คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #24 : มิติพิศวงที่ 22 [Re]
มิติพิศวงที่ 22
สภาวะบุคลิกทับซ้อน คือ สภาวะที่คล้ายคลึงกับโรคหลายบุคลิกเพียงแต่ สภาวะบุคลิกทับซ้อนของอมีเรียนั้นแตกต่างอยู่มากโขตรงที่ตัวตนอีกด้านจะหายไปเมื่ออาการป่วยจบลง และมันจะกลับมาถ้าเธอเริ่มป่วย แต่มันกลับเป็นกรณียกเว้นของอาการป่วยที่ถูกกระตุ้นจากยาเคมีที่กินหรือฉีดเข้าร่างกาย – เพราะฉะนั้น
ที่อมีเรียเผยด้านมืดของตัวเองออกมา ไม่ใช่เพราะพิษไข้ ไม่ใช่เพราะป่วย
แต่เป็นเพราะ...ยาบางตัวที่ถูกใช้กับเธอเพื่อให้กลายเป็นทาสครั้งสมัยอดีตกับไวรัสที่เธอคิดค้นแล้วนำมาทดลองกับตัวเองได้สร้างได้ไปกระตุ้นตัวตนอีกด้านให้ออกมาทำหน้าที่แทนบุคลิกที่แท้จริง ในทางหลักจิตวิทยาแล้วสภาวนะนี้เป็นสภาวะทางจิตอย่างหนึ่ง เป็นอาการของผู้ป่วยที่หลีกหนีความจริงบางอย่างจนสร้างบุคลิกที่ตรงข้ามกับตัวเองขึ้นมาแล้วซ่อนบุคลิกแท้จริงเอาไว้ภายใน – การรักษา...
ไม่มี...
แต่ใช่ว่าจะไม่สามารถบำบัดเพื่อขจัดให้หายขาดได้.. หากในกรณีของคนอื่นคงจะไม่มีนั่นแหละ ทว่าในกรณีของอมีเรียแล้วกลับแตกต่างกันอย่างชัดเจน อาการบุคลิกทับซ่อนของเธอนั่นมีเหตุผลและปัจจัยบางอย่างที่เป็นตัวกำหนดว่าเธอจะหายหรือไม่หาย
และปัจจัยที่ว่านั่น...ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้อมีเรียได้มายังโลกใบนี้ ทว่าเธอไม่ได้รู้ถึงเรื่องนั้นหรอก
.
.
.
.
ตอนนี้สกอคะแนนของฝั่งเซย์รินเริ่มตีนำขึ้นมาจนกลายเป็นฝ่ายคุมเกม แต่ก็มีบางอย่างที่แปลกประหลาดในสนามหลังจากที่ฮานามิยะเปลี่ยนผู้เล่นออกไปและแน่นอนว่าคิโยชิอยู่ในสนาม เป็นการลงสนามด้วยความตั้งใจของเขาแม้สภาพร่างกายจะย่ำแย่ก็ตามที ในข้อนี้อมีเรียหงุดหงิดจนเอาไประบายลงการเล่นสนุกของเธอ
กระแสตอบรับจากโลกภายนอกในเรื่องการเล่นนอกกติกานั้นได้รับผลดีเยี่ยม แต่จะให้อีกทีมทำให้เซย์รินลำบากจนสภาพร่างกายย่ำแย่อีกไม่ได้เด็ดขาด อมีเรียยกยิ้มเมื่อเริ่มเห็นแผนการบางอย่างบนสนาม ทว่าดูเหมือนทุกคนในสนามจะติดกับดักเสียแล้วแต่มีหรือที่นักล่าอย่างอมีเรียจะยอม..
ไม่แน่นอน..เธออยากเล่นสนุกเหลือเกิน~~ ขอเดิมพันธ์ด้วยไอคิวสองร้อยอัพจนทะลุเป้าขององค์กร
อมีเรียยิ้มแสยะไปยืนข้างสนามแล้ว
“สามอาทิตย์!!”
กึก!
“!!!!”
ตะโกนออกไปสุดเสียงจนทำเอานักกีฬาบนสนามหันมามองด้วยความตกใจ สามอาทิตย์อะไร?แต่กับทีมเซย์รินพวกเขากลับเหงื่อตกหน้าซีด ยิ่งคางามิยิ่งหน้าซีดหนักกว่าเดิมเมื่อเห็นรอยยิ้มของญาติสาว อย่าบอกนะว่า....
