ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Kuroko no Basket ] มิติพิศวงของยัยจอมมึน (All x Oc )

    ลำดับตอนที่ #39 : ตอนพิเศษที่ 5 [Re]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.21K
      349
      1 มี.ค. 64

     

     

     

    ตอนพิเศษที่ 5

    [ พี่ชายโหด...? ]

     

     

     

    “ถ้ายังดิ้นอยู่....” 

    เขาเว้นเสียงก่อนจะยื่นหน้าเข้าใกล้ใบหน้าหวานจนรับรู้กลิ่นกายหอม รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นมาแล้วกระซิบเสียงแหบพร่า “...ผมจะจูบนะ” หากแต่ประกายในแววตากลับแพรวพราวยิ่งกว่าเดิม ยามเห็นคนในอ้อมแขนตอบสนองต่อคำพูดของเขาอย่างง่ายดาย

     

    กึก!

    ร่างเล็กหยุดดิ้นในทันที แต่ก็ไม่วายขึงตาใส่อาคาชิที่ยิ้มมุมปากมองมาทางเธอด้วยท่าทางที่ยียวนกวนประสาทสุดๆ – อาคาชิยอมรับว่าอมีเรียน่าแกล้งโดยเฉพาะกับใบหน้ามึนง่วง ที่แทบจะให้ความรู้สึกเหมือนกับเพื่อนจอมจืดจางคุโรโกะ ไม่คิดว่าพอได้แกล้งแล้วเขาไม่อยากจะหยุดมันเลยแม้แต่นิดเดียว เขามองโครงหน้าหวานของคนตรงหน้าที่ถ้าโตอีกนิดคงจะสวยสะกดตาพวกผู้ชายหน้าม่อได้แน่ๆ

    พอคิดแบบนั้นแล้วความหงุดหงิดที่ไม่ทราบสาเหตุก็คุกรุ่นในดวงเนตรสีแดง

    “...เป็นอะไร” เสียงหวานดังขึ้นช่วยดึงสติของอาคาชิให้กลับเข้ามา

    เขามองคนตัวเล็กที่ยึดไหล่ของเขาไว้เป็นที่พึ่งเพื่อไม่ให้ตัวเองหน้าขมำมาซบอกเขา ทั้งที่ความจริงอาคาชิอยากจะแกล้งให้คนตัวเล็กหน้าแดงเสียหน่อย แต่พอเห็นใบหน้ามึนอึนยังคงสีเดิมก็หมดสนุกไปเรื่องหนึ่ง แต่ก็ยังเหลือเรื่องสนุกอีกเรื่อง— เขาเก็บโบสีขาวของคนตัวเล็กใส่กระเป๋าเสื้อ โดยไม่ให้เจ้าของโบเห็นก่อนจะเอื้อมไปจับมือเล็กที่ขยำเสื้อเขาอยู่

    “เปล่า...แค่นึกเรื่องชวนน่าหงุดหงิดเฉยๆ” เขาตอบ

    “เหรอคะ..?” อมีเรียเลิกคิ้วให้เขา 

    --ดูเหมือนเธอจะลืมไปแล้วว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ในสภาพไหน

    ดวงตาสีแดงจ้องวงหน้าหวาน ก่อนจะหลุบตาลงมองริมฝีปากบางที่เขาเคยสัมผัสมันอยู่สองครั้ง ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้เขาโน้มหน้าเข้าไปใกล้คนตัวเล็กอีกครั้งจนปลายจมูกของทั้งสองแตะกัน รอบนี้อมีเรียหน้าเปลี่ยนสีอย่างที่อาคาชิหวังอย่างชัดเจนจนเด็กหนุ่มยกยิ้มในใจ เขาจ้องริมฝีปากนั้นจนคนตัวเล็กเม้มปากก่อนจะเบือนหน้าหนี

    และนั้นจึงทำให้อาคาชิได้สติ— เขาหลับตาก่อนจะกลืนน้ำลายเหนียวฝืดลงคอ เกือบไปแล้ว..

