ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Kuroko no Basket ] มิติพิศวงของยัยจอมมึน (All x Oc )

    ลำดับตอนที่ #18 : มิติพิศวงที่ 16 [Re]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.32K
      488
      24 ส.ค. 63

     

     

     

    มิติพิศวงที่ 16

     

     

     

     

    อมีเรียนั่งเฝ้าการฝึกแค่แปบเดียวเท่านั้น ก่อนจะเอ่ยขอตัวออกไปข้างนอกเพื่อไปซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารให้ทุกคนได้ทานกันตามกน้าที่เสริมของเธอ โดยมีมิโดริมะที่อาสาไปช่วยถือของให้ ตามจริงจะเป็นคางามินะ..แต่พอดีว่า ญาติหนุ่มของเธอดันถูกโค้ชสั่งให้ไปวิ่งอยู่ 

    ถึงแม้แม่ครัวจำเป็นอย่างอมีเรียจะส่ายหน้าปฏิเสธความช่วยเหลือนั้นแล้วก็ตาม ท้ายที่สุดหนุ่มแว่นผมชาเขียวก็เดินตามหลังเธอมาอยู่ดี – ผู้จัดการทีมเซย์รินสาวพร้อมตำแหน่งแม่ครัวจำเป็นของสองโรเรียนเหล่มองมิโดริมะเดินถือถุงผ้าใส่ผักและถุงเนื้อตามหลังเธอมาด้วยแววตาขบขัน

    ก็ดูสิ..อาสามาเองแต่ทำหน้ายุ่งทุกครั้งที่เธอแวะเข้าร้านขายของสด...

    ทำเหมือนกับว่าตัวเองไม่เคยเข้าครัวทำอาหารงั้นแหละ

    อมีเรียเลือกซื้อวัตถุดิบสำหรับทำอาหารเย็นอยู่นานพอดู แล้วจึงเดินออกจากเขตการค้าพร้อมถุงผ้าที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบนานาชนิด แน่นอนว่าของส่วนใหญ่ไปอยู่ในมือของมิโดริมะที่อาสามาช่วย อมีเรียเลยส่งถุงผ้าให้เขาถือเสียส่วนใหญ่ด้วยความหมั่นไส้เล็กน้อยแต่พอมองดูท่าทางการถือพร้อมความเร็วในการเดินที่ช้ากว่าปกติ อมีเรียเลยต้องแย่งมาถือบางส่วนเหมือนอย่างในตอนนี้

     

    “ไม่คิดเลยว่าพวกวัตถุดิบทำอาหารจะต้องใช้เยอะขนาดนี้” มิโดริมะมองถุงผ้าทั้งหลายที่ทั้งคล้องแขนและหอบในอ้อมอก เขาไม่เคยไปซื้อของเยอะแบบนี้มาก่อนและไม่คิดว่าร่างเล็กจะแบกของเหล่านี้อยู่ทุกวัน

    หรือเพราะต้องแบกของเยอะและหนักแบบนี้บ่อยๆ..ส่วนสูงถึงได้ไม่เพิ่มเหมือนคนอื่นเขา...?

    อมีเรียเลิกคิ้วมองมือชู้ตสามแต้มเล็กน้อยแล้วจึงเมินเขาในเวลาต่อมา แต่ก็ไม่วายที่จะเอ่ยบอกในสิ่งที่เขาสงสัย “คุณคิดว่าผู้ชายจะทานมื้อเล็กๆได้หรอคะ? – นักกีฬาในช่วงระหว่างการฝึก อาหารเป็นสิ่งสำคัญค่ะ”

    “เห....”

