คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : บทที่ 3
บทที่ 3
หากจะบอกว่าท้องฟ้านั่นเงียบสงบ ไม่จริงเลยเพราะว่าในตอนนี้หลานสาวหัวแก้วหัวแหวนของราชาน่านฟ้ากำลังวิ่งหนีผู้เป็นอาจารย์ที่กำลังไล่ตามอยู่อย่างสุดชีวิต
ของขาเล็กๆวิ่งวกวนไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้จบก่อนจะเบรกเอี๊ยดเมื่อเห็นว่าตรงหน้าของตนเองนั่นมีใครยืนขวางอยู่
“กรี้ดดดด
ไม่เอา – หนูไม่เรียนนนน”
และเธอก็วิ่งหนีอีกรอบอย่างไม่รู้จบ
แต่ก็มีใครคนหนึ่งที่ดูจะสนุกไม่น้อยกับการนั่งมองเด็กหญิงวิ่งหนีไปมา
ซึ่งใครคนนั้นที่ว่าไม่ใช่ใครอื่นเลย
ราชาน่านฟ้านั่นเอง..ข้างๆเขาก็เป็นเพื่อสนิทที่นานๆจะแวะมาเยี่ยมที ซันเรย์
เกรกอรี่ ผู้ที่ตอนนี้ผันตัวไปเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่โรงเรียนมหาเวทย์
“- -..นั่นหลานเจ้าเรอะ?! นิสัยเหมือนเจ้าตอนนั่นไม่มีผิด”
ซันเรย์กรอกตาใส่เพื่อนสนิทที่เอาแต่หัวเราะหลานอยู่
“หลานข้านิ ไม่เหมือนนี้คือแปลก 555”
“เอาเถอะซัน – หมอนี้ก็เป็นแบบนี้มาตั้งแต่รู้จักกันมานั่นแหละ”
หญิงสาวที่นั่งจิบชาอยู่เงียบๆเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นสายตาอันแสนจะขี้รำคราญของซันเรย์ที่มองเพื่อนสนิทอย่างอารูน
“แล้วยัยโรคจิตอย่างเธอละ วิเวียร์ – โรคจิตมาตั้งแต่เด็กไหม?”
“ปากเสียน่ะยะ! เดี๋ยวแม่จับควักไส้เลยนิ – ถ้าไม่เพราะนายหล่อนะ
ป่านนี้ตายตั้งแต่ตอนปากหมาใส่ฉันแล้วย่ะ!!” วิเวียร่า
บลัดคลอว์
วางแก้วชาในมือลงบนโต๊ะพร้อมกับตะวัดสายตามองเพื่อนชายตรงหน้าอย่างไม่พอใจ
“โอ้..เธอจะบอกว่าฉันหล่อสิน่ะ – ขอบคุณที่ชม”
“ใครชมมิทราบ!!!”
“5555”
สองชายหญิงทั้งแขวะและจิกกัดกันอยู่อย่างนั่นโดยมีคนกลางอย่างอารูนนั่งหัวเราะอย่างบ้าคลั่งอยู่
ถ้าบรรดาแฟนคลับของทั้งสามคนมาเห็นคงจะมีการช๊อคตายกันไปข้างแน่นอน..ทำไมน่ะหรอ
เวลาปกติพวกเขามีการหลุดภาพพจน์ตัวเองที่ไหนล่ะ...
**************************************
กลับลงมาที่พื้นดิน ณ อาณาจักร light เมืองแห่งแสงสว่างที่ตั้งอยู่ตรงแกนกลางของลิสเติลโวล์
อาณาจักรแห่งนี้รู้จักกันในชื่อของอาณาจักรแห่งแก้วเจียระไน
เมืองนี้เป็นเมืองหลวงของดินแดนลิสเติลไวล์
มีชื่อเสียงด้านการค้าและบ่อน้ำศักดิ์สิทธิที่ล่ำลือกันเป็นตำนานว่าสามารถลบล้างคำสาปได้และก็ยังคงเป็นตำนานที่ยังไม่มีใครค้นเจอ..
ปราสาทสีรุ่งที่สร้างขึ้นจากแก้วเจียระไนชั้นยอดและคริสตัลแห่งแสงขนาดใหญ่
ลอยเด่นเหนือพื้นดินตรงใจกลางอาณาจักร ปราสาทแห่งนี้คือที่พำนักของราชินี อะมิเลีย
ซานเดร่า ผู้ขึ้นชื่อเรื่องความงามและความเมตตา
หญิงงามอันดับต้นๆที่ได้รับการกล่าวขาน..แต่มิมีใครรู้ว่าอายุของนางนั่น..มีถึง 1,000 ปีแล้ว!!!
