ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Kuroko no Basket ] มิติพิศวงของยัยจอมมึน (All x Oc )

    ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ [Re]

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 67


     

     

    บทนำ

     

    ฤดูหนาวที่ใครหลายคนต่างก็หลบอยู่ในบ้านที่มีเตาผิงอุ่น ๆ พร้อมอาหารแสนอร่อยและครอบครัว 

    ทว่าในช่วงเวลาเช่นนี้กลับมีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งวุ่นอยู่เพียงคนเดียวภายในห้องปฏิบัติการแลปที่แสงค่อนข้างมืดสลัวและมีอากาศที่เย็นน้อยกว่าข้างนอกเพียงเล็กน้อย แน่นอนว่ามันเป็นห้องทดลองจึงต้องมีอากาศเย็นเป็นธรรมดาจนสตรีเพียงหนึ่งเดียวคุ้นชินกับมัน

    อมีเรีย เกรซ คาร์เชล บันทึกผลการทดลองลงในกระดาษอย่างรวดเร็วก่อนจะหมุนตัวจนชุดกาวน์สีขาวสำหรับใส่ในห้องแลปของเธอหมุนเหวี่ยงตามแรง ดวงตาสองสีหรี่มองเจ้าหนูตัวจ้อยที่กำลังวิ่งไปมาในกล่องแก้วสักครู่แล้วหมุนตัวกลับไปจดอะไรบางอย่างในกระดาษ

    เธอทำเช่นนั้นไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งจนกระทั่งผลมันออกมาสมบูรณ์ตามที่เธอต้องการ

    “Hi~”

    อมีเรียเงยหน้ามองเจ้าของเสียงที่รบกวนเธอเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินตรงไปยังโต๊ะคอมเพื่อพิมพ์งานของตนต่อโดยทิ้งผู้มาใหม่ไว้เบื้องหลังอย่างไม่คิดที่จะใส่ใจ

    “อมีเรียที่รัก สนใจเดี้ยนหน่อยสิ” เสียงทุ้มที่ดัดจนแหลมก้องเล็กน้อย เนื่องด้วยห้องแลปที่ไม่ค่อยเก็บเสียงสักเท่าไหร่ ร่างโปร่งในชุดแนบเนื้อเดินเข้ามากอดอมีเรียที่กำลังนั่งอยู่จากด้านหลังพร้อมซุกหน้าที่ไหล่ของหญิงสาว

    “ที่รัก วันหยุดทั้งทียังจะทำงานอีกเหรอ”

    “....”

    “โธ่ แบบนี้ก็แย่สิ -- เดี้ยนอุตส่าห์ขอบอสให้ทุกคนในทีมได้หยุดพักเพื่อที่รักเลยนะ”

    “.....”

    “จะไม่พูดอะไรกับเดี้ยนจริง ๆ เหรอเนี่ย” แอมมิลี่ พองแก้มเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าหญิงสาวที่ตัวเองกำลังกอดอยู่ไม่ปริพูดอะไรออกมาเลยแถมยังนั่งพิมพ์งานหน้าตาเฉยต่อเหมือนไม่ได้สนใจกันอีก ทำเอาสาวประเภทสองคนงามเริ่มทำหน้างอง่ำก่อนจะใช้หน้านัวเนียไหล่ของหญิงสาวพร้อมกับทำเสียงออดอ้อน

    “อมีเรียจ๋า”

    “แอม...” 

    หญิงสาวผู้นิ่งเฉยเหลือบมองเพื่อนร่วมงานผู้ควบตำแหน่งหัวหน้าทีมเล็กน้อย แล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นท่าทางและสีหน้าของเจ้าตัว ก่อนจะลากสายตากลับไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ต่อเพื่อพิมพ์งานของเธอ “เกรซยังมีงานต้องทำอีกเยอะพักไม่ได้หรอก – จนกว่าprojectนี้จะเสร็จ”

    “แต่ว่า... เดี้ยนอยากให้อมีเรียพักนะคะ”

    แอมมิลี่ยังคงไม่ลดละความพยายามที่จะเกลี่ยกล่อมให้หญิงสาวหยุดพักจากงานที่กำลังทำ แม้จะรู้ว่าอัตราประสบความสำเร็จมีน้อยเท่าหางอึ่งก็เถอะ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวผู้บ้างานไม่แม้แต่จะสนใจในสิ่งที่เธอกำลังพูด แอมมิลี่เลยต้องผละออกแล้วเลื่อนสายตาไปดูบรรดากระดาษทั้งหลายที่จดบันทึกผลการทดลอง ทั้งสำเร็จและล้มเหลว ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานของหญิงสาว 

