ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Nine Tailed Okitsune Tale ฉบับแปลไทย

    ลำดับตอนที่ #6 : ชิงไหวชิงพริบกับการเปลี่ยนแปลง

    • อัปเดตล่าสุด 23 ม.ค. 67


              ขณะที่ Kohaku เดินตามไปเส้นทางโดยผ่านทุ่งนา 

              ‘Monini  ป่า ยังมีแถวนี้อีกเหรอเนี่ย ไม่รู้จักหมดเลยแหะทำให้เราต้องแปลงไปกลับมา’ Kohaku ถึงกับบ่นเลย

              Kohaku รีบจัดการเหล่า Monini ป่า จนหมดถึงเขาจะโดนโจมตีเลือดลด 2 ใน 5 บ้างแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาของเขา  

              ‘ดีน่ะเราพกของกินมาเยอะ ได้เวลาเพิ่มเลือดที่เราเสียไปแล้วล่ะ งับๆ อร่อยใช้ได้เลยแหะ’ Kohaku ควัก Inari ซูชิมากินอย่างเอร็ดอร่อยเลย 

              ‘เอาล่ะเดินทางต่อได้เลย’ Kohaku ใช้ใบไม้สีเขียวเข้มวางไว้บนหัวเพื่อแปลงร่างเป็น Monini ก่อนจะออกสำรวจไปเรื่อย ๆ เขาข้ามน้ำตกเพื่อไปอีกฝั่งหนึ่งอย่างง่ายดาย

             ‘เอาล่ะมีแค่ Monini ตัวเดียวรีบจัดการให้จบ ๆ ไปเลยดีกว่าน่ะ’ Kohaku ตบ Monini ป่า ด้วยพลังไฟสีม่วงของเขา    

            หลังจากนั้น Kohaku เมื่อเดินเข้าพื้นที่ทุ่งหญ้าโล่งใจกลางก็มีศาลเจ้าร้าง ๆ ขนาดเล็กอยู่ตรงกลางแต่เขาไม่ได้สนใจสักนิดเขาสนใจ Nui ที่อยู่ข้างหลังศาลเจ้าร้างมากกว่าเขาจึงเดินไปหาเธอเลย

              “Ughh…….” 

            “Nui! พูดพน่อยสิ เฮ้อ….ให้ตายสิดูเหมือนเธอยังไม่ได้สติเลยแหะ ต้องเป็นฝีมือภูติชั่วร้ายแน่ ๆ แต่พวกมันไปไหนล่ะ? ” Kohaku พยายามเขย่าตัว Nui แต่ก็ไม่เป็นผล

            โครกกก  

            “โว้ยยย เสียงอะไรน่ะดังมากเลยเหมือนใครกำลังหิวจนท้องร้องเลยน่ะ แน่นอนต้องเป็นเจ้าภูติชั่วร้ายแน่ ๆ เพราะฉันไม่ได้ยินเสียงท้องร้องจาก Nui เลย” Kohaku ถึงกับตั้งการ์ดเตรียมพร้อมสู้เลยพร้อมกับคิดแผนคร่าว ๆ ไปด้วย

              ‘งั้นเราเอาอาหารไปล่อดีกว่า คิก ๆ’ Kohaku คิดแผนที่จับภูติชั่วร้ายออกได้ทันที่ 

              ‘วางล่อไว้ตรงศาลเจ้าร้างนี้และ’ Kohaku วาง Inari ซูชิลแล้วรอดูอะไรเกิดขึ้น 

              สักพักภูติชั่วร้ายปรากฎกายออกมาให้เห็นเป็นรูปร่างจิ้งจอกสีดำมีกระบองไม้ไผ่ผูกไว้ตรงคอด้วย

           “ดูน่าอร่อยจัง Inari ซูชิ โคตรหิวกินเลยล่ะกัน” ขณะที่จิ้งจอกภูติสีดำกำลังจะลอยมากิน Kohaku ก็ขวางไว้เลย