    เมื่อลืมตาขึ้นกระพริบสองสามที อมีเรียก็ปรับสีหน้ากลับมาเป็นปกติดังเดิมราวกับว่าก่อนหน้านั้นเธอไม่ได้หน้าแดงก่ำเหมือนลูกมะเขือเทศสุก โดยที่คนมองอย่างอาคาชิทำได้แค่เพียงยิ้มมุมปากให้เธอได้เท่านั้น

    “...ผมเห็นภาพเธอว่อนไปทั่วโลกออนไลน์” อาคาชิเกริ่นเรียกรอยย่นตรงหว่างคิ้วให้เด็กสาว

    อมีเรียกระพริบตาปริบๆด้วยความงง “ภาพ..ของฉัน?”

    “ใช่” 

    เด็กหนุ่มตอบเสียงราบเรียบพร้อมกับกระชับร่างบางให้เข้าหาตัวเขามากขึ้น

    ก่อนจะยันตัวให้นั่งดีๆโดยมีคนตัวเล็กนั่งอยู่ที่ตัก โดยที่เจ้าตัวก็ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรราวกับว่าเธอตัดส่วนนั้นออกไปจากหัวแล้ว ถ้าคางามิมาเห็นเขาคงได้พ่นไฟใส่หัวอาคาชิแน่นอน ทำไมอาคาชิจะไม่รู้เรื่องกิตติศัพท์ความหวงญาติที่ไม่ว่าจะมองยังไง เจ้าสมองกล้ามผมแดงกำลังคิดไม่ซื่อกับแม่กระต่ายน้อยตัวนี้อยู่อย่างแน่นอน— แต่ก็นะ...ขนาดเจ้าตัวอย่างคางามิยังไม่รู้ตัวเองเลย นับประสาอะไรกับญาติของเขาอย่างอมีเรียละที่จะรู้เรื่องพวกนี้

    ไม่สิ ต้องบอกว่าคนอย่างอมีเรียจะใส่ใจเรื่องพวกนั้นหรือเปล่า?

    “มันเป็นภาพที่เธอใส่ชุดเมด..”

    คิ้วเล็กคลายปม “อ่อ ...คงจะมีลูกค้าถ่ายแล้วเอาไปลงสินะคะ” 

    “ก็คงจะเป็นอย่างนั้น— แต่ทำไมผมถึงไม่ได้เห็น...ของจริงละ?”

    “คะ?” อมีเรียเลิกคิ้วพร้อมเอียงคอน้อยๆ 

    เธอกลอกตาไปมาเหมือนกำลังใช้ความคิดอยู่ แล้วก้มมองตัวเองและนั่นแหละจึงทำให้อมีเรียรู้ตัวแล้วว่า ตนกำลังอยู่ในสถานการณ์แบบไหนในตอนนี้ “...คุณอาคาชิแบบนี้มันไม่เหมาะนะคะ” เธอพองแก้มอย่างน่าชัง เรียกรอยยิ้มขบขันจากเด็กหนุ่มอีกรอบ

    อาคาชิอยากจะกุมขมับมันซะตรงนี้แต่พอมองวงหน้าหวานที่งอง้ำอยู่ รู้ตัวอีกทีมือของเขาก็สัมผัสแก้มนุ่มนั้นแล้ว ดวงตาสีแดงทับทิมเบิกกว้างเล็กน้อยก่อนที่จะมีประกายความสนุกพาดผ่าน พร้อมกับบีบนวดแก้มเล็กๆนั้นอย่างมันมือไม่สนเสียงประท้วงจากเจ้าของแก้มเลยแม้แต่น้อย

    “น่าหมั่นเขี้ยว...” เขาบอกแบบนั้นจนได้สายตาค้อนขอดส่งมา

    “นิสัยไม่ดีค่ะ”