    “มีอะไรที่อยากทานเป็นพิเศษรึเปล่าคะ?” อมีเรียเตะก้อนหินให้พ้นทาง

    “...ไม่มี”

    “งั้นเหรอคะ”

    บทสนทนาของคนทั้งสองจบลงเพียงเท่านั้นเมื่อพากันมาถึงบ้านพัก โดยอมีเรียขอรบกวนให้โดริมะนำถุงใส่วัตถุดิบไปไว้ที่ห้องครัวแทน ส่วนเธอขอตัวไปเช็คดูว่ามีใครบาดเจ็บหรือเครื่องดื่มไม่พอรึเปล่าหากมีปัญหาจะได้จัดเตรียมเอาไว้ให้พร้อม – มิโดริมะมองร่างเล็กของเด็กสาวเดินหายไปทางโรงฝึกด้วยความรู้สึกสงสัย เขาไม่เข้าใจว่าการทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมจำเป็นต้องใส่ใจทุกคนขนาดนั้นเลยเหรอ 

    ใครบางคนที่เขารู้จักไม่เห็นจะใส่ใจเลยนอกจากพวกตัวจริง

    แต่สุดท้ายเขาก็ทำตามที่ผู้จัดการตัวเล็กขอร้องอยู่ดีนั่นแหละ (หิ้วถุงผ้าไปห้องครัว)

     

    .

    .

    .

     

    คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันยุ่งพร้อมนัยน์ตาสองสีที่หรี่ลงจนเกือบจะปิด ไหนจะแรงกดดันของเด็กสาวตัวเล็กที่แผ่กระจายให้เหล่านักบาสชายทั้งหลายพร้อมใจกันนั่งคุกเข่าโดยไม่รู้ตัว

    อันที่จริงต้องบอกว่า.. พวกเขาเองก็ไม่เข้าใจในการกระทำของตัวเองเหมือนกัน

    ใบหน้าของอมีเรียยังคงราบเรียบดังเดิม เพียงแต่แววตากลับคมดุยามได้รับรู้ว่า การฝึกซ่อมของนักกีฬาบาสในการดูแลของเธอนั่นได้มีการเล่นแบบรุนแรงจนได้แผลช้ำมาคนละแผลสองแผล แน่นอนว่าไม่ใช่ใครอื่นเลยนอกจาก คิโยชิ เทปเป ชายผู้นำเรื่องฝีมือการทำอาหารของผู้จัดการสาวไปเม้าท์มอยจนทีมชูโตคุส่งคนมาเจรจาอ้อนวอนขอให้เธอเป็นแม่ครัวจำเป็นให้พวกเขาด้วย ส่วนคนที่มากอดขาอ้อนวอนเธอนะเหรอ เห็นจะชื่อ ทาคาโอะ คาซึนาริ 

    คนที่อมีเรียพอจำได้นิดหน่อยว่า เขาเป็นคนที่ค่อนข้างตัวติดกับมิโดริมะพอสมควร..

    “....รุ่นพี่อยากนอนเปลแล้วถูกสั่งห้ามลงแข่งอีกรึเปล่าคะ?” อมีเรียปรายตามองชายทั้งสองคนผู้กำลังนั่งสำนึกผิดอยู่เบื้องหน้าเธอ พลางเหล่มองคนอื่นๆที่ไม่รู้จะนั่งคุกเข่าเรียงหน้ากระดานกันทำไม

    “ขอโทษครับ” คิโยชิก้มหน้าสำนึกผิด 

    ถึงจะไม่รู้ว่าทำไม เขาถึงได้ทนสายตาของรุ่นน้องสาวไม่ได้

    ต้องบอกเลยว่า เห็นสวยหวานและใส่ใจพวกเขาแบบนี้...บางมุมก็น่ากลัวไม่ต่างอะไรกับปีศาจอย่างริโกะนั่นแหละ แค่ก!—(คิโยชิโดนริโกะรัดคอ)

    “จะไม่เล่นรุนแรงอีกแล้วครับ” โอสึโบะ ไทสึเกะ เงยหน้ามองเด็กสาวพร้อมส่งแววตาเหงาหงอยให้เธอ 

    เขายังอยากทานอาหารแสนอร่อยตามคำโม้ของคิโยชิอยู่ ดังนั้น! เขายอมรับผิดอย่างไม่มีเงื่อนไข!

    “....ดิฉันจะงดของหวานค่ะ” อมีเรียขีดฆ่าบางอย่างในสมุดของตนเองแล้วเงยหน้ากวาดสายตามองทุกคน “...นั่นหมายถึงว่า งดของหวาน ทุกคนค่ะ”

     

    “ไม่ยุติธรรม!”