    ใช้เวลาในการกวาดสายตามองบรรดาตัวอักษรทั้งภาษาอังกฤษ ทั้งภาษาเฉพาะแลปและภาษาฝรั่งเศสบ้านเกิดของหญิงสาวอยู่ครู่หนึ่ง – แอมมิลี่อดชื่นชมถึงความสามารถของหญิงสาวไม่ได้ ทั้งความสามารถในการจดจำ ความสามารถในการเรียนรู้ อมีเรียล้วนเป็นเลิศทั้งสิ้น 

    แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่เธอสงสัย

    ทำไมสตรีผู้มีความสามารถโดดเด่นและพิเศษแบบนี้ถึงไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง หรือถูกรับเข้าทำงานในตำแหน่งที่สูงกว่าการทดลองในแลปธรรมดาขององค์กรกัน?

    ด้วยความสามารถของอมีเรียแล้ว 

    แค่ผลงานเดียวก็สามารถเป็นตัวกำหนดได้เลยว่าอมีเรียไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ในห้องแลปที่ทั้งลึกและเย็นแบบนี้ด้วยซ้ำ มันทั้งน่าสงสัยและอดที่จะเคลือบแคลงไม่ได้ หรือบางทีเพราะมีความสามารถมากเกินไปจนโดดเด่นเลยถูกกดให้อยู่ต่ำด้วยฝีมือของใครหลายคนที่เกิดความอิจฉา

    ทว่าดูจากนิสัยและบุคลิกของอมีเรียแล้ว ต่อให้เป็นแบบนั้นก็คงไม่สนใจเหมือนเดิม 

    แต๊ก แต๊ก

    “อมีเรีย” แอมมิลี่ถอนหายใจก่อนจะวางคางบนศีรษะของอมีเรีย แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสงบนิ่งแต่แฝงความลังเลและความเป็นกังวลไว้ภายใน “เดี้ยนถามอะไรสักอย่างได้รึเปล่า?”

    ท่ามกลางเสียงนิ้วที่กำลังพิมพ์รัวลงบนแป้นพิมพ์ แอมมีลี่ที่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก็ได้พูดขึ้น หญิงสาวผู้ถูกเรียกหยุดนิ้วที่กำลังพิมพ์ต่อแล้วหมุนเก้าอี้หันมาเผชิญหน้ากับหัวหน้าทีมด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ราวกับว่าเธอกำลังรอฟังคำถามจากอีกฝ่ายอยู่และเธอสนใจมัน

    “....”

    แอมมีลี่มองท่าทางนั้นของลูกทีมสาวแล้วเอ่ยปาก “ทำไมเธอถึงไม่ทะเยอทะยานขึ้นไปสูงกว่านี้ละ...”

    “น่าเบื่อ”

    นั่นคือคำตอบของอมีเรีย

    เธอไม่ได้คิดอะไรเลยด้วยซ้ำหลังจากฟังคำถาม ดวงตาสองสีกลอกกลิ้งไปมาตามอารมณ์ของเจ้าตัว ใช่ อมีเรียเบื่อที่จะขึ้นไปยังที่สูง ๆ มันเป็นความรู้สึกที่น่ารำคราญกับการที่จะต้องมาคอยแก้ปัญหาที่คนอื่นก่ออยู่ตลอด ถ้าเลือกเส้นทางของตัวเองได้

    ขอเป็นคนธรรมดาที่ไม่โดดเด่นยังดีซะกว่า

     

    ...............................................................................

     

    สุดท้ายแล้วอมีเรียผู้โหมงานก่อนหน้านี้ก็ต้องออกมาเดินเตร่ไปตามถนนอย่างช่วยไม่ได้

    ทิวทัศน์เต็มไปด้วยสีขาวของหิมะ ไร้ซึ่งผู้คนและเงียบสงัดจนวังเวง ร่างบอบบางแต่โดดเด่นของหญิงสาวเดินไปกระชับโค้ทกันหนาวของตนเองไป เธอเป็นโรคภูมิแพ้อากาศเย็นจึงต้องใส่เสื้อให้หนาและอุ่นอยู่ตลอดเวลาที่ต้องออกข้างนอก แต่ถ้าจะให้ใส่เยอะๆ มันก็น่ารำคราญแถมยังอึดอัดเลยต้องสั่งตัดชุดกันหนาวแบบพิเศษขึ้นมา

    เธอเดินไปตามทางเดินที่เด่นในความทรงจำด้วยความเคยชินเหมือนที่ผ่าน ๆ มา ก่อนจะต้องชะงักเมื่อเห็นอะไรบางอย่างที่แปลกออกไป ซอยที่ควรเปลี่ยวและมืดกลับมีแสงสว่างอยู่ที่ปลายทางอย่างน่าสงสัย พอเงยหน้ามองบนฟ้าก็เห็นแสงดาวตก

    “....?” 