    “หืม..ผมก็ไม่เคยบอกนิว่าผมนิสัยดี” อาคาชิยักคิ้วให้ทีหนึ่ง แล้วเอี้ยวหัวหลบฝ่ามือเล็กที่หมายจะมาประทุนร้ายกับใบหน้าของเขา “มือไวจังนะ” เขาหัวเราะเสียงเบาแล้วยอมปล่อยร่างเล็กให้ลุกออกจากตัก หากมีคนผ่านมาเห็นฉากนี้เข้า ชื่อเสียงของฝ่ายหญิงอย่างอมีเรียต้องเสื่อมเสียอย่างแน่นอน

    --และเขาไม่อยากให้เป็นแบบนั้น

    อมีเรียรีบเด้งตัวออกห่างเด็กหนุ่มทันทีที่ได้รับการปล่อยตัวจากพันธนาการของคนตรงหน้า เธอเขยิบถอยออกห่างพร้อมทำหน้าไม่ไว้วางใจ แต่ก็ไม่ได้ปริปากต่อว่าเหมือนนางเอกในนิยายหรือนางเอกในละครหลังข่าวที่ตัวสั่นงกๆบีบน้ำตาร้องไห้ พอพูดถึงเรื่องบีบน้ำตาร้องไห้อมีเรียกลับนึกถึงฮิโตมิ คานะซะอย่างงั้น

    ...ป่านนี้ไม่รู้จะเคลียร์ปัญหาเสร็จรึยัง งานที่ห้องยิ่งเยอะอยู่ด้วย

    “เธอควรระวังตัวมากกว่านี้...รู้มั้ย” อาคาชิจัดเสื้อที่ยับเล็กน้อยให้เข้าที่ แถมยังแอบชูโบสีขาวของเด็กสาวยั่วสายตา แต่รอบนี้อมีเรียไม่ได้พุ่งเข้าไปแย่งจากเขาแต่อย่างใด นอกจากสะบัดหน้าหันไปทางอื่นพร้อมกับผมของเธอที่สะบัดตามแรงจนเกิดเป็นคลื่นเล็กๆ

    “ระวังตัวจากคุณสินะคะ”

    “ไม่...” เขายิ้มเมื่อร่างเล็กหันขวับมามองเขาด้วยสายตาไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาจะสื่อ “...ระวังตัวจากผู้ชายทุกคนที่ยกเว้นผม

    “....”

    โอเค อย่างน้อยการมางานเทศกาลของโรงเรียนเซย์รินตามคำชวนของคุโรโกะ ก็ทำให้เขาสนุกอยู่พอสมควร โดยเฉพาะกับสีหน้าของผู้จัดการทีมเซย์รินตรงหน้า ยิ่งทำให้เขารู้สึกสนุกอย่างบอกไม่ถูก – หากบอกว่าถูกชะตาและถูกใจมันคงไม่ผิดหรอกมั้ง

    .

    .

    .

    .

    อมีเรียนั่งจ้องหน้าอาคาชิได้แค่สองสามนาที ก่อนที่เธอจะหันไปมองร่างสูงโปร่งแสนคุ้นตาพร้อมผมสีแดงของเขาที่ชี้โด่ชี้เด้จากการวิ่งวุ่นไปทั่ว กว่าคางามิกับคุโรโกะจะรู้ตัวว่าคนตัวเล็กหายไป ก็ใช้เวลานานพอควร เขากับคุโรโกะต่างแยกย้ายกันออกตามหาแม่สาวจอมหลงทิศอย่างอมีเรียก่อนที่จะได้ยินพวกนักเรียนหญิงพูดลือกัน และนั้นจึงทำให้เขาออกตัววิ่งตรงมาหลังโรงเรียนหน้าตั้งแบบนี้

    แฮก แฮก

    “ไทกะ...?”