     

    “งั้นงดของว่างด้วยดีไหมคะ?” ใบหน้าเรียบเฉยผินไปมองผู้ที่ส่งเสียงประท้วงเล็กน้อยก่อนฉีกยิ้มบาง

    “....”

    “ไม่โต้แย้งแล้วใช่มั้ยคะ?” อมีเรียยิ้มหวาน “งั้นสรุปว่ามื้อเย็นนี้ ไม่มีของหวานนะคะ”

    อมีเรียลงโทษได้รุนแรงต่อใจพอสมควรเลย.. เหล่านักบาสเซย์รินล้วนน้ำตาตกกันเป็นแถว เนื่องด้วยพวกเขาทานของหวานฝีมือผู้จัดการสาวบ่อยอยู่แล้ว เมื่อต้องถูกงดด้วยความผิดฐานซ้อมรุนแรงจนได้แผลมาคนละรอย แต่จะให้ไปต่อกรกับแม่ครัวตัวน้อยก็ไม่กล้าเพราะ.. 

    “มีเรีย แค่พวกรุ่นพี่ได้แผลแค่นี้เองทำไมต้องงดของหวานด้วยเล่า” คางามิเดินเข้ามาโวยวาย

    พวกเขายังไม่อยากถูกเขม่นเหมือนที่เอสจอมหัวร้อนแห่งเซย์รินกำลังทำอยู่ตอนนี้

    ต่อให้จะเป็นญาติกัน...แต่ถ้าอมีเรียพูดคำไหนออกมาแล้ว มักไม่คืนคำสักครั้งเดียว

     

    “ไทกะ..ถ้าแผลเล็กน้อยนั้นจะส่งผลร้ายในอนาคต ดิฉันก็ต้องระวังค่ะ” อมีเรียขมวดคิ้วมองญาติหนุ่ม ก่อนเอ่ยถามในสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนยิ่งสำหรับนักบาสที่ลงสนามแล้วมันต้องมีการปะทะกันจนได้แผลบ้างเล็กน้อย “งั้นไทกะ ดิฉันขอถามหน่อยว่า ถ้ามีแผลพกช้ำในจุดที่มองเห็นได้ทั่วร่างแล้วถ้าหากมีการกระทบกระทั้งกันในสนามไปโดนแผลช้ำเหล่านั้น คุณจะเจ็บรึเปล่า?”

    “มันก็ต้องเจ็บ...แต่แผลช้ำมันไม่ได้ร้ายแรงอะไรนิ”

    “ดิฉันในฐานะผู้จัดการ ความปลอดภัยของผู้เล่นทุกคนต้องมาก่อนค่ะ กรุณาเข้าใจด้วย”

    “แต่...”

    “ไทกะถ้าขืนยังโต้เถียงกับเราเรื่องนี้อีก..อาหารเย็นวันนี้ทำทานเองดีรึเปล่าคะ?”

    “.....”

    คา - งา - มิ!!!!!! (ทุกคนตาโตแหกปากร้อง)

     

    .

    .

    .

    .

     

     

    อมีเรียมองมื้ออาหารที่ตอนนี้ทุกคนกำลังทานอย่างสนุกจนลืมความเหนื่อยล้าจากการฝึกด้วยแววตาครุ่นคิด ก่อนจะหันไปหยิบสมุดของเธอมาจดแล้วตรวจเช็ควัตถุดิบสำหรับมื้อเช้าในวันต่อไป พร้อมต้องคำนวณจำนวนอาหารเพิ่มขึ้นมาให้พอดีกับจำนวนคนอีกด้วย – การโต้เถียงเมื่อตอนบ่ายจบลงด้วยชัยชนะของอมีเรียที่ ต่อให้คางามิทำอาหารเก่งแค่ไหนก็ต้องยอมแพ้ เพราะ ตัวเลือกมีแค่อมีเรียเพียงคนเดียวเท่านั้น