“ถ้ายังไม่ใจเย็นแล้วมองเกมให้ดี จะให้กินอาหารฝีมือโค้ชสามอาทิตย์”
ไม่มีทาง!! นั่นมันนรกชัดๆ
ฮิวงะผวาพร้อมเสียงในหัวของทุกคนที่ไม่ยินยอมกับคำพูดนั้นของผู้จัดการสาว และยิ่งเห็นรอยยิ้มของเธอแล้วเซย์รินทุกคนยิ่งหน้าซีดยิ่งกว่าเดิม ฮิวงะตัดสินใจแย่งบอลจากเพื่อนร่วมทีมแล้วชู้ตมันออกไปทันทีในระยะสามแต้ม! และมันก็ลงห่วงอย่างสวยงามเป็นลูกแรกจากเริ่มเกมส์ที่เขาสามารถชู้ตลงห่วงได้ – คงเป็นเพราะมีแรงกดดันอันตรายแสยะยิ้มอยู่ข้างสนาม แรงกดดันจากหญิงสาวร่างเด็กหน้าสวย...
สวบ!
ปรี้ด!
เฮ!!!สามแต้มเซย์ริน
และเป็นสามแต้มก่อนเวลาพักห้านาที..
อมีเรียยังคงยิ้มร่าเริงไม่สนใครเหมือนเคยพร้อมโยนหน้าที่บริการให้ตัวสำรองชายคนอื่นๆทำไป แต่หน้าที่ปฐมพยาบาลให้คิโยชิยังคงเป็นเธออยู่ แน่นอนว่ารอบนี้อมีเรียไม่ยอมให้รุ่นพี่หนุ่มที่บาดเจ็บไปที่ร่างจนแผลช้ำเริ่มเขียวชัดเจนอย่างน่ากลัวลงสนามเด็ดขาด เพราะงั้นเธอถึงได้สั่งให้เหล่าตัวสำรองกดร่างคิโยชิเอาไว้กับม้านั่งไม่ให้ลุกขึ้นเด็ดขาด
“ให้คุโรโกะลงสนาม” อมีเรียโพล่งออกไป “ยกเลิกแผนเล่นแบบทีม – ลุยเดี่ยวซะ”
“....แต่”
“จงเชื่อในตัวเขา ถ้าไม่อยากลงนรกนะคะ”
“นี่มันขู่ชัดๆ”
คางามิทำหน้าเหยเกกับรอยยิ้มของญาติสาว ก่อนหน้าสะดุ้งเมื่อฝ่ามือเล็กนุ่มของสาวเจ้าฟาดลงกลางหลังเขาอย่างแรง “โอ้ย!!” คางามิร้องเสียงลั่นแล้วหันมาถลึงตาใส่ญาติสาวที่ยืนยิ้มอยู่ข้างกาย
“...”
“ยัยเตี้ยแรงช้าง!”
“คราวนี้ตบปากดีไหม” อมีเรียยิ้มพร้อมกับดวงตาที่ปิดสนิท
มือของเธอชูค้างในท่าพร้อมตบทำให้คางามิหน้าซีดยอมจำนนญาติสาวโหมดโหดแต่โดยดี เขายังไม่อยากเจ็บตัวขณะพักหรอกนะ!– เมื่อหมดเวลาพักอมีเรียก็ต้องกรอกตามองบนใส่รุ่นพี่หัวดื้อที่ยังคงขอร้องที่จะลงสนามเธอยอมให้เขาลงไปแต่โดยดี ซะที่ไหน...แน่นอนว่าหญิงสาวตาสองสีไม่ยอมให้ลงแต่เขาฝืนลงไปเองต่างหาก
ดื้อดึง!! คิโยชิจอมดื้อดึง!!
ทันทีที่คุโรโกะเปลี่ยนวิธีการเล่นของตัวเองใหม่ทำให้สถานการณ์ที่ตอนแรกลำบาก เริ่มกลับมาดีขึ้นได้ทันท่วงทีแต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น คิโยชิโดนเล่นงานใต้แป้นนจุดลับสายตาอีกแล้ว! คราวนี้อมีเรียโกรธจริงๆก้อนน้ำแข็งก้อนเล็กถูกดีดใส่หัวผู้เล่นเบอร์ 5และเบอร์7 แห่งโรงเรียนคิริซากิไดอิจิที่บังอาจใช้วิธีสกปรกเหมือนหมาจนตรอกอีกแล้ว!