    อมีเรียเรียกชื่อญาติหนุ่มที่วิ่งมาหยุดตรงหน้าเธอ ร่างสูงสั่นเล็กน้อย เขายกมือห้ามเด็กสาวพูดอะไรในระหว่างที่เขาหายใจเอาออกซิเจนเข้าปอด อมีเรียเองก็ว่าง่ายนั่งเงียบรอคางามิอย่างดีพร้อมยังเตรียมน้ำที่วางรวมอยู่ในกองขนมเปิดฝาให้เสร็จสรรพ แถมยังถือยื่นส่งให้เมื่อคางามิปรับลมหายใจให้กลับมาเป็นปกติได้แล้ว— พอตั้งสติได้คางามิหันไปขึงตาใส่เด็กหนุ่มอีกคนที่นั่งหัวโด่อยู่ทันที

    “อาคาชิ...” เขากัดฟันกรอดด้วยความเคืองที่บังอาจขโมยญาติเขามาแบบนั้น “แกทำบ้าอะไรของแกวะ?!”

    “พาอมีเรียมากินขนม” ว่าจบก็ผายมือไปยังกองขนมด้วยใบหน้านิ่งเฉย

    “ไม่— ฉันหมายถึงทำไมนายอุ้มอมีเรียมาที่นี่” คางามิชี้ยัยหน้ามึนที่นั่งนิ่งสงบเสงี่ยมอยู่

    “ทำไมผมต้องบอกคุณ”

    ยังไงกัปตีนทีมราคุซันก็ยังคงเป็นกัปทีมจอมเผด็จการ เขายักคิ้วท้าทายเด็กหนุ่มตรงหน้าทีหนึ่ง ก่อนที่อมีเรียจะเข้ามากอดแขนคางามิแน่นเพื่อรั้งญาติจอมหัวร้อนไม่ให้เข้าไปหาเรื่องอาคาชิจนมีปัญหาตามมา ไม่รู้ว่าด้วยเห็นแก่ญาติตัวเล็กหรือเกิดอาการเขินกับสัมผัสนุ่มยุ่นตรงแขนที่ถูกกอดอยู่กันแน่ จากตอนแรกที่หัวเสียก็กลับนิ่งแล้วพ่นลมหายใจออกมาแทน— อาคาชิเริ่มจะเข้าใจแล้วว่าทำไมคางามิถึงได้หวงญาติตัวเล็กของเขานัก

    ไม่ใช่แค่แกล้งสนุก ยังซื่อในเรื่องที่ไม่ควรซื่ออีกต่างหาก

    —ถ้าปล่อยให้คลาดสายตาไปคงจะมีเรื่องวุ่นตามมาเป็นกระพรวน

    ยังไม่ทันที่อมีเรียจะได้ห้ามปรามไม่ให้ญาติของเธอพุ่งเข้าไปหาเรื่องอาคาชิอีก โทรศัพท์ในกระเป๋ากระโปรงของเธอก็สั่นขึ้นมาพอดี เธอย่นคิ้วไม่ชอบใจกับข้อความที่เด้งมารัวๆพวกนั้น แต่ก็ยินยอมที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครกันที่ส่งข้อความเข้าเมลล์เธอมา พอกดอ่านเท่านั้นแหละใบหน้าที่เคยเรียบเฉยก็แข็งค้างในทันที

    ‘อมีเรียจัง ฮิโตมิถูกผู้ชายฉุดไปทำร้าย ตอนนี้คนในห้องวุ่นวายมากเลย ช่วยพวกเราด้วย— มีนักเลงมาบุกห้องเรา’ 

    ผู้หญิงคนนั้น...ไม่หาเรื่องวุ่นวายมาให้เธอสักวันจะตายรึยังไงนะ!