    เป็นผู้หญิงแค่คนเดียวที่ทำอาหารอร่อยแถมชำนาญการอีกต่างหาก

    แล้วยิ่งถ้าจะให้นักกีฬาที่ฝึกซ้อมด้วยตารางนรกมาเหนื่อยๆต้องหอบสังขารไปทำอาหารต่อ พวกเขาไม่น่าจะได้กินอะไรนอกจากข้าวต้มธรรมดา หรือมากกว่านั้นอาจจะได้นอนตายในห้องครัวแน่นอน แต่ถ้าจะให้โค้ชไปทำมันก็เสี่ยงต่อการลงไปนอนตายในโลง

    ดังนั้นคางามิเลยยอมแพ้แล้วอดทนต่อความอยากกินของหวานไว้ไปกินตอนเช้าอย่างช่วยไม่ได้ แท้จริงเพราะเขาแอบไปดูสมุดพกของอมีเรียมาแล้วต่างหากว่าของหวานในมื้อนี้เป็นของโปรดของเขาเองเลยโวยวายขึ้นมานิดหน่อยตอนที่รู้ว่าจะสั่งงด แต่ถึงจะไม่มีของหวานตามที่อมีเรียบอก ทว่าก็ยังมีกับข้าวหลากรสเต็มโต๊ะไปหมด ไม่นับรวมความอร่อยที่คางามิยืนยันเอง

    ถึงตอนแรกจะไปเถียงกับญาติสาวปราวๆ แต่สุดท้ายคนที่ยืดอกโม้เรื่องนี้ก็เป็นคางามิอีกรายนั้นแหละ อมีเรียเตรียมของสำหรับทำมื้อเช้าเสร็จก็นำเข้าแช่ในตู้เย็นทันทีภายใต้สายตาของมิโดริมะที่ดูจะจ้องเธอแทบไม่ละสายตา...

    “มองคุณแม่ครัวคนสวยอยู่หรอ?”

    “เปล่า” มิโดริมะปฏิเสธแล้วกลับไปสนใจบทสนทนาบนโต๊ะแทน

     

     

    .

    .

    .

    .

     

     

    การฝึกยังคงดำเนินต่อไปอย่างเข้มงวดในขณะเดียวกันก็ได้ปรับตารางฝึกในโรงยิมเป็นการฝึกร่วมกับชูโตคุ แต่คางามิกลับไม่ได้ร่วมฝึกด้วยเนื่องจากเป็นคำสั่งจากโค้ชที่สั่งให้เขาวิ่งไปซื้อน้ำ ไม่สิ เป็นคำสั่งเฉพาะจากการขอร้องจากผู้จัดการสาว ที่ต้องการเพิ่มสมรรถภาพทางขาให้คางามิมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ขาของเขาคุ้นชินต่อการใช้กำลังมากๆ จะได้ไม่เกิดปัญหากล้ามเนื้อล้าเร็วเกินไป

    ส่วนทีมเซย์รินคนอื่นๆ ก็มีการเพิ่มสมรรถภาพแบบเฉพาะเหมือนกันตามที่อมีเรียกับริโกะช่วยกันคิดให้

     

    “ไทกะกลับมาช้าจังนะคะ”

    อมีเรียเอ่ยทักชายผมแดงผู้วิ่งไปกลับเพื่อซื้อน้ำตามคำสั่งของโค้ชสาว สภาพของเขาในตอนนี้เหงื่อท่วมตัวจนอมีเรียเริ่มจะคิดแล้วว่าเขาไปตกน้ำที่ไหนมารึเปล่า เพราะมันเปียกชุ่มไปหมดตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยทีเดียว แต่ด้วยหุ่นที่ดูดีแบบคนชอบออกกำลังกาย มันเลยทำให้ภาพลักษณ์ของคางามิดูดีจนอมีเรียแอบเบ้ปากใส่เขา 

    เธอไม่ชอบกลิ่นเหงื่อจริงๆนะ

    “โย่ มีเรีย” คางามิชูมือทักทายญาติสาวก่อนจะส่งเสื้อชุ่มเหงื่อของตนให้แก่เธอที่ยืนแบมือรออยู่แล้ว

    อมีเรียรับเสื้อมาถือใบหน้าที่นิ่งเฉยแอบเห่ยแก่เล็กน้อย “คราวหน้าก็หัดพกผ้าขนหนูติดตัวด้วยนะคะ”