    ฝนดาวตก...?

    อมีเรียจำไม่ได้ว่ามีการประกาศแจ้งถึงปรากฎการณ์ฝนดาวตกในข่าวประจำวันนี้ด้วย และเธอจำได้แม่นยำว่าฝนดาวตกเพิ่งจะเกิดขึ้นไปเมื่อสองเดือนก่อน

    เกิดอะไรขึ้น..?

    ทำไมมันถึงได้เกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้นซ้ำอีกครั้งเป็นครั้งที่สองในระยะเวลาใกลเคียง

    มีบางอย่างผิดปกติงั้นเหรอ?

    หญิงสาวยืนนิ่งมองปรากฏการณ์ประหลาดเบื้องหน้าด้วยความไม่เข้าใจและสับสน ก่อนที่เธอจะได้รู้ตัวแสงสว่างที่ควรอยู่ไกลกลับใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว มันผ่านร่างของเธอราวกับว่ากำลังกลืนกินเธออยู่ ในขณะที่เธอเองก็ไม่ได้มีท่าทีตื่นตะหนกใด ๆ นอกจากแววตาที่กำลังมึนงง 

    เหมือนกับว่ามันคือรถไฟที่กำลังแล่นผ่านร่างของเธอเท่านั้น

    ชั่วขณะนั้นอมีเรียรู้สึกอุ่นวาบในช่วงอก เพียงกระพริบตาแค่ครั้งเดียวแสงสว่างนั่นก็หายไปเมื่อเธอหันไปมองด้านหลัง แสงสว่างและฝนดาวตกก็หายไปจนหมดสิ้นแล้ว เป็นเหตุการณ์มหัศจรรย์ที่ทำให้รู้สึกแปลกประหลาด – หญิงสาวเลิกสนใจเรื่องนั้นไปอย่างรวดเร็วก่อนจะเดินต่อไปตามทางเดินแล้วก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อสังเกตเห็นถึงบางอย่างที่แปลกประหลาดเสียยิ่งกว่าเหตุการณ์ก่อนหน้า

    ที่นี่... ที่ไหน?

    วงหน้าหวานตะลึงมึนงงกับความแปลกประหลาดที่ไม่มีแม้แต่ความคุ้นชินใด ๆ เลย พอหมุนตัวหันกลับไปมองทางเดิมที่ตัวเองเพิ่งเดินผ่านก็ต้องยิ่งเพิ่มความสับสนให้แก่เธอมากยิ่งขึ้น เส้นทางที่เต็มไปด้วยหิมะสีขาวโพลนหายไปไหนหมด ตึกอาคารที่แบ่งแยกตัวเป็นเขตแดนของใครของมันก็ด้วย 

    แต่ที่สร้างความไม่พอใจให้แก่หญิงสาวมากสุดคงจะเป็น....

     

     

     

     

    อมีเรีย เกรซ คาร์เชล

     

    นักวิจัยสาวมากความลับ 

    สตรีผู้ต้องเดินทางข้ามมิติไปยังดินแดนที่ไม่รู้จักแต่ดันมีความทรงจำของที่นั่น

    มันคือการสลับวิญญาณหรืออะไร...? 

    มันคือความผิดปกติของคลื่นสมองของเธอเองอย่างงั้นหรือ...?

    แต่ไม่ว่าจะแบบไหน อมีเรียผู้นี้ก็ปรับตัวได้ไวเป็นอย่างยิ่ง

     

    1 คอมเม้นท์ = 100 กำลังใจ

    สามารถติหรือชี้แนะไรท์ได้ ไรท์จะรออ่านคอมเม้นท์ของทุกคนนะคะ

     

    ติดตามข้อมูลข่าวสารและการอัพเดทต่างๆได้ที่เพจ Fairy-แฟรี่กะ จิ้มๆเลย//ชี้

     

    ด้วยรักจากมุมมืด :: ภูติสีเทา

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×