    คางามิเลิกคิ้วสงสัยว่าทำไมญาติของเขาถึงได้ทำหน้าเหมือนไม่พอใจอะไรอยู่ จนเมื่อเธอยื่นหน้าจอที่มีข้อความจากเพื่อนร่วมห้องให้คางามิอ่านนั่นแหละ เอซแห่งทีมบาสเซย์รินถึงกับเบิกตาโตอย่างตกใจ ได้แต่มองเสี้ยวหน้าของญาติสาวที่เริ่มเย็นยะเยือกแล้วกลืนน้ำลายลงคออย่างอยากลำบาก ก่อนจะเหลือบไปมองอาคาชิที่ชะโงกหน้ามาอ่านด้วยเพื่อขอความเห็น 

    อาคาชิเพียงเลิกคิ้วราวกับว่าเขารับรู้แล้ว ก่อนจะควักมือเรียกคนในทีมให้มาเก็บกองขนมพวกนี้ไป—

    “ผมไปด้วย”

    เพียงประโยคสั้นๆ คางามิก็รู้ทันทีว่ากัปตันทีมบาสราคุซันอยากจะไปหาเรื่องสนุก ในขณะที่อมีเรียกำลังจะไปเชือดคน ถ้าไม่มีร่างของเขายืนคั่นกลางอยู่มีหวังสองคนนี้ได้แผ่รังสีเดียวกันออกมาจนกลมกลืนแน่นอน แต่พอคิดว่าสองคนนี้เหมือนกันเขากลับยิ่งหงุดหงิดจนเผลอดึงร่างเล็กที่กำลังเดินอยู่ข้างตัวเข้ามาใกล้ ก่อนจะช้อนตัวอุ้มคนตัวเล็กด้วยแขนข้างเดียวอย่างถือวิสาสะทันที

    “ไทกะ?” 

    อมีเรียเรียกชื่อญาติหนุ่มด้วยความตกใจขนเผลอยกแขนกอดคอเขา

    “แบบนี้เร็วกว่า” 

    ว่าจบก็จ้ำอ้าวเดินตรงไปยังห้องเรียนของพวกเขาทันที โดยมีร่างเล็กเกาะไหล่เขาไว้ไม่ให้ตัวเองตกจากแขนแกร่งที่อุ้มเธออยู่ จะว่าไปคางามิแรงเยอะเกินวัยไปแล้วมั้งสามารถอุ้มผู้หญิงตัวเล็กด้วยแขนข้างเดียวได้สบายแบบนี้ราวกับเธอเป็นเด็กสองขวบ ตามหลังด้วยอาคาชิและสมาชิกทีมบาสราคุซันที่จ้ำอ้าวเร่งฝีเท้าตามพ่อเสือแห่งทีมบาสเซย์รินให้ทัน

    ใช้เวลาไม่นานกลุ่มของอมีเรียก็มาถึงห้องปี1-C 

    เด็กสาวกวาดสายตามองสภาพซุ้มที่บรรดาเพื่อนร่วมห้องต่างช่วยกันทำอย่างตั้งใจ ที่บัดนี้พังเละไปหมดไม่เหลือความงดงามก่อนหน้า บรรดาคนที่มุงดูอยู่พร้อมใจกันเปิดทางให้คางามิและกลุ่มของอาคาชิเดินเข้าไปด้านในอย่างพร้อมเพียงกัน เมื่อเห็นเด็กสาวเรือนผมสีฟ้ามิ้นที่นั่งอยู่บนแขนของเด็กหนุ่มผมแดงอย่างสง่างาม เพียงแค่มองเสี้ยวหน้าเรียบเฉยปนมึนงงนั้น พวกเขาก็จดจำได้ในทันทีว่าอีกฝ่ายคือใคร 

    เพราะฉะนั่นจึงยินยอมเปิดทางให้พวกเขาอย่างง่ายดายยังไงละ

    คางามิวางอมีเรียลงพื้นประคองร่างเล็กจนเธอทรงตัวได้แล้ว เขาจึงหันไปมองสภาพห้องที่เละโดยมีพวกเพื่อนร่วมชั้นบางส่วนยืนตัวสั่นหลบมุมกันอยู่ มีผู้ชายบางคนนอนหมอบหมดสภาพอยู่ที่พื้นห้อง ส่วนผู้หญิงก็ถูกกลุ่มนักเรียนชายในชุดนักเรียนผิดระเบียบลวนลามอย่างเปิดเผยอยู่— อมีเรียหรี่ตามองภาพนั้นอย่างไม่พอใจ แล้วตวัดสายตามองไปยังคานะที่นั่งตัวสั่นกอดตัวเองเพื่อปกปิดเนื้อตัวที่เสื้อผ้าบางส่วนขาดวิ้นอยู่ที่พื้น