“...เสียดายจัง” อมีเรียจิ๊ปากขัดใจที่ไม่สามารถใช้อะไรที่ใหญ่กว่าก้อนน้ำแข็งได้ไปเล่นงานพวกนั้น
แต่เธอก็สามารถใช้ของเล็กๆนี้ก่อกวนให้หัวร้อนได้ ครั้งนี้เธอไม่ต้องเอ่ยปากบอกริโกะก็ทำหน้าที่สมกับตำแหน่งโค้ชที่จะดึงเอาเพื่อนคนสำคัญออกจากสนามให้เร็วที่สุดก่อนที่เขาจะแย่ยิ่งกว่าเดิมแม้มันจะเป็นการตัดสินใจที่อาจจะทำให้เพื่อนคนนั้นโกรธก็ตามที ทันทีที่คิโยชิเดินออกมาจากสนามและโดนคนในทีมเทศนาไปยกใหญ่ อมีเรียก็เดินเข้าไปแทรกกลางวงพร้อมง้างมือขึ้นสูง..
เพลี๊ยะ!!
“...!!!”
“เคยเตือนแล้วน่ะว่าอย่าให้ต้องใจร้าย” อมีเรียมองรอยแดงจากฝ่ามือของตัวเองที่เด่นชัดบนแก้มของคิโยชิ เด็กสาวสะบัดมือเบาๆเพื่อไล่ความชาที่เริ่มแล่นเต็มฝ่ามือไปหมด
“ทำตัวน่ารำคาญกว่าพวกหมาโสโครกนั่นอีกนะ”
เด็กสาวไม่เอ่ยอะไรมากนอกจากส่งโทรศัพท์ให้เขาดูการเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ที่โหมกระหน่ำรุนแรงมากยิ่งขึ้น และมันล้วนเป็นในแง่ลบทั้งนั้น อันที่จริงเธอก็ไม่อยากให้พวกเขารู้เรื่องดำมืดส่วนนี้ของตัวเองสักเท่าไหร่หรอก แต่ให้ดูสักหน่อยคงไม่เสียหายจะได้เลิกทำตัวน่ารำคาญจนชวนให้รู้สึกโมโหบ้าง – คิโยชิรับมาดูด้วยความมึนจากการโดนตบแม้มันจะไม่เจ็บมากก็เถอะ
น..นี่มัน!!
คิโยชิเบิกตากว้างด้วยความตกใจสลับกับมองใบหน้าของผู้จัดการสาวที่ดูเจ้าเล่ห์ขึ้นมาทันตาอย่างน่ากลัว เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตอนนี้ในโลกออนไลน์กำลังวิจารณ์เรื่องการเล่นนอกกติกาแสนสกปรกนี้ เพราะขนาดกรรมการกลางหรือกรรมการสนามยังจัดการไม่ได้เลย แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างที่เขากำลังแข่งอยู่ – คิโยชิรู้สึกสับสนจริงๆ
“คิก ทำหน้าตลกจังเจ้าหนูตัวเขียว”
อมีเรียยกมือป้องปากหัวเราะคิกคักอย่างมีจริต “ถูกใจรึเปล่า? ของขวัญนั่นนะ”
“ของขวัญ..” รึว่า!!!
คิโยชิตื่นตนกทันที เขาทำหน้าเหลอหลาจนดูโอเวอร์ทำให้อมีเรียต้องตีรอยช้ำของเขาเบาๆเพื่อเป็นการดึงสติของรุ่นพี่หนุ่มให้กลับคืนมา แต่เพราะเป็นรอยช้ำสดใหม่มันเลยยังเจ็บไม่มากแต่ก็ทำให้ร่างสูงของคิโยชิสะท้านได้ไม่ยาก – คิโยชิยอมรับว่าเขาสนใจในตัวผู้จัดการสาวอยู่ค่อนข้างมาก เพราะมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกว่า เด็กตัวเล็กกว่าเขาคนนี้คล้ายกับเป็นผู้ใหญ่มากประสบการณ์ บางครั้งก็คล้ายกับเป็นเด็กสาวธรรมดาแต่บางครั้งก็เหมือนพวก....
พวกนักล่าที่กระหายเลือด...