            “เจอตัวแล้วไอ้เวรนี้ อย่าได้คิดหนีไปจากที่นี้เลย ภูติจิ้งจอกสีดำสารเลว” Kohaku ถึงกับโมโหเลย

            “อะไรเล่า! เจ้าจิ้งจอกเก้าหาง ข้าไม่ได้เป็นจิ้งจอกสีดำสารเลว ข้ามีชื่อของข้าอยู่ Kosen จำเอาไว้ด้วย แกน่าจะอยู่ที่ของแกและแกล้งคนในเมืองสนุก ๆ อย่างที่แกเคยทำมาโดยตลอดไม่ใช่เหรอ? เจ้าจิ้งจอกเก้าหางน่ารำคาญ” Kosen ถึงกับอารมณ์เสียพาลด่าเลยเมื่อรู้ว่าเป็นกับดักที่ล่อเขาออกมา

           “ไม่ใช่ที่ฉันอยากจะอยู่หรอกเฟ้ย ที่บ้า ๆ แบบนั้นเหมือนกรงที่ขังฉันไว้มากกว่าแกนิโคตรสร้างปัญหาให้กับเจ้าของจิปาถะไอ้ชิบหาย!” Kohaku ถึงกับด่ากลับเลย

           “ฮิฮิ….เหตุการณ์นี้ที่ข้าทำก็ถูกสั่งโดยเขาอีกที่น่ะ” Kosen พูดตรง ๆ

           “ เขา?!” Kohaku ถึงกับยืนเอ๋อสักพักหนึ่งน่ะ

           Kosen ก็โฉบลงมาเอา Inari ซูชิ เข้าปากโดยที่ Kohaku ไม่ทันตั้งตัวเลย

            “เอ้ย!!” Kohaku ร้องเลย

           “ชิ…ข้าเผลอพูดมากจนได้ ดีล่ะตอนนี้ข้ากินอิ่มถึงนิดหน่อยก็เถอะที่นี้ก็จับข้าให้ได้ล่ะถ้าแน่จริง” 

            “หน็อยแน่!!” Kohaku ถึงกับโมโหหนักกว่าเดิมเลย 

           “รู้ไหมต่อให้แกพยายามจับและให้แปลงร่างเป็น Monini เพื่อให้แกเร็วขึ้นมันก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี” Kosen พูดยั่วยุเลย

            Kohaku วิ่งตาม Kosen ถึงกับเหนื่อยเลย 

           ‘ขืนวิ่งตามแบบนี้ ไม่ทัน’ Kohaku เลยหยิบหินขวางดักทางที่ Kosen จะไปเลย

            Kosen ถึงกับชะงักเลยเมื่อก้อนหินลอยผ่านหน้าไป

            หมับ!! 

            Kohaku จับ Kosen ที่หางเลย

           “จิ….แกทำได้นิ แต่ครั้งต่อไปข้าจะไม่โดนจับง่าย ๆ แบบนี้แน่ งั้นเอาเวทย์ไปกินก่อนเลย” Kosen ร่ายเวทย์ที่ทำให้เกิดอาการเวียนหัวเลย

           “อิอิอิ เวียนหัวเลยใช่ไหมล่ะ” Kosen หัวเราะเอามือปิดปากขำเลยหลังเห็น Kohaku เดินเซเลย      

            Kohaku เลยเอาลูกอมรสส้มอมทันที่เลย

            ‘ค่อยยังชั่วหน่อย ถึงหายเวียนหัวไม่สนิท ดีน่ะฉันเอาลูกอมจากโต๊ะอาจารย์มาด้วยน่ะ’ Kohaku ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ใส่ Kosen เลย

           “ไอ้บ้าจิ้งจอกเก้าหาง คิดว่าตัวเองเป็นร้านขนมเดินได้เหรอ ถึงได้มีของกินเยอะขนาดนี้” Kosen บ่นเลยแต่ก็ตกใจที่ Kohaku พุงหาตนเลยที่เผลอ      