แต่ใบหน้าของเธอยังคงเยาวช์วัยไม่เสื่อมคลาย..
“องค์ราชินีเพค่ะ
ท่านชายมิคาเอลมาขอเข้าเฝ้าเพค่ะ”
เสียงหวานของนางกำนัลสาวดังขึ้นด้านหน้าประตูบานใหญ่อันเป็นห้องพักส่วนพระองค์ของราชินีผู้สูงศักดิ์
ภายในห้องต่างเต็มไปด้วยข้าวของที่เจียระไนเป็นอย่างดีและล้ำค่ามากมาย
“อืออ..เดี๋ยวข้าออกปายยยย...—
พาเขาไปรอข้าที่ห้องนั่งเล่น”
เสียงใสกังวานของผู้เป็นราชินีดังลอดบานประตูออกมา
หญิงสาวนางกำนัลน้อมตัวรับคำสั่งก่อนจะถอยหลังเดินออกไปอย่างเงียบๆเพื่อไม่เป็นการรบกวนราชินี
ภายในห้องนอนแสนจะหรูหรา
ร่างบอบบางของสตรีสองนางในสภาพเปลือยเปล่ากำลังกอดก่ายกันเนื้อแนบเนื้อ
ราชินีผู้สูงศักดิ์ของอาณาจักรแห่งแสง อะมิเลีย
ปรือตาขึ้นเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆผุดลุกขึ้นมา
ผ้าบางเบาที่คลุมร่างเธออยู่ร่นลงตามแรงขยับของเธอเผยให้เห็นสัดส่วนอันงดงามราวกับภาพแกะสลักแสนสมบูรณ์แบบ
“รูซ.. ตื่น..”
ราชินีอะมีเลียเขย่าร่างบางที่กำลังนอนหลับตาพริ้มอยู่เบาๆ
ก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มเนียนนุ่มเมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังไม่ยอมตื่นเสียที
“หาว..ตื่นทำไมไวจังล่ะ มิล” รูเซ่ กราเชอร์ ราชินีอาณาจักร Snow white city เอ่ยอย่างงัวเงียก่อนจะตะวัดแขนเรียวงามกอดเอวบางของราชินีอะมีเลียแล้วหลับตาลงอีกครั้ง แต่ก็ต้องลืมตาตื่นเมื่อหญิงสาวเจ้าของเอวร่ายเวทย์แสงปลุกเธอน่ะสิ
“ข้ามีธุระน่ะรูซ..— หลานของข้ามาหา”
“หืม?..ลูกของพี่ชายร่วมสาบานของเจ้า?”
“ใช่.. – และในฐานะราชินี ข้าให้เขารอนานไม่ได้ เจ้าเองก็ลุกไปแต่งตัวได้แล้วรูซ” ราชินีอะมีเลียยิ้มหวานก่อนจะลุกออกจากเตียงใหญ่ โดยที่เผยเรือนร่างอันไร้ซึ่งอาภรณ์ใดๆให้หญิงสาวคนรักที่นอนอยู่เห็น
“ข้ามิไปมิได้หรือ? – ข้าเหนื่อยเหลือเกินเมื่อคืนกว่าจะได้พัก ก็เจ้าเล่นทั้งยั่วยวน ทั้งลวนลาม ทั้งปลุกอารมณ์ข้าทั้งคืนเลย” ราชินีรูเซ่ เอ่ยเสียงหวานพร้อมกับส่งยิ้มขบขันไปให้คนรักที่ยืนหน้าแดงก่ำอยู่ไม่ไกล ราชินีอะมีเลียพองแก้มอย่างงอนๆที่โดนล้อ เธอเดินเชิดหน้าตรงไปยังห้องอาบน้ำโดยทิ้งคนรักให้นอนอวดร่างอันเปลือยเปล่ากับแสงแดดและสายลมอยู่บนเตียงใหญ่..
กว่าที่ราชินีผู้สูงศักดิ์จะลงมาพบกับแขกตัวน้อย เด็กชายที่กำลังอุ้มลูกมังกรแห่งแสงที่เขาไปซื้อมาจากพวกค้าทาสได้ก็เดินไปรอบๆอย่างเบื่อหน่าย ถัดห่างออกไปจากเขาก็เป็น โดยมีสายตาจากเด็กหญิงวัย 10 ขวบที่พองแก้มและสายจับจ้องไปที่ลุกมังกรน้อยในอ้อมแขนของเด็กชาย
“องค์ราชินีกำลังจะเสด็จมา ขอท่านชายน้อยโปรดรอสักครู่นะเจ้าคะ – คุณหนูอยากรับขนมอะไรเพิ่มรึไม่?”
