คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3 "Debt"
3
“สั่งอะไรหน่อยมั้ย"
“ไม่ ฉันไม่ได้หยิบกระเป๋าตังค์มา" เพราะกระเป๋าฉันทั้งใบอยู่กับยัยข้าวสวยยังไงล่ะ!
“ฉันไม่ให้เธอจ่ายหรอกน่า"
“เราไม่ได้มาเดตกันนะ -*-” ฉันพูดเสียงดังจนพนักงานที่รอรับออเดอร์หันไปมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ ซัมเมอร์จิ๊ปากก่อนจะจัดการสั่งช็อคโกแล๊ตร้อนกับเค้กวานิลลาให้ฉันเรียบร้อย
ใครขอ?
“ฉันไม่กินหรอกนะ"
“บอกแล้วไงล่ะว่าไม่ต้องจ่าย"
“รีบๆคุยธุระมาดีกว่า ฉันจะได้กลับแล้ว"
“จะกลับยังไง เงินสักบาทก็ไม่มีติดตัวไม่ใช่หรือไง :)”
“-_-;;” ฉันสะบัดหน้าหนีเขาไปมองนอกหน้าต่าง มองจากตรงนี้ลงไปเห็นรถซุปเปอร์คาร์ของเขาที่จอดโดดเด่นอยู่ริมถนนหน้าร้านเลยทีเดียว แหงล่ะ สีสดทุละทุลวงลูกตาแบบนี้มองไม่เห็นก็ตาไม่ดีแล้ว =_=
ซัมเมอร์ขับพาฉันมาที่ร้านเบเกอรี่ริมถนนที่อยู่ห่างจากโรงเรียนฉันไม่มาก ฉันไม่เข้าใจเลยนะว่าเขามาที่นี่ทำไม มหา'ลัยตัวเองก็อยู่อีกฟากของเมือง ถึงขั้นขับรถมาเพื่อซื้อเค้กให้ฉันกินเนี่ยนะ -O-;
“ไหนล่ะธุระ รีบๆพูดมาสิ" ฉันเร่ิมเข้าเรื่องเองเพื่อไม่ให้เสียเวลา
“เธอต่างหากที่ต้องเล่าให้ฉันว่าทำไมถึงได้เอาฉันไปอ้างกับคนที่ชื่อเทมส์"
“เรื่องมันยาว"
“ฉันไม่ได้หนีไปไหนนี่ :)”
ฮึ้ยย -_-! ฉันแบะปากก่อนจะเริ่มเล่ารวบๆอย่างไม่เต็มใจ "พี่เทมส์ตามเกาะติดฉันมาหลายเดือนแล้ว เขาก็มีแฟนแล้วด้วย ฉันเลยคิดมุกขึ้นมาว่าถ้ามีแฟนเขาคงไม่อยากมายุ่ง พอดีวันนั้นเพื่อนฉันพูดชื่อนายขึ้นมา ฉันเลยเผลอโพล่งออกไป หลุดปากน่ะไม่ได้ตั้งใจหรอก หน้านายฉันยังไม่เคยเห็นมาก่อนเลยในชีวิต เพราะฉะนั้นไม่ต้องคิดไปเลยว่าฉันชอบนายเลยอ้างไปแบบนั้น"
“โห ใจร้ายชะมัด" เขาพึมพำแบบไม่ได้คิดจริงจัง "เพื่อนเธอพูดถึงฉันว่าอะไรงั้นเหรอ :)”
“เรื่องของผู้หญิง อย่ามายุ่งน่ะ นายน่ะล่ะ บอกมาได้แล้วว่าลากฉันออกมาถึงนี่ทำไม"
“เรามีเรื่องต้องคุยไง"
“ก็รีบคุยมาสิ"
“ฉันไม่รีบนี่" ทันทีที่เขาพูดจบประโยค โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นทันที ซัมเมอร์ทำหน้าตาลำบากใจนิดๆก่อนจะกดรับขึ้นมา "ไง"
[แกอยู่ไหนแล้วเนี่ย] เสียงดังทะลุลำโพงออกมาเลยนะ =_=;;
“ติดธุระ"
[จัดการยัยนั่นยังไม่เสร็จอีกเหรอ ไหนบอกจะแค่เรียกค่าเสียหายแล้วกลับไงเล่า]
“เออ เรื่องมันพลิกผันนิดหน่อย เดี๋ยวเล่าให้ฟัง"
[พลิกผันอะไร ไปจีบเค้าล่ะสิ -_-]
“หุบปากน่า แค่นี้นะ" ซัมเมอร์รีบกดวางสายทันให้ฉันได้เห็นพอดีว่าเบอร์ที่โทรเข้ามาขึ้นชื่อว่าแฟนทอม เหมือนเคยได้ยินชื่อแวบๆ แต่จำไม่ได้แฮะว่าใคร ช่างเถอะ เรื่องของฉันที่ไหน
“มีนัดไม่ใช่หรอไง รีบๆคุยกัน และรีบไปได้แล้ว"
“ไม่มี" ยังจะมาตอบหน้าด้านๆอีก =_=
ซัมเมอร์ทำเป็นไม่สนใจท่าทางไม่พอใจของฉันและหันไปมองพนักงานที่นำเครื่องดื่มกับของหวานมาเสิร์ฟ ฉันทำเป็นไม่สนใจเค้กก้อนตรงหน้าทั้งที่จริงๆหน้าตามันน่ากินมากเลยนะ แถมช็อคโกแลตร้อนก็หอมมากอีกต่างหาก...