            หมับ!! Kohaku จับ Kosen เป็นครั้งที่ 2  

           “อะไรว่ะเนี่ย ตอนนี้…..ข้าต้องร่ายคำสาปดีบัพให้เจ้าเยอะ ๆ หน่อยแล้ว ครั้งนี้ข้าจะให้ขาแกเดินช้าลงหลายเท่าเลย คิดว่าจะจับข้าตอนนี้ได้ไหม” Kosen แลบลิ้นปริ้นตาใส่

           Kohaku พยายามวิ่งไล่จับ Kosen โดยการแปลงร่างเป็น Monini วิ่งไล่แต่ก็วิ่งไม่ทัน Kosen อยู่ดี

          “ตอนนี้สุดความสามารถของเจ้าแล้วเหรอเก้าหาง! ขืนไล่แบบนี้ชาติหน้าก็จับข้าไม่ได้หรอก” Kosen พูดกวนประสาทและหยอกล้อ Kohaku 

          “ทางออกเดียว มีแค่ทางเดียวสิน่ะ งั้นก็…..หุหุหุ” Kohaku เอาผ้าปูปิกนิกมาปูตรงทางออกศาลร้างพร้อมกับนั่งรอเลย

          “เฮ้ยแบบนี้มันไม่ยุติธรรมเลยนิ” Kosen ถึงกับเหงื่อตกเลยเมื่ิอเห็น Kohaku เล่นปิกนิกของกินขวางทางหนีของเขาเลย 

          “ฉันได้ทั้งวันน่ะ หุหุ” Kohaku แกว่งของกินล่อหลังเห็น Kosen น้ำลายไหลเพราะเขายังกินไม่อิ่มด้วยซ้ำ

           2 ชั่วโมงผ่านไป……..

           “แกเจ้าเก้าหางทำได้ดีนิ แกทำให้ข้าไม่มีทางเลือกงั้นการหนีออกจากที่นี้จะทำให้ข้าชนะวิธีนี้ของแกได้แน่ ๆ ” ในที่สุด Kosen ก็ทนไม่ไหวแล้วลอยพุ่งมาหาทางออกเลยเพราะเขายืนจ้องหน้าจิ้งจอกเก้าหางมาแบบนี้หลายชั่วโมงแล้วอาหารกับน้ำดื่มก็ไม่ได้กิน

    ตุ้บ!!

    “ไม่ไหวแล้ววว…. หิวจัง ไม่มีแรงไปต่อแล้ว  T T ” Kosen หิวตาลายพร้อมกับหมดแรงลอยมาตกตรงหน้า Kohaku ที่กำลังกินสตอเบอรี่แซนวิชอย่างสบายใจ 

    Kohaku เลยดึงกระบอกไม้ไผ่ที่คอของ Kosen จนสามารถผนึกภูติจิ้งจอกสีดำได้สำเร็จ 

    “กลายเป็นกระบอกไม้ไผ่แล้วแหะ หุหุหุ อย่างที่ฉันบอกน่ะ ได้ทั้งวันน่ะ” Kohaku พูดกับ Kosen ที่ถูกผนึกกระบอง

     “เฮ้อ….กระบอกไม้ไผ่อันแรกได้สักที่น่ะเป็นไปตามที่คาดเลยน่ะได้เวลาช่วย Nui แล้วกลับบอกอาจารย์ดีกว่า” Kohaku พูดกับตัวเอง

          “เกิดไรขึ้นน่ะ…. รู้สึกเวียนหัวจัง…” Nui ลืมตาข้างเดียวหลังหลุดการควบคุมของภูติชั่วร้าย

          “อูวว เธอได้สติแล้วสิน่ะ” Kohaku ถึงกับดีใจเลย

           “Kohakusan!!!!!” Nui ถึงกับตกใจเมื่อเห็นหน้า Kohaku

           “เธอถูกล่อลวงโดย ภูติจิ้งจอกสีดำ พ่อของเธอเป็นห่วงมากเลยน่ะ รีบกลับบ้านเถอะน่ะ” Kohaku พูดอย่างสุภาพเลย