    “เอาน่าๆ..แช่น้ำดีกว่า”

    “เราก็พอเดาได้ว่า ไทกะจะกลับมาช้า เลยไปขออนุญาติคุณเจ้าของบ้านพักว่าอย่าเพิ่งปิดห้องอาบน้ำให้แล้วนะคะ” อมีเรียพับเสื้อเปียกเหงื่อแล้วมองนาฬิกาข้อมือของตนเอง “รีบไปหน่อยก็ดีนะคะ เดี๋ยวคุณลุงเจ้าของบ้านพักจะปิดห้องอาบน้ำเสียก่อน”

    “โอ้ว ขอบใจน่าสมกับเป็นมีเรียเลย”

    “ค่า ค่า”

    อมีเรียเดินแยกไปห้องซักล้างเพื่อเอาเสื้อชุ่มเหงื่อจากการฝึกของทุกคนไปซัก ที่จริงเธอควรจะทำมันเสร็จตั้งนานแล้วละถ้าไม่เพราะขี้เกียจมาแยกซักส่วนของคางามิ อมีเรียคงไม่ยืนรอชายหนุ่มผมแดงคนนั้นนานเกือบสองชั่วโมงหรอก เด็กสาวเปิดเครื่องปั่นผ้าแล้วกะพริบตาปริบๆเมื่อนึกอะไรได้

    “อะ..ลืมบอกไปเลยว่าอาหารเย็นส่วนของไทกะแบ่งเก็บไว้ให้แล้ว...” อมีเรียแตะคางอยู่ครู่แล้วส่ายหน้าไล่ความรู้สึกเมื่อครู่ออกไป 

    “เดี๋ยวค่อยยกไปให้ละกัน..อ่า ห้องพักไทกะอยู่ห้องไหนกันน่า....”

    ร่างเล็กพึมพำอยู่เช่นนั้นจนกระทั้งเสียงเครื่องปั่นผ้าทำงาน เธอจึงละความคิดทั้งหมดของตนเองแล้วลงมือจัดการนำผ้าบางส่วนที่ซักแล้วไปตากและหาอะไรมานั่งอ่านรอเวลาเครื่องปั่นชุดพวกนักกีฬาที่ชุ่มเหงื่อจนเหม็นตลอดวัน  ร่างเล็กเดินไปมาระหว่างราวตากผ้าและห้องปั่นผ้าอยู่นานจนกระทั้งงานเสร็จสิ้นจนหมดร่างเล็กจึงได้พักสักที..

    แต่เมื่อร่างบางกลับมาที่ห้องพักก็ฉุดคิดขึ้นได้ว่าตนเองลืมอะไรบางอย่างไปรึเปล่า?...

    “ลืมอะไรไปน่า” อมีเรียขมวดคิ้วพร้อมกับใช้ความคิดแต่ก็ต้องปัดมันทิ้งไป “เอาเถอะ...ไม่น่าจะสำคัญ”

     

    .

    .

    .

    .

    .

     

     

    “โอ๊ะ...”

    เสียงอุทานที่ไม่ดังมากแต่ก็เรียกความสนใจจากชายผู้ซึ่งกำลังยืนเดาะลูกบาสอยู่ คิเสะหันไปสนใจที่มาของเสียงเมื่อครู่แล้วเขาก็ต้องเลิกคิ้วมองทันทีเพราะไม่คาดคิดว่าจะเจอกับเธอ ผู้จัดการสาวประจำทีมบาสเซย์รินแถมยังอยู่ในชุดสบายราวกับว่ามาพักร้อนแต่ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ละ?

    “สวัสดีครับ อมีเรียจัง” คิเสะส่งยิ้มทักทายหญิงสาว

    “อ่า..สวัสดีค่ะคุณคิเสะ” อมีเรียนึกทวนความจำตนเองเกี่ยวกับบุคคลตรงหน้า “มีแข่งสินะคะ?”

    “ครับ..”