“กินสิ"
“ไม่กิน"
“ถ้ากินแล้วจะเริ่มเข้าเรื่อง"
“ก็...ก็ได้" ที่กินนี่เพราะเขาบังคับหรอกนะ! ฉันหยิบส้อมขึ้นมาก่อนจะตัดเค้กคำเล็กๆพอดีคำ ในขณะที่ซัมเมอร์จิบกาแฟร้อนของเขา
“อย่างที่เห็นรอยบนหน้าฉันนี่ เทมส์เป็นคนทำ พี่เทมส์ของเธอน่ะล่ะ"
“แล้วเขาไปต่อยนายทำไม -O-”
“ใครบางคนไปบอกว่าเป็นแฟนกับฉัน พอหมอนั่นเห็นฉันเดินกับผู้หญิงคนอื่นเลยโวยวายเข้ามาอัดฉันเข้าเปรี้ยง -_-”
อะ...อะไรนะ =_=;;
“ฉันพยายามอธิบายแล้วว่าฉันไม่เคยได้ยินชื่อไอรีน แทบไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ หมอนั่นก็ยังไม่เชื่อและอัดเปรี้ยงๆเข้ามา จนฉันต้องสวนกลับ เราทะเลาะกันไปมาจนหมอนั่นผลักฉันชนกระจกหูช้างรถหลุด"
หาาา -O-;; ฉันอ้าปากค้างด้วยความตกใจและมองหน้าซัมเมอร์ที่ไม่มีวี่แววว่าจะล้อเล่นเลย
“ค่าซ่อมรวมๆแล้วก็สามแสนกว่าบาท"
“อะอะอะ...อะไรนะ O_O”
“อะไหล่ฉันไม่ได้หาง่ายๆ ต้องสั่งจากนอกมา ไหนจะค่าภาษีค่าเข้าที่โคตรแพงเบิ้ลไปไม่รู้กี่ตลบ ค่าช่าง ค่าอู่ สามแสนนี่ถือว่าฉันหาได้ราคาถูกแล้วนะ!” เขาทำหน้าตาหงุดหงิดราวกับว่าฉันไปตบหัวเขาเข้าให้ แต่ไอ้ราคาซ่อมรถแบบนั้นมัน...ตบหัวฉันนี่ U.U
“รถนายออกจะแพง ไม่มีประกันชั้นหนึ่งเหรอไง"
“แน่อยู่แล้วว่ามี แต่ทำไมฉันต้องยอมเสียประวัติในเรื่องที่ฉันไม่ได้ทำฟรีๆด้วยล่ะ"
“ฉันก็ไม่ได้ทำสักหน่อย"
“เธอไปโกหกเทมส์ แล้วยังจะให้ฉันไปเก็บเงินกับหมอนั่นอีกเหรอ"
“อย่ามาทำตัวเป็นคนดีไปหน่อยเลย นายก็แค่อยากได้เงินใช่มั้ยล่ะ ขอจากใครก็ไม่ต่างกันหรอกน่ะ"
“ก็จริง" เขารับหน้าตาย "แต่ฉันหมั่นเขี้ยวเธอมากกว่า เอาเป็นว่าเธอต้องจ่ายฉันมาสามแสน" ซัมเมอร์เท้าคางพูดหน้านิ่งสนิททั้งที่ประโยคที่เขาพูดออกมามันแสนจะบาดใจ
“สาม...สามแสน -O-;;”
“ใช่ เธอเป็นนางแบบอะไรนั่นนี่ เงินแค่นี้คงหาได้ไม่ยากนะ"
“เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อนสิ! เรื่องอะไรฉันจะต้องจ่ายด้วยล่ะ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ ตัวนายฉันยังไม่ได้จับด้วยซ้ำ!!”