            “พ่อฉันเหรอ…ขอบคุณน่ะ Kohakusan ฉันจะกลับบ้านให้เร็วที่สุดเลยน่ะบอกพ่อฉันด้วยว่าฉันปลอดภัยถ้าเธอมาถึงก่อนน่ะ แต่ก่อนไป….” Nui ลังเลที่จะพูดอะไรบางอย่าง

            “มีไรเหรอ?” Kohaku เอียงหัวมองเลย

            “ขอจับหางนุ่ม ๆ ของนายได้ไหมน่ะฉันขอแค่นี้เลยน่ะ” Nui เธอไม่เคยจับหางจิ้งจอกเก้าหางเลยน่ะ

            “ก็ได้น่ะ” Kohaku ยกหางไปทาง Nui เลย

             “หางนายฟูมากและนุ่มนวลด้วยน่ะ” Nui ลูบหางของ Kohaku เลย

             “หางนายมันทำให้ฉันรู้สึกดีน่ะ ฉันต้องกลับไปหาพ่อของฉันล่ะเดียวฉันให้ของบางอย่างเมื่อนายแวะร้านจิปาถะของพ่อฉันน่ะ” Nui เลิกลูบหางของ Kohaku แล้วเดินจากไปเลย 

              Kohaku ยกหินวาปเพื่อใช้กลับซุ่มประตู HYOI หลังจากนั้น เขาเดินถึงเมืองแล้วแวะโรงเรียนเพื่อหาอาจารย์ของตนก่อนเลย       

             ณ โรงเรียน 

            “อาจารย์ผมเจอ Nui แล้วน่ะตอนนี้เธอน่ากำลังจะกลับมาน่ะ" Kohaku รายงานให้อาจารย์ตัวเองทราบเลย

        “Nui ที่หายตัวไปในภูเขา Inari ตอนนี้เธอถูกพบแล้วสิน่ะเธอไปบอก Kinari กับ พ่อของเธอก่อนแล้วกันน่ะ” Chabashira แนะนำ

        “บอกว่าได้เลยครับ อาจารย์” Kohaku รีบเดินออกจากโรงเรียนเลย 

         หลัง Kohaku ออกจากโรงเรียนแล้วก็ไปย่าน Sando แล้วแวะมาที่ร้านจิปาถะก็เห็น Tambo คุยกับลูกสาวของตัวเองเลย      

         “Nui ลูกไม่ได้บาดเจ็บหรือมีแผลมาใช่ไหมลูก พ่อเองก็ดีใจที่ลูกกลับมาน่ะ พ่อกังวลตลอดเวลาตอนที่ลูกหายตัวไปกลัวลูกจะไม่กลับมาบ้านอีก” Tambo พูดกับลูกสาวของตัวเองด้วยความเป็นห่วง

              “พ่อหนูขอโทษที่ทำให้กังวลตลอดเวลาน่ะ หนูเดินชมวิวแถวตีนเขา Inari อยู่ดี ๆ  วูบน่ะ  รู้ตัวอีกที่ Kohaku ก็มาช่วยเหลือแล้วน่ะ” Nui อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้พ่อตัวเองฟังเลย

              “Kohaku เธอเป็น 1 ในคนที่หา Nui เจอสิน่ะ” Tambo ถาม

              “ใช่เลยล่ะ ฉันพูดได้อย่างเต็มภาคภูมิเลยน่ะ hehe ฉันรู้อยู่แล้วฉันทำได้น่ะ ” Kohaku ตอบอย่างมั่นใจเลย

               “Kohaku! เธอเจอ Nui เหรอเนี่ย” Chiharu รีบวิ่งเข้ามาในร้านจิปาถะเลย

               “Haruchi! ฉันตกใจมากเลยตอนที่เธอวิ่งเข้ามาน่ะ” Kohaku เหวอเลยที่ Chiharu วิ่งเข้าในร้านจิปาถะโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว

                “แงงงงงง Nuishi เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของ Haruchi เลยน่ะ นายรู้ไหม Kohaku ฉันดีใจที่นายหาเธอเจอจนได้ ฉันกังวลตลอดเวลาตั้งแต่ที่ Kinari บอก Nui หายตัวไปน่ะ” Chiharu ร้องไห้ด้วยความดีใจเลย