คิโยชิมองวงหน้าหวานที่มีรอยยิ้มประดับอย่างกังขา
ตัวตนจริงๆของเธอเป็นใครกันแน่...เพียงแค่อาการเป็นไข้หวัดเพราะร่างกายอ่อนแอไม่น่าจะทำให้อุปนิสัยเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ราวกับเป็นคนละคนกัน แต่ยอมรับว่าอมีเรียในตอนนี้เป็นบุคคลที่อันตรายกว่าก่อนหน้าเป็นเท่าตัว เขาจมอยู่ในห่วงความคิดโดยไม่รู้ว่าสาวเจ้าที่เป็นประเด็นในหัวของเขานั้นกำลังหันมามองที่เขาเช่นกัน
“เด็กน้อย..” เธอพึมพำ
ที่เธอให้เขาดูนั้นแค่น้ำจิ้ม...ตอนนี้ถึงเวลาอาหารจานหลักของเธอแล้วละใครที่บังอาจมายุ่งกับคนในการดูแลของเธอไม่มีคนไหนที่ศพสวยซะทีเดียวหรอกน่า – เธอจะไม่ฆ่าให้ตายเหมือนพวกนักฆ่าทรยศขององค์กรแต่จะให้ดิ้นรนหาทางรอดเหมือนหนูตัวหนึ่งจนกว่าเธอจะพอใจ เอาละตอนนี้...
จงสนุกไปกับแผนการของตัวเองไปเถอะเหล่าเด็กน้อยทั้งหลาย..อีกไม่นานจะได้เวลาพี่สาวคนนี้ลงมือเชือดแล้ว
หิหิหิ
.
.
.
.
ตัวตนที่น่ากลัวที่สุดมักถูกกดฝังให้ลึกที่สุดเพื่อไม่ให้มันก่อปัญหา
นั้นจึงเป็นเหตุผลที่อมีเรียหลีกหนียาเคมีทุกชนิด ที่จะไปกระตุ้นให้บุคลิกทับซ้อนของตนหลุดออกมาก่อความวุ่นวาย หากเธอทำตัวเด่นคนรอบข้างก็จะเป็นอันตรายและถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือ เพราะแบบนั้นอมีเรียจึงได้ทำตัวเองให้ตกต่ำและกดฝังอดีตเหล่านั้นของตัวเอง – อมีเรียเกลียดความวุ่นวาย เกลียดเสียงดังหนวกหู เกลียดอาการป่วย เกลียดร่างกายที่อ่อนแอและเธอเกลียดตัวเอง...
“...?!”
อมีเรียที่กำลังยืนยิ้มแสยะอยู่เริ่มเซจนเกือบจะล้มลง แต่เธอก็ตั้งตัวได้ทันเสียก่อนและเป็นจังหวะเดียวกับที่สถานการณ์บนสนามที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม มือเรียวเล็กกุมหน้าผากตัวเองที่ไอร้อนเริ่มลดลงอย่างรวดเร็วราวกับบ่งบอกว่าเวลาของการก่อกวนใกล้จบลงแล้ว
บ้าชิบ! ยัยแสนดีนั้นกำลังออกมา...
อมีเรียสบถกับตัวเองในใจ แววตาของเธอขุ่นเคืองอย่างชัดเจน แต่แล้วแววตาที่เริ่มปรือก็ต้องเบิกกว้างตกใจ คุโรโกะเกือบโดนศอกฟาดเข้าที่หน้าแต่เพราะเห็นภาพนั้นจึงทำให้อะไรบางอย่างที่กำลังกลับมาเริ่มต่อต้านและกลับเข้ามาอย่างสมบูรณ์...
“อมีเรียจัง..เป็นอะไรรึเปล่า?”
“....”