“ที่พูดมาคืออยากจับหรือว่าอะไร =O=”
“ไม่ใช่น่ะสิ!” ฉันเถียงเสียงแหลมจนโต๊ะข้างหน้าหันมามอง "นายจะบ้าเหรอไง พี่เทมส์เป็นคนผลักไหน ก็ไปขอเงินจากเขาสิ มายุ่งกับฉันทำไม TOT”
“พวกผู้หญิงขี้โกหกเนี่ย ฉันเกลียดที่สุดเลย :)” เขายิ้มให้ฉัน แต่แววตาเขากลับไม่ยิ้มด้วย ฉันสะอึกไปก่อนจะลดไหล่ลงนิดๆอย่างหงอๆ
ผู้หญิงขี้โกหกงั้นเหรอ...แรงชะมัด
“ฉันไม่ได้ชอบโกหกนักหรอกนะ ฉันแค่...แค่ไม่มีทางเลือก"
“นั่นมันเรื่องของเธอ ฉันแค่อยากได้เงินของฉันเท่านั้นเอง"
“ประกันเค้าจ่ายให้นายแล้วไม่ใช่เหรอ"
“รถฉันเสียประวัตินะ รอบหน้าฉันทำประกันใหม่ก็ต้องจ่ายเบี้ยประกันแพงขึ้นน่ะสิ เรื่องอะไรล่ะ ฉันไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ ทำไมต้องมาทั้งเจ็บตัว ทั้งเสียเงินเพราะเธอด้วย"
“แต่...แต่เงินตั้งสามแสน...” ฉันจะไปหาไหวยังไง ธุรกิจร้านอาหารของแม่ก็ใช่ว่าจะไปรอด ไหนจะค่าเช่าคอนโดฯที่ฉันต้องจ่ายเองอีก แค่นี้ฉันก็ชักหน้าไม่ถึงหลังแล้ว
“นาย...จะให้ฉันจ่ายจริงๆอ่ะ"
“แหงสิ เธอเป็นคนเริ่มเรื่องนี้นิ ยังไม่นับค่ารักษาพยาบาลหน้าฉันอีกนะ ดูนี่ๆ" เขาชี้นิ้วที่รอยช้ำบนหน้าตัวเอง "ถ้าหน้าฉันเสียโฉมขึ้นมาเธอจะทำไง"
“จ่ายค่าหมอศัลย์หน้าให้นายไง -_-”
“หมอคนไหนบนโลกก็ปั้นหน้าให้หล่อเท่านี้ไม่ได้หรอกน่ะ"
อยากจะบอกว่าไม่จริง แต่เขาหล่อมากจนเถียงไม่ออกเลย -O-
ฉันแบะปากอย่างไม่รู้จะโต้ตอบยังไง ฉันคิดไม่ออกจริงๆว่าฉันจะหาทางหนีรอดจากหนี้ก้อนโตที่ตัวเองไม่ได้ก่อได้ยังไง ฉันไม่ได้ทำอะไรจริงๆนะ ทุกคนเป็นพยาน ส่วนเรื่องพี่เทมส์นั่น...เขาผิดเองนี่ มีอย่างที่ไหนไปทะเลาะกับแฟน(หลอกๆ)ของฉัน ทั้งๆที่เขากับฉันไม่ได้เป็นอะไรกันด้วยซ้ำ แม้เขาจะทำไปเพราะความหวังดีเห็นว่าฉันถูกสวมเขาก็ตามเถอะ
ใช่ไง เขาทำไปด้วยความหวังดี แล้วแบบนี้ฉันจะให้ซัมเมอร์ไปเก็บเงินเขาจริงๆเหรอ U.U
“ไม่ต้องทำหน้าซีดไปหรอกน่ะ ฉันไม่ได้จะเอาเงินเธอวันนี้พรุ่งนี้สักหน่อย"
“แต่ก็จะเอาอยู่ดี"
“สักหนึ่งเดือนเป็นไง"
“เดือนหนึ่ง O_O”
“ใช่"