                “แฮะ ๆ Chiharu…. ก็โอเวอร์เกินไปน่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วงน่ะ” Nui หัวเราะแห้ง ๆ เลย    

                “ฮือ ๆ Nui-chan เราดีใจที่กลับบ้านอย่างปลอดภัยน่ะ” Kinari ร้องไห้ด้วยความดีใจเหมือนกับ Chiharu เลย 

                 ‘เอ้ย ๆ เป็นผู้ชายร้องไห้ได้ยังไงกัน KinariKohaku คิดในใจพร้อมกับแอบกลอกตาเลย 

                 หลังทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 

                “ขอบคุณมากเลยน่ะ Kohaku สำหรับการช่วยเหลือฉันก่อนหน้านี้น่ะ ฉันยังแปลกใจที่ Kohakusan ช่วยฉันน่ะแต่ยังไงฉันต้องขอบคุณด้วยความเคารพสูงสุดฉันเองจะให้ได้น่ะ” Nui ถึงก้มหัวให้ Kohaku เลย

               “ไม่เป็นไรน่ะ…. เธอไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้ก็ได้น่ะ” Kohaku เหงื่อตกเลย

               “ฉันเชื่อเลยว่า Kinari จะขอบใจนายด้วยแน่ ๆ ถึงแม้เขาจะโดนนายแกล้งบ่อย ๆ น่ะฉันจะเป็นกำลังใจให้ในความพยายามของนายที่เป็นอยู่ตอนนี้น่ะ” Nui หัวเราะเบา ๆ   

              “Kohaku ตอนนี้เธอโตขึ้นมากเลยน่ะจากที่ฉันประเมินเธอตอนนี้น่ะ” Tambo เห็น Kohaku อ่อนน้อมถ่อมตนและเปลี่ยนนิสัยไปในทางที่ดีมากเลยน่ะ

              “คงอย่างงั้นน่ะ” Kohaku รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองเลย

              “ใช่น่ะแต่ฉันรู้สึกออร่าอะไรบางอย่างจากตัวเธอตั้งแต่เมื่อกี้น่ะ” Tambo สงสัย

              "คุณเจ้าของร้านจิปาถะอาจจะหมายถึงใบไม้ที่ผมถือเหรอ? ผมได้มาจากการตบ Monini ป่าที่เขตภูเขา Inari น่ะ

    ผมใช้ใบไม้วางบนหัวถึงแม้พลังเวทมนตร์ในตัวผมจะอ่อนแอไปหน่อยน่ะงั้นเดียวโชว์ให้ดุล่ะกันน่ะ" Kohalu วางใบไม้สีเขียวเข้มบนหัวเลย

               Kohaku แปลงร่างเป็น Monini หลังจากนั้นเขาแปลงร่างกลับเป็นร่างจิ้งจอกเก้าหางเป็นดั้งเดิม

              "ดูเหมือนเป็นวิชาเทคนิคขั้นสูงเลยน่ะเนี่ยเปลี่ยนใบไม้ให้กลายเป็นปีศาจเหมือนวิชาถ่ายทอดจากเผ่าทานุกินี่นา

    ฉันคิดว่าเป็นฝีมือของศัตรูที่มีชื่อเผ่าว่าจิ้งจอกแรคคูณน่ะ" Tambo มองเห็น Kohaku แปลงร่างก็รู้ทันที่เป็นเวทมนตร์ประเภทไหน

    “นั้นมันภูติจิ้งจอกน่ะที่ค่อยล่อลวง Nui ให้โดนลักพาตัวน่ะฉันเองก็ยังไม่เข้าใจจุดประสงค์ของมันเลยน่ะ” Kohaku ครุ่นคิดเลย

    “และอาจจะมีแรคคูณเข้ามีเอี่ยวด้วยเธอต้องระวังตัวด้วยน่ะ” Tambo เตือน

    “จริงด้วย ภูติชั่วร้ายที่ผมเห็นหลังผมเผลอไปปลดผนึกก็มี ภูติจิ้งจอก,ภูติสุนัข และ ภูติจิ้งจอกแรคคูณน่ะ" Kohaku พึ่งนึกออกเลย