“ไม่ละเจ้าคะ – ขอบคุณ”
เอมิเลีย ฟอริน วอเกอร์ ฉีกยิ้มส่งให้นางกำนัลอย่างน่ารัก ก่อนจะกลับไปสนใจลูกมังกรน้อยต่อ แต่เหมือนเด็กชายที่กำลังอุ้มลูกมังกรอยู่จะไม่เป็นใจให้เธอมองดูมันเลย..
มิคาเอล มิดฟรอสต์ ฉีกยิ้มอย่างสะใจที่สามารถแกล้งเด็กหญิงที่เอาแต่จ้องมองเจ้ามังกรน้อยในอ้อมแขนของเขา แม้จะรับรู้ได้ถึงสายตาไม่พอใจของเธอก็ตาม แต่เขาก็หาได้สนใจไม่ตอนนี้เขากำลังสนใจเสียงร้องเท้าที่กำลังเดินเข้ามามากกว่า
“ถวายบังคมพะยะคะ/เพคะ องค์ราชินี”
ทันทีที่ราชินีอะมีเลียเข้ามาภายในห้อง เด็กชายและเด็กหญิงต่างพร้อมใจกันโค้งคำนับผู้สูงศักดิ์ตามที่ได้รับการสั่งสอนมา ราชินีอะมีเลียยกยิ้มหวานอย่างเอ็นดูหลานชายของเธอก่อนจะมองเด็กหญิงที่เธอไม่คุ้นหน้าเลยที่กำลังโค้งคำนับเธออยู่..
“ตามสบายเถอะ – แม่หนูน้อยเจ้าเป็นผู้ใดรึ เหตุใดข้ามิคุ้นหน้าเจ้าเลย”
“ข้าน้อยนามว่า เอมิเลีย ฟอริน วอเกอร์ เจ้าคะ – ข้ามาอยู่ที่นี้เพราะต้องคอยรักษาเจ้ามังกรน้อยตัวนั่นเจ้าคะ” เอมิเลียตอบผู้สูงศักดิ์อย่างนอบน้อมก่อนจะชี้นิ้วไปที่มังกรตัวน้อยในอ้อมแขนของมิคาเอล เด็กชายที่เห็นว่าเด็กหญิงโยนหน้าที่ในการตอบคำถามครั้งต่อมาไปมาให้ก็อดที่จะเบ้ปากให้ไม่ได้
“มังกรน้อยหรือ?”
“พะยะคะท่านน้า ข้าไปเจอมันอยู่ที่ตลาดค้าทาส – ข้าสงสารก็เลย...” เด็กชายเว้นเสียงไปช่วงหนึ่งก่อนที่ราชินีอะมีเลียจะเป็นฝ่ายตอบแทนด้วยใบหน้ายิ้มๆ
“เจ้าก็เลยไปซื้อมาสิน่ะ แต่เจ้ามังกรน้อยบาดเจ็บ – หนูน้อยจากตระกูลวอเกอร์ที่ขึ้นชื่อเรื่องยอดฝีมือในการรักษาเลยมาพบเข้า ใช่รึไม่?” ผู้เป็นราชินีร่ายยาวเหตุการณ์ที่เธอคาดเดาให้เด็กน้อยทั้งสองฟัง ก่อนจะหัวเราะเสียงกังวาลใสเมื่อเห็นสีหน้าของเด็กทั้งสองที่ดูจะตะลึงไม่น้อย
“ที่เจ้านำมันมาที่นี้ก็เพื่อจะขอให้ข้าดูแลมัน?” ราชินีอะมีเลียยิ้มก่อนจะนั่งลงบนโซฟาใหญ่ เธอควักมือห้มิคาเอลและเมิเลียให้มานั่งข้างๆ ก่อนจะลูบหัวเด็กน้อยทั้งสองด้วยความเอ็นดู “ดีแล้วล่ะที่เจ้านำมันมาที่นี้หลานข้า – บิดาของเจ้าคงสอนมาดี”
“ท่ายพ่อบอก..ถ้าเกี่ยวกับแสงให้นึกถึงท่านน้าแต่ถ้านึกถึงความมืดให้นึกถึงท่านลุง”
มิคาเอลตอบด้วยใบหน้าใสซื่อก่อนจะสะดุ้งเมื่อเห็นสีหน้าของราชินีแห่งแสงที่แข็งกร้าวขึ้นมาเมื่อเขาเอ่ยถึงราชาแห่งความมืดผู้ครอบครองพิภพใต้ดิน
นี้เขาพูดอันใดผิดไปหรือ??? มิคาเอลคิดอย่างงุนงง
ความคิดเห็น