็นการไว้อาลัยความคิดโคตรเพ้อเจ้อของตัวเอง คุกกี้ที่วางอยู่บนโต๊ะไม่ได้มีคุณค่าพิเศษอะไรสำหรับเธอ แต่กับคนรับอย่างผมนี่สิ... ผมคว้ามันขึ้นมาและหย่อนมันลงในกระเป๋าเป้ บางทีผมอาจจะเก็บมันไว้จนมันเสียไปเลยก็ได้ ตอนนี้ผมดูน่าสมเพชมากพอที่จะทำแบบนั้นแล้วนี่
ผมชอบเธอเวลาใส่ชุดธรรมดามากกว่าใส่ชุดยูนิฟอร์ม ผ้ากันเปื้อนสีน้ำตาลตุ่นๆ แบบนั้นไม่เหมาะกับเธอเลย
“แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะ" เธอหันไปบอกลาเพื่อนร่วมงานที่อยู่หลังเคาท์เตอร์ ผมสะพายกระเป๋าเป้ขึ้นมา เตรียมตัวจะกลับเหมือนกัน ตอนนี้มันเกือบสองทุ่มแล้ว คนทำงานคนหนึ่งมาสายทำให้เธอต้องอยู่ช่วยงานที่ร้านต่อ
เธอปล่อยผมลงไม่ได้มัดไว้เหมือนตอนทำงาน เธอไม่ใช่คนแต่งตัวจัด แต่เป็นคนแต่งตัวดี ผมสงสัยทุกวันว่าเธอทำงานหรือเรียนเกี่ยวกับอะไร ดูจากลักษณะแล้ว น่าจะเป็นอะไรเกี่ยวกับศิลปะ ผู้หญิงที่เรียนบัญชีไม่มีทางมีบุคลิกแบบเธอหรอก
ผมปล่อยให้เธอเดินออกจากร้านไปก่อนราวๆ ห้านาทีแล้วถึงได้เดินตามออกไป อากาศด้านนอกเย็นพอสมควร เพราะฝนเพิ่งหยุดไป ไฟสีส้มจากถนนส่องเป็นทางไปจนถึงสุดปลายทาง ผมเดินไปตามทางที่คุ้นเคย เพราะทำแบบนี้อยู่เกือบทุกวัน เธอเดินนำไปข้างหน้าแล้ว เวลาที่เธอเดินคนเดียว เธอมักจะใส่หูฟังตลอด มันไม่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิงที่เดินคนเดียวบนถนนดึกๆ ผมเคยแอบมองเพลงบนหน้าจอโทรศัพท์ของเธอ มันคือเพลงของ The Goo Goo Dolls อีกเหตุผลที่ทำให้ผมชอบเธอก็เพราะรสนิยมการฟังเพลงของเธอเนี่ยล่ะ
ผมเดินตามเธอไปเงียบๆ ผู้คนเริ่มพลุกพล่านเพราะเป็นเวลาเลิกงาน ผมมองหาเธอเจอง่ายๆ แม้คนจะเยอะ ผมไม่ได้พยายามด้วยซ้ำ มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเอง และผมก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมเดินไล่ตามเงาเธอไปเรื่อยๆ และพยายามวิ่งตามเหยียบเงาของเธอให้ทัน มันเป็นเกมเด็กๆ ที่ผมเล่นทุกวันเวลาที่ผมเดินตามเธอแบบนี้ คนอื่นๆ คงมองว่าผมดูงี่เง่ามาก และก็ใช่ ผมมันงี่เง่าจริงๆ นี่นา
เธอหยุดตรงสถานีรถไฟฟ้า ผมมองเธอจนเธอขึ้นบันไดไปสุดสายตา ทุกครั้งที่ผมมองแผ่นหลังของเธอห่างออกไปเรื่อยๆ ผมบอกตัวเองว่าพรุ่งนี้จะต้องหาโอกาสคุยกับเธอให้ได้ ผมใช้คำว่า 'พรุ่งนี้' ไปมากกว่าสิบครั้ง แต่ไม่เคยมีครั้งไหนที่ผมทำได้เลย
พรุ่งนี้ก็แล้วกัน...
พรุ่งนี้ผมจะคุยกับเธอ
ความคิดเห็น