ริโกะเอ่ยถามรุ่นน้องสาวด้วยสีหน้ากังวลเมื่อเห็นว่าจู่ๆเธอก็กุมหน้าพร้อมเซจนเกือบล้ม แต่ทันทีที่เด็กสาวเจ้าของชื่อหันหน้ามาทางเธอ ริโกะก็สังเกตเห็นแววตาที่เปลี่ยนไป ดวงตาสองสีที่แวววาวอย่างคนเจ้าเล่ห์มากประสบการณ์กลับมาเป็นแววตาของอมีเรียคนที่พวกเธอรู้จัก – แววตามึนงงและง่วงปรือแสนคุ้นเคยและนั้นก็เป็นจังหวะเดียวกันกับชัยชนะของเซย์ริน
“....กลับมาแล้วค่ะ”
อมีเรียปรือตามองทุกอย่างรอบตัวที่ตัวเองไม่คุ้นชิน ราวกับว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นแต่มันหายไปจากความทรงจำของเธอ แต่ความรู้สึกโกรธยังคงหลงเหลืออยู่..เธอไปโกรธใครกัน?..จำไม่ได้เลย... ระหว่างที่เธอหมดสติไปมันเกิดอะไรขึ้น? พอก้มมองโทรศัพท์ในมือที่เปิดแอพค้างเอาไว้เธอก็กดปิดมันในทันที
เพียงแค่นั้นอมีเรียก็เริ่มเดาได้แล้วว่าทำไมความทรงจำของเธอหายไป
ก่อเรื่องอะไรอีกแล้วสินะ...อ่า ปวดหัว
เด็กสาวรู้สึกปวดหัวอย่างบอกไม่ถูก หลังจากทำการลบตัวตนทุกอย่างให้เร็วที่สุด ตอนนี้เธอกำลังถูกคางามิแบกกลับคอนโดหลังจากที่จบการแข่งขัน เป็นการจบการแข่งที่ยาวนานกว่าที่คิดแถมยังต้องมาทนฟังญาติหนุ่มบ่นถึงเรื่องที่เธอก่อ แน่นอนว่าอมีเรียจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่างดังนั้นเธอจึงทำเพียงทำหน้ามึนรับฟัง ไม่ปฏิเสธและไม่ยอมรับ
“...ฟังอยู่รึเปล่าเนี่ย?” คางามิเอ่ยถามร่างบางที่เขากำลังแบก
“ฟัง” มั้ง
อมีเรียกรอกตามองดาวบนฟ้าแล้วก้มมองข้อความที่ถูกส่งเข้ามาเมื่อสักครู่พร้อมคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน.. อะไร?
‘ฉันยอมเป็นทาส..ถ้าแกช่วยแม่ฉันได้’
ใครกัน... อมีเรียใช้สมองนึกทวนให้มากที่สุดกับข้อความปริศนาที่เด้งเข้ามาเองแต่พอเลือนไปดูหมวดบันทึกทุกอย่างที่เธอได้ทำเก็บไว้และดูเหมือนว่าบุคลิกทับซ้อนของเธอจะบันทึกมันเอาไว้ด้วย –
ทาสตัวน้อยคนใหม่...ฮานามิยะ มาโคโตะ
เงื่อนไข รักษาโรคของแม่เขาให้หายและค่าเลี้ยงดูต่างๆ
แบล๊คเมลล์ เรื่องพฤติกรรมการเล่นบาสแสนสกปรกตลอดปีและดิสเคดิตสิทธิ์ในการทำงานพิเศษทุกอย่าง
เหตุผล ทำร้ายคนในการดูแล คิโยชิ เทปเปย์ คุโรโกะ เท็ตสึยะและคางามิ ไทกะ
อมีเรียอ่านบันทึกเงียบๆแล้วรู้สึกปลง ตอนนี้เธอไม่ใช่นักวิจัยแล้วนะจะเอาเงินที่ไหนไปรักษาและใช้จ่ายให้ครอบครัวของทาสคนใหม่กัน! อ่า..ตัวตนอีกคนของเธอมันจะก่อเรื่องให้ปวดหัวมากเกินไปแล้ว!– วงหน้าหวานที่กำลังมึนตอนนี้เริ่มทำหน้าเหยเกกับปัญหาของตัวเองที่ไม่รู้จะหาทางแก้ยังไงดี....
เพราะงี้ไง..เธอถึงเกลียดตัวเธอเอง
เกลียดตัวตนอีกด้านของบุคลิกทับซ้อน...
…………………………………………………………..
รีไรท์ทีละนิดทีละหน่อยนะคะ อาจจะมาลงให้วันละตอนหรือสองตอน จนกว่าจะถึงตอนล่าสุดที่อัพลงให้นะคะ ปล.ไรท์สอบเสร็จแล้วค่ะ
ทุกท่านสามารถโดเนทสนับสนุนด้านค่าเน็ตและค่าไฟให้แฟรร์ได้นะคะ
วิธีโดเนท
โอนเงินจำนวนแล้วแต่รีดฯเข้ามาได้ที่นี่ :: เลขบัญชี 046-8-34907-8 (ธนาคารกสิกรไทย) และ เบอร์ 0960075277 ( True Money Wallet )
ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ //โค้ง
1 คอมเม้นท์ = 100 กำลังใจ
สามารถติหรือชี้แนะไรท์ได้ ไรท์จะรออ่านคอมเม้นท์ของทุกคนนะคะ
ติดตามข้อมูลข่าวสารและการอัพเดทต่างๆได้ที่เพจ Fairy-แฟรี่กะ จิ้มๆเลย//ชี้
by. ภูติสีเทา
ความคิดเห็น