     “เข้าใจล่ะ ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือของเธอน่ะฉันได้สร้างเครื่องรางไว้สำหรับการแปลงร่างของเธอไว้น่ะเธอจะได้ไม่ต้องหยิบใบไม้เข้า-ออกกระเป๋าตลอดเวลาน่ะ” Tambo ให้เครื่องรางการแปลงร่างกับ Kohaku ทันที่

    “ฉันจะไปหาหนังสือในโกดังก่อนน่ะเมือฉันหาหนังสือที่มีข้อมูลเกี่ยวกับความผิดปกติที่เกิดขึ้นปัจจุบันได้แล้วฉันเอามาวางไว้บนโต๊ะโชว์ให้เธออ่านน่ะ” Tambo เองก็อยากช่วย Kohaku พิชิตเหล่าภูติชั่วร้ายที่เหลือ 2 ตัวให้ได้

    “ว้าว ช่วยได้มากเลยคุณเจ้าของร้านจิปาถะถึงผมจะอ่านไม่ค่อยออกแต่ผมจะพยายามศึกษามันแล้วกันน่ะ” Kohaku เขารู้สึกมีความสุขที่ได้รับความไว้วางใจเลยน่ะ

    หลังจากที่ Tambo เอาหนังสือวางไว้บนโต๊ะโชว์แล้วก่อนเดินมาหา Kohaku 

     “ขอบคุณมาก ๆ เลยน่ะ Kohaku ตอนนี้ฉันกลับมาทำงานได้อย่างไร้ความกังวลแล้วล่ะฉันจะร่วมมือกับเธอในการหาข้อมูลเกี่ยวภูติชั่วร้ายให้น่ะถ้าเธอต้องการก็แวะมาได้เลยน่ะ” Tambo หลังพูดเสร็จเดินไปหลังร้านเลย

    Kohaku เลยเดินไปอ่านหนังสือเลย 

    'หนังสือประวัติศาสตร์ระหว่างเผ่าจิ้งจอกแรคคูณกับเผ่าจิ้งจอกธรรมดานี่นา' Kohaku เปิดอ่านเลย

    ‘เผ่าจิ้งจอกกับเผ่าแรคคูณเปิดศึกกัน ถึงแม้ศึกสุดท้ายเผ่าจิ้งจอกจะชนะ ซึ่งผลลัพธ์คือเผ่าจิ้งจอกมีความเจริญรุ่งเรืองและอยู่ดีกินดีในจังหวัด Yamato แต่เผ่าจิ้งจอกแรคคูณก็ยังแข็งแกร่งกว่าจิ้งจอก ’ Kohaku อ่านหน้านี้จบก็เปิดอ่านหน้าต่อไปเลย 

    ‘เผ่าจิ้งจอกสามารถแปลงกายได้แต่ไม่สามารถหลอกเผ่าแรคคูณได้เผ่าแรคคูณก็รู้ดีว่าเผ่าจิ้งจอกสามารถแปลงกายได้อย่างเดียวไม่ได้มีความแข็งแกร่งอะไรเลยดังนั้นเผ่าแรคคูณจ้องจะก่อกบฏได้ตลอดเวลา’ Kohaku ปิดหนังสือพร้อมถอนหายใจ  

    ‘ประวัติศาสตร์ในจังหวัด Yamato ชัด ๆ เลย อย่างน้อยก็รู้ได้อย่างหนึ่งว่าเราแปลงกายได้ตลอดเวลาแต่แรคคูณจะไม่สามารถทำแบบนั้นได้’ Kohaku ได้ข้อมูลเสร็จก่อนวางหนังสือลงบนโต๊ะโชว์เลย

    kohakuคุง” มีเสียงหนึ่งเรียกมาทางเคาเตอร์ไม้

    “มีไรเลยเหรอคุณเจ้าของร้านจิปาถะ ” Kohaku เดินมาที่เคาเตอร์ไม้เลย

    “มีเบ็ดตกไม้อย่างดีมาขายพึ่งไปหาเจอเมื่อกี้เลยน่ะ ราคา 150 SEN (950 SEN) ฉันลดให้เธอในฐานที่เธอช่วยฉันตามหาลูกสาวน่ะเธอจะซื้อเลยไหมถ้าไม่มีเงินค่อยเก็บเงินมาซื้อวันหลังได้อยู่น่ะ” Tambo หยิบเบ็ดตกปลาอย่างดีมาให้ Kohaku ดูเลย