“นี่...นี่นายสงสารฉันบ้างมั้ยเนี่ย ฉันเป็นผู้หญิงคนเดียวต้องหาเงินก้อนเบ้อเร่อมาคืนนายทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเนี่ยนะ"
“เธอโกหกเขา ว่าเธอมีแฟนแล้ว ทั้งๆที่เธอไม่มี และเขาเข้ามาต่อยฉันเพราะว่าชอบเธอมาจนแค้นแทน แบบนี้ไม่เรียกว่าทำอะไรผิดได้ยังไง"
“ฉันไม่ได้สั่งให้เขาไปต่อยนาย"
“จะพูดจากำปั้นทุบดินแบบนี้เลยเหรอไง"
“แล้วจะให้พูดอะไรล่ะ"
“คนเห็นแก่ตัว"
“หา O_O” นี่เขาด่าฉัน...ด่าฉันงั้นเหรอ!!
“ผู้หญิงนี่...นิสัยเห็นแก่ตัวแบบนี้กันหมดเลยสินะ"
“ฉันไม่ได้...”
“...โดยเฉพาะผู้หญิงที่สวยมากอย่างเธอใช่มั้ย คิดจะทำอะไร จะพูดอะไรก็ได้"
“ถ้านายพูดจาไม่ดีกับฉันอีกคำฉันจะลุกไปเดี๋ยวนี้ ฉันจะไม่นั่งทนให้นายพูดจาแย่ๆใส่หน้าฉันหรอกนะ" ฉันพูดและมองหน้าเขาจริงจัง ซัมเมอร์นิ่งไปก่อนจะยกมือทั้งสองข้างเหมือนจะบอกว่ายอมแพ้
“ก็ได้ๆ ฉันล้ำเส้นไปหน่อย"
“นายเรียกฉันว่าผู้หญิงขี้โกหก"
“นั่นก็...”
“และเห็นแก่ตัว"
“เรามาคุยเรื่องเงินกันดีกว่า" เขาเปลี่ยนเรื่องหน้าตาเฉยหลังจากที่ว่าฉันด้วยถ้อยคำเหล่านั้นไปแล้ว ฉันแค่นยิ้มใส่เขาก่อนจะถามต่อ
“แล้วถ้าฉันไม่จ่าย นายจะทำยังไงล่ะ ในเมื่อเรื่องนี้ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดจริงๆ"
“โห ฉันคิดไม่ออกเลยนะว่าเธอจะมาไม้นี้ เห็นหน้าใสๆใครจะไปรู้ว่าจริงๆแล้วก็ร้ายเหมือนกัน"
“ฉันกำลังถูกเอาเปรียบ"
“เธอแค่กำลังชดใช้ในสิ่งที่ตัวเองทำต่างหาก"
“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่รู้เรื่องอะไรพวกนี้เลย"
“แต่เธอบอกเขาจริงๆ ว่าเธอเป็นแฟนกับฉัน"
“นั่นก็...”
“?”
“ใช่ ฉันบอกเขาจริงๆน่ะล่ะ!” ฉันยอมรับมาในที่สุด บอกแล้วไงว่าจริงๆฉันไม่ชอบพูดโกหก "แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันเป็นความผิดฉันสักหน่อย พวกนายอยากต่อยกันเองจะมาโยนใส่ฉันได้ไง"
“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันหมั่นเขี้ยวเธอ เลยอยากจะเอาเงินจากเธอมากกว่า :)”
“มันไม่ใช่เหตุผล!”
“มันเป็นเหตุผลของฉันนี่ เพราะฉะนั้น...สามแสนบาท หนึ่งเดือนนะ :)”
“ไม่จ่าย!”