    “ถ้าเช่นนั้นก็ สู้ๆนะคะ” อมีเรียชูสองนิ้วพร้อมทำหน้ามึนเหมือนอย่างเคยก่อนจะโค้งตัวเดินจากไป ทิ้งไว้เพียงคิเสะที่ยังคงตามไม่ทันกับปฏิกิริยาของอีกฝ่าย นี่เขากำลังคาดหวังว่าผู้จัดการเซย์รินสาวจะตื่นเต้นที่ได้เจอเขาเหมือนแฟนคลับเขาหรือ?

    คิเสะแอบคิดไม่ได้ว่าเขาคาดหวังปฏิกิริยานั้นจริงๆ เพียงแต่การตอบสนองของอมีเรียกลับคลับคล้ายคลับคลาว่าเหมือนใครบางคนที่เขารู้จัก ไม่ต้องคิดนานคิเสะก็คิดออก

    อมีเรียคล้ายกับคุโรโกะแทบจะทุกส่วนเลยด้วย!

    จนเขาเริ่มสงสัยขึ้นมาแล้วว่า คุโรโกะเป็นฝาแฝดกับอมีเรียรึเปล่า(?!) แต่คงไม่ใช่อยู่แล้วละ – คิเสะเสยผมด้านหน้าของตนเองขึ้นพร้อมหัวเราะออกมาเสียงเบา เขานี่คิดอะไรได้ไร้สาระจริงๆ

    อมีเรียเดินไปตามทางเพื่อไปยังที่นั่งคนดู ส่วนเหตุผลว่าเธอมาทำอะไรที่สนามแข่งบาสแห่งนี้ ก็เป็นเพราะอมีเรียเผลอหลุดปากบอกว่าทีมของคิเสะและอาโอมิเนะมีแข่งบาสไม่ไกลจากบ้านพักเท่าไหร่ ทุกคนจึงพร้อมใจกันมารวมตัวเพื่อชมการแข่งขัน แน่นอนว่ามิโดริมะและโรงเรียนชูโตคุก็มาด้วยเพียงแต่ที่อมีเรียได้เดินอยู่คนเดียวเป็นเพราะ...

    “....” 

    อมีเรียมองข้อความในมือถือ ‘ขอโทษที่รบกวนนะอมีเรียจัง ช่วยไปซื้อน้ำมาให้หน่อยสิจาก ริโกะ’

    ตามนั้นแหละ..

    มันคือข้อความเร่งด่วนจากโค้ชสาวผู้ขี้ลืมในบางเวลา ดังนั้นสองมือของอมีเรียเลยมีถุงหูหิ้วใส่ขวดน้ำเอาไว้ภายใน ร่างเล็กเดินไปตามทางเดินที่มีป้ายบอกทางชี้บอกว่าที่นั่งคนดูไปทางไหนแต่ดูเหมือนวันนี้โชคชะตาของเธอจะโคจรให้มาเจอทีมปาฏิหาริย์ที่เคยพบเจออีกแล้วอย่างไม่รู้ตัว

    ตุบ!

    ร่างเล็กสั่นสะท้านเล็กน้อยจากแรงปะทะแต่เธอก็ไม่ได้ล้มลงแต่อย่างใด ก่อนที่จะช้อนสายตาเงยมองเพื่อเอ่ยขอโทษผู้ที่ตนเพิ่งจะชนเข้าเมื่อสักครู่ แต่แล้วเมื่อเงยหน้ามองอมีเรียก็ต้องชักสีหน้าในทันทีเนื่องด้วยเขาคือบุคคลที่เธอไม่อยากเจอที่สุด

    “ขอโท--...คุณอาโอมิเนะ...”

    “โห..ยัยเตี้ยเซย์ริน?” อาโอมิเนะก้มมองร่างเล็กและนั้นก็ทำให้เขาเห็นสีหน้าที่นอกเหนือจากทำหน้าเบื่อแบบคุโรโกะ น่าสนใจแหะ...