    เธอเพียงแค่มองไม่ได้พูดหรือคิดที่จะส่งเสียงเรียกให้บรรดาผู้ก่อเรื่องหันมาสนใจ เพียงแต่เดินเข้าไปใกล้แล้วถอดเสื้อตัวนอกของตัวเองออกไปสวมให้เด็กสาวผมน้ำตาล ก่อนจะหยิบเอาแก้วน้ำที่ตกอยู่แถวนั้นขึ้นมาขว้างใส่หัวโจกทันทีโดยที่ไม่อาจมีใครห้ามปรามการกระทำของเธอได้ทันสักคน แม้แต่คางามิที่จ้องมองการกระทำของญาติสาวมาตั้งแต่แรกยังเอ่ยปากห้ามไม่ทันเลย นับประสาอะไรกับคนอื่นที่ยังไม่หายตื่นตกใจกับเรื่องวิวาท

     

    โป้ก!

    “เฮ่ย!”

    “กรุณาออกไปค่ะ”

    นัยน์ตาสองสีวาวโรจน์ด้วยโทสะพร้อมชี้นิ้วไปยังประตูห้อง เพื่อบอกว่าให้คนกลุ่มนั้นออกไปทางไหน แต่ก่อนที่พูดอะไรออกมาเพื่อกระตุ้นโทสะจากคนตัวเล็ก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำโรงเรียนเซย์ริน ที่อมีเรียเสนอให้จัดเตรียมเอาไว้ก็เข้ามาพร้อมอาวุธครบมือ

    พวกมันกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบากเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่มาแบบนี้ พอชะเง้อคอมองแถวประตูก็ยิ่งหน้าซีด เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนรออยู่ด้านนอกแถมยังควงกุญแจมือโชว์อีกด้วย ความใจกล้าก่อนหน้านี้หายวับไปกับสายลมอย่างไว

    พวกมันเคยมาป่วนแบบนี้อยู่บ่อยๆ แต่ไม่คิดว่าโรงเรียนที่เพิ่งเปิดใหม่อย่างเซย์รินจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ด้วย! หากรู้ว่ามีคงไม่คิดที่จะเข้ามาหาเรื่องถึงถิ่นอันตรายแบบนี้แน่นอน แล้วก็คงไม่รับงานจากพวกผู้หญิงบางกลุ่มอีกด้วย— อมีเรียดีดนิ้วให้เจ้าหน้าที่เข้าไปจัดการ พร้อมส่งสัญญาณให้คนของเธอที่รอสแตนบายอยู่เข้ามาแยกนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บและเป็นผู้เสียหายแยกออกไปก่อน

    ใช้เวลาแค่ห้านาที เหตุการณ์ทุกอย่างก็จบลงพร้อมกลุ่มนักเลงที่ยังเรียนอยู่ถูกคุมตัวไปยังโรงพักเพื่อรอการติดต่อกับผู้ปกครองให้มารับทราบความผิด และข้อหาที่พวกเขาต้องได้รับตามกฎหมายบ้านเมือง อมีเรียไม่อ่อนข้อให้ความผิดข้อนี้ของคนกลุ่มนั้นแม้แต่น้อย เธอให้คนของเธอไปจัดการเรื่องดำเนินคดีกับพวกเขาตามความเสียหายที่เกิดขึ้น

    เธอไม่ใช่คนใจดีที่จะปล่อยให้เรื่องนี้จบง่ายๆด้วยการจ่ายเงินปิดปาก

    หากทำเช่นนั้น การที่เธอจะปกครองคนหมู่มากก็เป็นปัญหากันพอดีสิ! ถ้าไม่เพราะถูกเสนอชื่อให้เป็นประธานนักเรียนคนต่อไปละก็นะ...