“เธอต้องจ่ายแน่ :)”
“นายบังคับฉันไม่ได้หรอก ฉันไม่จ่าย! >O<”
“ฮ่ะฮ่า เดี๋ยวก็รู้กัน :)”
มะ...ไม่นะ! TOT
ฉันกลับมาถึงที่ห้องคอนโดฯด้วยจิตใจห่อเหี่ยวสุดๆ ซัมเมอร์เป็นคนขับรถมาส่งฉันน่ะล่ะ ฉันไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาทนี่ ตลอดทางเราก็เถียงกันตลอดเรื่องเงิน ฉันยืนยันไปแล้วว่ายังไงฉันก็ไม่มีวันจะจ่ายเขาเด็ดขาด เขาก็ได้แต่หัวเราะบอกว่าเดี๋ยวฉันก็จ่ายเองจนฉันสับสนไปหมด หมอนี่คิดแผนชั่วอะไรแหงๆ ฉันต้องระวังตัวให้มากเข้าไว้ซะแล้ว -_- พอเข้ามาถึงห้องฉันก็กดเปิดวอยซ์เมล์ฟังว่าใครส่งอะไรมาบ้าง ก็มียัยข้าวสวยน่ะล่ะที่บอกว่าพรุ่งนี้จะเอากระเป๋าไปให้ที่โรงเรียน และยัยแมนดี้โทรมากรี๊ดเรื่องซัมเมอร์...กรี๊ดแบบกรี๊ดน่ะจริงๆ ใส่โทรศัพท์เนี่ยนะ ยัยนั่นต้องเป็นบ้าแหงๆ TOT
ส่วนวอยซ์เมล์สุดท้ายมาจากแม่ที่ทำร้านอาหารอยู่ที่ภูเก็ต...
[ไอรีนลูกรัก แม่โทรเข้าหามือถือ ข้าวสวยบอกว่าหนูลืมไว้ที่เพื่อนแม่เลยโทรมาฝากข้อความไว้ คือแม่มีเรื่องจะมาบอกลูกไว้ก่อน แต่ลูกไม่ต้องตกใจหรอกนะ มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไร แม่แค่จะบอกว่าแม่เพิ่งจะติดต่อสถาปนิกมาทำการตกแต่งร้านทั้งร้านใหม่หมดเลย ลูกรู้ใช่มั้ยล่ะว่าช่วงหลายเดือนให้หลังมานี่แม่ขายขาดทุนตลอด ลูกค้าไม่ค่อยเข้าร้านกันเลย แม่โทรไปคุยกับเพื่อนเลยได้ไอเดียว่าจะตกแต่งร้านใหม่ทั้งหมดไปเลย ถ้าร้านสวยแล้วใครๆก็อยากเข้าทั้งนั้นล่ะ แม่สัญญานะว่าถ้าแม่ขายได้กำไรคืนแล้วจะรีบเอามาคืนลูกด่วนๆ แม่รู้ว่าลูกยังพอมีเงินเก็บบ้าง ถ้ายังไงเอามาให้แม่ลงทุนตกแต่งร้านหน่อยได้มั้ยลูก ไว้ยังไงลูกว่างแล้วโทรกลับหาแม่ด้วยนะ คิดถึงลูกมากเลย]
ฉันยืนตะลึงค้างอยู่หน้าตู้เย็นกับข้อความที่เพิ่งได้รับ แม่จะตกแต่งร้านใหม่งั้นเหรอ คราวที่แล้วที่ร้านขายไม่ดีแม่ก็ไล่เชพออกไปหมดและจ้างเชพค่าตัวแพงจากกรุงเทพฯไปทำงานที่นั่น ฉันต้องทำงานแทบตายเพื่อหาเงินมาให้แม่ทำอย่างนั้น พอไม่กี่เดือนให้หลังมานี้ขายไม่ดีอีกก็มาโทษการตกแต่งภายในร้านงั้นเหรอ ถ้ารอบหน้าแม่ไม่ต้องขายร้านทิ้งและมาทำร้านอาหารที่กรุงเทพฯไปเลยเหรอยังไง ฉันตบหน้าผากตัวเองอย่างกลุ้มใจก่อนจะเดินไปทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาอย่างหมดแรง...
แม่จะตกแต่งร้าน ซัมเมอร์จะเอาค่าเสียหาย...
ต่อให้มีฉันกี่คนก็หาเงินได้ไม่ทันหรอกน่ะ
ความคิดเห็น