    “มีใครเคยบอกรึเปล่าคะ? ว่าปากของคุณมันวอนโดนตบแค่ไหน?” อมีเรียจิ๊ปากอย่างขัดใจที่ต้องมาเจอคนที่ไม่อยากเจอมากที่สุดแถมยังมาได้ยินคำทักที่ชวนให้ขุ่นเคืองใจยิ่งกว่าเดิม

    “เห..ไม่มีอะ” อาโอมิเนะโคลงหัวไปมาอย่างไม่ใส่ใจ

    แต่ด้วยเพราะความสูงที่ต่างกันมากระหว่างเขาและเธอมันจึงทำให้เขามองเห็นในสิ่งที่ไม่ควรมองอีกแล้ว เดจาวู รึเปล่านะ? – อมีเรียมองใบหน้าที่ขึ้นสลับกับสายตาของเขาที่เบนไปทางอื่นมันพอจะทำให้อมีเรียเดาได้ว่าเมื่อครู่สายตาของร่างสูงมองอะไร...

    “....” อมีเรียมองคอเสื้อที่วันนี้ไม่ได้กว้างมากแต่ถ้าในระดับสายตาของคนที่สูงกว่าย่อมมองเห็นสิ่งนั้นได้อยู่ดี ดวงตาสองสีจ้องคมหน้าเข้มของชายหนุ่มราวกับคุณแม่มองลูกที่ทำผิด

    “ทะลึ่งจังค่ะ”

    “ไม่ได้ทะลึ่ง!”

    “ลามกค่ะ”

    “ใครลามก!?”

    “เป็นผู้ชายที่ใช้ส่วนสูงในทางลบมากเลยค่ะ”

    “....มันเห็นเองไหมละ?”

    “ควักตาทิ้งสิค่ะ”

    อมีเรียทำหน้ามึนเถียงอาโอมิเนะที่ดูท่าจะไม่ยอมรับคำพูดจากเด็กสาวแม้แต่นิดเดียว ใบหน้าหวานมองจิกเขาแล้วเตะเข้าที่หน้าแข้งเบาๆเพราะยังไงอีกฝ่ายก็ต้องลงแข่งถ้าเกิดบาดเจ็บขึ้นมา เธอไม่อยากรับผิดชอบความเสียหายนั้นหรอกน่ะ อ่า...อยากเชียร์ทีมของคิเสะจังเลย อย่างน้อยเขาก็น่ารักเหมือนลูกหมา

    และเขาเองก็..ไม่ได้ใช้ส่วนสูงในทางที่ผิดเพื่อมองดูหน้าอกผู้หญิงแบบคนตรงหน้าเธอด้วย

    กลับบ้านไปครานี้ควรหยุดคิดเรื่องแผนกลับโลกเดิมแล้วละ....คิดหาทางให้ตัวเองสูงขึ้นน่าจะดีที่สุด(พยักหน้าเล็กน้อย)

     

     

     

     

    "อาโอมิเนะจิ…ทำแบบนั้นกับคุณผู้จัดการคนสวยได้ยังไงฮะ" คิเสะเหล่มอง

    อาโอมิเนะกลอกตาใส่ “ไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”

    “…..”

     

    …………………………………………………

    รีไรท์ทีละนิดทีละหน่อยนะคะ อาจจะมาลงให้วันละตอนหรือสองตอน จนกว่าจะถึงตอนล่าสุดที่อัพลงให้นะคะ ปล.ช่วงนี้ไรท์แฟรร์ติดสอบมิดเทอมอยู่นะคะ จะเงียบไปสักอาทิตย์ก่อนถึงกลับมาทยอยลงนิยายให้

     

    ทุกท่านสามารถโดเนทสนับสนุนด้านค่าเน็ตและค่าไฟให้แฟรร์ได้นะคะ

    วิธีโดเนท

    โอนเงินจำนวนแล้วแต่รีดฯเข้ามาได้ที่นี่ :: เลขบัญชี 046-8-34907-8 (ธนาคารกสิกรไทย) และ เบอร์ 0960075277 ( True Money Wallet )

    ขอขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ //โค้ง

     

    1 คอมเม้นท์ = 100 กำลังใจ

    สามารถติหรือชี้แนะไรท์ได้ ไรท์จะรออ่านคอมเม้นท์ของทุกคนนะคะ

     

    ติดตามข้อมูลข่าวสารและการอัพเดทต่างๆได้ที่เพจ Fairy-แฟรี่กะ จิ้มๆเลย//ชี้

     

    By. ภูติสีเทา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×