    ....เธอคงปล่อยเฉยแน่นอน

    ส่วนนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ และถูกลูกหลงก็ถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาล ส่วนคนที่ถูกลวนลามอมีเรียให้พวกเขากลับบ้านไปก่อนเวลา พร้อมให้คนไปส่งและอธิบายเรื่องให้ผู้ปกครองของแต่ละคนได้ทราบ— เด็กสาวจัดการเรื่องทุกอย่างให้เสร็จเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วส่งมอบหน้าที่ให้คนของพี่ชายไปรับช่วงต่อ โดยมีบรรดาเจมุงคอยอัดคลิปและถ่ายรูปอยู่เป็นระยะ แต่นับว่ายังดีที่พวกเขาไม่ได้เข้ามาวุ่นวายกับการประสานงานของเหล่าบอดี้การ์ดของเธอ ส่วนคนของพี่ชายที่ถูกส่งมาเป็นอาจารย์ก็ออกมาพูดคลี่คลายสถานการณ์แล้ว 

    อีกทั้งยังแจ้งให้อาจารย์และเหล่านักเรียนระวังตัวให้มากขึ้นด้วย

    พอเหตุการณ์จบลงแล้ว ทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติในขณะที่อาคาชิและทีมบาสราคุซันยังคงยืนอึ้งอยู่ พวกเขารู้ว่าอมีเรียเป็นคนที่ไม่ธรรมดา แค่มองก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายต่างชั้นกับพวกตนขนาดไหน

    ...แต่ไม่คิดว่าจะขนาดนี้!

    “คางามิ...อมีเรียเป็นใครกันแน่” 

    อาคาชิกระซิบถามเด็กหนุ่มผมแดงที่ยืนมองร่างบางจัดการเรื่องวุ่นวายเหล่านั้นด้วยตัวคนเดียว เขาเคยอ่านข้อมูลเกี่ยวกับคนตัวเล็กนั้นมาบ้างแล้ว เพียงแต่คิดแค่ว่ามันเป็นเรื่องที่น่าสนใจเท่านั้น แต่พอมาเห็นด้วยตาตัวเองก็ยิ่งสนใจมากกว่าเดิม ผู้หญิงคนนี้มีอะไรให้ทึ้งเยอะเหลือเกิน

    “...อมีเรียก็เป็นอมีเรีย” คางามิตอบแล้วยักคิ้วให้กัปตันทีมราคุซัน “ผู้หญิงที่พี่ชายมีอำนาจเยอะกว่ารัฐบาล...”

    “....”

    “หึ มีอะไรให้ทึ้งอีกเยอะ...ถ้าคิดจะจีบทำใจด้วยละอาคาชิ”

    “....ทำไม”

    “พอดีพี่ดุ”

    พี่ชายแท้ๆของอมีเรียนะที่ดุ (คางามิขนลุกพรึบ)

     

     

     

     

     

    ……………………………………………………………………………

    พี่เขาดุนะครับ รู้ไหมคร้าบบบบบ (โดนเทรย์เวอร์ตบหัวทิ้ม) แฮ่ม! เป็นตอนพิเศษตอนแรกเลยละมั้งที่แฟรร์แทบไม่ได้แก้อะไรมาก มีแค่ปรับคำศัพท์และแก้คำนิดๆหน่อยๆ จำนวนตอนเลยไม่ได้ยาวมากเหมือนตอนอื่นๆที่รี ขอโทษด้วยนะคร้าบ!!

     

    1 คอมเม้นท์ = 100 กำลังใจ

    สามารถติหรือชี้แนะไรท์ได้ ไรท์จะรออ่านคอมเม้นท์ของทุกคนนะคะ

     

    ติดตามข้อมูลข่าวสารและการอัพเดทต่างๆได้ที่เพจ Fairy-แฟรี่กะ จิ้มๆเลย//ชี้  

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×