    “ผมซื้อดีกว่าเพื่อระหว่างทางได้ใช้น่ะ” Kohaku รีบจ่ายเงินทันที่

    “ขอบใจที่อุดหนุนน่ะจ้า” Tambo ให้เบ็ดตกปลาอย่างดีเลย

    Kohakuซัง นี้เธอซื้อเบ็ดตกปลาเหรอตรงแม่น้ำที่เธอข้ามไปเป็นประจำมีปลาเยอะมากใช้เบ็ดตกปลาแถวนั้นเธออาจจะได้ปลาตัวใหญ่มาก็ได้ฉันเองชื่นชอบการตกปลามากฉันหวังว่านายจะชอบการตกปลาเหมือนฉันน่ะ” Nui แนะนำและจุดแหล่งตกปลาให้เลย

    “ฮ่า ๆ การตกปลาก็เป็นงานอดิเรกของฉันเลยล่ะ พวกเราไปตกปลากันอย่างบ่อยเลยน่ะตั้งแต่ลูกสาวฉันยังเด็กน่ะเธอถึงได้ชอบตกปลาและฝีมือการตกปลาที่ดีเลยน่ะ” Tambo อธิบายเรื่องราวในอดีตเลย

    “พ่อ หยุดพูดเรื่องราวแบบนี้ต่อหน้าลูกค้าเลยน่ะ” Nui ถึงกับเขินอาย

    “โอ้ ถ้าเธอตกปลาก็มาหาให้ฉันได้เลยน่ะฉันจะรับซื้อน่ะ Nui ทำรายได้จากการตกปลาเมื่อเธอยังเป็นเด็ก ๆ เลยน่ะ” Tambo เขาอยากรับซื้อปลาไปขายต่อในร้านอาหารในเมืองเลยน่ะ

    “อืม…ถึงแม้ว่า Gennou องคเหมียวจิที่ผนึกเธอสั่งห้ามฉันขายหนังสือเกี่ยวกับเวทมนตร์ประเภทต่าง ๆ เพราะกลัวเธอก่อเรื่องขึ้นมาน่ะสิแทนที่จะยอมแพ้กับการขายหนังสือเวทมนตร์ให้เธอไม่ได้ฉันจะเปลี่ยนไปขายใบไม้ที่เธอใช้แปลงร่างเป็น Monini ก็แล้วกันน่ะเธอสามารถกลับมาซื้อใหม่ได้ในภายหลังน่ะ” Tambo ถึงแม้เขาจะไว้ใจ Kohaku แล้วก็ตามแต่คำสั่งยังไงเป็นคำสั่ง

    “ก็คงต้องเป็นอย่างงั้นสิน่ะ” Kohaku โคตรเซ็งเลยถ้าเขาซื้อหนังสือเวทมนตร์ได้คงมีสกิลไว้ตามหาภูติชั่วร้ายได้ไปนานแล้ว 

    …..………………………………………………………………………

     ปล. Kohaku ถึงแม้จะเป็นอดีตจิ้งจอกเก้าหางขี้แกล้งแล้วสำหรับสายตาของ Tambo แต่เขาก็ไม่สามารถขายหนังสือเวทมนตร์ตามคำสั่งองคเหมียวจิได้ซึ่ง ป่านนี้คนเขียนคิดว่า Kohaku แอบด่า Gennou ในใจแน่ ๆ ล่ะ เอาเป็นว่าชีวิตของ Kohaku จะเป็นยังไงติดตามตอนหน้าน่ะครับ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×